(บทความนี้เขียนทิ้งไว้ได้สักพักนึงแล้วค่ะ แต่พอจะตั้งกระทู้ อดตั้ง เพราะยังไม่ได้ลงทะเบียนบัตรเลย แต่ตอนนี้เรียบร้อยแล้วค่ะ ได้ตั้งกับเค้าบ้างแล้ว ^^
พอดีตอนนั้นเกิดดราม่า อยากบอกความในใจที่มีเกี่ยวกับทรูค่ะ อยากให้คนมองในอีกแง่มุมนึงที่เรารู้สึกมาตลอด แต่ไม่เคยบอกใครเพราะใครๆต่างก็ชอบว่ากลับทุกที ^^ เราไม่โกรธค่ะ เพราะทุกคนต่างมีเหตุผลสำหรับความรู้สึกของตัวเองอยู่แล้วในใจ ดังนั้นจะให้ว่าใครคิดผิดคิดถูกได้อย่างไร เพราะจะมีเพียงเข้าใจผิดเข้าใจถูกเท่านั้นเองค่ะ และนี่ก็เป็นเหตุผลสำหรับความรู้สึกของเราที่อยากระบาย อะไรที่เราเข้าใจผิดไปบอกได้เลยนะคะ)
ถ้าไม่มีทรูเมื่อ10ปีที่แล้ว คนไทยคงไม่มีโทรศัทพ์มือถือใช้กันอย่างแพร่หลาย เพราะจำได้ว่าตอนนั้นอยู่ปี1 ที่ใช้กันอยู่คือเพจและพีซีที ไม่มีใครใช้มือถือเพราะว่าแพงมาก ค่ายมือถือก็มีแต่เอไอเอส จะเปิดเบอร์ เปิดซิมก็ต้องซื้อซิมละ 400บาท(ถ้าจำไม่ผิด)
จนกระทั่งมีออเร้นจ์เข้ามา ขายมือถือรุ่นทาร์ซานเครื่องละ 11,000 บาท ผ่อนได้ เปิดเบอร์ฟรี โปรโมชั่นคุยเป็นวินาที มันดีกว่าพีซีทีหลายเท่า เพียงแค่ราคาเครื่องแพงกว่าเท่านั้น ตรงนี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้คนไทยได้มีมือถือใช้กัน และใช้กันอย่างแพร่หลายที่สุด ถึงขนาดว่า ใครไม่ถือรุ่นทาร์ซานจะถือว่าตกยุคเลยทีเดียว
และหลังจากนั้นก็เหมือนเป็นยุคใหม่ ที่ใครๆ ก็สามารถเป็นเจ้าของโทรศัพท์มือมือได้แล้ว เพราะทุกค่ายก็ได้ทำตามสิ่งที่ออเรนจ์ได้ทำ คือ โทรไม่แพง มือถือพอซื้อไหวกันได้ คนไทย ไม่น้อยหน้าใครแล้ว ส่วนตู้โทรศัพท์, โทรศัพท์บ้าน และพีซีที ก็เริ่มค่อยๆ หายไปตามกาลเวลา(ทรูเองก็เจ๊งกับตรงนี้เยอะมาก เพราะลงทุนไปไม่น้อยเลย แต่ก็เหมือนกับ อะไรที่ดีกว่าก็ทำต่อไป อะไรที่เจ๊งก็ยอมรับสภาพ)
ในขณะเดียวกัน
ถ้าไม่มีทรูเมื่อ 10 ปีที่แล้ว คนไทยคงไม่ได้รู้จักกับคำว่า Hi-Speed Internet ว่าเป็นอย่างไร และก็คงยังไม่รู้ว่า จะเข้าเวป สร้างเวป หาข้อมูลในเวป คุยกันผ่านเวป เป็นอย่างไร เพราะใครจะมีปัญญาไปซื้อชั่วโมงอินเตอร์เนตความเร็ว 56k ชม.ละร้อยบาทได้ตลอด ตอนนั้นถือว่าใครที่เข้าเน็ตได้นั้นคือคนที่รวยมาก เพราะต้องมีคอมพิวเตอร์ และต้องซื้อชั่วโมงเน็ตอีก
ทรูมาสร้างปรากฏการณ์โดยนำ Hi-Speed Internet เข้ามาให้ใช้ โดยสามารถใช้ได้แบบ Unlimited ค่าบริการรายเดือน 599 บาท มาจนถึงทุกวันนี้(ถ้าจำไม่ผิด) ความเร็วเริ่มตอนนั้น 256k ก็ถือว่าเร็วแล้ว แล้วทรูก็ค่อยๆ อัพความเร็วเป็น 516k > 1m > 2m ไปเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบัน
