หนี้หลุด ... หยุดสร้างหนี้ ! ( ข้อคิดดี ๆ สำหรับคนเป็นหนี้ )

กระทู้สนทนา
หนี้หลุด…หยุดสร้างหนี้

คงปฏิเสธไม่ได้ว่า การใช้โฆษณาการตลาดนำของสถาบันการเงินในรูปแบบต่าง ๆ เช่น รถแลกเงิน สินเชื่อเงินสด สินเชื่อเอนกประสงค์ เป็นต้น กลายเป็นสิ่งเร้าที่กระตุ้นให้ประชาชนภาคครัวเรือนส่วนหนึ่งอดใจไม่ไหว จนคล้อยตามคำโฆษณาและเข้าไปติดกับดักหนี้จนบางรายแทบจะหาทางออกไม่เจอ ซึ่งการเป็นหนี้ได้ง่าย ๆ ทำให้เกิดการใช้จ่ายเงินเกินตัวและอาจเกิดภาวะหนี้สินล้นพ้นตัวได้
หากไม่อยากติดกับดักหนี้ ก่อนใช้บริการสินเชื่อทุกครั้งจึงควร  “คิดก่อน…ก่อหนี้” กันสักนิด   หลัก ๆ ที่สำคัญคือ
-    ต้องไม่หลงก่อหนี้ตามคำโฆษณา
-    ก่อหนี้เมื่อมีความจำเป็นจริง ๆ  และต้องเป็นในจำนวนที่น้อย
-    ควรหาข้อมูลการขอสินเชื่อเปรียบเทียบจากหลาย ๆ แห่งก่อนสร้างหนี้
-    ต้องมีรายได้เพียงพอในการชำระหนี้
-    ที่สำคัญที่สุด ควรหลีกเลี่ยงเงินกู้นอกระบบ  
      ทั้งนี้ ยอดหนี้ที่ต้องชำระต่อเดือนที่ปลอดภัยสำหรับการดำรงชีวิต ไม่ควรจะเกิน50% ของรายได้ในแต่ละเดือน  
    
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ



  หากท่านเป็นผู้หนึ่งที่มีหนี้สินจำนวนมาก และต้องการหลุดออกจากวงจรหนี้  จึงถึงเวลาแล้วที่ต้องคิดหาวิธีการจัดการหนี้อย่างเป็นระบบในทันที  โดยเริ่มจากการสำรวจตัวเองกันก่อนดีกว่า ว่าเรามีเจ้าหนี้กี่ราย ยอดหนี้ อัตราดอกเบี้ย เงินผ่อนต่องวด จำนวนเท่าไหร่ เมื่อมีข้อมูลครบถ้วนแล้ว เรามาขจัด ปัดเป่า และเร่งปลดหนี้ให้หมดเร็วขึ้นกันดีกว่า  โดยมีเทคนิคการจัดการหนี้ที่เป็นระบบมาฝากกัน ดังนี้
          
   1. “ตัดและหยุด”   ตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไป เช่น  รายจ่ายที่เกิดจากการซื้อหวย  ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ถ้าตัดไม่ได้  ก็ให้ลดจำนวนที่จ่ายลงที่ละนิด เพื่อจะได้มีเงินเหลือชำระหนี้ พร้อมกันนี้ก็ต้องหยุดสร้างหนี้เพิ่มด้วยเช่นกัน
    
  2. “ชำระหนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงก่อน” เมื่อได้ชำระหนี้ต่าง ๆ ตามเงื่อนไขที่กำหนดแล้ว และยังมีเงินเหลือที่สามารถจะนำไปกลบหนี้ได้  ให้นำไปชำระหนี้ก้อนที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงที่สุดก่อน เช่น ระหว่างหนี้จากการซื้อบ้าน 1 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 6% ต่อปี กับหนี้นอกระบบ 5 หมื่นบาท อัตราดอกเบี้ย 10% ต่อเดือน  เมื่อมีเงินก็ควรชำระหนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ย 10% ต่อเดือนก่อน  ถึงแม้ว่า จำนวนที่เป็นหนี้จะไม่สูงมากแต่ดอกเบี้ยที่จ่ายมีจำนวนสูง การชำระต้นเงินลดลงทำให้เราต้องจ่ายดอกเบี้ยลดลงนั้นเอง
          
    3. “ยุบ ย้าย รวม”  เมื่อเป็นหนี้หลายราย หลายแหล่ง แถมอัตราดอกเบี้ยก็แตกต่างกันมาก  เราควรที่จะยุบจากหลาย ๆ แหล่ง แล้วย้ายทุกแหล่งมารวมกันไว้อยู่เป็นที่เดียวกัน เพื่อง่ายต่อการชำระทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย นั่นก็คือ  ถ้าเราเป็นหนี้อยู่ 5 ราย แต่ละราย  วันชำระเงินก็แตกต่างกันไป  ถ้าเป็นอยู่อย่างนี้ ในแต่ละเดือนเราจะต้องคิดอยู่เสมอว่า  วันไหนถึงกำหนดชำระรายไหน จำนวนเงินเท่าไหร่  จะเอาเงินจากไหนมาชำระหนี้ ฉะนั้น เราจึงควรหาแหล่งเงินกู้แหล่งใหม่ที่สามารถกู้แล้วได้เงินมากลบหนี้ทั้ง 5 รายนี้ได้  ค่าดอกเบี้ยที่เสียให้แหล่งใหม่ควรมีจำนวนที่น้อยกว่าหรือเท่ากันกับค่าดอกเบี้ยเดิมเป็นดีที่สุด  ผลดีที่สามารถรวมทุกหนี้มาไว้ที่เดียวกันได้คือ  ทำให้ง่ายต่อการจดจำวันชำระหนี้จาก 5 วันเป็นเหลือเพียงแค่ 1 วัน ทำให้มีสมาธิในการทำงานเพิ่มขึ้น เป็นต้น
            
