ก่อนจะเล่าก็ต้องขอบอกให้เข้าใจก่อนนะคะว่า เรื่องของเราไม่ใช่ความรักใสๆแบบป๊อบปี้เลิฟ คิกขุโนเนะแบบในหนัง เราก็เป็นเหมือนวัยรุ่นทั่วไป(มั้ง) ที่เห็นเรื่องรักใหญ่กว่าเรื่องเรียน 555 จะสุขจะทุกข์ก็เที่ยวกลางคืน อกหักเมื่อไหร่ก็ชวนเพื่อนไปยกเหล้า เราเชื่อว่านักศึกษาหลายคน (เราให้เกิน 50% ) ต้องใช้ชีวิตแบบเราอ้ะ ที่อยากเขียนเพราะอยากเล่าอยากแชร์ อยากแบ่งปัน อยากรู้ว่าคนอื่นมีความรักแบบนี้กันบ้างมั้ยนะ อย่างน้อยช่วงนึงของชีวิตมันก็ได้เจออะไรมากมาย ไม่ได้ผ่านไปง่ายๆ กว่าจะหาทางออกเจอก็เสียอะไรไป แล้วก็ได้อะไรมาตั้งหลายอย่าง...อย่าอ่านซีเรียสจริงจังไปนะคะ อ่านไปอาจจะดูว่าทำไมเด็กคนนี้มันแรดมันแรงจังเลย แค่อยากแชร์ประสบการณ์ช่วงหนึ่งของชีวิตค่ะ
เราไม่ใช่เด็กเรียนค่ะ แต่ก็ไม่เกเรนะ ไปเรียนเพราะต้องเช็คชื่อ อ่านหนังสือเพราะต้องสอบ เรื่องหลักคือเที่ยว เรื่องเรียนเป็นรอง ติดเอฟมันเกือบทุกวิชา กลับบัานไปหาพ่อแม่นับครั้งได้ เงินที่ให้มาหมดไปกับเครื่องสำอาง เที่ยวกลางคืน ไม่เคยถึงกลางเดือนขอเพิ่มอีกแล้ว ( ยังคิดอยู่เลยว่า ถ้าตัวเองมีลูกแล้วมันเป็นแบบเราจะทำไงวะเนี่ย )
ก่อนที่เราจะเจอกับแฟน เราก็มีคนเข้ามาจีบหลายคนนะคะ ส่วนใหญ่ก็มาจากการที่ไปเที่ยวกลางคืน ขอเบอร์บ้าง เฟสบุ๊คบ้าง เมากลับด้วยกันบ้าง เรียกว่าล่าแต้มยังกับสไปร์ท ตอนนั้นก็คิดนะว่า เราหนิก็สวยเหมือนกันนะ ผู้ชายติดตรึม แต่ตอนนี้มาคิดได้ แหม่ คนเมา เจอผีก็ยังเห็นเป็นนางฟ้าเลยเถอะ ก็นั่นแหละค่ะ ตามประสาคนสวย(กลางคืน) ก็ไม่คิดจริงจังกับใครทั้งนั้น จนกระทั่งเขาก็เข้ามาเปลี่ยน(ใจ)เรา
จะสมมติว่า เค้าชื่อพี่เคน ละกัน... ปกติเราจะมีเพื่อนเที่ยวเป็นรุ่นพี่ซะส่วนใหญ่ 6 โมงเย็นก็จะโทรมานัดกันแล้วว่า คืนนี้ 3 ทุ่ม หลังมอนะ (มอไหนไปเดากันเอาเอง อิอิ) แล้วพอดีวันนั้น เราไปกับพี่ผู้หญิง 1 คน ผู้ชาย 1 คน สักพักพี่ผู้ชายคงเหงาเกินไปมั้งอยากมีเพื่อนคุย ก็เลยโทรเรียกพี่เคนออกมานั่งเป็นเพื่อนหน่อย
" เคน เมิงอยู่ไหนวะ ออกมากินเหล้ากับกุหน่อย "
" กุเล่นไพ่อยู่ว่ะ เสียหมดเลยเนี่ย "
แล้วก็สนทนากันยาวนานมาก โทรไปประมาณ 3 รอบ กว่าจะตามพี่เคนมาได้ พอมาถึง เราก็ไม่ค่อยชอบหน้าเท่าไหร่ คนอะไรเล่นไพ่ (เราไม่เล่นการพนันค่ะ ) ลีลา พูดจาทะลึ่ง ไม่น่ารักเลย สรุปวันนั้นก็กินกันให้เมาแล้วก็แยกย้ายกันกลับ
วันต่อมากลุ่มพี่ๆเพื่อนๆเราก็นัดกันกินเหล้าอีก ทีนี้กลุ่มใหญ่เลยแหละ เราก็เคยเจอเค้าเมื่อคืน คืนนี้ก็เลยได้นั่งข้างกัน ธรรมดาแหละค่ะ กินเหล้าเมา ผู้หญิงผู้ชายคุยกัน ถูกคอก็สปาร์ค ยิ่งเราสวยตอนกลางคืนด้วย ผู้ชายที่ไหนคุยกับเราจะไม่ตกหลุมล่ะ 555 แต่คืนนั้นก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นนะคะ เมาเหมือนเดิม แยกกัน จนกระทั่งพี่เคน แอดเฟสบุ๊คมา...
