อยากจะขอแชร์เรื่องราวของเราบ้าง กับ ม.สุโขทัยธรรมมาธิราชหลังจากพยายามมา 3 ปี หนูเหลืออีก 6 ตัวก็จะจบแล้ว

ยาวนิดนึงนะคะ เราอยากเล่าชีวิตด้วย

หลังจากจบม.6 แล้วที่บ้านไม่มีเงินส่งเราเรียน ด้วยความที่ต้องช่วยที่บ้านค้าขายเพราะพ่อแม่อายุมากแล้ว
แถมยังเป็นหนี้สินมากมาย และมีน้องอีกคนที่ยังต้องส่งเรียน
เราเลยตัดสินใจไม่ไปเรียน มหาลัยปิด ที่เราใฝ่ฝันว่า วันนึงอยากจะได้ใส่ชุดนักศึกษา
เรียนและทำกิจกรรมมากมาย แบบที่เราตั้งใจไว้
โดยที่เราเลือกจะอยู่ช่วยพ่อแม่ขายของตามตลาดนัดเพื่อหาของมาช่วยขายเพิ่มให้พอใช้หนี้ และให้ครอบครัวเหนื่อยน้อยลง
แต่นั่นก็ยังไม่พอใช้หนี้ ยังกระท่อนกระแท่น พอบ้างไม่พอบ้าง ดิ้นรนไปเรื่อย
ยังดีที่มีพี่สาวคนโต ซึ่งแ่ต่งงานไปแล้ว ช่วยเหลือเท่าที่ทำได้

แต่เราก็ยังอยากเรียน ช่วงแีรกๆที่เพื่อนเปิดเรียนใหม่ๆ คุยเรื่องรับน้อง เรื่องมหาลัยให้ฟัง เราแอบร้องไห้ตลอด
น้อยใจในโชคชะตา ทำไมไม่มีแบบคนอื่นบ้าง ยิ่งด้วยความที่เราเรียนดีมาตลอด สอบได้ที่ 1-3 ตลอด
เวลาเราเจอใคร เพื่อน อาจารย์ คนรู้จัก เราจะเจอคำถามตลอด ไม่เรียนหรอ สอบไม่ติดหรอ หรือแต่งงานแล้วหรอ
เก็บมานอยด์ประจำ ร้องไห้ประจำ สุดท้ายเราเลยตัดสินใจลงเรียน มสธ หรือ ม.เปิด ที่เปิดโอกาสทางการศึกษา
ให้สามารถเรียนทางไปรษณีย์ได้ ไม่ต้องเข้าเรียนได้
เราเริ่มจากความไม่รู้อะไรเลย หาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต ซื้อใบสมัครทางเซเว่น
ตัดสินใจลงคณะที่เราชื่นชอบ นั่นก็คือ นิเทศศาสตร์ เอกโฆษณา
เวลาใครถาม เราก็จะบอก อ่อ เราเรียน มสธ. ต้องอธิบายกันยืดยาว ว่ามหาลัยที่เราเรียนเป็นยังไง
บางคนก็ฟังแล้วทำหน้าตา บางคนก็ทำท่าดูถูก บอกว่าจบมาก็ไม่มีคุณภาพ
เราได้แต่ทำใจ อดทน ไปขายของปกติ กลางคืนก็อ่านหนังสือดู
วิชานึง มีหนังสือประมาณ 2-3 เล่ม หนาๆทั้งนั้น เห็นครั้งแรกก็หวั่นใจเหมือนกัน แต่ก็นะ ลงไปแล้ว ต้องลองดู
เราอ่านไปเรื่อย มีแบบฝึกหัดแนบมาให้ทำ เราก็ทำส่ง
จนถึงวันที่ต้องไปสอบ ตื่นเต้นนิดหน่อยไม่รู้ข้อสอบจะออกมาแนวไหน จะทำได้ไหม
เห็นข้อสอบครั้งแรก เอ๋อไปเลยเหมือนกัน มีทั้งอัตนัย ปรนัย
เราก็พยายามอ่าน พยายามคิดคำตอบที่ใช่ที่สุด
และผลสอบเทอมแรกก็ออกมา เราผ่านหมดทั้งสามตัว ดีใจมาก มีกำลังใจจะเรียนต่อไป

