รวบรวมร้านราเมนที่โดนใจทีมงาน BumRes.com ร้านในรายการนี้จะเป็นร้านที่อยู่ในกรุงเทพชั้นในทั้งหมด เนื่องจากว่าร้านราเมนเฉพาะทาง ญี่ปุ่นแท้ ๆ นั้นไม่มีร้านไหนหลุดจากโซนกรุงเทพชั้นในไปเลย ร้านเหล่านี้ส่วนใหญ่จะเป็นร้านที่เจ้าของร้านเป็นคนญี่ปุ่นและจะมีบริการน้ำดื่มฟรีตามแบบฉบับของร้านราเมนแท้ ๆ จากประเทศญี่ปุ่น (แต่ก็มีบางร้านที่น้ำดื่มจะไม่ฟรีบ้าง) แทบทุกร้านจะมีเบียร์สดไว้บริการ รวมถึงจะมีพวกของกินเล่น, sidedish ไว้ให้กินเคียงคู่ไปกับราเมนด้วยเช่นกัน
ราเมนของแต่ละร้านจะมีน้ำซุปแตกต่างกันออกไป เป็นน้ำซุปกระดูกหมูบ้าง, โชยุบ้าง, มิโซะบ้าง หรือน้ำซุปปลาบ้าง บางร้านก็มีน้ำซุปแค่ชนิดเดียว แต่เปลี่ยนตัว topping หรือไม่ก็ทำเป็น Tsukemen (บะหมี่แห้งแยกน้ำ) เพื่อเพิ่มความหลากหลายของเมนู แต่บางร้านก็มีน้ำซุปหลากหลายชนิดให้เลือก ส่วนตัวหมูชาชูของแต่ละร้านนั้นก็จะมีสไตล์ที่แล้วแต่ว่าทางร้านต้องการออกแบบมาให้เป็นแบบไหน บางร้านตัวเนื้อหมูอาจจะหนา, ไขมันเยอะ บางร้านอาจจะบาง ไม่มีไขมัน lean ๆ หน่อย อันนี้ก็แล้วแต่ที่เจ้าของร้านคิดว่าชาชูแบบไหนที่เหมาะกับราเมนของทางร้าน
ตัวเส้นก็จะแตกต่างกันไปแล้วแต่ร้านอีกเช่นกัน แต่หลัก ๆ คือ จะมีเส้นใหญ่ ที่เป็นเส้นราเมนมาตรฐาน (คล้าย ๆ เส้นของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของเกาหลี) และ เส้นเรียวเล็กที่จะเป็นราเมนสไตล์ฮากาตะ หรือราเมนตอนใต้จากประเทศญี่ปุ่น แต่อันนี้จะเป็นแค่ภาพลักษณ์ภายนอกของเส้นเท่านั้น รายละเอียดจริง ๆ ในการทำเส้นออกมานั้นมีความซับซ้อนกว่านี้มาก ซึ่งต้องถามทางร้านกันอีกทีว่าเส้นของเขามีจุดเด่นยังไง ทำมายังไง
ส่วน topping นั้นของแต่ละร้านก็จะแตกต่างกันไปอีกเช่นกัน บางร้านใส่วากาเมะ, บางร้านใส่ สาหร่ายโนริ, หน่อไม้ดอง, ไข่ยางมะตูม, ถั่วงอก, หัวหอมซอย และอื่น ๆ ซึ่งอันนี้ก็ขึ้นอยู่กับการดีไซน์ตัวราเมนของทางร้านอีกเช่นกัน
10 ร้านใน list นี้อาจจะไม่ได้เรียงตามความชอบพอของทางทีมงานตามลำดับ แต่ทางเราเชื่อว่าต้องมีร้านใดร้านนึงใน list นี้ที่เป็นร้านโปรดของทุก ๆ ท่านอยู่อย่างแน่นอน
1. ฟูจิยามะ โก โก
Fujiyama go go
Operation hour : 11.00 - 23.00
Address : สุขุมวิท 39, กรุงเทพฯ 10120
Access: ร้าน Fujiyama GoGo อยู่ในซอยสุขุมวิท 39 เวิ้งเดียวกันกับร้าน Romana เข้าซอยมาประมาณ 300 เมตรจะเห็นร้านอยู่ขวามือ