เรื่องที่คุยกันก็ไม่มีอะไร นอกจาก คืนนี้ไปไหนคับ เมามั้ย กินเหล้าเปล่า คำถามเป็นแบบนี้ทุกวัน ทีนี้มีวันนึง เรามีซ้อมกีฬาตอนตี 4 แต่ก่อนหน้านี้เราไปเที่ยวกลางคืนมาเหมือนเดิม กะว่ากลับมานอนเอาแรงสัก ตีสามค่อยตื่นไปซ้อมกีฬา ในจังหวะกำลังจะนอนตอนตี 2 พี่เคนโทรเข้าเครื่องมาค่ะ ( เอาเบอร์มาได้ไงวะ)
"น้องเอม (นามสมมติ) นอนรึยังคับ"
"ยังค่ะ (อ่อยเต็มที่) "
" พี่ไปหาได้มั้ยอ้ะ พอดีจะไปซ้อมกีฬา ไม่รู้จะไปไหนดี "
"อ่อ ได้ค่ะ ( ในใจคิด ซ้อมกีฬาตั้งตี4 ออกมาตั้งแต่ตี2 เนี่ยนะ )
พอมาถึง พี่เคนก็ชวนเราสูบบุหรี่อยู่ข้างล่างค่ะ แต่เราคิดว่า มันไม่โอเคอ่ะ มีคนผ่านไปผ่านมา ไปสูบบนห้องเราดีกว่า ไม่มีคน ( สรุปที่ไหนดีกว่ากัน กันแน่ 55 )
เรานั่งคุย สูบบุหรี่ริมระเบียงด้วยกันถึงเช้าค่ะ จนไม่ได้ไปซ้อมกีฬา คุยกันจนง่วงทั้งคู่ พี่เค้าเลยเนียนขอนอนที่นี่ แหม่ แต่อย่าคิดว่าเราจะง่ายนะ จะให้ผู้ชายนอนเตียงด้วยได้ไง " เดี๋ยวเอมปูที่นอนให้นอนข้างล่างนะคะ " 555
หลังจากวันนั้น พี่เคนก็เนียนมาขอสูบบุหรี่ที่ห้อง รอไปซ้อมกีฬาเกือบทุกคืน ความสัมพันธ์เป็นไปแบบนี้เรื่อยๆค่ะ บางวันก็ชวนไปออกกำลังกายตอนเย็น รับไปกินข้าว จนเรารู้สึกว่า อย่างเราก็มีผู้ชายดีดีมาคอยตามใจ ดูแล เลี้ยงข้าวทุกวัน ไม่หวังแต่เรื่องเดียว ไม่ชั่วคราวแค่ตอนกลางคืนเหมือนกันนะ นั่นแหละที่ทำให้เค้าได้ใจเราไปเต็มๆ
เอาใจเราไปขนาดนี้ ทำไมจะไม่ได้ตัวล่ะ จริงมั้ย 555
เหตุมันเกิดขึ้นเมื่อ วันนั้นเราก็คุยกันทางเฟสบุ๊คกันปกติ (จีบกันเป็นเดือน ไม่เคยโทรหา มีแต่เฟสแล้วก็มาที่ห้องเลย 55 ) เราก็บอกพี่เคนว่า วันนี้เราจะไปเที่ยวนะ แล้วที่คณะเพื่อนนัดไปเลี้ยงต่อ แล้วคงจะได้กลับดึกมาก ปรากฎว่าคืนนั้นเราเมามาก จนโทรศัพท์หาย ทั้งที่โทรศัพท์เราหายแต่ใจเราไม่ได้ห่วงโทรศัพท์เลย ห่วงแต่ว่าเค้าจะติดต่อเราได้มั้ย อะไรยังไง โชคดีมากที่เพื่อนเราเจอเก็บไว้ให้ แทนที่เราจะขอโทรศัพท์คืน แต่เรากลับขอเบอร์ที่โทรออกล่าสุด ซึ่งก็คือเบอร์พี่เคน กดตู้โทรไปเลยจ๊ะ "พี่เคนมาหาหน่อย "
ไม่ถึงสิบห้านาที พี่เคนก็มาหาเราที่ห้อง จำไว้นะคะ สาวๆ ถ้าไม่อยากเสียตัว อย่าอยู่กับผู้ชายสองคนในห้อง แล้วยิ่งเมาๆมาทั้งคู่นี่ ยังไงก็ไม่มีทางรอด... พอตื่นเช้าขึ้นมา พี่เคนก็กลับบ้านไปแล้วค่ะ บอกตามตรงว่า เรารู้สึกแย่มาก ย้อนกลับไปคิดเค้าจะมองเราเป็นคนยังไงนะ ด้วยความที่สวยมากก็เลยตัดสินใจยุติความสัมพันธ์ก่อน เพราะถ้าเค้าทิ้งเรา เรากลัวเราจะเสียฟอร์มไม่อยากมีอารมโดนฟันแล้วทิ้ง เอาเป็นว่าเราเป็นคนฟันเขาแล้วทิ้งน่าจะเวิร์คกว่า ( แรดมั้ยล่ะ ) ก็เลยตัดสินใจ ส่งข้อความไปค่ะ "พี่เคน เรื่องเมื่อคืนถือว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นนะ อย่าไปบอกใครล่ะ " เชื่อมั้ยคะว่า ส่งไปไม่ถึง 3 นาที พี่เค้ารีบโทรกลับมาหาเราเลย แล้วก็ตามจีบเราต่ออีกเดือน จนตกลงปลงใจเป็นแฟนกัน...( พอเอาเรื่องนี้กลับมาคุยย้อนหลัง เค้าบอกว่า ที่จริงตอนนั้นกะไว้ว่าจะฟันแล้วทิ้งจริงๆแหละ แต่พอเราส่งข้อความนั้นไป เค้ารู้สึกเหมือนโดนดูถูก ยอมไม่ได้ที่จะโดนทิ้ง ปกติทิ้งแต่ผู้หญิง ก็เลยอยากรู้ว่าจะทำให้เรารักเค้าได้มั้ย อิอิ )