สิ่งนี้ได้ทำให้คนไทยได้มีวงการไอที ได้มีวงการคนสร้างเวป ได้สร้างปรากฏการณ์การใช้อินเตอร์เน็ตอย่างแพร่หลายในหมู่คนไทยมากขึ้นๆ ๆ ตามลำดับ สร้างการแสต่างๆมากมาย สร้างอะไรใหม่ๆ ที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับเมืองไทยมาก่อน ซึ่งก่อนหน้านี้ CS Loxinfo ก็เคยทำมาแล้ว แต่ก็ไม่ถึงกับสร้างกระแสให้กับหมู่คนไทย เพราะเขาขายชม.เน็ตที่คนส่วนใหญ่ไม่สนใจ หรือที่ว่าคนไทยรู้สึกว่าไม่คุ้มค่านั่นเอง ถามว่าเคยใช้ของ CS Loxinfoมั้ย ตอบเลยว่าเคย และก็ใช้อยู่หลายครั้งเพื่อทำรายงาน ใช้อย่างประหยัด เพราะเขาคิดเป็นชม. ถ้าหมดก็ต้องซื้อใหม่ แพงมากเลย
ทั้งนี้ทั้งนั้น ในขณะที่บ้านเราเล่นเน็ต 256k เพื่อนที่อเมริกาบอกว่า เค้าเล่นเน็ตผ่านดาวเทียมแล้ว เร็วมาก จำไม่ได้ว่าเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยก็ไม่น้อยใจ เพราะแค่ 256k ก็ได้เล่นเกมออนไลน์สบายแล้ว
จากนั้น ประมาณ 3 ปีที่แล้ว ในยุคที่ใครๆ ก็มีแต่โทรศัพท์โนเกีย โซนี่อีริคสัน ทรูมูฟพาไอโฟน3gsเข้ามา เพื่อให้คนส่วนใหญ่ได้เป็นเจ้าของสมาร์ทโฟนครั้งแรก ถามว่าตอนนั้น ใครคิดอยากจะมีสมาร์ทโฟนบ้าง ตอบเลยว่าไม่มี เพราะถือว่าเป็นของคนระดับบน ใครจะกล้าใช้ แต่ทรูมูฟเอาเข้ามา ให้ผ่อนเลย 0 เปอร์เซนต์ 24 เดือน ก็ประมาณเดือนละ 1,013 บาท(จำได้เพราะรีบไปผ่อนเลย) พร้อมกับโปรโมชั่นใช้ 3g เดือนละ 599บาท โทรได้ 300 นาที ใช้ 3g edge wifi true ไม่อั้น
อยากบอกว่า ตอนได้ไอโฟนครั้งแรก มีความสุขมาก เพราะไม่คิดว่าจะได้เล่นเกมในมือถือจอใหญ่ๆ ได้ เพราะจริงๆ ไม่อยากจะซื้อ ถ้าไม่มีโปรโมชั่นที่ดีแบบนี้ ที่ว่าดีคือ ไม่ต้องจ่ายทีเดียว กว่าจะจ่ายให้เค้าหมดตั้ง 2 ปี ระยะเวลามันนาน ถึงค่าโทรศัพท์เดือนละ 599 บาท แต่ตอนไม่ใช้สมาร์ทโฟนก็ตกอย่างน้อยเดือนละ 300 บาทอยู่แล้ว ไหนจะโทรหาเพื่อน โทรหาพ่อแม่ ส่งแมสเสจต่างๆ ตอนนี้มีสมาร์ทโฟน เล่นเน็ตที่ไหนก็ได้ นั่งBTSไปทำงานทุกวันก็เล่นแต่3g ซึ่งเล่นได้แล้วจริงๆตั้งแต่ตอนนั้น สัญญาณหลุดบ้าง แต่ก็แปปเดียวแล้วก็มาต่อ ช่วงนั้น เริ่มเห็นคนใช้กันเยอะขึ้น แต่ก็พึ่งรู้ตอนหลังว่ามี3gsแค่1แสนเครื่องเท่านั้นที่อยู่ในมือคนไทย รู้สึกโชคดีที่ได้ถือกับเค้าบ้าง อิอิ ตอนนั้นที่เห็นคนจะเล่นบีบีกันเยอะ แชตกันสนุกเลย ตริ๊งๆกันทั้งวัน แต่สุดท้ายก็พ่ายต่อแอปแชตในไอโฟนอยู่ดี หุหุ
แต่ก็ไม่นาน พอผ่านไปปีเดียวเท่านั้น iPhone 4 ก็มา ทีนี้หล่ะ ถือกันเกลื่อนเลย วงการสมาร์ทโฟนแพร่หลายมาก และมากขึ้นๆ มากขึ้นๆ จนกระทั่งกลายเป็นสิ่งที่ ทุกคนต้องมี จะไอโฟน ซัมซุง อะไรก็แล้วแต่ มันทำให้คนไทยส่วนใหญ่รู้สึกว่า นี่หล่ะ เราพร้อมแล้ว มันคุ้มค่าแล้วที่จะเข้าร่วมกับสิ่งใหม่ๆ นี้ แล้วมันก็เป็นอะไรที่สุดยอดกับการพัฒนาเทคโนโลยีในบ้านเรามากขึ้นๆ
.............................................................................................................................................