ร้านนี้เมื่อแปลเป็นไทยจะแปลได้ว่า ภูเขาไฟฟูจิ 55 ซึ่งคำว่า 55 ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าต้องการจะล้อกับเสียงหัวเราะของคนไทยรึเปล่า แต่ตัวคำว่า Fujiyama นั้นมีที่มาจากที่ทางลูกค้าสามารถเลือกเพิ่มปริมาณเส้นได้ตามใจอยาก และปริมาณเส้นที่เยอะที่สุดนั้นทางร้านจะตั้งชื่อว่า "เพิ่มเส้นให้สูงดั่งภูเขาไฟฟูจิ" จึงเป็นที่มาของชื่อร้านนั้นเอง ร้านนี้ทางร้านเหมือนจะเน้นไปที่ตัว Tsukemen เพราะว่าจะมีเตาไฟฟ้าไว้ให้อุ่นชามซุปของ Tsukemen ด้วย แต่จากที่ทางทีมงานไปกินมา 2-3 ที ตัวราเมนแบบปกติของร้านนี้ก็เด็ดและอร่อยไม่แพ้กับตัว Tsukemen เช่นเดียวกัน ร้านนี้เป็นร้านเล็ก ๆ อยู่ในซอยสุขุมวิท 39 ใกล้ ๆ กับ Bankara ใครที่ขี้เกียจรอคิวที่ Bankara ก็อาจจะแวะไปกินที่ร้านนี้แทนก็ได้ครับ สำหรับทางทีมงานแล้วรสชาติไม่หนีกันสักเท่าไร
2. เมนยะ โคจิ
Menya Kouji
Operation hour : Mon - Fri 11.30 - 14.00 , 17.30 - 22.00 และ Sat - Sun 11.30 - 22.00
Address : 39, 39 Boulevard Bldg, Soi Sukhumvit 33(Daeng Udon) Sukhumvit Rd,Klongton-Nua,Wattana Bangkok 10110
Access : ร้านราเมน Menya Koji อยู่ที่ 39 Boulevard ในซอยที่เชื่อมระหว่างซอยสุขุมวิท 39 กับ 33
ร้านราเมนน้องใหม่ที่เพิ่งตัวไปเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2013 ที่ผ่านมา ร้านนี้เป็นร้านที่ตัวเชฟนั้นเคยเป็นลูกศิษย์ของเทพเจ้าแห่งราเมนมาก่อน (คนคิดค้นตัว Tsukemen) และตัวร้าน Menja Koji ที่ญี่ปุ่นนั้นก็เป็นร้านที่ค่อนข้างจะเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก ราเมนของร้านนี้จะมีให้เลือกแค่ 2 อย่างเท่านั้นคือ Ramen และ Tsukemen ซึ่งส่วนใหญ่ร้านที่มั่นใจในตัวเองสูง มีราเมนให้เลือกแค่อย่างเดียวหรือ 2 อย่างนั้นก็มักจะมีราเมนที่อร่อยโดนใจจริง ๆ ไม่งั้นก็คงไม่บังคับลูกค้ากันขนาดนี้ น้ำซุปของทางร้านจะเป็นน้ำซุปกระดูกหมูที่ค่อนข้างซับซ้อนและไม่เข้มข้นเหมือนร้านอื่น แต่ก็อร่อยถูกปากทั้งคนไทยและคนญี่ปุ่น ร้านนี้ก็เป็นอีกหนึ่งร้านที่อยู่ในซอยสุขุมวิท 39 ที่ทางทีมงานอยากจะเรียกซอยนี้ว่าซอยแห่งราเมนจริง ๆ
3. ไดกิจิ ราเมน (นิฮอนมาจิ)
Daikichi Ramen (Nihonmachi)
Operation hour : 11.00 - 22.00
Address : Nihonmachi ซอยสุขุมวิท 26, คลองเตย , กรุงเทพมหานคร 10110
Access : ชั้น 1 Nihonmachi (หลัง K-Viillage)
ร้านราเมนน้องใหม่ที่ตั้งอยู่ในเมืองญี่ปุ่นเล็ก ๆ (Nihonmachi) ในซอยสุขุมวิท 26 แห่งนี้ ก็เป็นร้านราเมนที่ค่อนข้างจะแตกต่างจากร้านอื่นเล็กน้อย คือจะเป็นกึ่ง ๆ แนว Izakaya หน่อย ราเมนของร้านนี้ก็มีให้เลือก 4 แบบ หน้าตาราเมนอาจจะดูบ้าน ๆ ไม่ค่อยน่ากินเท่าไร แต่รสชาตินั้นทางทีมงานคิดว่าอร่อยอยู่ในระดับแนวหน้ากันเลยทีเดียว นอกจากราเมนธรรมดาแล้ว ทางร้านยังมีราเมนเย็นที่แบบกินแล้ว เย็นสดชื่นไว้บริการอีกด้วย