พอตัดสินใจคบกัน เค้าก็ย้ายมาอยู่กับเราที่หอพักค่ะ ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน แยกกันก็แค่ตอนไปเรียน ใช้เงินกระเป๋าเดียวกัน ซึ่งบอกตามตรงว่าเราจะได้เงินเยอะกว่าเค้ามาก ไปเที่ยวกลางคืน กินข้าว ดูหนัง ส่วนใหญ่เราจะเป็นคนออกให้ตลอด เพราะคิดว่าเป็นแฟนกัน พอเค้ามีเค้าก็จะเลี้ยงเราคืน ช่วงนั้นที่บ้านเราส่งให้หลายคนค่ะ เงินเลยมีใช้ไม่ขาดมือ คบกัน 5 เดือนแรก แฮปปี้มาก จนเราคิดว่า เค้าดีกับเราที่สุดในโลก เราจะหาผู้ชายดีดีแบบนี้ได้ที่ไหนกันวะ คนที่ไม่เคยนอกใจ ดูแลเราตลอด บอกรักเราทุกวัน ตามใจเราสารพัด ถึงขนาดคิดไว้เลยนะว่า ถ้าเรียนจบเมื่อไหร่ เราแต่งงานกันเถอะ แหม ถึงจะเป็นวัยรุ่นโลกไม่สวย แต่ก็เพ้อฝันเป็นเหมือนกันนะ
เราไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วยกัน ซึ่งตลอดเวลาที่คบกัน ทางพ่อแม่เราก็ไม่เคยรู้เลยนะ ว่าเราเช่าหออยู่กับเค้า เราไปเที่ยวต่างจังหวัด 2 คนกับผู้ชาย เราขอตังค์เรื่องเรียน แต่ก็เอาไปเที่ยวนู่นเที่ยวนี่ ชีวิตเราตอนนั้นแค่มีเค้าคนเดียวก็พอแล้ว คนนี้แหละที่เราจะฝากชีวิตไว้ คนนี้แหละที่อยู่กับเราตลอดไม่ว่าจะทุกข์หรือสุข คนนี้แหละ คนนี้แหละ
แต่ชีวิตมันก็ไม่ได้ราบเรียบเสมอไปเหมือนที่ฝันนะคะ จนมาถึงวันที่ญาติเราฝ่ายนึงเสีย ทำให้ขาดคนส่งเงินให้ใช้อีกทาง ซึ่งเราต้องใช้เงินกระเป๋าเดียวกับเค้าทำให้เงินไม่พออยู่ถึงเดือน ( แต่ถ้าใช้คนเดียวหนิ สบายอ้ะ ) เราก็เลยตกลงกันว่าเราจะไปหางานทำกันดีกว่า ( ทำเหมือนไม่มีเรียนเลยเนาะ 55 ) เราสองคนไปสมัครงานร้านอาหารค่ะ เค้าเป็นเด็กเสริฟ เราเป็นพีอาร์ ซึ่งเงินที่เราได้มาก็เยอะพอสมควร แต่ก็หมดไปกับการเที่ยวกลางคืนหลังเลิกงาน ช่วงนี้แหละที่เราทะเลาะกันบ่อยมาก เพราะว่ามีคนมาจีบเรา และเค้าเองก็นั่งกินเหล้ากับเพื่อนถึงเช้า จากที่เคยกลับพร้อมกันก็ไม่ โทรหาให้รีบกลับห้องก็ช้า เคยห้ามว่าอย่ากินเหล้าหนักก็ห้ามไม่ได้ แล้วจนมีช่วงนึงเค้าก็ไม่ยอมไปทำงาน เราก็เลยต้องเป็นคนหาเงินอยู่คนเดียว แต่ยังใช้เงินกระเป๋าเดียวกันเหมือนเดิม มันทำให้เราคิดแล้วคิดอีกนะว่า ทำไมเราต้องมาทนกับคนที่เลี้ยงเราไม่ได้ด้วย แต่ก็เพราะรักนี่แหละค่ะ ถึงต้องอดทนหาเงินเองไม่อยากให้เค้าลำบา อยากให้เค้าอยู่กับเรานานๆ อยากให้เค้าเป็นคนที่น่าอิจฉาในสายตาคนอื่น และสิ่งดีดีที่เค้าทำให้เรามา มันทำให้เราคิดว่า เงินแค่นี้อย่าทำให้มันเป็นปัญหากับความรักเราเลยเถอะ ( แต่เป็นปัญหากับกระเป๋าตังค์พ่อแม่มาก)
