อนุสาสนีปาฏิหาริย์เท่านั้น ที่จะนำสัตว์ให้พ้นจากทุกข์ได้

.
             เกวัฏฏสูตร (บางส่วน)
             ดูกรเกวัฏฏ์ เรามิได้แสดงธรรมแก่ภิกษุทั้งหลายอย่างนี้ว่า
             มาเถิดภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงกระทำอิทธิปาฏิหาริย์
             อันเป็นธรรมที่ยิ่งยวดของมนุษย์ แก่คฤหัสถ์ ผู้นุ่งขาวห่มขาวดังนี้


             เนื้อความในอรรถกถา :-
             ในปาฏิหาริย์เหล่านั้น พระมหาโมคคัลลานะแสดงอนุสาสนีปาฏิหาริย์ด้วยอิทธิปาฏิหาริย์
             พระธรรมเสนาบดีสารีบุตรแสดงอนุสาสนีปาฏิหาริย์ด้วยอาเทศนาปาฏิหาริย์.
             การแสดงธรรมเนืองๆ ของพระพุทธเจ้าทั้งหลายเป็นอนุสาสนีปาฏิหาริย์.
             ในปาฏิหาริย์เหล่านั้น อิทธิปาฏิหาริย์ และอาเทศนาปาฏิหาริย์ ยังติเตียนได้ ยังมีโทษ ไม่ยั่งยืนอยู่นาน
เพราะไม่ยั่งยืนอยู่นาน จึงไม่นำสัตว์ให้พ้นทุกข์ได้.

             อนุสาสนีปาฏิหาริย์เท่านั้นไม่ติเตียนได้ ไม่มีโทษ ตั้งอยู่ได้นาน เพราะตั้งอยู่ได้นาน จึงนำสัตว์ให้พ้นทุกข์ได้.
             เพราะฉะนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงทรงติเตียนอิทธิปาฏิหาริย์และอาเทศนาปาฏิหาริย์
             ทรงสรรเสริญอนุสาสนีปาฏิหาริย์อย่างเดียว.

             เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๙  บรรทัดที่ ๗๓๑๗ - ๗๘๙๘.  หน้าที่  ๓๐๖ - ๓๒๙.
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=9&A=7317&Z=7898&bgc=whitesmoke&pagebreak=0
             ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :-
http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=9&i=338&bgc=whitesmoke


             ทรงบัญญัติสิกขาบทไว้ในเรื่องราชคหเศรษฐี เพราะฉะนั้น จึงตรัสว่า เราไม่แสดงธรรมอย่างนี้

             เรื่องบาตรปุ่มไม้จันทน์ (บางส่วน)
             ครั้นแล้วทรงทำธรรมีกถารับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า
             ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงแสดงอิทธิปาฎิหาริย์ ซึ่งเป็นธรรมอันยวดยิ่ง
             ของมนุษย์ แก่พวกคฤหัสถ์ รูปใดแสดง ต้องอาบัติทุกกฏ

             ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกเธอจงทำลายบาตรไม้นั่น บดให้ละเอียด ใช้เป็นยา
หยอดตาของภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุไม่พึงใช้บาตรไม้ รูปใดใช้ ต้องอาบัติทุกกฏ ฯ
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=7&A=256&Z=312&pagebreak=0&bgc=whitesmoke
             
             เศรษฐีชาวกรุงราชคฤห์คนหนึ่ง ได้มีความคิดว่า
             "ในโลกนี้ พวกที่กล่าวว่า ‘เราเป็นพระอรหันต์’ มีอยู่มาก เราไม่รู้จักพระอรหันต์แม้สักองค์หนึ่ง
             เราจักให้ประกอบเครื่องกลึงไว้ในเรือน ให้กลึงบาตรแล้ว ใส่สาแหรกห้อยไว้ในอากาศประมาณ ๖๐ ศอก
โดยเอาไม้ไผ่ต่อกันขึ้นไปแล้ว จะบอกว่า
             ‘ถ้าว่า พระอรหันต์มีอยู่ จงมาทางอากาศแล้ว ถือเอาบาตรนี้’
             ผู้ใดจักถือเอาบาตรนั้นได้ เราพร้อมด้วยบุตรภรรยาจักถึงผู้นั้นเป็นสรณะ."

             ครูทั้ง ๖ เมื่อได้ยินข่าว ก็อยากได้บาตรไม้จันทน์ พยายามใช้อุบายอยู่หลายวันก็ไม่สำเร็จ
เพราะเศรษฐียืนยันว่า ต้องทำตามเงื่อนไข จึงจะได้บาตรไม้จันทร์ไป
             จนวันที่ ๗ ก็ไม่มีใครเหาะไปเอาบาตรไม้ได้ จนชาวเมืองคิดว่า ไม่มีพระอรหันต์ในโลกเสียแล้ว

             ท่านพระมหาโมคคัลลานะและท่านพระปิณโฑลภารทวาชะ ได้ยินว่า พวกนักเลงเหล่านี้พูดเป็นทีว่าจะย่ำยีพระพุทธศาสนา
             ท่านทั้งสองจึงตกลงกันว่า ให้ท่านพระปิณโฑลภารทวาชะเป็นผู้เหาะไปเอาบาตรไม้

             ท่านปิณโฑลภารทวาชะก็เข้าจตุตถฌาน มีอภิญญาเป็นบาท เอาปลายเท้าคีบหินดาดประมาณ ๑ คาวุต ให้ขึ้นไปในอากาศ ...

