สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
1. สำรวจพื้นที่ ทางแผนที่ ก่อนว่า
มีบริเวณที่จะสร้างได้หรือไม่ เช่น
1.1 มีร่องน้ำ แม่น้ำ หรือลำห้วยใหญ่
พื้นที่เหนือเขื่อน มีบริเวณกว้างมากพอที่จะส่งน้ำฝนเข้าเขื่อนได้
1.2 แถวๆนั้น มีร่องธรรมชาติที่เป็นลักษณะช่องเขาขาด
หรือ ช่องแคบๆ ระกว่างเขาที่พอจะกั้นทำเขื่อนได้
1.3 หรือ มีสภาพที่ดูคล้ายแอ่ง หน้าสันเขื่อน
2. สำรวจดิน หิน เรียกว่า สำรวจทาง ธรณีวิทยา
ดูว่า แถวๆนั้น มีหินปูนมาก หรือไม่ โดยเฉพาะ พื้นดิน ที่เป็นส่วนของอ่างรับน้ำ
ถ้ามีหินปูนมาก และอยู๋ไม่ลึก เช่น 5 - 10 เมตร
หรือหากลึกกว่านั้น และมีแนวร่องที่เป็นรอยแยก
โดยน้ำสามารถซึมลงไปได้ จะไม่ทำเป็นอ่าง
เนื่องจากหินปูน จะสามารถถูกละลายได้ด้วยน้ำฝน
หรือน้ำที่มีความเป็นกรดเพียงเล็กน้อย
3. จากนั้น ก็ดูว่า เป็นพื้นที่ป่า อุดมสมบูรณ์หรือไม่เพียงใด
3.1 หากเป็นพื้นที่ป่า ที่อุดมสมบูรณ์ เขาจะไม่ทำ
3.2 หากทำจะเลื่อนไปทำพื้นที่อื่น (กรณีที่ต้องทำเขื่อน)
3.3 บางแห่ง ในแผนที่ เป็นป่า แต่เอาเข้าจริง
ชาวบ้านบุกรุกไปกว่าครึ่งแล้ว และไม้ก็เป็นไม้ไม่มีค่า
3.4 ดูว่า หากเป็นพื้นที่ป่าแล้ว จะเสียป่าไปเป็นสัดส่วนเท่าใด
เช่น 1 -3 % หรือ 5- 8% อะไรทำนองนั้น
หากเป็นป่า บางส่วน ต้องได้รับความเห็นชอบจากเจ้าของเสียก่อน
คืออธิบดีกรมสัตว์ป่า และคุ้มครองพืช (กรมป่าไม้นั่นแหละ)
4. พอสภาพธรณีวิทยาได้ แล้ว สภาพป่ามีน้อยหรือไม่มี
และเลือกแล้ว ก็เริ่มงานทางด้านวิศวกรรม
โดยออกแบบ ซึ่งเขื่อนมีหลายแบบ
เช่นเขื่อนคอนกรีต เขื่อนหินทิ้งแกนดินเหนียว
เขื่อนภูมิพลเป็นเขื่อนคอนกรีต
เขื่อนสิริกิตเป็นเขื่อนหินทิ้งแกนดินเหนียว
เขื่อนวชิราลงกรณ์ เป็นแบบหินถมดาดหน้าด้วยคอนกรีต
เขื่อนขุนด่านฯ ใช้คอนกรีตผสมขี้เถ้าลิกไนท์เป็นแกนเขื่อน
ชื่อทางเทคนิคการก่อสร้าง ผมจำไม่ได้แล้วครับ
เขื่อน ป่าสักถือว่าเป็นเขื่อนหนึ่งที่ไม่ได้รุกป่า
ส่วนมากเป็นพื้นที่น้ำท่วม และบ้านเรือนราษฎร
ที่ต้องอพยพ มีปริมาณกักเก็บเพียง 756 ล้านคิวเมตร
เทียบกับ เขื่อน ภูมิพลที่มี 13,462 ล้านคิวเมตร คือเพียง 5.6 %