หลังๆเราเริ่มจะเหนื่อยกับการหาเงิน ประกอบกับว่ามีคนมาจีบเรา อารมณ์แบบผู้ชายหล่อ พ่อบุญทุ่ม ผู้หญิงที่ไหนจะไม่ไปล่ะคะ เรายังคิดเลยว่าถ้าเค้าจีบเราจริงจังยังไงเราก็จะทิ้งแฟนเราคนนี้แน่ๆ แต่เหมือนเป็นบุญหรือเป็นกรรมก็ไม่รู้ เค้าจับได้ว่าเราคุยกับผู้ชายคนอื่น เค้าถามหาเหตุผลว่า ทำไมถึงนอกใจ ทำไมถึงทำแบบนี้ เราก็บอกเค้าไปว่าเพราะเรื่อวเงิน เราเหนื่อย เธอไม่มีตังค์ให้เรา เธอเที่ยวเธอดูแลเราไม่ได้ เหตุผลเห็นแก่ตัวหน้าเงินมากเลยใช่มั้ยคะ 555 เค้าก็ถามเรากลับว่า คิดว่าผู้ชายคนนั้นจะรักเราได้เท่าเขาหรอ ตัดสินใจดีแล้วหรอ เค้าทั้งขอร้องอ้อนวอนเราว่าอย่าไปเลยนะ อยู่กับเค้าเถอะ จนเราใจอ่อนค่ะ กลับไปคิดทบทวนอีกครั้ง ก็เลยตัดสินใจเลิกคุยกับคนนั้น กลับไปรักกัน ทำความรักให้มันหวานกว่าเดิม
หลังจากนั้นเค้าก็กลับไปทำงานเหมือนเดิม แต่เราย้ายร้านไปทำที่อื่น แล้วเหมือนกับว่าเค้าพยายามทำให้ตัวเองดีขึ้น คือพยายามแยกเงินใช้กับเรา ไม่รบกวนเรา แต่คนกินเหล้าทุกวันเงินก็ไม่ค่อยมี ทำให้เป็นหนี้เพื่อนก็เยอะ ได้เงินมาก็เอาไปใช้หนี้หมด เวลาเราอยากไปไหนก็ไม่ได้ไป จนสุดท้าย ยังไงเราก็ต้องออกให้เค้าก่อนเหมือนเดิม แล้วปันหาเดิมก็เกิดขึ้นอีก เรามีคนมาจีบ ทะเลาะกันเรื่องเงิน ซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ทุกครั้งเค้าก็เป็นคนมาง้อเรานะคะ ด้วยประโยคเดิมๆ รักเรามาก อย่าไปเลยนะ ขาดเราไม่ได้ ( พูดถึงแต่เรื่องเงิน เหมือนเราหน้าเงินมากเลยใช่มั้ยเนี่ย 55 )
เราคบกัน ประคับประคองกัน ทะเลาะกันเรื่องเดิมๆ จนรอดมาได้ 1 ปี 4 เดือน ก็เลยตัดสินใจว่า ปีนี้เราขึ้นภูกระดึงด้วยกันดีกว่านะ เพราะเราและเค้าชอบภูเขามาก ในเมื่อมีโอกาศ เราไปพิสูจน์ความรัก ทำให้รักเราใหม่ อีกครั้งดีมั้ย เราจำได้แม่นเลยความรู้สึกนั้น มันมีความสุขมาก อาจจะมากที่สุดในชีวิตก็ได้ เรานั่งรถทัวร์ลง จ. เลย ต่อรถไปตีนภู เดินขึ้นภูกระดึง จับมือกันตลอดทาง นอนตักพักเหนื่อย ตลอดทางที่มีเค้าไปด้วย 8 กิโล มันใกล้นิดเดียวเอง
เราเดินป่า กางเต้นท์ ดื่มเบียร์ นั่งดูดาว ( โอ้ย พิมไปก็จะร้องไห้ ) เค้าบอกว่า รักเรามากนะ ไม่เคยรักใครมากเท่านี้มาก่อน รักมากที่สุด จับมือกัน หอมแก้มกัน กอดกัน สัญญากันว่าจะมาด้วยกันแบบนี้ทุกปีนะ ( ถ้าคุณเคยรักใครมากๆ คุณจะเข้าใจค่ะ ว่าสัญญาตอนนั้นมันมีความหมายแค่ไหน คำพูดวันนั้นเราจำได้ทุกคำจนวันนี้ก็ยังไม่เคยลืม แต่คนพูด คงลืมไปแล้วแหละ 555 )
พอกลับมาจากภูกระดึงเรารู้สึกว่าเรามีความสุขมาก คิดตลอดเลยว่า ถ้าไม่มีผู้ชายคนนี้เราจะอยู่ยังไง เราตั้งใจเลยว่าต่อให้เจอคนหล่อกว่านี้ รวยกว่านี้ เราก็จะไม่สนแล้วจะมีแค่เค้าคนเดียว สัญญาเลยนะ ว่าจะรักแค่คุณ อิอิ ( ผู้หญิงโลกสวยเข้าร่างอีกละ )
แต่ถ้ามันมีความสุขไปตลอด เราจะมานั่งเขียนให้อ่านทำไมคะ...