             พระศาสดาทรงสดับเสียงมหาชนที่ติดตามพระเถระนั้นอื้ออึงอยู่ จึงตรัสถามว่า
             "อานนท์ นั่นเสียงใคร?"
             "พระเจ้าข้า พระปิณโฑลภารทวาชะเหาะขึ้นไปในอากาศแล้ว ถือเอาบาตรไม้จันทน์ นั่นเสียงในสำนักของท่าน"

             จึงรับสั่งให้เรียกพระปิณโฑลภารทวาชะมา ตรัสถามว่า ทำอย่างนั้นจริงหรือ
             "จริง พระเจ้าข้า"

             จึงตรัสว่า "ภารทวาชะ ทำไม เธอจึงทำอย่างนั้น?"

             ทรงติเตียนพระเถระ แล้วรับสั่งให้ทำลายบาตรนั้น ให้เป็นชิ้นน้อยชิ้นใหญ่
             แล้วรับสั่งให้ประทานแก่ภิกษุทั้งหลาย เพื่อประโยชน์แก่อันบดผสมยาตา
             แล้วทรงบัญญัติสิกขาบทแก่พระสาวกทั้งหลาย เพื่อต้องการไม่ให้ทำปาฏิหาริย์.

             พระเจ้าพิมพิสารเมื่อได้ทรงสดับถ้อยคำนั้นแล้ว เสด็จไปยังสำนักพระศาสดา กราบทูลว่า
             "พระเจ้าข้า ได้ทราบว่าพระองค์ทรงบัญญัติสิกขาบทแก่เหล่าสาวก เพื่อต้องการไม่ให้ทำปาฏิหาริย์เสียแล้วหรือ?"
             พระศาสดา. ขอถวายพระพร มหาบพิตร.
             พระราชา. บัดนี้ พวกเดียรถีย์พากันกล่าวว่า ‘พวกเราจักทำปาฏิหาริย์กับด้วยพระองค์’ บัดนี้ พระองค์จักทรงทำอย่างไร?
             พระศาสดา. เมื่อเดียรถีย์เหล่านั้นกระทำ อาตมภาพก็จักกระทำ มหาบพิตร.
             พระราชา. พระองค์ทรงบัญญัติสิกขาบทไว้แล้วมิใช่หรือ?
             พระศาสดา. มหาบพิตร อาตมภาพมิได้บัญญัติสิกขาบทเพื่อตน สิกขาบทนั้นนั่นแล อาตมภาพบัญญัติไว้
เพื่อสาวกทั้งหลาย.


              พวกเดียรถีย์ฟังถ้อยคำนั้นแล้ว ปรึกษากันว่า
             "บัดนี้ พวกเราฉิuหายแล้ว ได้ยินว่า พระสมณโคดมทรงบัญญัติสิกขาบทเพื่อเหล่าสาวกเท่านั้น ไม่ทรงบัญญัติไว้เพื่อตน
             ได้ยินว่า ท่านปรารถนาจะทำปาฏิหาริย์เองทีเดียว พวกเราจักทำอย่างไรกันเล่า?"

             พระราชาทูลถามพระศาสดาว่า "เมื่อไร พระองค์จักทรงทำปาฏิหาริย์? พระเจ้าข้า."
             พระศาสดา. มหาบพิตร โดยล่วงไปอีก ๔ เดือนต่อจากนี้ไป วันเพ็ญเดือน ๘ จักทำ.
             พระราชา. พระองค์จักทรงทำที่ไหน? พระเจ้าข้า.
             พระศาสดา. อาตมภาพจักอาศัยเมืองสาวัตถีทำ มหาบพิตร.
             ต่อมา ในวันเพ็ญเดือน ๘ พระศาสดาก็ทรงแสดงยมกปาฏิหาริย์เพื่อข่มพวกเดียรถีย์ ...
http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=24&p=2&bgc=whitesmoke

             ยมกปาฏิหาริยญาณของพระตถาคตเป็นไฉน ฯ
http://84000.org/tipitaka/read/?31/284-293
             คำว่า ปาฏิหาริย์, อาบัติทุกกฏ, ครูทั้ง ๖
http://84000.org/tipitaka/dic/d_seek.php?text=ปาฏิหาริย์
http://84000.org/tipitaka/dic/v_seek.php?text=ทุกกฏ
http://84000.org/tipitaka/dic/v_seek.php?text=ติตถกร



[94] ปาฏิหาริย์ 3 (การกระทำที่กำจัดหรือทำให้ปฏิปักษ์ยอมได้, การกระทำที่ให้เป็นอัศจรรย์, การกระทำที่ให้บังเกิดผลเป็นอัศจรรย์ — marvel; wonder; miracle)
       1. อิทธิปาฏิหาริย์ (ปาฏิหาริย์คือฤทธิ์, แสดงฤทธิ์ได้เป็นอัศจรรย์ — marvel of psychic power)
       2. อาเทศนาปาฏิหาริย์ (ปาฏิหาริย์คือการทายใจ, รอบรู้กระบวนของจิตจนสามารถกำหนดอาการที่หมายเล็กน้อยแล้วบอกสภาพของจิต ความคิด อุปนิสัยได้ถูกต้อง เป็นอัศจรรย์ — marvel of mind-reading)
       3. อนุสาสนีปาฏิหาริย์ (ปาฏิหาริย์คืออนุศาสนี, คำสอนเป็นจริง สอนให้เห็นจริง นำไปปฏิบัติได้ผลสมจริง เป็นอัศจรรย์ — marvel of teaching)

       ใน 3 อย่างนี้ พระพุทธเจ้าทรงรังเกียจอิทธิปาฏิหาริย์ และสรรเสริญอนุสาสนีปาฏิหาริย์ ว่าเป็นเยี่ยม
http://84000.org/tipitaka/dic/d_seek.php?text=ปาฏิหาริย์
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่