คนเวียดนามยกย่องไตเซินเป็นวีรบุรุษ อยากทราบว่าพวกตระกูลเหงียนได้ทำเรื่องอะไรถึงโดนลุกจนต้องหนีครับ

แสดงว่าพวกตระกูลเหงียโดยเฉพาะเหงียนคนที่เป็นกษัตริย์ยาลอง ต้องเคยก่อเรื่องอะไรบางอย่างจนคนเดือดร้อนแล้วลุกฮือ อยากทราบว่าพวกเหงียนทำอะไรถึงโดนลุกฮือ ได้ยินว่าขูดรีดมาก แล้วมีอะไรอีกครับ

ได้ยินว่าหลังจากจัดการไตเซิน ก็จัดการฆ่ากษัตริย์ไตเซินโดยการเฉือนเนื้อ พวกไตเซินบางคนโดนห้าช้างแยกร่าง อยากทราบว่าหลังจากนี้ กษัตริย์ยาลองได้ทำการขูดรีดประชาชนเหมือนแต่ก่อนรึเปล่า หรือเริ่มดีขึ้น แล้วราชวงศ์เหงียนสร้างคุณประโยชน์อะไรต่อชาติบ้างครับ

ไม่รู้จริงรึป่าวที่ว่ากษัตริย์ยาลองออกกฎห้ามประชาชนไหว้พระไหว้เจ้า
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
ที่จริงต้องเท้าความไปในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 16 ในสมัยราชวงศ์เล้ยุคหลัง ซึ่งเกิดการแบ่งแยกและเริ่มมีการขยายดินแดนลงทางใต้ โดยราชวงศ์เล้นี้ถือว่าเป็นราชวงศ์ที่ปกครองเวียดนามมาอย่างยาวนาน (ค.ศ. 1428 - 1788) แต่แล้วหัวหน้าราชองครักษ์ขององค์จักรพรรดิเล้ได้ทำการช่วงชิงราชบัลลังก์และตั้งตนเป็นจักรพรรดิแห่งราชวงศ์มัค (Mạc Dynasty) ด้วยความกลัวอำนาจของจักรพรรดิราชวงศ์มัค ขุนศึกตระกูลตรินห์ (Trinh) และ เหงียน (Nguyen) ได้หนีออกจากฮานอย และร่วมมือกันต่อสู้กับราชวงศ์มัค (Nguyễn-Trịnh alliance) โดยครองอำนาจอยู่ทางตอนใต้ ได้กลายเป็นสงครามกลางเมืองยืดเยื้ออยู่เป็นเวลานานหลายปี จนกระทั่งค.ศ. 1592 ขุนศึกตระกูลตรินห์ได้ยึดฮานอยและปลงพระชนม์จักรพรรดิราชวงศ์มัค และขุนศึกของราชวงศ์มัคถูกกำจัดเสียสิ้น และตระกูลตรินห์ได้ตั้งจักรพรรดิราชวงศ์เล้อีกครั้งในฐานะประมุขหุ่นเชิด และเข้าปกครองเอง (คล้ายโชกุนของญี่ปุ่น) ฝ่ายขุนศึกตระกูลเหงียนไม่พอใจที่ได้ค่าตอบแทนน้อยนิด จึงฉีกสัญญาพันธมิตรกับตระกูลตรินห์และกลายเป็นสงครามกลางเมืองที่ยาวนานอีกครั้งระหว่างตรินห์และเหงียน ฝ่ายตรินห์ได้การสนับสนุนจากบริษัทดัตช์อินเดียนตะวันออกแต่ก็สู้รบผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ ซึ่งสงครามสิ้นสุดในค.ศ. 1673 ด้วยการสงบศึก

การสงบศึกกันครั้งนี้ทำให้ชาวนาทางภาคเหนือเป็นสุขอีกครั้ง อย่างไรก็ตามขุนศึกตระกูลเหงียนพยายามก่อสงครามกับเขมรที่อ่อนแอและสงครามกับสยามที่กำลังเข้มแข็ง ซึ่งส่วนใหญ่ฝ่ายเหงียนมักจะชนะ และได้รับดินแดนใหม่เพิ่มที่ทำกินแก่ชาวนา แต่ในปีค.ศ. 1769 กษัตริย์พระองค์ใหม่ของสยามคือ พระเจ้าตากสิน ทรงยึดครองเขมร และประกาศสงครามกับตระกูลเหงียนทางใต้ และสูญเสียดินแดนให้สยาม จากความล้มเหลวนี้ รวมทั้งอัตราภาษีที่สูงก่อให้เกิดการกบฎที่นำโดยสามพี่น้องจากหมู่บ้านเตย์เซิน กลายเป็นกบฎเตย์เซิน (Tayson Rebellion) หรือราชวงศ์เตย์เซิน (1771 -1802) ซึ่งได้ตั้งตนเป็นจักรพรรดิ