หลังจากอาทิตย์นึงถัดมา เรามีนัดกับเพื่อนไปทานข้าวเย็น เพื่อนเราถามว่า กับแฟนเราเป็นยังไงบ้าง เราก็ตอบด้วยเความภูมิใจสุดๆ
" พี่เคนเค้าเป็นคนดีมากเลยนะ ตลอดเวลาที่คบกันมา ก็อยู่ด้วยกันอ้ะ ดูแลกันตลอด เคยพาไปให้พ่อรู้จักด้วยแหละ ที่สำคัญพี่แกไม่เคยนอกใจเค้าเลย " ยิ้มแบบภูมิใจ หน้าบานเว่อร์
เพื่อนก็แสดงความยินดี ได้เจอผัวดีดีตั้งแต่อยู่มหาลัย โตไปจะได้ไม่ต้องลำบากหายาก 555
พอกินข้าวเสร็จประมาณ สามทุ่ม ทีแรกเพื่อนชวนกันไปผับต่อ แต่เราปฏิเสธเพราะเกรงใจพี่เคน เห็นว่าพี่เคนนอนอยู่ห้อง อยากกลับไปนอนกอดสวีทวี้ดวิ้ว ก็เลยขอตัวกลับก่อน พอกลับไปถึงห้องพัก โอโห แฟนฉันน่ารักจุงเบย ไม่ออกไปเที่ยวกลางคืน รอเรากลับมากอดมาอ้อนแน่เบยยยยย (แฟนเรานอนหลับอยู่ แต่มือกำมือถือไว้ แถมยังไม่ออกไลน์ด้วยนะ ด้วยความอารมดี หยิบมือถือออกจากมือจะเอาไปวางให้ มองจอเท่านั้นแหละ )
ตาดันมองแวบไปอ่านไลน์" คิดถึงจัง น่ารักมากเลยคับ " "เมื่อไหร่จะได้เจอ" บลาๆๆๆๆ
ประสบการณ์รัก ฉบับมหาลัย
เราไม่ใช่เด็กเรียนค่ะ แต่ก็ไม่เกเรนะ ไปเรียนเพราะต้องเช็คชื่อ อ่านหนังสือเพราะต้องสอบ เรื่องหลักคือเที่ยว เรื่องเรียนเป็นรอง ติดเอฟมันเกือบทุกวิชา กลับบัานไปหาพ่อแม่นับครั้งได้ เงินที่ให้มาหมดไปกับเครื่องสำอาง เที่ยวกลางคืน ไม่เคยถึงกลางเดือนขอเพิ่มอีกแล้ว ( ยังคิดอยู่เลยว่า ถ้าตัวเองมีลูกแล้วมันเป็นแบบเราจะทำไงวะเนี่ย )
ก่อนที่เราจะเจอกับแฟน เราก็มีคนเข้ามาจีบหลายคนนะคะ ส่วนใหญ่ก็มาจากการที่ไปเที่ยวกลางคืน ขอเบอร์บ้าง เฟสบุ๊คบ้าง เมากลับด้วยกันบ้าง เรียกว่าล่าแต้มยังกับสไปร์ท ตอนนั้นก็คิดนะว่า เราหนิก็สวยเหมือนกันนะ ผู้ชายติดตรึม แต่ตอนนี้มาคิดได้ แหม่ คนเมา เจอผีก็ยังเห็นเป็นนางฟ้าเลยเถอะ ก็นั่นแหละค่ะ ตามประสาคนสวย(กลางคืน) ก็ไม่คิดจริงจังกับใครทั้งนั้น จนกระทั่งเขาก็เข้ามาเปลี่ยน(ใจ)เรา
จะสมมติว่า เค้าชื่อพี่เคน ละกัน... ปกติเราจะมีเพื่อนเที่ยวเป็นรุ่นพี่ซะส่วนใหญ่ 6 โมงเย็นก็จะโทรมานัดกันแล้วว่า คืนนี้ 3 ทุ่ม หลังมอนะ (มอไหนไปเดากันเอาเอง อิอิ) แล้วพอดีวันนั้น เราไปกับพี่ผู้หญิง 1 คน ผู้ชาย 1 คน สักพักพี่ผู้ชายคงเหงาเกินไปมั้งอยากมีเพื่อนคุย ก็เลยโทรเรียกพี่เคนออกมานั่งเป็นเพื่อนหน่อย
" เคน เมิงอยู่ไหนวะ ออกมากินเหล้ากับกุหน่อย "
" กุเล่นไพ่อยู่ว่ะ เสียหมดเลยเนี่ย "
แล้วก็สนทนากันยาวนานมาก โทรไปประมาณ 3 รอบ กว่าจะตามพี่เคนมาได้ พอมาถึง เราก็ไม่ค่อยชอบหน้าเท่าไหร่ คนอะไรเล่นไพ่ (เราไม่เล่นการพนันค่ะ ) ลีลา พูดจาทะลึ่ง ไม่น่ารักเลย สรุปวันนั้นก็กินกันให้เมาแล้วก็แยกย้ายกันกลับ
วันต่อมากลุ่มพี่ๆเพื่อนๆเราก็นัดกันกินเหล้าอีก ทีนี้กลุ่มใหญ่เลยแหละ เราก็เคยเจอเค้าเมื่อคืน คืนนี้ก็เลยได้นั่งข้างกัน ธรรมดาแหละค่ะ กินเหล้าเมา ผู้หญิงผู้ชายคุยกัน ถูกคอก็สปาร์ค ยิ่งเราสวยตอนกลางคืนด้วย ผู้ชายที่ไหนคุยกับเราจะไม่ตกหลุมล่ะ 555 แต่คืนนั้นก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นนะคะ เมาเหมือนเดิม แยกกัน จนกระทั่งพี่เคน แอดเฟสบุ๊คมา...