4. ราเมน โกรักคุเอ็น (เกทเวย์ เอกมัย)
Ramen Kourakuen (Gateway Ekamai)
Operation hour : 11.00 - 22.00
Address : 982/22 Sukhumvit street Prakanong Bangkok Thailand 10110
Access : ร้าน Ramen Kourakuen อยู่ที่ห้าง Gateway Ekamai ปากซอยสุขุมวิท 42 ติดกับรถไฟฟ้า BTS เอกมัย
ร้านราเมนน้องใหม่ที่เพิ่งเปิดมาได้ไม่นานพร้อม ๆ กับห้าง Gateway Ekamai แต่ถ้านับประวัติจริง ๆ ของร้านนี้นั้น ตัวร้านไม่ได้เป็นร้านน้องใหม่แต่อย่างใดเลย เพราะที่ประเทศญี่ปุ่น ร้านนี้มีสาขาเยอะมาก ๆ เป็นหลายร้อยสาขา ราเมนของทางร้านนี้ก็เป็นอีกหนึ่งร้านที่มีราเมนให้เลือกหลากหลายน้ำซุป หลากหลายแบบ ทั้งราเมนแห้ง และราเมนน้ำ ร้านนี้ช่วงแรก ๆ ที่เปิดคิวยาวมากรอกันเป็น 2-3 ชั่วโมง แต่ ณ ปัจจุบันก็ซา ๆ ลงไปจนไม่ต้องรอคิวแล้ว ร้านนี้อาจจะเป็นร้านที่เด่นที่สุดใน list นี้ในแง่การเดินทางไปกิน เพราะว่านั่งรถไฟฟ้าไปลงป้ายเอกมัยก็จะถึงเลย
5. ทง จิง คัง ราเมน
Ton Chin Kan Ramen
Operation hour : Tue - Sun 11.30 - 14.00 , 17.00 - 23.00
Address : 553 Soi Sukhumvit 22, Klong Toei Wattana Bangkok, Thailand Bangkok, Thailand 10110
Access : ร้านใหม่ล่าสุด (สุดท้าย) ตั้งอยู่บนซอย สุขุมวิท 22 (ใกล้ๆแยกทางลัด 24ตัด22) ขับทะลุมาจากเดอะ เดวิส เมื่อถึงแยกซอย 22 เลี้ยวซ้ายเจอเลยครับ
** ล่าสุดเห็นว่าเปิดสาขาใหม่ที่ซอยอารีย์แล้วนะครับ ที่อยู่ก็ตามนี้เลย >>
ที่อยู่สาขาอารีย์ :ซอยอารีย์ 4 ฝั่งเหนือ ถนนพหลโยธิน 7 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400
ร้าน ทงจิงกัง ราเมน แห่งนี้ เป็นร้านเก่าแก่คู่ฟ้าเมืองกรุงเทพมาร่วม ๆ 10 ปีแล้ว ร้านนี้จะเรียกว่าเป็นร้านพเนจรก็ไม่ผิดนักเนื่องจากย้ายทำเลร้านมาเยอะ หลายรอบ แต่ล่าสุด ณ ทำเลปัจจุบัน บริเวณกลาง ๆ ซอยสุขุมวิท 22 ทางร้านบอกว่าทำเลนี้จะเป็นทำเลถาวรแห่งสุดท้ายของทางร้านแล้ว ร้านนี้แม้ว่าเจ้าของจะไม่ใช่คนญี่ปุ่นแท้ ๆ แต่ทุก ๆ อย่างของทางร้านไม่ว่าจะบรรยากาศร้าน, ตัวรสชาติราเมน หรืออะไรต่าง ๆ นา ๆ นั้นล้วนแต่แสดงออกมาได้ญี่ปุ่นจ๋าสุด ๆ ราเมนของร้านนี้มีให้เลือกค่อนข้างหลากหลาย และจุดเด่นอย่างนึงที่ทางทีมงานชื่นชอบคือตัว กุ้งลายเสือเทมปุระที่แบบใหญ่ และอร่อย คุ้มค่าสุด ๆ และราคาราเมนของร้านนี้ก็ค่อนข้างเป็นมิตรต่อกระเป๋าตังค์เมื่อเทียบกับร้านอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน
6. คิตะ ยูตะคาเทะ
Chita Yutakatei
Operation hour : Mon - Fri 11:00 - 15:00, 17:00 - 22:00 และ Sat - Sun 11:00 - 22:00
