เบื่อพวกหว้ากอ งมงายในวิทยาศาสตร์ค่ะ

* กระทู้นี้สามารถใช้งานได้เฉพาะผู้ที่มี Link นี้เท่านั้นค่ะ
ทุกครั้งที่น้องเมย์เข้ามาศึกษากระทู้พระธรรมคำสอนเพื่อจรรโลงจิตใจน้องเมย์ให้สูงขึ้นในเว็บพันทิพย์ น้องเมย์จะต้องเจอกระทู้ที่ติด tag ไปยังห้องหว้อกอเสมอเลยค่ะ ซึ่งจะมีพวกคลั่งวิทยาศาสตร์จนเสียสติเอาคำสอนของพระพุทธเจ้ามาปู้ยี้ปู้ยำ อ่านแล้วเหมือนน้องเมย์โดนมีดเสียบข้างหลังทะลุถึงหัวใจเลยค่ะ พยายามทำใจให้สงบ พิจารณาดูดีๆแล้ว พวกนี้ก็ปลาทองในโถแก้วนั่นแหละค่ะ รู้ไปหมดว่าในตู้กระจกมีอะไรบ้าง เปรียบเหมือนโลกของวิทยาศาสตร์ โลกแคบ ๆ ที่มีแต่พวกอีโก้สูงคิดว่ารู้ดี ฉลาดไปหมด เทียบกับโลกพระธรรมแล้ว ก็เหมือนโลกที่อยู่นอกกระจก ช่างกว้างใหญ่ไพศาลลี้ลับพิศดาร ถ้าอ่านในพระไตรปิฏกให้ถ่องแท้แล้วจะพบว่าพระพุทธองค์ทรงตรัสรู้ไว้หมดแล้วค่ะ

อาทิเช่น

มนุษย์คนแรกที่บินในอากาศได้ไม่ใช่พี่น้องตระกูลไรท์ แต่เป็นพระพุทธองค์ค่ะที่เหาะแสดงปาฏิหารย์ครั้งไปเยือนเจ้าศากยะ พระญาติวงศ์ของพระพุทธเจ้าที่เป็นชั้นผู้ใหญ่ เพราะต่างถือองค์ว่าเป็นพระญาติผู้ใหญ่ มีพระชนม์สูงกว่าพระพุทธเจ้า ซึ่งขณะนั้นเพียง ๓๖ ปีกว่า ๆ เมื่อมารับเสด็จและเฝ้าพระพุทธเจ้าที่นิโครธาราม พระองค์เลยเหาะให้ดูเลยค่ะ น้องเมย์ชอบตอนนี้มาก คิดดูสิคะ ไม่ต้องใช้ปีก ไม่ต้องใช้เครื่องยนต์ แต่เสกเมฆมาหอบตัวขึ้นไปบินบนท้องฟ้าได้ พระพุทธองค์มีวิทยาการที่ก้าวไกลกว่าวิทยาศาสตร์ยุคนี้อีกนะคะ อะไรนะ พิสูจน์ได้ยังไงหรอ ? ต้องเชื่อสิคะ มันเขียนอยู่ในพระพุทธประวัติ ถ้าเขียนไว้แสดงว่าเป็นจริง

ตัวอย่างแค่นี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า ธรรมะนั้นเหนือกว่าวิทยาศาสตร์ขนาดไหน น้องเมย์คิดว่ามนุษย์เราเนี่ย มัวแต่หมกมุ่นในวิทยาศาสตร์ค่ะ ถ้าเรามุ่งไปทางธรรมกันให้หมดทั้งโลก ป่านนี้โลกเราคงจะศิวิไลซ์กว่านี้มากค่ะ ลองจินตนาการดูนะคะ ยุคที่ธรรมะเฟื่องฟูจะเป็นอย่างไร เราร่ายเวทย์ให้เหาะไปโรงเรียนหรือที่ทำงานตอนเช้าได้ ไอโฟนไม่ต้องมีค่ะ เราใช้โทรจิตส่งหากัน เราไม่ชอบขี้หน้าใครก็ร่ายเวทย์ให้ธรณีสูบมันให้จมดิน

เพราะฉะนั้นน้องเมย์ขอร้องนะคะ ป้า ๆ ในหว้ากอทั้งหลาย อย่างมงายในวิทยาศาสตร์ค่ะ มันถ่วงความเจริญ น้องเมย์คิดถึงยุคที่เรามีธรรมะโดยสมบูรณ์แล้วรู้สึกฟินมากเลยค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่