แต่ช่วยได้การเกษตรของพี่น้อง ลพบุรีสระบุรีได้มาก
ช่วยชะลอน้ำป่าสักที่จะไหลลงแม่น้ำเจ้าพระยาได้ระดับหนึ่ง
คือควบคุมได้ไม่มาก แต่ช่วยผ่อนหนักเป็นเบา
ถ้าท่วมก้อผ่อนได้บ้าง ถ้าแล้ง ก็พอมีน้ำไม่ขาดจนแห้งผาก
เวลานี้ เขื่อนใหญ่ สี่แห่ง น้ำน้อยกว่าเกณฑ์
ก้อหวังว่า ฝนมาวันที่ 30 - 1 นี้จะเติมน้ำได้บ้างโดยเฉพาะที่น่าน
ส่วน เขื่อนภูมิพลคงมีน้ำน้อยกว่าเกณฑ์
หากน้อยแบบนี้ไปอีกสองปี ผลคือ เมื่อน้ำเค็มรุกเข้ามาทางปากอ่าว
น้ำจะเข้ามาถึง อยุธยา พี่น้องที่ต้องอาศัยน้ำจืดทางนั้น
จะได้รับความเสียหาย ตั้งแต่นนทบุรีขึ้นมาทีเดียว
เขื่อนวชิราลงกรณ์ และเขื่อนศรีนครินทร์ อยู่ที่กาญจน์
ครั้งที่ก่อสร้าง ก็เป็นป่าเสื่อมโทรมกว่าครึ่ง
แต่มีบางท่านให้ความเห็นว่า ตั้งอยู่บนรอยเลื่อน
บางท่านก็บอกว่า เป็นรอยเลื่อนที่ไม่มีพลังแล้ว
ซึ่ง ก็เป็นข้อมูลทางวิชาการ
เขื่อนนี้มีบทบาทสองครั้งสำคัญ คือ สามารถจ่ายไฟฟ้าได้เร็ว
ไม่ต้อง รอเวลาเดินเครื่อง
ครั้งที่พม่า ตัดแก๊สเรา เขื่อนสองเขื่อนนี้ได้ปล่อย กระแสไฟฟ้าช่วยไม่ให้
พี่น้องในกทม เมืองเทวดาฟ้าอมร ต้องไฟดับไปทั้งคืน
ได้ในเวลา ไม่ถึง 1 ชั่วโมง ขณะที่พี่น้องชาวกทม ได้มีแอร์ใช้ไม่ติดขัด
พี่น้องริมน้ำที่กาญจน์บุรี ต้องถูกน้ำท่วม ในเวลา 2 - 3 ชั่วโมง
แล้วการไฟฟ้า ก็ออกมากราบขอโทษ และจ่ายค่าชดเชยบรรเทาความเสียหายให้ตามสมควร
หากไม่มีเขื่อนสองเขื่อนนี้ ในยามวิกฤติ สถานที่สำคัญ โรงพยาบาล
ห้างดังๆ ที่ใช้ไฟฟ้ามากกว่า แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน ก็ต้องถูกดับไฟ
เกรงว่า จะค้าขายกันไม่ได้
มาดูเรื่อง มีเขื่อน แล้ว ป่าอิ๋บอ๋ายหายกันบ้าง
เรื่องนี้ บางส่วนเป็นจริง บางส่วนไม่เป็นจริง
ต้นไม้ เมื่อถูกตัดเป็นแสนต้น ฟังดูก้อน่าใจหาย
เอาง่ายๆ ป่าธรรมชาติ ถ้ามีต้นไม้ใหญ่ จริงๆ 1 ไร่ จะมีอย่างมากไม่เกิน 16 ต้น
ถ้ามีเกินกว่านั้น เช่น 20 - 30 ต้น ต้นไม้นั้น จะไม่โต ด้วยบดบังแสงกันเอง
หากพื้นที่เก็บน้ำมี 5,000 ไร่
และมีต้นไม้ใหญ่อยู่เต็ม ก็จะมีต้นไม้ใหญ่ถูกตัดไป 80,000 ต้น
ถ้ามี 50 % ก็เหลือ 40,000 ต้น มีสัตว์ป่า ต้องอพยพ หรือตายไป
จำนวนหนึ่ง