Address : Terminal Plaza ชั้น G ซอยสุขุมวิท 24 ถนนสุขุมวิท คลองเตย กรุงเทพฯ
Access : ร้านราเมน Chita Yutakatei อยู่บริเวณปากซอยสุขุมวิท 24 อาคาร Terminal ติดกับ Emporium
อีกหนึ่งร้านราเมนเก่าแก่ในเมืองกรุงของเราที่ลูกค้าคนไทยอาจจะไม่ค่อยรู้จักนัก เนื่องจากด้วยทำเลของทางร้าน และอะไรต่าง ๆ นา ๆ (ทางทีมงานไม่ค่อยเห็น check-in หรือ รีวิวสักเท่าไรด้วย) ชื่อร้านนี้นั้นไม่ได้ตั้งมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย แต่เป็นชื่อที่บ่งบอกถึงชนิดของราเมนของทางร้าน ที่จะนำซอสมิโซะ หรือเกลือมาจากแหลม Chita จังหวัด Aichi ประเทศญี่ปุ่น มาใช้ปรุงตัวน้ำซุปของทางร้าน ร้านนี้นอกจากตัวน้ำซุปที่ทางทีมงานว่าอร่อยโดดเด่นแล้ว ตัวหมูชาชูของร้านนี้ทางทีมงานก็ยังให้เป็นอันดับ 1 ในเมืองกรุงอีกด้วย จากความหนา, ความนุ่ม, ความมันและความใหญ่ของตัวชาชูที่ยากจะหาผู้ใดต่อกรได้จริง ๆ ร้านนี้บรรยากาศอาจจะทึม ๆ และเจ้าของร้านอาจจะไม่ค่อยต้อนรับแขกสักหน่อย แต่ถ้าคิดว่าแค่อยากจะไปกินราเมนอร่อย ๆ สักชามนึง ก็ถือว่าร้านนี้เป็นอีกหนึ่งร้านที่น่าจะโดนใจทุกท่านล่ะครับ
7. ฮิเดะ ยะ (ดินแดง)
Hide-ya (Din Dang)
Operation hour : Mon - Fri 11:00 - 15:00, 18:00 - 23:00 และ Sat 12:00 - 20:00 (ปิดวันอาทิตย์)
Address : 517/9 Asokedindaeng Dindaeng Dindaeng Bangkok
Access : เดินจากรถไฟใต้ดินสถานีพระรามเก้า เจอสี่แยกไฟแดงแล้วเลี้ยวขวา ประมาณ 70 เมตร อยู่ซ้ายมือตรงข้ามกับ ธ.กสิกรไทย
ร้านราเมนร้านนี้ เป็นอีกหนึ่งร้านที่จะเป็นราเมนสไตล์แตกต่างจากร้านอื่น ๆ ในเมืองกรุงเล็กน้อย คือจะเป็น Yokohama Ramen โดยจะเด่นในด้านการนำผักโขมมาใส่ในน้ำซุปกระดูกหมูของทางร้าน ร้านนี้โด่งดังในหมู่คนญี่ปุ่นมาก ๆ จนแม้ว่าทำเลของร้านที่เดินทางไปได้ลำบากกว่าร้านอื่นพอสมควร และอยู่ในทำเลที่ไม่ได้มีร้านอาหารอื่น ๆ แวดล้อมเลย แต่ก็ยังคงมีลูกค้า(ส่วนใหญ่เป็นญี่ปุ่น) ไปอุดหนุนอยู่เสมอ ร้านนี้ปัจจุบันมี 2 สาขาแล้ว โดยทางทีมงานก็ไปชิมมาทั้ง 2 สาขาซึ่งทั้ง 2 สาขาก็เหมือนกันหมด รักษาคุณภาพไว้ได้ดี และอร่อยจนเพื่อนของทางทีมงานบางคนยกให้เป็นราเมนที่อร่อยที่สุดในชีวิต ใครสนใจราเมนที่รสชาติแปลก ๆ หน่อยก็น่าไปลองกันดูนะครับ
8. คุจาคุโด
Ku Jaku Doh
Operation hour : Mon - Fri 18.00 - 03.00 และ Sat 11.30 - 03.00 (ปิดวันอาทิตย์)
Access : ร้าน คุจาคุโด Ku Jaku Doh อยู่ในซอยทองหล่อ 18 สุดซอย
Address : ชั้น 2 อาคารเบนซ์ทองหล่อ ทองหล่อ 18