ดังนั้น ถ้าถามว่า ทำไมถึงเห็นดีเห็นงามกับเรื่องเสียเงินจัง? ก็อยากตอบว่า ก็เห็นดีเห็นงามเพราะมันทำให้อะไรๆ ก็สะดวก รวดเร็ว ง่ายไปหมด ถึงแม้ยังไม่ถึงกับเพอร์เฟค แต่ก็ทำให้ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปมาก ถ้าจะบอกว่า โทรศัพท์มีไว้โทรเข้าโทรออกก็พอ มันก็จริง แต่สำหรับคนที่ไม่ได้อยู่กับที่ จะติดตามข้อมูลอะไรมันก็สามารถทำได้ส่วนตัวจากสมาร์ทโฟนเครื่องนึง, การมีอินเตอร์เน็ตอันลิมิเตด ก็ทำให้เด็กไทยเก่งขึ้นกว่าแต่ก่อนมากมาย ตอนนี้เด็กอายุ14-15 ทำเวป เขียนเวปเป็นแล้ว เด็กมัธยม ขายของกันเป็นล่ำเป็นสันในอินเตอร์เน็ตกันแล้ว วัยรุ่น สร้างสรรค์ผลงานที่ดีๆด้วยตัวเองมากมายในโลกออนไลน์แล้ว ถามว่าดีมั้ย ก็ต้องตอบว่าดีสิ ถ้าไม่ดี มันก็คงไม่มีการพัฒนา ถ้าไม่ดี เราก็กลับไปสู่จุดเริ่มต้นที่อยู่กับแมกไม้ อยู่กับป่าเขา อยู่กับธรรมชาติเลยไม่ดีกว่าหรอ แต่ว่าตอนนี้ มันไม่มีที่แบบนั้นให้อยู่แล้ว ทุกคนต้องดิ้นรนเพื่อการอยู่รอดในสังคมปัจจุบัน ทุกคนต้องปรับตัวเข้ากับปัจจุบัน ถึงแม้ว่ามันจะดูว่าเปลี่ยนแปลงไปมาก เปลี่ยนแปลงไปเร็ว แต่ทุกอย่างก็มีเวลาให้พร้อมในการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับว่าเราจะปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงนั้นทันหรือไม่ ถามว่าใครเปลี่ยนแปลง ก็พวกเราทุกคนนี่หล่ะที่เป็นคนกำหนด ว่าสิ่งนั้นควรจะเป็นอย่างนี้ถึงจะดีขึ้น สิ่งนี้ควรจะเป็นอย่างนั้นถึงจะดีกว่า เหมือนกับปลาที่ว่ายและเปลี่ยนทิศทางไปทางนู้นที ทางนี้ที จะบอกว่าทางไหนดีกว่า ไม่มีใครรู้เลย รู้แต่ว่า ยังไงปัจจุบันที่ว่าดีอยู่แล้ว ก็ต้องมีสิ่งที่ดีกว่าเสมอ ไม่มีใครที่อยากให้สิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เป็นเหมือนเดิมตลอดไป เพราะก็ต้องหาสิ่งที่คิดว่า มันน่าจะใช่ มาปรับใช้อยู่ตลอดเวลา...ก็ถือว่าเป็นสีสันของชีวิตที่ดี...
.................................................................................................................