สัตว์ป่าที่ไม่ตาย ก้อย้ายถิ่นไปอยู่ที่อื่น
หลายครั้งแม้นไม่มีเขื่อน พอมีน้ำหลาก สัตว์ หนีไม่ทัน ก็มีตายบ้างไม่มากก็น้อย
พอสัตว์ส่วนที่รอดไป ก็จะหากินอยู่แถวๆ ริมอ่างน้ำใหม่ ออกลูกหลาน
กลับมาดังเดิม หรือบางส่วน อาจมากกว่าเดิม ด้วยมีน้ำกินมีสัตว์อื่นให้ล่า
มีหญ้าริมน้ำให้กิน ก็อาจมีจำนวนเพิ่มขึ้นได้ถ้าไม่มีใครไปยิงมันนะ
นี่เป็นเรื่อง เขื่อนกับป่า
หากเรา เห็นว่า เขื่อนคือตัวทำลาย ป่าให้มันอิ๋บอ๋ายไปเสีย
แล้วเราก็ไม่เอาเขื่อนก็ได้ มาลงมติกันทั้งประเทศว่าต่อไปนี้เราไม่เอาเขื่อนนะ
เพราะมันเป็นตัวทำให้ป่าอิ๋บอ๋าย ระบบนิเวศน์มันเสียสมดุล
ถ้าฝ่ายข้างมาก ไม่เอา ก็คือไม่เอา มันก็จบ
--------------------------------------------------------------
ทีนี้มาดู ว่า NO DAM แล้ว ป่ามันไม่อิ๋บอ๋ายใช่ไหม
ตอบ ไม่จริงครับ เวลานี้ เมืองไทย ไม่ได้มีเขื่อนใหม่มา 10 ปีแล้วมั้ง
ป่ายังคงอิ๋บอ๋ายตามเดิม ป่าที่อุดมสมบูรณ์หายไปทุกวัน
ด้วยการถางไร่ ปลูกข้าวโพด ปลูกมัน ปลูกยางพารา หรือไม่ก็ข้าวไร่
ปลูกกะหล่ำ ปลูกขิงกันถ้วนหน้า
การบุกรุกป่า การถางไร่ ทำไร่เลื่อนรอยนั้น ทำความอิ๋บอ๋ายให้ผืนป่า
มากมายมหาศาล มากกว่าเขื่อนหลายร้อยเท่า หน้าดินเสียหาย
เกิดตะกอนสะสมในแม่น้ำ แล้วไหลลงอ่าวไทย อ่าวไทยตื้นเขิน
หอยตัวเล็ก กุ้งตัวผอม หรือไม่ก็โตช้า ปลาทูไม่อร่อย
ผลที่ได้คือ พี่น้องที่ทำไร่มีเงินใช้ มีข้าวกิน นายทุนค้าพืชไร่ร่ำรวย
แล้วพวกกลุ่มคนที่บอกว่า ไม่เอาเขื่อน ไปทำกระไรอยู่ที่ไหนครับ
ไม่มาช่วยเดิน 300 กิโลเมตร ไม่เอาถางป่ากันบ้าง
--------------------------------------------------------------------------
ตรงนี้ ต้องชัดครับ ว่าจะเอาป่า จะเพิ่มป่า ใช่หรือไม่
หรือว่า ฉันไม่สน ว่าป่าจะเป็นอย่างไร ฉัน ไม่เอาเขื่อนเท่านั้น
เข้าใจไหม
หากเป็นอย่างหลัง ผมเห็นว่า ยากแล้วหละที่จะพูดคุยกันให้รู้เรื่อง
มีบริเวณที่จะสร้างได้หรือไม่ เช่น
1.1 มีร่องน้ำ แม่น้ำ หรือลำห้วยใหญ่
พื้นที่เหนือเขื่อน มีบริเวณกว้างมากพอที่จะส่งน้ำฝนเข้าเขื่อนได้
1.2 แถวๆนั้น มีร่องธรรมชาติที่เป็นลักษณะช่องเขาขาด
หรือ ช่องแคบๆ ระกว่างเขาที่พอจะกั้นทำเขื่อนได้