เรื่องที่คุยกันก็ไม่มีอะไร นอกจาก คืนนี้ไปไหนคับ เมามั้ย กินเหล้าเปล่า คำถามเป็นแบบนี้ทุกวัน ทีนี้มีวันนึง เรามีซ้อมกีฬาตอนตี 4 แต่ก่อนหน้านี้เราไปเที่ยวกลางคืนมาเหมือนเดิม กะว่ากลับมานอนเอาแรงสัก ตีสามค่อยตื่นไปซ้อมกีฬา ในจังหวะกำลังจะนอนตอนตี 2 พี่เคนโทรเข้าเครื่องมาค่ะ ( เอาเบอร์มาได้ไงวะ)
"น้องเอม (นามสมมติ) นอนรึยังคับ"
"ยังค่ะ (อ่อยเต็มที่) "
" พี่ไปหาได้มั้ยอ้ะ พอดีจะไปซ้อมกีฬา ไม่รู้จะไปไหนดี "
"อ่อ ได้ค่ะ ( ในใจคิด ซ้อมกีฬาตั้งตี4 ออกมาตั้งแต่ตี2 เนี่ยนะ )
พอมาถึง พี่เคนก็ชวนเราสูบบุหรี่อยู่ข้างล่างค่ะ แต่เราคิดว่า มันไม่โอเคอ่ะ มีคนผ่านไปผ่านมา ไปสูบบนห้องเราดีกว่า ไม่มีคน ( สรุปที่ไหนดีกว่ากัน กันแน่ 55 )
เรานั่งคุย สูบบุหรี่ริมระเบียงด้วยกันถึงเช้าค่ะ จนไม่ได้ไปซ้อมกีฬา คุยกันจนง่วงทั้งคู่ พี่เค้าเลยเนียนขอนอนที่นี่ แหม่ แต่อย่าคิดว่าเราจะง่ายนะ จะให้ผู้ชายนอนเตียงด้วยได้ไง " เดี๋ยวเอมปูที่นอนให้นอนข้างล่างนะคะ " 555
หลังจากวันนั้น พี่เคนก็เนียนมาขอสูบบุหรี่ที่ห้อง รอไปซ้อมกีฬาเกือบทุกคืน ความสัมพันธ์เป็นไปแบบนี้เรื่อยๆค่ะ บางวันก็ชวนไปออกกำลังกายตอนเย็น รับไปกินข้าว จนเรารู้สึกว่า อย่างเราก็มีผู้ชายดีดีมาคอยตามใจ ดูแล เลี้ยงข้าวทุกวัน ไม่หวังแต่เรื่องเดียว ไม่ชั่วคราวแค่ตอนกลางคืนเหมือนกันนะ นั่นแหละที่ทำให้เค้าได้ใจเราไปเต็มๆ
เอาใจเราไปขนาดนี้ ทำไมจะไม่ได้ตัวล่ะ จริงมั้ย 555
เหตุมันเกิดขึ้นเมื่อ วันนั้นเราก็คุยกันทางเฟสบุ๊คกันปกติ (จีบกันเป็นเดือน ไม่เคยโทรหา มีแต่เฟสแล้วก็มาที่ห้องเลย 55 ) เราก็บอกพี่เคนว่า วันนี้เราจะไปเที่ยวนะ แล้วที่คณะเพื่อนนัดไปเลี้ยงต่อ แล้วคงจะได้กลับดึกมาก ปรากฎว่าคืนนั้นเราเมามาก จนโทรศัพท์หาย ทั้งที่โทรศัพท์เราหายแต่ใจเราไม่ได้ห่วงโทรศัพท์เลย ห่วงแต่ว่าเค้าจะติดต่อเราได้มั้ย อะไรยังไง โชคดีมากที่เพื่อนเราเจอเก็บไว้ให้ แทนที่เราจะขอโทรศัพท์คืน แต่เรากลับขอเบอร์ที่โทรออกล่าสุด ซึ่งก็คือเบอร์พี่เคน กดตู้โทรไปเลยจ๊ะ "พี่เคนมาหาหน่อย "
ไม่ถึงสิบห้านาที พี่เคนก็มาหาเราที่ห้อง จำไว้นะคะ สาวๆ ถ้าไม่อยากเสียตัว อย่าอยู่กับผู้ชายสองคนในห้อง แล้วยิ่งเมาๆมาทั้งคู่นี่ ยังไงก็ไม่มีทางรอด... พอตื่นเช้าขึ้นมา พี่เคนก็กลับบ้านไปแล้วค่ะ บอกตามตรงว่า เรารู้สึกแย่มาก ย้อนกลับไปคิดเค้าจะมองเราเป็นคนยังไงนะ ด้วยความที่สวยมากก็เลยตัดสินใจยุติความสัมพันธ์ก่อน เพราะถ้าเค้าทิ้งเรา เรากลัวเราจะเสียฟอร์มไม่อยากมีอารมโดนฟันแล้วทิ้ง เอาเป็นว่าเราเป็นคนฟันเขาแล้วทิ้งน่าจะเวิร์คกว่า ( แรดมั้ยล่ะ ) ก็เลยตัดสินใจ ส่งข้อความไปค่ะ "พี่เคน เรื่องเมื่อคืนถือว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นนะ อย่าไปบอกใครล่ะ " เชื่อมั้ยคะว่า ส่งไปไม่ถึง 3 นาที พี่เค้ารีบโทรกลับมาหาเราเลย แล้วก็ตามจีบเราต่ออีกเดือน จนตกลงปลงใจเป็นแฟนกัน...( พอเอาเรื่องนี้กลับมาคุยย้อนหลัง เค้าบอกว่า ที่จริงตอนนั้นกะไว้ว่าจะฟันแล้วทิ้งจริงๆแหละ แต่พอเราส่งข้อความนั้นไป เค้ารู้สึกเหมือนโดนดูถูก ยอมไม่ได้ที่จะโดนทิ้ง ปกติทิ้งแต่ผู้หญิง ก็เลยอยากรู้ว่าจะทำให้เรารักเค้าได้มั้ย อิอิ )