ทรูมูฟ เป็นบริษัทที่แสวงหากำไรเช่นบริษัทอื่น แต่หารู้ไม่ เขาขาดทุนแทบทุกปี คล้ายหน้าชื่นอกตรม ลงทุนไปมากมาย เจ๊งไปก็พอตัว แต่เบื้องหน้าเค้าทำไมยังสดใสอยู่ อันนี้ก็ไม่รู้ว่าเค้าทำได้อย่างไร เจ้าของก็คือลูกชายเจ้าสัวซีพี ทำงานซะไม่ห่วงหล่อไม่ห่วงสบาย คือ ถ้างานหนักขนาดนี้ ขายบริษัทให้ใครไปเลยก็ได้ ให้ต่างชาติเงินหนาซื้อไปทำธุรกิจต่อซะ จะได้อยู่อย่างสบายๆ ก็ไม่เห็นจะทำ ตั้งหน้าตั้งตาทำธุรกิจที่ 20 ปีมาแล้ว ก็ยังไม่เห็นกำไรอยู่นั่น อันนี้ก็ไม่เข้าใจเค้าเหมือนกัน พ่อสร้างอาณาจักรธุรกิจแสนล้าน ลูกก็สร้างอาณาจักรธุรกิจแสนล้านเช่นกัน แต่ธุรกิจลูก พ่อเห็นแล้วยังต้องเอามือกุมหัว ลูกทำไมใช้เงินเยอะขนาดนี้ พ่อก็ได้แต่ให้กำลังใจและพยายามสนับสนุนลูกต่อไป ไม่ให้ต่างชาติหน้าไหนเข้ามารังแก
ใครๆ ก็ชอบว่าทรูมูฟ แต่เราชอบทรูมูฟ เหตุผลก็คือที่กล่าวมาข้างต้น เราเป็นลูกค้าตั้งแต่อยู่ปี1 ไม่เคยเป็นลูกค้าที่ไหนเลย เวลาพนง.เน็ตแก้ปัญหาให้ไม่ได้ก็จะโมโห แล้วก็จะหันไปใช้อย่างอื่น แต่บ้านเราไม่มีบริษัทไหนเค้าเดินสายเน็ตให้นอกจากทรู เราก็ใช้ทรูต่อไป ทรูวิชั่น เราก็เป็นสมาชิกซะหลายปี จนกระทั่งรู้สึกว่า ไม่ได้ดูเลย เสียเงินไปวันละ 53 บาท แต่ไม่มีเวลาดู ก็ต้องยกเลิกไป แล้วติด PSI แทน เพราะกะดูแค่ 3 5 7 9 ซึ่งก็มีแค่นั้นให้ดูจริงๆ จะหาช่องดีๆ ก็ขายของซะเกือบ 90 เปอร์เซนต์ สุดท้าย ก็กลับมาหาทรูวิชั่นส์อีก เพราะว่าคิดถึงรายการเดิมๆ ที่เคยดูก่อนหน้านี้ ส่วนทรูมูฟ เวลาไปทรูช๊อป เจอพนง.ทำนิสัยแย่ๆ ก็เกิดอาการนอยด์ตาม แล้วก็ยกเลิกเบอร์ คิดแค่ว่า ค่ายอื่นก็ได้ พอกันสักที สุดท้าย พอไปดูโปรโมชั่นหลายๆค่าย ก็กลับมาทรูมูฟอีก ก็ยอมจำนน คิดแค่ว่า พนง.เค้าไม่ได้เป็นเจ้าของ เค้าก็แค่ทำงานตามหน้าที่ของเค้า เค้าไม่ใส่ใจอะไรกับบริษัทมากหรอก เราก็แค่ย้ายShopไปจ่ายShopอื่นแทนจะได้ไม่เจอคนที่นิสัยไม่ดี
สุดท้าย เราถือหุ้นทรูมูฟ เพราะเราเชื่อว่า ให้ตายยังไง เค้าก็ต้องทำได้ ใครๆจะมองว่า บริษัทนี้เหมือนเด็กไม่ยอมโต คืออยากได้อะไรก็ขอเงินพ่อแม่ แล้วก็เอาไปใช้ฟุ่มเฟือยก็ตาม แต่เราเชื่อว่า เค้าก็ได้เอามาฟุ่มเฟีอยกับสังคม ที่ให้คนไทยเล่นไปเลย ใช้ไปเลย ไม่อั้น ตามสบาย แต่กว่าที่เค้าจะคืนทุนก็เหงื่อตกเลย ทั้งพ่อทั้งลูก เราก็เลยรู้สึกขอบคุณที่เพราะบริษัทเค้า ทำให้เราได้มีพีซีทีใช้ ทำให้เราได้ดูรายการต่างประเทศ ทำให้เราได้มีมือถือใช้ ทำให้เราได้มีอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงใช้...ที่ขอบคุณก็เพราะเราได้ใช้ไม่ใช่ปีสองปีที่ผ่านมา แต่ได้ใช้ตั้งแต่ที่เรายังเรียนอยู่ ตั้งแต่ที่ประเทศยังไม่แพร่หลายอะไรสักอย่าง ตั้งแต่ที่วันนั้น ยังไม่เป็นวันนี้ และพอถึงวันนี้ เราก็มีความรู้เรื่องการใช้มือถือ การใช้อินเตอร์เน็ต ที่นับว่า ไม่อายเด็กรุ่นใหม่ ก็เลยต้องขอบคุณ และก็ขอให้กำลังใจในการทำสิ่งที่ดีต่อไปค่ะ สู้ๆ ถ้าทำไม่ไหวจะขายให้ใครก็ไม่ว่ากันค่ะ เพราะถือว่าได้ทำมาอย่างดีที่สุดแล้วค่ะ
......................................................................................................................