อีกหนึ่งร้านราเมนที่เปิดมาหลายปีแล้ว ตัวร้านตั้งอยู่ในซอยทองหล่อ 18 แม้ว่าหน้าร้านจะดูเก่า ๆ และทำเลร้านอาจจะดูเข้าถึงยาก แต่ก็เป็นร้านที่คนญี่ปุ่นไปอุดหนุนและไปกินกันอยู่เรื่อย ๆ ตัวน้ำซุปของร้านนี้ก็มีหลากหลายแบบเช่นกันมี Miso, Shoyu, Tonkatsu รวมถึงยังมีพวกบะหมี่แห้ง บะหมี่เย็นอีกหลากหลายชนิดให้เลือกด้วย
[CR] รวบรวม 10 สุดยอด Ramen ร้านเด็ดในกรุงเทพฯ
ราเมนของแต่ละร้านจะมีน้ำซุปแตกต่างกันออกไป เป็นน้ำซุปกระดูกหมูบ้าง, โชยุบ้าง, มิโซะบ้าง หรือน้ำซุปปลาบ้าง บางร้านก็มีน้ำซุปแค่ชนิดเดียว แต่เปลี่ยนตัว topping หรือไม่ก็ทำเป็น Tsukemen (บะหมี่แห้งแยกน้ำ) เพื่อเพิ่มความหลากหลายของเมนู แต่บางร้านก็มีน้ำซุปหลากหลายชนิดให้เลือก ส่วนตัวหมูชาชูของแต่ละร้านนั้นก็จะมีสไตล์ที่แล้วแต่ว่าทางร้านต้องการออกแบบมาให้เป็นแบบไหน บางร้านตัวเนื้อหมูอาจจะหนา, ไขมันเยอะ บางร้านอาจจะบาง ไม่มีไขมัน lean ๆ หน่อย อันนี้ก็แล้วแต่ที่เจ้าของร้านคิดว่าชาชูแบบไหนที่เหมาะกับราเมนของทางร้าน
ตัวเส้นก็จะแตกต่างกันไปแล้วแต่ร้านอีกเช่นกัน แต่หลัก ๆ คือ จะมีเส้นใหญ่ ที่เป็นเส้นราเมนมาตรฐาน (คล้าย ๆ เส้นของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของเกาหลี) และ เส้นเรียวเล็กที่จะเป็นราเมนสไตล์ฮากาตะ หรือราเมนตอนใต้จากประเทศญี่ปุ่น แต่อันนี้จะเป็นแค่ภาพลักษณ์ภายนอกของเส้นเท่านั้น รายละเอียดจริง ๆ ในการทำเส้นออกมานั้นมีความซับซ้อนกว่านี้มาก ซึ่งต้องถามทางร้านกันอีกทีว่าเส้นของเขามีจุดเด่นยังไง ทำมายังไง
ส่วน topping นั้นของแต่ละร้านก็จะแตกต่างกันไปอีกเช่นกัน บางร้านใส่วากาเมะ, บางร้านใส่ สาหร่ายโนริ, หน่อไม้ดอง, ไข่ยางมะตูม, ถั่วงอก, หัวหอมซอย และอื่น ๆ ซึ่งอันนี้ก็ขึ้นอยู่กับการดีไซน์ตัวราเมนของทางร้านอีกเช่นกัน
10 ร้านใน list นี้อาจจะไม่ได้เรียงตามความชอบพอของทางทีมงานตามลำดับ แต่ทางเราเชื่อว่าต้องมีร้านใดร้านนึงใน list นี้ที่เป็นร้านโปรดของทุก ๆ ท่านอยู่อย่างแน่นอน
1. ฟูจิยามะ โก โก
Fujiyama go go
Operation hour : 11.00 - 23.00
Address : สุขุมวิท 39, กรุงเทพฯ 10120
Access: ร้าน Fujiyama GoGo อยู่ในซอยสุขุมวิท 39 เวิ้งเดียวกันกับร้าน Romana เข้าซอยมาประมาณ 300 เมตรจะเห็นร้านอยู่ขวามือ
ร้านนี้เมื่อแปลเป็นไทยจะแปลได้ว่า ภูเขาไฟฟูจิ 55 ซึ่งคำว่า 55 ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าต้องการจะล้อกับเสียงหัวเราะของคนไทยรึเปล่า แต่ตัวคำว่า Fujiyama นั้นมีที่มาจากที่ทางลูกค้าสามารถเลือกเพิ่มปริมาณเส้นได้ตามใจอยาก และปริมาณเส้นที่เยอะที่สุดนั้นทางร้านจะตั้งชื่อว่า "เพิ่มเส้นให้สูงดั่งภูเขาไฟฟูจิ" จึงเป็นที่มาของชื่อร้านนั้นเอง ร้านนี้ทางร้านเหมือนจะเน้นไปที่ตัว