  4.  “เจรจาประนอมหนี้” ถ้าหนี้ที่เรามีอยู่  ไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามจำนวนเงินหรือเงื่อนไขที่เจ้าหนี้กำหนดได้ ให้หาวิธีเจรจาขอประนอมหนี้ เช่น ขอลดจำนวนเงินที่ต้องผ่อนในแต่ละงวด หรือ ขอยืดเวลาในการชำระหนี้ เพราะบางอาชีพมีความเสี่ยงเรื่องรายได้ โดยเฉพาะอาชีพเกษตรกรที่รายได้ไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับ ฤดูกาล และ พืชผลทางการเกษตร เช่น ชาวสวนยาง เมื่อก่อนราคายางมีราคาสูงถึงกิโลกรัมละประมาณ 180 บาท แต่ปัจจุบันราคายางลดลงเหลือกิโลกรัมละประมาณ 80 บาท
        
เม่าสงสัยเม่าแพนด้าเม่าเศร้าเม่าพาล

      ฉะนั้น การสร้างหนี้ในช่วงที่มีรายได้ดี ก็ควรคำนึงถึงอนาคตด้วยว่า ถ้าเกิดภาวะเช่นนี้ จะมีเงินรายได้เพียงพอต่อการชำระหนี้ในแต่ละงวด และมีเงินเพียงพอต่อรายจ่ายภายในครอบครัวหรือไม่
            
  เพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์ทีดีต่อเจ้าหนี้และตัวเราเอง  เราจึงไม่ควร “หนีหนี้” “หนีหน้า”  “หนีปัญหาด้วยการฆ่าตัวตาย”  และไม่ควรยึดคติที่ว่า “ไม่มี  ไม่หนี  และไม่ให้”  หากท่านไม่สามารถเจรจาประนอมหนี้ได้ ให้นึกถึงคำว่า  “ทุกปัญหามีทางออก ถ้าคิดอะไรไม่ออก  โทรปรึกษา 1213 กันดีกว่าค่ะ  (เฉพาะการเป็นหนี้กับสถาบันการเงินที่ ธปท. กำกับดูแลเท่านั้น)”
          
   5. “ควรมีวินัยในการชำระหนี้” เมื่อถึงกำหนดชำระควรชำระหนี้ให้ตรงตามวันเวลาที่เจ้าหนี้กำหนด และควรหาช่องทางที่จะทำให้เรามีรายได้เพิ่มขึ้น เช่น ขายอาหารหรือเครื่องดื่มตอนเย็นหลังเลิกงาน รับจ้างทั่วไป  เป็นต้น
          
   6. “ใช้ชีวิตอยู่อย่างพอเพียงและเพียงพอ” ต่อรายได้ที่เรามี นั่นก็คือ  มีเงินเท่าไหร่ก็ควรจัดสรรให้ใช้จ่ายให้เพียงพอ ประหยัด และก่อนจะตัดสินใจซื้ออะไร  ต้องคิดทบทวนให้ดี ให้รอบคอบ ว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นจริง ๆ  ไม่ใช่สิ่งที่อยากได้ เช่น ถ้าซื้อรถโดยวิธีผ่อนชำระ ค่าใช้จ่ายที่จะมีเพิ่มขึ้นตามมาด้วย เช่น ค่าผ่อนรถ ค่าน้ำมัน หรือค่าเช่าที่จอดรถ เป็นต้น
    ในท้ายที่สุดแล้ว ท่านจะเป็นอีกผู้หนึ่งที่โชคดีที่สามารถขจัด ปัดเป่า หนี้ให้หลุดไปได้ หลังจากนี้ ก็ควรที่จะหันมาเก็บออมสำรองเงินไว้ใช้ยามจำเป็นต่อไป  หากท่านมีความจำเป็นต้องก่อหนี้ในครั้งต่อไปก็พึงระมัดระวังให้ดี  และต้องตระหนักว่า หนี้ใหม่ที่จะเกิดขึ้นควรเป็นหนี้ที่ดีและควรก่อ  เป็นหนี้ที่ทำให้เรามีรายได้หรือทรัพย์สินเพิ่มขึ้นเท่านั้น  เพราะครั้งต่อไปท่านอาจจะไม่โชคดี สามารถขจัดหนี้ให้หลุดได้เหมือนกับครั้งที่ผ่านมาก็ได้นะคะ


ข้อมูลและที่มาจาก
นุชนาฎ  เกลี้ยงเกิด
ผู้วิเคราะห์อาวุโส ส่วนคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน
ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคใต้

Best Wishes from
Panda Smile

ขอปิดท้ายด้วย คลิปสั้น ๆ เตือนใจและให้ข้อคิดดี ๆ กับบัตรเครดิต สำหรับทุก ๆ ท่านนะครับ ^ ^

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่