และเราก็ลงเรียนมาเรื่อย ๆ ระหว่างที่เรียน เราก็ขายของปกติ
แล้วเราก็มีโอกาสได้มาทดลองงานที่เราชอบ นั่นกืคือการเป็นนักจัดรายการวิทยุชุมชน
เราทำเรื่อยมาในช่วงเช้าของทุกวัน หยุดเฉพาะวันอาทิตย์ เพื่อเก็บเป็นรายได้เสริม ช่วยที่บ้าน
บางทีก็มีคนจ้างไปงานนอกเป็นพิธีกรงานแต่งงานบ้าง ถือเป็นประสบการณ์ใหม่ๆของเรา
ช่วงบ่ายเราก็ไปขายของตลาดนัดปกติ แต่นั่นก็ยังหาใช้หนี้ไม่ค่อยพอ
เพราะเดี๋ยวนี้ค้าขายไม่ค่อยดีเหมือนก่อน ยิ่งช่วงหน้าฝน ไม่ต้องพูดถึงเลย ขาดทุนบ่อยมาก
ไปขาย เสียค่าน้ำมัน ค่าที่ บางทียังไม่ได้ขาย ฝนก็ตกแล้ว
เราก็กระท่อนกระแท่นช่วยกันไปเรื่อย เหนื่อยหนักบางกับบางเดือนที่หาไม่พอ ก็กัดฟันผ่านมาได้ในแต่ละเดือน
เงินเก็บไม่เคยมีสักบาท เก็บได้เท่าไร เวลาเดือดร้อนเราอดไม่ได้ที่จะเอาออกมาช่วยทุกที

จนตอนนี้ เราตัดสินใจ มาทำงานที่สถานีวิทยุ 8โมงเช้า - 5 โมงเย็น เพราะอยากให้ครอบครัวมีรายได้มากกว่านี้
เราทำงานหยุดวันอาทิตย์ ได้ประมาณเดือนละหมื่นกว่าๆ
จะได้ช่วยกันใช้หนี้ำได้มากขึ้น ไม่ใช่เราไม่คิดนะ ว่าพ่อแม่ไปขายสองคนจะเหนื่อยไหม
ตลาดนัดไหนใกล้ๆ เวลาเลิกงานเราก็จะไปช่วย  
เราอยากให้ครอบครัวมีรายได้หลายทาง จะได้ใช้หนี้ได้ไวๆ

และผลสอบเทอมล่าสุดก็ออก เราสอบผ่านอีกแล้ว จนถึงตอนนี้ เราอายุ 21 เก็บได้ทั้งหมด 16 ตัวแล้ว ในเวลาประมาณ 3ปี
เหลืออีกเพียงแค่ 6 ตัวเท่านั้น เราก็จะจบปริญญาตรีแล้ว
บอกพ่อแม่ทีไร ท่านดีใจตลอด เราก็ดีใจเหมือนกัน ที่อย่างน้อยๆ ถึงเราจะไม่ได้ไปเรียนแบบคนอื่น
แต่เราก็สามารถเรียนแบบนี้ได้ แถมยังได้ช่วยเหลือครอบครัวด้วย
เราเคยน้อยใจโชคชะตา เคยท้อแท้ แต่เราเชื่อว่า เรากตัญญู อนาคตเราคงไม่ลำบาก
ถึงวันนี้เราไม่มี แต่อนาคตเราจะพยายามมีให้ได้ เราจะสู้ต่อไป

อีกเพียง 6 ตัวเท่านั้น  มีวิชาที่จะต้องไปฝึกประสบการณ์ ฝึกทักษะ ด้วยเราจะพยายามสอบให้ผ่าน เรียนให้จบ
เพื่อที่เราและครอบครัวจะได้ภิมิใจ ลูกสาวจบ ป.ตรี ได้เหมือนคนอื่น
ถึงแม้จะเป็นมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชแต่เราขอบอกเลย
ว่าเราภูมิใจในสถาบันนี้มากๆค่ะ

* ปล. เราไม่ได้ต้องการจะอวดความเก่ง หรืออะไรนะคะ เราแ่ค่อยากแชร์เรื่องราวของเรา อยากบอกเล่าถึงความสุขในสิ่งที่เราเป็น และอย่างน้อย อาจเป็นกำลังใจให้บางคนที่เป็นเหมือนเราได้
ขอบคุณค่ะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่