Tsukemen เพราะว่าจะมีเตาไฟฟ้าไว้ให้อุ่นชามซุปของ Tsukemen ด้วย แต่จากที่ทางทีมงานไปกินมา 2-3 ที ตัวราเมนแบบปกติของร้านนี้ก็เด็ดและอร่อยไม่แพ้กับตัว Tsukemen เช่นเดียวกัน ร้านนี้เป็นร้านเล็ก ๆ อยู่ในซอยสุขุมวิท 39 ใกล้ ๆ กับ Bankara ใครที่ขี้เกียจรอคิวที่ Bankara ก็อาจจะแวะไปกินที่ร้านนี้แทนก็ได้ครับ สำหรับทางทีมงานแล้วรสชาติไม่หนีกันสักเท่าไร
2. เมนยะ โคจิ
Menya Kouji
Operation hour : Mon - Fri 11.30 - 14.00 , 17.30 - 22.00 และ Sat - Sun 11.30 - 22.00
Address : 39, 39 Boulevard Bldg, Soi Sukhumvit 33(Daeng Udon) Sukhumvit Rd,Klongton-Nua,Wattana Bangkok 10110
Access : ร้านราเมน Menya Koji อยู่ที่ 39 Boulevard ในซอยที่เชื่อมระหว่างซอยสุขุมวิท 39 กับ 33
ร้านราเมนน้องใหม่ที่เพิ่งตัวไปเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2013 ที่ผ่านมา ร้านนี้เป็นร้านที่ตัวเชฟนั้นเคยเป็นลูกศิษย์ของเทพเจ้าแห่งราเมนมาก่อน (คนคิดค้นตัว Tsukemen) และตัวร้าน Menja Koji ที่ญี่ปุ่นนั้นก็เป็นร้านที่ค่อนข้างจะเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก ราเมนของร้านนี้จะมีให้เลือกแค่ 2 อย่างเท่านั้นคือ Ramen และ Tsukemen ซึ่งส่วนใหญ่ร้านที่มั่นใจในตัวเองสูง มีราเมนให้เลือกแค่อย่างเดียวหรือ 2 อย่างนั้นก็มักจะมีราเมนที่อร่อยโดนใจจริง ๆ ไม่งั้นก็คงไม่บังคับลูกค้ากันขนาดนี้ น้ำซุปของทางร้านจะเป็นน้ำซุปกระดูกหมูที่ค่อนข้างซับซ้อนและไม่เข้มข้นเหมือนร้านอื่น แต่ก็อร่อยถูกปากทั้งคนไทยและคนญี่ปุ่น ร้านนี้ก็เป็นอีกหนึ่งร้านที่อยู่ในซอยสุขุมวิท 39 ที่ทางทีมงานอยากจะเรียกซอยนี้ว่าซอยแห่งราเมนจริง ๆ
3. ไดกิจิ ราเมน (นิฮอนมาจิ)
Daikichi Ramen (Nihonmachi)
Operation hour : 11.00 - 22.00
Address : Nihonmachi ซอยสุขุมวิท 26, คลองเตย , กรุงเทพมหานคร 10110
Access : ชั้น 1 Nihonmachi (หลัง K-Viillage)
ร้านราเมนน้องใหม่ที่ตั้งอยู่ในเมืองญี่ปุ่นเล็ก ๆ (Nihonmachi) ในซอยสุขุมวิท 26 แห่งนี้ ก็เป็นร้านราเมนที่ค่อนข้างจะแตกต่างจากร้านอื่นเล็กน้อย คือจะเป็นกึ่ง ๆ แนว Izakaya หน่อย ราเมนของร้านนี้ก็มีให้เลือก 4 แบบ หน้าตาราเมนอาจจะดูบ้าน ๆ ไม่ค่อยน่ากินเท่าไร แต่รสชาตินั้นทางทีมงานคิดว่าอร่อยอยู่ในระดับแนวหน้ากันเลยทีเดียว นอกจากราเมนธรรมดาแล้ว ทางร้านยังมีราเมนเย็นที่แบบกินแล้ว เย็นสดชื่นไว้บริการอีกด้วย
4. ราเมน โกรักคุเอ็น (เกทเวย์ เอกมัย)
Ramen Kourakuen (Gateway Ekamai)
Operation hour : 11.00 - 22.00
Address : 982/22 Sukhumvit street Prakanong Bangkok Thailand 10110