สาเหตุที่ชอบTrue
พอดีตอนนั้นเกิดดราม่า อยากบอกความในใจที่มีเกี่ยวกับทรูค่ะ อยากให้คนมองในอีกแง่มุมนึงที่เรารู้สึกมาตลอด แต่ไม่เคยบอกใครเพราะใครๆต่างก็ชอบว่ากลับทุกที ^^ เราไม่โกรธค่ะ เพราะทุกคนต่างมีเหตุผลสำหรับความรู้สึกของตัวเองอยู่แล้วในใจ ดังนั้นจะให้ว่าใครคิดผิดคิดถูกได้อย่างไร เพราะจะมีเพียงเข้าใจผิดเข้าใจถูกเท่านั้นเองค่ะ และนี่ก็เป็นเหตุผลสำหรับความรู้สึกของเราที่อยากระบาย อะไรที่เราเข้าใจผิดไปบอกได้เลยนะคะ)
ถ้าไม่มีทรูเมื่อ10ปีที่แล้ว คนไทยคงไม่มีโทรศัทพ์มือถือใช้กันอย่างแพร่หลาย เพราะจำได้ว่าตอนนั้นอยู่ปี1 ที่ใช้กันอยู่คือเพจและพีซีที ไม่มีใครใช้มือถือเพราะว่าแพงมาก ค่ายมือถือก็มีแต่เอไอเอส จะเปิดเบอร์ เปิดซิมก็ต้องซื้อซิมละ 400บาท(ถ้าจำไม่ผิด)
จนกระทั่งมีออเร้นจ์เข้ามา ขายมือถือรุ่นทาร์ซานเครื่องละ 11,000 บาท ผ่อนได้ เปิดเบอร์ฟรี โปรโมชั่นคุยเป็นวินาที มันดีกว่าพีซีทีหลายเท่า เพียงแค่ราคาเครื่องแพงกว่าเท่านั้น ตรงนี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้คนไทยได้มีมือถือใช้กัน และใช้กันอย่างแพร่หลายที่สุด ถึงขนาดว่า ใครไม่ถือรุ่นทาร์ซานจะถือว่าตกยุคเลยทีเดียว
และหลังจากนั้นก็เหมือนเป็นยุคใหม่ ที่ใครๆ ก็สามารถเป็นเจ้าของโทรศัพท์มือมือได้แล้ว เพราะทุกค่ายก็ได้ทำตามสิ่งที่ออเรนจ์ได้ทำ คือ โทรไม่แพง มือถือพอซื้อไหวกันได้ คนไทย ไม่น้อยหน้าใครแล้ว ส่วนตู้โทรศัพท์, โทรศัพท์บ้าน และพีซีที ก็เริ่มค่อยๆ หายไปตามกาลเวลา(ทรูเองก็เจ๊งกับตรงนี้เยอะมาก เพราะลงทุนไปไม่น้อยเลย แต่ก็เหมือนกับ อะไรที่ดีกว่าก็ทำต่อไป อะไรที่เจ๊งก็ยอมรับสภาพ)
ในขณะเดียวกัน
ถ้าไม่มีทรูเมื่อ 10 ปีที่แล้ว คนไทยคงไม่ได้รู้จักกับคำว่า Hi-Speed Internet ว่าเป็นอย่างไร และก็คงยังไม่รู้ว่า จะเข้าเวป สร้างเวป หาข้อมูลในเวป คุยกันผ่านเวป เป็นอย่างไร เพราะใครจะมีปัญญาไปซื้อชั่วโมงอินเตอร์เนตความเร็ว 56k ชม.ละร้อยบาทได้ตลอด ตอนนั้นถือว่าใครที่เข้าเน็ตได้นั้นคือคนที่รวยมาก เพราะต้องมีคอมพิวเตอร์ และต้องซื้อชั่วโมงเน็ตอีก
ทรูมาสร้างปรากฏการณ์โดยนำ Hi-Speed Internet เข้ามาให้ใช้ โดยสามารถใช้ได้แบบ Unlimited ค่าบริการรายเดือน 599 บาท มาจนถึงทุกวันนี้(ถ้าจำไม่ผิด) ความเร็วเริ่มตอนนั้น 256k ก็ถือว่าเร็วแล้ว แล้วทรูก็ค่อยๆ อัพความเร็วเป็น 516k > 1m > 2m ไปเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบัน
สิ่งนี้ได้ทำให้คนไทยได้มีวงการไอที ได้มีวงการคนสร้างเวป ได้สร้างปรากฏการณ์การใช้อินเตอร์เน็ตอย่างแพร่หลายในหมู่คนไทยมากขึ้นๆ ๆ ตามลำดับ สร้างการแสต่างๆมากมาย สร้างอะไรใหม่ๆ ที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับเมืองไทยมาก่อน ซึ่งก่อนหน้านี้ CS Loxinfo ก็เคยทำมาแล้ว แต่ก็ไม่ถึงกับสร้างกระแสให้กับหมู่คนไทย เพราะเขาขายชม.เน็ตที่คนส่วนใหญ่ไม่สนใจ หรือที่ว่าคนไทยรู้สึกว่าไม่คุ้มค่านั่นเอง ถามว่าเคยใช้ของ CS Loxinfoมั้ย ตอบเลยว่าเคย และก็ใช้อยู่หลายครั้งเพื่อทำรายงาน ใช้อย่างประหยัด เพราะเขาคิดเป็นชม. ถ้าหมดก็ต้องซื้อใหม่ แพงมากเลย
ทั้งนี้ทั้งนั้น ในขณะที่บ้านเราเล่นเน็ต 256k เพื่อนที่อเมริกาบอกว่า เค้าเล่นเน็ตผ่านดาวเทียมแล้ว เร็วมาก จำไม่ได้ว่าเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยก็ไม่น้อยใจ เพราะแค่ 256k ก็ได้เล่นเกมออนไลน์สบายแล้ว
จากนั้น ประมาณ 3 ปีที่แล้ว ในยุคที่ใครๆ ก็มีแต่โทรศัพท์โนเกีย โซนี่อีริคสัน ทรูมูฟพาไอโฟน3gsเข้ามา เพื่อให้คนส่วนใหญ่ได้เป็นเจ้าของสมาร์ทโฟนครั้งแรก ถามว่าตอนนั้น ใครคิดอยากจะมีสมาร์ทโฟนบ้าง ตอบเลยว่าไม่มี เพราะถือว่าเป็นของคนระดับบน ใครจะกล้าใช้ แต่ทรูมูฟเอาเข้ามา ให้ผ่อนเลย 0 เปอร์เซนต์ 24 เดือน ก็ประมาณเดือนละ 1,013 บาท(จำได้เพราะรีบไปผ่อนเลย) พร้อมกับโปรโมชั่นใช้ 3g เดือนละ 599บาท โทรได้ 300 นาที ใช้ 3g edge wifi true ไม่อั้น
อยากบอกว่า ตอนได้ไอโฟนครั้งแรก มีความสุขมาก เพราะไม่คิดว่าจะได้เล่นเกมในมือถือจอใหญ่ๆ ได้ เพราะจริงๆ ไม่อยากจะซื้อ ถ้าไม่มีโปรโมชั่นที่ดีแบบนี้ ที่ว่าดีคือ ไม่ต้องจ่ายทีเดียว กว่าจะจ่ายให้เค้าหมดตั้ง 2 ปี ระยะเวลามันนาน ถึงค่าโทรศัพท์เดือนละ 599 บาท แต่ตอนไม่ใช้สมาร์ทโฟนก็ตกอย่างน้อยเดือนละ 300 บาทอยู่แล้ว ไหนจะโทรหาเพื่อน โทรหาพ่อแม่ ส่งแมสเสจต่างๆ ตอนนี้มีสมาร์ทโฟน เล่นเน็ตที่ไหนก็ได้ นั่งBTSไปทำงานทุกวันก็เล่นแต่3g ซึ่งเล่นได้แล้วจริงๆตั้งแต่ตอนนั้น สัญญาณหลุดบ้าง แต่ก็แปปเดียวแล้วก็มาต่อ ช่วงนั้น เริ่มเห็นคนใช้กันเยอะขึ้น แต่ก็พึ่งรู้ตอนหลังว่ามี3gsแค่1แสนเครื่องเท่านั้นที่อยู่ในมือคนไทย รู้สึกโชคดีที่ได้ถือกับเค้าบ้าง อิอิ ตอนนั้นที่เห็นคนจะเล่นบีบีกันเยอะ แชตกันสนุกเลย ตริ๊งๆกันทั้งวัน แต่สุดท้ายก็พ่ายต่อแอปแชตในไอโฟนอยู่ดี หุหุ
แต่ก็ไม่นาน พอผ่านไปปีเดียวเท่านั้น iPhone 4 ก็มา ทีนี้หล่ะ ถือกันเกลื่อนเลย วงการสมาร์ทโฟนแพร่หลายมาก และมากขึ้นๆ มากขึ้นๆ จนกระทั่งกลายเป็นสิ่งที่ ทุกคนต้องมี จะไอโฟน ซัมซุง อะไรก็แล้วแต่ มันทำให้คนไทยส่วนใหญ่รู้สึกว่า นี่หล่ะ เราพร้อมแล้ว มันคุ้มค่าแล้วที่จะเข้าร่วมกับสิ่งใหม่ๆ นี้ แล้วมันก็เป็นอะไรที่สุดยอดกับการพัฒนาเทคโนโลยีในบ้านเรามากขึ้นๆ
.............................................................................................................................................