1.3 หรือ มีสภาพที่ดูคล้ายแอ่ง หน้าสันเขื่อน
2. สำรวจดิน หิน เรียกว่า สำรวจทาง ธรณีวิทยา
ดูว่า แถวๆนั้น มีหินปูนมาก หรือไม่ โดยเฉพาะ พื้นดิน ที่เป็นส่วนของอ่างรับน้ำ
ถ้ามีหินปูนมาก และอยู๋ไม่ลึก เช่น 5 - 10 เมตร
หรือหากลึกกว่านั้น และมีแนวร่องที่เป็นรอยแยก
โดยน้ำสามารถซึมลงไปได้ จะไม่ทำเป็นอ่าง
เนื่องจากหินปูน จะสามารถถูกละลายได้ด้วยน้ำฝน
หรือน้ำที่มีความเป็นกรดเพียงเล็กน้อย
3. จากนั้น ก็ดูว่า เป็นพื้นที่ป่า อุดมสมบูรณ์หรือไม่เพียงใด
3.1 หากเป็นพื้นที่ป่า ที่อุดมสมบูรณ์ เขาจะไม่ทำ
3.2 หากทำจะเลื่อนไปทำพื้นที่อื่น (กรณีที่ต้องทำเขื่อน)
3.3 บางแห่ง ในแผนที่ เป็นป่า แต่เอาเข้าจริง
ชาวบ้านบุกรุกไปกว่าครึ่งแล้ว และไม้ก็เป็นไม้ไม่มีค่า
3.4 ดูว่า หากเป็นพื้นที่ป่าแล้ว จะเสียป่าไปเป็นสัดส่วนเท่าใด
เช่น 1 -3 % หรือ 5- 8% อะไรทำนองนั้น
หากเป็นป่า บางส่วน ต้องได้รับความเห็นชอบจากเจ้าของเสียก่อน
คืออธิบดีกรมสัตว์ป่า และคุ้มครองพืช (กรมป่าไม้นั่นแหละ)
4. พอสภาพธรณีวิทยาได้ แล้ว สภาพป่ามีน้อยหรือไม่มี
และเลือกแล้ว ก็เริ่มงานทางด้านวิศวกรรม
โดยออกแบบ ซึ่งเขื่อนมีหลายแบบ
เช่นเขื่อนคอนกรีต เขื่อนหินทิ้งแกนดินเหนียว
เขื่อนภูมิพลเป็นเขื่อนคอนกรีต
เขื่อนสิริกิตเป็นเขื่อนหินทิ้งแกนดินเหนียว
เขื่อนวชิราลงกรณ์ เป็นแบบหินถมดาดหน้าด้วยคอนกรีต
เขื่อนขุนด่านฯ ใช้คอนกรีตผสมขี้เถ้าลิกไนท์เป็นแกนเขื่อน
ชื่อทางเทคนิคการก่อสร้าง ผมจำไม่ได้แล้วครับ
เขื่อน ป่าสักถือว่าเป็นเขื่อนหนึ่งที่ไม่ได้รุกป่า
ส่วนมากเป็นพื้นที่น้ำท่วม และบ้านเรือนราษฎร
ที่ต้องอพยพ มีปริมาณกักเก็บเพียง 756 ล้านคิวเมตร
เทียบกับ เขื่อน ภูมิพลที่มี 13,462 ล้านคิวเมตร คือเพียง 5.6 %
แต่ช่วยได้การเกษตรของพี่น้อง ลพบุรีสระบุรีได้มาก
ช่วยชะลอน้ำป่าสักที่จะไหลลงแม่น้ำเจ้าพระยาได้ระดับหนึ่ง
คือควบคุมได้ไม่มาก แต่ช่วยผ่อนหนักเป็นเบา
ถ้าท่วมก้อผ่อนได้บ้าง ถ้าแล้ง ก็พอมีน้ำไม่ขาดจนแห้งผาก
เวลานี้ เขื่อนใหญ่ สี่แห่ง น้ำน้อยกว่าเกณฑ์
ก้อหวังว่า ฝนมาวันที่ 30 - 1 นี้จะเติมน้ำได้บ้างโดยเฉพาะที่น่าน
ส่วน เขื่อนภูมิพลคงมีน้ำน้อยกว่าเกณฑ์