พอตัดสินใจคบกัน เค้าก็ย้ายมาอยู่กับเราที่หอพักค่ะ ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน แยกกันก็แค่ตอนไปเรียน ใช้เงินกระเป๋าเดียวกัน ซึ่งบอกตามตรงว่าเราจะได้เงินเยอะกว่าเค้ามาก ไปเที่ยวกลางคืน กินข้าว ดูหนัง ส่วนใหญ่เราจะเป็นคนออกให้ตลอด เพราะคิดว่าเป็นแฟนกัน พอเค้ามีเค้าก็จะเลี้ยงเราคืน ช่วงนั้นที่บ้านเราส่งให้หลายคนค่ะ เงินเลยมีใช้ไม่ขาดมือ คบกัน 5 เดือนแรก แฮปปี้มาก จนเราคิดว่า เค้าดีกับเราที่สุดในโลก เราจะหาผู้ชายดีดีแบบนี้ได้ที่ไหนกันวะ คนที่ไม่เคยนอกใจ ดูแลเราตลอด บอกรักเราทุกวัน ตามใจเราสารพัด ถึงขนาดคิดไว้เลยนะว่า ถ้าเรียนจบเมื่อไหร่ เราแต่งงานกันเถอะ แหม ถึงจะเป็นวัยรุ่นโลกไม่สวย แต่ก็เพ้อฝันเป็นเหมือนกันนะ
เราไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วยกัน ซึ่งตลอดเวลาที่คบกัน ทางพ่อแม่เราก็ไม่เคยรู้เลยนะ ว่าเราเช่าหออยู่กับเค้า เราไปเที่ยวต่างจังหวัด 2 คนกับผู้ชาย เราขอตังค์เรื่องเรียน แต่ก็เอาไปเที่ยวนู่นเที่ยวนี่ ชีวิตเราตอนนั้นแค่มีเค้าคนเดียวก็พอแล้ว คนนี้แหละที่เราจะฝากชีวิตไว้ คนนี้แหละที่อยู่กับเราตลอดไม่ว่าจะทุกข์หรือสุข คนนี้แหละ คนนี้แหละ
แต่ชีวิตมันก็ไม่ได้ราบเรียบเสมอไปเหมือนที่ฝันนะคะ จนมาถึงวันที่ญาติเราฝ่ายนึงเสีย ทำให้ขาดคนส่งเงินให้ใช้อีกทาง ซึ่งเราต้องใช้เงินกระเป๋าเดียวกับเค้าทำให้เงินไม่พออยู่ถึงเดือน ( แต่ถ้าใช้คนเดียวหนิ สบายอ้ะ ) เราก็เลยตกลงกันว่าเราจะไปหางานทำกันดีกว่า ( ทำเหมือนไม่มีเรียนเลยเนาะ 55 ) เราสองคนไปสมัครงานร้านอาหารค่ะ เค้าเป็นเด็กเสริฟ เราเป็นพีอาร์ ซึ่งเงินที่เราได้มาก็เยอะพอสมควร แต่ก็หมดไปกับการเที่ยวกลางคืนหลังเลิกงาน ช่วงนี้แหละที่เราทะเลาะกันบ่อยมาก เพราะว่ามีคนมาจีบเรา และเค้าเองก็นั่งกินเหล้ากับเพื่อนถึงเช้า จากที่เคยกลับพร้อมกันก็ไม่ โทรหาให้รีบกลับห้องก็ช้า เคยห้ามว่าอย่ากินเหล้าหนักก็ห้ามไม่ได้ แล้วจนมีช่วงนึงเค้าก็ไม่ยอมไปทำงาน เราก็เลยต้องเป็นคนหาเงินอยู่คนเดียว แต่ยังใช้เงินกระเป๋าเดียวกันเหมือนเดิม มันทำให้เราคิดแล้วคิดอีกนะว่า ทำไมเราต้องมาทนกับคนที่เลี้ยงเราไม่ได้ด้วย แต่ก็เพราะรักนี่แหละค่ะ ถึงต้องอดทนหาเงินเองไม่อยากให้เค้าลำบา อยากให้เค้าอยู่กับเรานานๆ อยากให้เค้าเป็นคนที่น่าอิจฉาในสายตาคนอื่น และสิ่งดีดีที่เค้าทำให้เรามา มันทำให้เราคิดว่า เงินแค่นี้อย่าทำให้มันเป็นปัญหากับความรักเราเลยเถอะ ( แต่เป็นปัญหากับกระเป๋าตังค์พ่อแม่มาก)
หลังๆเราเริ่มจะเหนื่อยกับการหาเงิน ประกอบกับว่ามีคนมาจีบเรา อารมณ์แบบผู้ชายหล่อ พ่อบุญทุ่ม ผู้หญิงที่ไหนจะไม่ไปล่ะคะ เรายังคิดเลยว่าถ้าเค้าจีบเราจริงจังยังไงเราก็จะทิ้งแฟนเราคนนี้แน่ๆ แต่เหมือนเป็นบุญหรือเป็นกรรมก็ไม่รู้ เค้าจับได้ว่าเราคุยกับผู้ชายคนอื่น เค้าถามหาเหตุผลว่า ทำไมถึงนอกใจ ทำไมถึงทำแบบนี้ เราก็บอกเค้าไปว่าเพราะเรื่อวเงิน เราเหนื่อย เธอไม่มีตังค์ให้เรา เธอเที่ยวเธอดูแลเราไม่ได้ เหตุผลเห็นแก่ตัวหน้าเงินมากเลยใช่มั้ยคะ 555 เค้าก็ถามเรากลับว่า คิดว่าผู้ชายคนนั้นจะรักเราได้เท่าเขาหรอ ตัดสินใจดีแล้วหรอ เค้าทั้งขอร้องอ้อนวอนเราว่าอย่าไปเลยนะ อยู่กับเค้าเถอะ จนเราใจอ่อนค่ะ กลับไปคิดทบทวนอีกครั้ง ก็เลยตัดสินใจเลิกคุยกับคนนั้น กลับไปรักกัน ทำความรักให้มันหวานกว่าเดิม