ดังนั้น ถ้าถามว่า ทำไมถึงเห็นดีเห็นงามกับเรื่องเสียเงินจัง? ก็อยากตอบว่า ก็เห็นดีเห็นงามเพราะมันทำให้อะไรๆ ก็สะดวก รวดเร็ว ง่ายไปหมด ถึงแม้ยังไม่ถึงกับเพอร์เฟค แต่ก็ทำให้ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปมาก ถ้าจะบอกว่า โทรศัพท์มีไว้โทรเข้าโทรออกก็พอ มันก็จริง แต่สำหรับคนที่ไม่ได้อยู่กับที่ จะติดตามข้อมูลอะไรมันก็สามารถทำได้ส่วนตัวจากสมาร์ทโฟนเครื่องนึง, การมีอินเตอร์เน็ตอันลิมิเตด ก็ทำให้เด็กไทยเก่งขึ้นกว่าแต่ก่อนมากมาย ตอนนี้เด็กอายุ14-15 ทำเวป เขียนเวปเป็นแล้ว เด็กมัธยม ขายของกันเป็นล่ำเป็นสันในอินเตอร์เน็ตกันแล้ว วัยรุ่น สร้างสรรค์ผลงานที่ดีๆด้วยตัวเองมากมายในโลกออนไลน์แล้ว ถามว่าดีมั้ย ก็ต้องตอบว่าดีสิ ถ้าไม่ดี มันก็คงไม่มีการพัฒนา ถ้าไม่ดี เราก็กลับไปสู่จุดเริ่มต้นที่อยู่กับแมกไม้ อยู่กับป่าเขา อยู่กับธรรมชาติเลยไม่ดีกว่าหรอ แต่ว่าตอนนี้ มันไม่มีที่แบบนั้นให้อยู่แล้ว ทุกคนต้องดิ้นรนเพื่อการอยู่รอดในสังคมปัจจุบัน ทุกคนต้องปรับตัวเข้ากับปัจจุบัน ถึงแม้ว่ามันจะดูว่าเปลี่ยนแปลงไปมาก เปลี่ยนแปลงไปเร็ว แต่ทุกอย่างก็มีเวลาให้พร้อมในการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับว่าเราจะปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงนั้นทันหรือไม่ ถามว่าใครเปลี่ยนแปลง ก็พวกเราทุกคนนี่หล่ะที่เป็นคนกำหนด ว่าสิ่งนั้นควรจะเป็นอย่างนี้ถึงจะดีขึ้น สิ่งนี้ควรจะเป็นอย่างนั้นถึงจะดีกว่า เหมือนกับปลาที่ว่ายและเปลี่ยนทิศทางไปทางนู้นที ทางนี้ที จะบอกว่าทางไหนดีกว่า ไม่มีใครรู้เลย รู้แต่ว่า ยังไงปัจจุบันที่ว่าดีอยู่แล้ว ก็ต้องมีสิ่งที่ดีกว่าเสมอ ไม่มีใครที่อยากให้สิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เป็นเหมือนเดิมตลอดไป เพราะก็ต้องหาสิ่งที่คิดว่า มันน่าจะใช่ มาปรับใช้อยู่ตลอดเวลา...ก็ถือว่าเป็นสีสันของชีวิตที่ดี...
.................................................................................................................