Access : ร้าน Ramen Kourakuen อยู่ที่ห้าง Gateway Ekamai ปากซอยสุขุมวิท 42 ติดกับรถไฟฟ้า BTS เอกมัย
ร้านราเมนน้องใหม่ที่เพิ่งเปิดมาได้ไม่นานพร้อม ๆ กับห้าง Gateway Ekamai แต่ถ้านับประวัติจริง ๆ ของร้านนี้นั้น ตัวร้านไม่ได้เป็นร้านน้องใหม่แต่อย่างใดเลย เพราะที่ประเทศญี่ปุ่น ร้านนี้มีสาขาเยอะมาก ๆ เป็นหลายร้อยสาขา ราเมนของทางร้านนี้ก็เป็นอีกหนึ่งร้านที่มีราเมนให้เลือกหลากหลายน้ำซุป หลากหลายแบบ ทั้งราเมนแห้ง และราเมนน้ำ ร้านนี้ช่วงแรก ๆ ที่เปิดคิวยาวมากรอกันเป็น 2-3 ชั่วโมง แต่ ณ ปัจจุบันก็ซา ๆ ลงไปจนไม่ต้องรอคิวแล้ว ร้านนี้อาจจะเป็นร้านที่เด่นที่สุดใน list นี้ในแง่การเดินทางไปกิน เพราะว่านั่งรถไฟฟ้าไปลงป้ายเอกมัยก็จะถึงเลย
5. ทง จิง คัง ราเมน
Ton Chin Kan Ramen
Operation hour : Tue - Sun 11.30 - 14.00 , 17.00 - 23.00
Address : 553 Soi Sukhumvit 22, Klong Toei Wattana Bangkok, Thailand Bangkok, Thailand 10110
Access : ร้านใหม่ล่าสุด (สุดท้าย) ตั้งอยู่บนซอย สุขุมวิท 22 (ใกล้ๆแยกทางลัด 24ตัด22) ขับทะลุมาจากเดอะ เดวิส เมื่อถึงแยกซอย 22 เลี้ยวซ้ายเจอเลยครับ
** ล่าสุดเห็นว่าเปิดสาขาใหม่ที่ซอยอารีย์แล้วนะครับ ที่อยู่ก็ตามนี้เลย >>
ที่อยู่สาขาอารีย์ :ซอยอารีย์ 4 ฝั่งเหนือ ถนนพหลโยธิน 7 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400
ร้าน ทงจิงกัง ราเมน แห่งนี้ เป็นร้านเก่าแก่คู่ฟ้าเมืองกรุงเทพมาร่วม ๆ 10 ปีแล้ว ร้านนี้จะเรียกว่าเป็นร้านพเนจรก็ไม่ผิดนักเนื่องจากย้ายทำเลร้านมาเยอะ หลายรอบ แต่ล่าสุด ณ ทำเลปัจจุบัน บริเวณกลาง ๆ ซอยสุขุมวิท 22 ทางร้านบอกว่าทำเลนี้จะเป็นทำเลถาวรแห่งสุดท้ายของทางร้านแล้ว ร้านนี้แม้ว่าเจ้าของจะไม่ใช่คนญี่ปุ่นแท้ ๆ แต่ทุก ๆ อย่างของทางร้านไม่ว่าจะบรรยากาศร้าน, ตัวรสชาติราเมน หรืออะไรต่าง ๆ นา ๆ นั้นล้วนแต่แสดงออกมาได้ญี่ปุ่นจ๋าสุด ๆ ราเมนของร้านนี้มีให้เลือกค่อนข้างหลากหลาย และจุดเด่นอย่างนึงที่ทางทีมงานชื่นชอบคือตัว กุ้งลายเสือเทมปุระที่แบบใหญ่ และอร่อย คุ้มค่าสุด ๆ และราคาราเมนของร้านนี้ก็ค่อนข้างเป็นมิตรต่อกระเป๋าตังค์เมื่อเทียบกับร้านอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน
6. คิตะ ยูตะคาเทะ
Chita Yutakatei
Operation hour : Mon - Fri 11:00 - 15:00, 17:00 - 22:00 และ Sat - Sun 11:00 - 22:00
Address : Terminal Plaza ชั้น G ซอยสุขุมวิท 24 ถนนสุขุมวิท คลองเตย กรุงเทพฯ
Access : ร้านราเมน Chita Yutakatei อยู่บริเวณปากซอยสุขุมวิท 24 อาคาร Terminal ติดกับ Emporium