หลังจากนั้นเค้าก็กลับไปทำงานเหมือนเดิม แต่เราย้ายร้านไปทำที่อื่น แล้วเหมือนกับว่าเค้าพยายามทำให้ตัวเองดีขึ้น คือพยายามแยกเงินใช้กับเรา ไม่รบกวนเรา แต่คนกินเหล้าทุกวันเงินก็ไม่ค่อยมี ทำให้เป็นหนี้เพื่อนก็เยอะ ได้เงินมาก็เอาไปใช้หนี้หมด เวลาเราอยากไปไหนก็ไม่ได้ไป จนสุดท้าย ยังไงเราก็ต้องออกให้เค้าก่อนเหมือนเดิม แล้วปันหาเดิมก็เกิดขึ้นอีก เรามีคนมาจีบ ทะเลาะกันเรื่องเงิน ซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ทุกครั้งเค้าก็เป็นคนมาง้อเรานะคะ ด้วยประโยคเดิมๆ รักเรามาก อย่าไปเลยนะ ขาดเราไม่ได้ ( พูดถึงแต่เรื่องเงิน เหมือนเราหน้าเงินมากเลยใช่มั้ยเนี่ย 55 )
เราคบกัน ประคับประคองกัน ทะเลาะกันเรื่องเดิมๆ จนรอดมาได้ 1 ปี 4 เดือน ก็เลยตัดสินใจว่า ปีนี้เราขึ้นภูกระดึงด้วยกันดีกว่านะ เพราะเราและเค้าชอบภูเขามาก ในเมื่อมีโอกาศ เราไปพิสูจน์ความรัก ทำให้รักเราใหม่ อีกครั้งดีมั้ย เราจำได้แม่นเลยความรู้สึกนั้น มันมีความสุขมาก อาจจะมากที่สุดในชีวิตก็ได้ เรานั่งรถทัวร์ลง จ. เลย ต่อรถไปตีนภู เดินขึ้นภูกระดึง จับมือกันตลอดทาง นอนตักพักเหนื่อย ตลอดทางที่มีเค้าไปด้วย 8 กิโล มันใกล้นิดเดียวเอง
เราเดินป่า กางเต้นท์ ดื่มเบียร์ นั่งดูดาว ( โอ้ย พิมไปก็จะร้องไห้ ) เค้าบอกว่า รักเรามากนะ ไม่เคยรักใครมากเท่านี้มาก่อน รักมากที่สุด จับมือกัน หอมแก้มกัน กอดกัน สัญญากันว่าจะมาด้วยกันแบบนี้ทุกปีนะ ( ถ้าคุณเคยรักใครมากๆ คุณจะเข้าใจค่ะ ว่าสัญญาตอนนั้นมันมีความหมายแค่ไหน คำพูดวันนั้นเราจำได้ทุกคำจนวันนี้ก็ยังไม่เคยลืม แต่คนพูด คงลืมไปแล้วแหละ 555 )
พอกลับมาจากภูกระดึงเรารู้สึกว่าเรามีความสุขมาก คิดตลอดเลยว่า ถ้าไม่มีผู้ชายคนนี้เราจะอยู่ยังไง เราตั้งใจเลยว่าต่อให้เจอคนหล่อกว่านี้ รวยกว่านี้ เราก็จะไม่สนแล้วจะมีแค่เค้าคนเดียว สัญญาเลยนะ ว่าจะรักแค่คุณ อิอิ ( ผู้หญิงโลกสวยเข้าร่างอีกละ )
แต่ถ้ามันมีความสุขไปตลอด เราจะมานั่งเขียนให้อ่านทำไมคะ...
หลังจากอาทิตย์นึงถัดมา เรามีนัดกับเพื่อนไปทานข้าวเย็น เพื่อนเราถามว่า กับแฟนเราเป็นยังไงบ้าง เราก็ตอบด้วยเความภูมิใจสุดๆ
" พี่เคนเค้าเป็นคนดีมากเลยนะ ตลอดเวลาที่คบกันมา ก็อยู่ด้วยกันอ้ะ ดูแลกันตลอด เคยพาไปให้พ่อรู้จักด้วยแหละ ที่สำคัญพี่แกไม่เคยนอกใจเค้าเลย " ยิ้มแบบภูมิใจ หน้าบานเว่อร์
เพื่อนก็แสดงความยินดี ได้เจอผัวดีดีตั้งแต่อยู่มหาลัย โตไปจะได้ไม่ต้องลำบากหายาก 555
พอกินข้าวเสร็จประมาณ สามทุ่ม ทีแรกเพื่อนชวนกันไปผับต่อ แต่เราปฏิเสธเพราะเกรงใจพี่เคน เห็นว่าพี่เคนนอนอยู่ห้อง อยากกลับไปนอนกอดสวีทวี้ดวิ้ว ก็เลยขอตัวกลับก่อน พอกลับไปถึงห้องพัก โอโห แฟนฉันน่ารักจุงเบย ไม่ออกไปเที่ยวกลางคืน รอเรากลับมากอดมาอ้อนแน่เบยยยยย (แฟนเรานอนหลับอยู่ แต่มือกำมือถือไว้ แถมยังไม่ออกไลน์ด้วยนะ ด้วยความอารมดี หยิบมือถือออกจากมือจะเอาไปวางให้ มองจอเท่านั้นแหละ )
ตาดันมองแวบไปอ่านไลน์" คิดถึงจัง น่ารักมากเลยคับ " "เมื่อไหร่จะได้เจอ" บลาๆๆๆๆ