ทรูมูฟ เป็นบริษัทที่แสวงหากำไรเช่นบริษัทอื่น แต่หารู้ไม่ เขาขาดทุนแทบทุกปี คล้ายหน้าชื่นอกตรม ลงทุนไปมากมาย เจ๊งไปก็พอตัว แต่เบื้องหน้าเค้าทำไมยังสดใสอยู่ อันนี้ก็ไม่รู้ว่าเค้าทำได้อย่างไร เจ้าของก็คือลูกชายเจ้าสัวซีพี ทำงานซะไม่ห่วงหล่อไม่ห่วงสบาย คือ ถ้างานหนักขนาดนี้ ขายบริษัทให้ใครไปเลยก็ได้ ให้ต่างชาติเงินหนาซื้อไปทำธุรกิจต่อซะ จะได้อยู่อย่างสบายๆ ก็ไม่เห็นจะทำ ตั้งหน้าตั้งตาทำธุรกิจที่ 20 ปีมาแล้ว ก็ยังไม่เห็นกำไรอยู่นั่น อันนี้ก็ไม่เข้าใจเค้าเหมือนกัน พ่อสร้างอาณาจักรธุรกิจแสนล้าน ลูกก็สร้างอาณาจักรธุรกิจแสนล้านเช่นกัน แต่ธุรกิจลูก พ่อเห็นแล้วยังต้องเอามือกุมหัว ลูกทำไมใช้เงินเยอะขนาดนี้ พ่อก็ได้แต่ให้กำลังใจและพยายามสนับสนุนลูกต่อไป ไม่ให้ต่างชาติหน้าไหนเข้ามารังแก
ใครๆ ก็ชอบว่าทรูมูฟ แต่เราชอบทรูมูฟ เหตุผลก็คือที่กล่าวมาข้างต้น เราเป็นลูกค้าตั้งแต่อยู่ปี1 ไม่เคยเป็นลูกค้าที่ไหนเลย เวลาพนง.เน็ตแก้ปัญหาให้ไม่ได้ก็จะโมโห แล้วก็จะหันไปใช้อย่างอื่น แต่บ้านเราไม่มีบริษัทไหนเค้าเดินสายเน็ตให้นอกจากทรู เราก็ใช้ทรูต่อไป ทรูวิชั่น เราก็เป็นสมาชิกซะหลายปี จนกระทั่งรู้สึกว่า ไม่ได้ดูเลย เสียเงินไปวันละ 53 บาท แต่ไม่มีเวลาดู ก็ต้องยกเลิกไป แล้วติด PSI แทน เพราะกะดูแค่ 3 5 7 9 ซึ่งก็มีแค่นั้นให้ดูจริงๆ จะหาช่องดีๆ ก็ขายของซะเกือบ 90 เปอร์เซนต์ สุดท้าย ก็กลับมาหาทรูวิชั่นส์อีก เพราะว่าคิดถึงรายการเดิมๆ ที่เคยดูก่อนหน้านี้ ส่วนทรูมูฟ เวลาไปทรูช๊อป เจอพนง.ทำนิสัยแย่ๆ ก็เกิดอาการนอยด์ตาม แล้วก็ยกเลิกเบอร์ คิดแค่ว่า ค่ายอื่นก็ได้ พอกันสักที สุดท้าย พอไปดูโปรโมชั่นหลายๆค่าย ก็กลับมาทรูมูฟอีก ก็ยอมจำนน คิดแค่ว่า พนง.เค้าไม่ได้เป็นเจ้าของ เค้าก็แค่ทำงานตามหน้าที่ของเค้า เค้าไม่ใส่ใจอะไรกับบริษัทมากหรอก เราก็แค่ย้ายShopไปจ่ายShopอื่นแทนจะได้ไม่เจอคนที่นิสัยไม่ดี
สุดท้าย เราถือหุ้นทรูมูฟ เพราะเราเชื่อว่า ให้ตายยังไง เค้าก็ต้องทำได้ ใครๆจะมองว่า บริษัทนี้เหมือนเด็กไม่ยอมโต คืออยากได้อะไรก็ขอเงินพ่อแม่ แล้วก็เอาไปใช้ฟุ่มเฟือยก็ตาม แต่เราเชื่อว่า เค้าก็ได้เอามาฟุ่มเฟีอยกับสังคม ที่ให้คนไทยเล่นไปเลย ใช้ไปเลย ไม่อั้น ตามสบาย แต่กว่าที่เค้าจะคืนทุนก็เหงื่อตกเลย ทั้งพ่อทั้งลูก เราก็เลยรู้สึกขอบคุณที่เพราะบริษัทเค้า ทำให้เราได้มีพีซีทีใช้ ทำให้เราได้ดูรายการต่างประเทศ ทำให้เราได้มีมือถือใช้ ทำให้เราได้มีอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงใช้...ที่ขอบคุณก็เพราะเราได้ใช้ไม่ใช่ปีสองปีที่ผ่านมา แต่ได้ใช้ตั้งแต่ที่เรายังเรียนอยู่ ตั้งแต่ที่ประเทศยังไม่แพร่หลายอะไรสักอย่าง ตั้งแต่ที่วันนั้น ยังไม่เป็นวันนี้ และพอถึงวันนี้ เราก็มีความรู้เรื่องการใช้มือถือ การใช้อินเตอร์เน็ต ที่นับว่า ไม่อายเด็กรุ่นใหม่ ก็เลยต้องขอบคุณ และก็ขอให้กำลังใจในการทำสิ่งที่ดีต่อไปค่ะ สู้ๆ ถ้าทำไม่ไหวจะขายให้ใครก็ไม่ว่ากันค่ะ เพราะถือว่าได้ทำมาอย่างดีที่สุดแล้วค่ะ
......................................................................................................................