หากน้อยแบบนี้ไปอีกสองปี ผลคือ เมื่อน้ำเค็มรุกเข้ามาทางปากอ่าว
น้ำจะเข้ามาถึง อยุธยา พี่น้องที่ต้องอาศัยน้ำจืดทางนั้น
จะได้รับความเสียหาย ตั้งแต่นนทบุรีขึ้นมาทีเดียว
เขื่อนวชิราลงกรณ์ และเขื่อนศรีนครินทร์ อยู่ที่กาญจน์
ครั้งที่ก่อสร้าง ก็เป็นป่าเสื่อมโทรมกว่าครึ่ง
แต่มีบางท่านให้ความเห็นว่า ตั้งอยู่บนรอยเลื่อน
บางท่านก็บอกว่า เป็นรอยเลื่อนที่ไม่มีพลังแล้ว
ซึ่ง ก็เป็นข้อมูลทางวิชาการ
เขื่อนนี้มีบทบาทสองครั้งสำคัญ คือ สามารถจ่ายไฟฟ้าได้เร็ว
ไม่ต้อง รอเวลาเดินเครื่อง
ครั้งที่พม่า ตัดแก๊สเรา เขื่อนสองเขื่อนนี้ได้ปล่อย กระแสไฟฟ้าช่วยไม่ให้
พี่น้องในกทม เมืองเทวดาฟ้าอมร ต้องไฟดับไปทั้งคืน
ได้ในเวลา ไม่ถึง 1 ชั่วโมง ขณะที่พี่น้องชาวกทม ได้มีแอร์ใช้ไม่ติดขัด
พี่น้องริมน้ำที่กาญจน์บุรี ต้องถูกน้ำท่วม ในเวลา 2 - 3 ชั่วโมง
แล้วการไฟฟ้า ก็ออกมากราบขอโทษ และจ่ายค่าชดเชยบรรเทาความเสียหายให้ตามสมควร
หากไม่มีเขื่อนสองเขื่อนนี้ ในยามวิกฤติ สถานที่สำคัญ โรงพยาบาล
ห้างดังๆ ที่ใช้ไฟฟ้ามากกว่า แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน ก็ต้องถูกดับไฟ
เกรงว่า จะค้าขายกันไม่ได้
มาดูเรื่อง มีเขื่อน แล้ว ป่าอิ๋บอ๋ายหายกันบ้าง
เรื่องนี้ บางส่วนเป็นจริง บางส่วนไม่เป็นจริง
ต้นไม้ เมื่อถูกตัดเป็นแสนต้น ฟังดูก้อน่าใจหาย
เอาง่ายๆ ป่าธรรมชาติ ถ้ามีต้นไม้ใหญ่ จริงๆ 1 ไร่ จะมีอย่างมากไม่เกิน 16 ต้น
ถ้ามีเกินกว่านั้น เช่น 20 - 30 ต้น ต้นไม้นั้น จะไม่โต ด้วยบดบังแสงกันเอง
หากพื้นที่เก็บน้ำมี 5,000 ไร่
และมีต้นไม้ใหญ่อยู่เต็ม ก็จะมีต้นไม้ใหญ่ถูกตัดไป 80,000 ต้น
ถ้ามี 50 % ก็เหลือ 40,000 ต้น มีสัตว์ป่า ต้องอพยพ หรือตายไป
จำนวนหนึ่ง
สัตว์ป่าที่ไม่ตาย ก้อย้ายถิ่นไปอยู่ที่อื่น
หลายครั้งแม้นไม่มีเขื่อน พอมีน้ำหลาก สัตว์ หนีไม่ทัน ก็มีตายบ้างไม่มากก็น้อย
พอสัตว์ส่วนที่รอดไป ก็จะหากินอยู่แถวๆ ริมอ่างน้ำใหม่ ออกลูกหลาน
กลับมาดังเดิม หรือบางส่วน อาจมากกว่าเดิม ด้วยมีน้ำกินมีสัตว์อื่นให้ล่า
มีหญ้าริมน้ำให้กิน ก็อาจมีจำนวนเพิ่มขึ้นได้ถ้าไม่มีใครไปยิงมันนะ
นี่เป็นเรื่อง เขื่อนกับป่า