อีกหนึ่งร้านราเมนเก่าแก่ในเมืองกรุงของเราที่ลูกค้าคนไทยอาจจะไม่ค่อยรู้จักนัก เนื่องจากด้วยทำเลของทางร้าน และอะไรต่าง ๆ นา ๆ (ทางทีมงานไม่ค่อยเห็น check-in หรือ รีวิวสักเท่าไรด้วย) ชื่อร้านนี้นั้นไม่ได้ตั้งมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย แต่เป็นชื่อที่บ่งบอกถึงชนิดของราเมนของทางร้าน ที่จะนำซอสมิโซะ หรือเกลือมาจากแหลม Chita จังหวัด Aichi ประเทศญี่ปุ่น มาใช้ปรุงตัวน้ำซุปของทางร้าน ร้านนี้นอกจากตัวน้ำซุปที่ทางทีมงานว่าอร่อยโดดเด่นแล้ว ตัวหมูชาชูของร้านนี้ทางทีมงานก็ยังให้เป็นอันดับ 1 ในเมืองกรุงอีกด้วย จากความหนา, ความนุ่ม, ความมันและความใหญ่ของตัวชาชูที่ยากจะหาผู้ใดต่อกรได้จริง ๆ ร้านนี้บรรยากาศอาจจะทึม ๆ และเจ้าของร้านอาจจะไม่ค่อยต้อนรับแขกสักหน่อย แต่ถ้าคิดว่าแค่อยากจะไปกินราเมนอร่อย ๆ สักชามนึง ก็ถือว่าร้านนี้เป็นอีกหนึ่งร้านที่น่าจะโดนใจทุกท่านล่ะครับ
7. ฮิเดะ ยะ (ดินแดง)
Hide-ya (Din Dang)
Operation hour : Mon - Fri 11:00 - 15:00, 18:00 - 23:00 และ Sat 12:00 - 20:00 (ปิดวันอาทิตย์)
Address : 517/9 Asokedindaeng Dindaeng Dindaeng Bangkok
Access : เดินจากรถไฟใต้ดินสถานีพระรามเก้า เจอสี่แยกไฟแดงแล้วเลี้ยวขวา ประมาณ 70 เมตร อยู่ซ้ายมือตรงข้ามกับ ธ.กสิกรไทย
ร้านราเมนร้านนี้ เป็นอีกหนึ่งร้านที่จะเป็นราเมนสไตล์แตกต่างจากร้านอื่น ๆ ในเมืองกรุงเล็กน้อย คือจะเป็น Yokohama Ramen โดยจะเด่นในด้านการนำผักโขมมาใส่ในน้ำซุปกระดูกหมูของทางร้าน ร้านนี้โด่งดังในหมู่คนญี่ปุ่นมาก ๆ จนแม้ว่าทำเลของร้านที่เดินทางไปได้ลำบากกว่าร้านอื่นพอสมควร และอยู่ในทำเลที่ไม่ได้มีร้านอาหารอื่น ๆ แวดล้อมเลย แต่ก็ยังคงมีลูกค้า(ส่วนใหญ่เป็นญี่ปุ่น) ไปอุดหนุนอยู่เสมอ ร้านนี้ปัจจุบันมี 2 สาขาแล้ว โดยทางทีมงานก็ไปชิมมาทั้ง 2 สาขาซึ่งทั้ง 2 สาขาก็เหมือนกันหมด รักษาคุณภาพไว้ได้ดี และอร่อยจนเพื่อนของทางทีมงานบางคนยกให้เป็นราเมนที่อร่อยที่สุดในชีวิต ใครสนใจราเมนที่รสชาติแปลก ๆ หน่อยก็น่าไปลองกันดูนะครับ
8. คุจาคุโด
Ku Jaku Doh
Operation hour : Mon - Fri 18.00 - 03.00 และ Sat 11.30 - 03.00 (ปิดวันอาทิตย์)
Access : ร้าน คุจาคุโด Ku Jaku Doh อยู่ในซอยทองหล่อ 18 สุดซอย
Address : ชั้น 2 อาคารเบนซ์ทองหล่อ ทองหล่อ 18
อีกหนึ่งร้านราเมนที่เปิดมาหลายปีแล้ว ตัวร้านตั้งอยู่ในซอยทองหล่อ 18 แม้ว่าหน้าร้านจะดูเก่า ๆ และทำเลร้านอาจจะดูเข้าถึงยาก แต่ก็เป็นร้านที่คนญี่ปุ่นไปอุดหนุนและไปกินกันอยู่เรื่อย ๆ ตัวน้ำซุปของร้านนี้ก็มีหลากหลายแบบเช่นกันมี Miso, Shoyu, Tonkatsu รวมถึงยังมีพวกบะหมี่แห้ง บะหมี่เย็นอีกหลากหลายชนิดให้เลือกด้วย