โดยกบฎเตย์เซินนี้ ถ้าวิเคราะห์ตามนักประวัติศาสตร์สายมาร์กซิสต์จะมองว่าเป็นการต่อสู้ทางชนชั้นครั้งแรกของเวียดนาม ระหว่างชนชั้นขุนศึกกับชนชั้นชาวนา หรือไม่ก็อาจจะมองในแง่ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นต่อความอ่อนแอทางการปกครองการบริหารซึ่งรวมทั้งความเดือดร้อนอดอยากของประชาชน ทำให้ราชวงศ์เตย์เซินหรือกบฎเตย์เซินมีความเข้มแข็ง

ฝ่ายเตย์เซินสามารถทำการพิชิตตระกูลเหงียนได้เป็นลำดับแรกที่ไซ่ง่อนด้วยร่วมกับตระกูลตรินห์ และคนตระกูลเหงียนถูกฆ่าเสียสิ้นยกเว้นผู้เป็นหลานคือ เหงียนอาน (Nguyễn Ánh) ได้หนีไปยังสยาม ฝ่ายเตย์เซินได้ประกาศว่าจะสนับสนุนองค์จักรพรรดิราชวงศ์เล้แต่ก็ตั้งตนเองขึ้นเป็นจักรพรรดิ และต่อมาราชวงศ์เตย์เซินได้โจมตีฝ่ายตระกูลตรินห์ เนื่องจากตระกูลตรินห์ไม่เป็นที่นิยมของประชาชนอยู่แล้วทำให้ขาดการสนับสนุน ตระกูลตรินห์พ่ายแพ้และหนีไปยังทางใต้ของจีน จักรพรรดิราชวงศ์เตย์เซินได้อภิเษกสมรสกับพระราชธิดาของจักรพรรดิแห่งราชวงศ์เล้ ต่อมาราชวงศ์เล้ก็ถูกล้มล้าง

เตย์เซินได้ปกครองเวียดนามโดยสมบูรณ์และในฐานะชาวนาผู้ลุกฮือจึงได้การยกย่องจากรัฐบาลคอมมิวนิสต์เวียดนามว่าเป็นวีรบุรุษ
แต่ต่อมาราชวงศ์เตย์เซินเนื่องมาจากจักรพรรดิพระองค์ใหม่พระชนมายุน้อยจึงอยู่ภายใต้การควบคุมของพระปิตุลา และมีการประหารขุนนางที่จงรักภักดีในสมัยจักรพรรดิพระองค์ก่อนมากมาย

เหงียนอานผู้หลบหนีมายังสยามจึงใช้โอกาสนี้ขอความช่วยเหลือกับบิชอป ปินโย เดอ เบห์น (Pigneau de Behaine) แห่งกองทัพฝรั่งเศส โดยส่งองค์รัชทายาทคือ เหงียนคานไปเข้าเฝ้าพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 แห่งฝรั่งเศสในปีค.ศ. 1787 ในปีค.ศ. 1800-1802 เหงียนอานได้ทำการยึดเมืองต่างๆของราชวงศ์เตย์เซิน และสามารถจับกุมจักรพรรดิองค์สุดท้ายแห่งเตย์เซินพระชนมายุ 20 พรรษาปลงพระชนม์ได้สำเร็จ ถือเป็นจุดจบราชวงศ์เตย์เซินที่มีอายุเพียง 24 ปีและกลายเป็นกบฏและมีการกวาดล้างชาวนาเตย์เซินที่ต่อต้านมากมาย

เหงียนอานปราบดาภิเษกเป็นจักรพรรดิยาลอง หรือ เกียลองแห่งราชวงศ์เหงียนที่กรุงเว้ และช่วงแรกทรงปล่อยให้บทบาทของบาทหลวงฝรั่งเศสแทรกซึมในเวียดนาม จักรพรรดิยาลองทรงรวมเวียดนามเป็นหนึ่งเดียวอีกครั้งด้วยการสถาปนาจักรวรรดิเหงียน (1802 - 1858) ด้วยการปกครองที่เน้นศักดินาอนุรักษ์นิยม ตามคติแบบจีน และต่อต้านการเปลี่ยนแปลงทุกรูปแบบ (รวมทั้งต่อมาทรงปราบปรามการเผยแพร่ศาสนาคริสต์ของบาทหลวงฝรั่งเศส) เน้นปรัชญาสังคมแบบขงจื๊อ หลังจากรวมประเทศได้แล้วทรงเริ่มแทรกซึมอิทธิพลไปในกัมพูชาเพื่อคานอำนาจสยาม รวมถึงรัชสมัยต่อมาต้องเผชิญความขัดแย้งกับฝรั่งเศสที่จะทำให้เวียดนามตกเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศสในปีค.ศ. 1858 เหตุเนื่องมาจากการประหารคริสตัง การต่อต้านคริสต์ศาสนาและการพยายามขยายอำนาจของฝรั่งเศส

นี่คือความเป็นมาของเวียดนามในช่วงสงครามกลางเมืองนะครับ ส่วนที่ว่าทรงห้ามประชาชนไหว้พระไว้เจ้า ผมไม่ทราบนะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่