หากเรา เห็นว่า เขื่อนคือตัวทำลาย ป่าให้มันอิ๋บอ๋ายไปเสีย
แล้วเราก็ไม่เอาเขื่อนก็ได้ มาลงมติกันทั้งประเทศว่าต่อไปนี้เราไม่เอาเขื่อนนะ
เพราะมันเป็นตัวทำให้ป่าอิ๋บอ๋าย ระบบนิเวศน์มันเสียสมดุล
ถ้าฝ่ายข้างมาก ไม่เอา ก็คือไม่เอา มันก็จบ
--------------------------------------------------------------
ทีนี้มาดู ว่า NO DAM แล้ว ป่ามันไม่อิ๋บอ๋ายใช่ไหม
ตอบ ไม่จริงครับ เวลานี้ เมืองไทย ไม่ได้มีเขื่อนใหม่มา 10 ปีแล้วมั้ง
ป่ายังคงอิ๋บอ๋ายตามเดิม ป่าที่อุดมสมบูรณ์หายไปทุกวัน
ด้วยการถางไร่ ปลูกข้าวโพด ปลูกมัน ปลูกยางพารา หรือไม่ก็ข้าวไร่
ปลูกกะหล่ำ ปลูกขิงกันถ้วนหน้า
การบุกรุกป่า การถางไร่ ทำไร่เลื่อนรอยนั้น ทำความอิ๋บอ๋ายให้ผืนป่า
มากมายมหาศาล มากกว่าเขื่อนหลายร้อยเท่า หน้าดินเสียหาย
เกิดตะกอนสะสมในแม่น้ำ แล้วไหลลงอ่าวไทย อ่าวไทยตื้นเขิน
หอยตัวเล็ก กุ้งตัวผอม หรือไม่ก็โตช้า ปลาทูไม่อร่อย
ผลที่ได้คือ พี่น้องที่ทำไร่มีเงินใช้ มีข้าวกิน นายทุนค้าพืชไร่ร่ำรวย
แล้วพวกกลุ่มคนที่บอกว่า ไม่เอาเขื่อน ไปทำกระไรอยู่ที่ไหนครับ
ไม่มาช่วยเดิน 300 กิโลเมตร ไม่เอาถางป่ากันบ้าง
--------------------------------------------------------------------------
ตรงนี้ ต้องชัดครับ ว่าจะเอาป่า จะเพิ่มป่า ใช่หรือไม่
หรือว่า ฉันไม่สน ว่าป่าจะเป็นอย่างไร ฉัน ไม่เอาเขื่อนเท่านั้น
เข้าใจไหม
หากเป็นอย่างหลัง ผมเห็นว่า ยากแล้วหละที่จะพูดคุยกันให้รู้เรื่อง
แสดงความคิดเห็น
เอาแบบไม่ทราบข้อมูลอะไรมากนะคะ การสร้างเขื่อนมีเทคนิคการสร้างอย่างไรคะ
เราเกิดสงสัยว่าเขื่อนที่ต้องตัดไม้ป่า เอาสัตว์ป่าอพยพ นี่เค้าสร้างกันอย่างไรคะ จนกระทั่งส่งน้ำเข้าเขื่อนค่ะ
เพราะเปิดไปเจอคลิปที่ท่านสืบ นาคะเสถียร ท่านเข้าไปช่วยสัตว์ป่าที่ถูกน้ำท่วม เลยสงสัยว่าจะสร้างเขื่อนทั้งที
ไม่มีการอพยพย้ายถิ่นให้สัตว์ป่าเค้าเลยหรือคะ เค้าปล่อยน้ำปริมาณมากมาจากไหนไปยังเขื่อนให้เต็มคะ
ตอนแรกเราคิดเอาเองว่า เค้าระเบิดพื้นป่าทั้งหมด เพื่อเคลียร์พื้นที่หรือเปล่าอ่ะค่ะ
เพราะถ้าจะให้ตัดเป็นแสนต้น ก็หนักอยู่ค่ะ ขอบคุณที่สร้างความกระจ่างค่ะ