เรื่องของ Matsuoka Rin

อุ๊บ๊ะ! ริน ริน รินรินอีกแล้ว! ให้มันเบื่อกันไปข้าง!! ไม่ได้ขึ้นหัวข้อว่า "แปล Free!" เพราะไม่ได้เป็นทางการอะไร แค่แปลเอาไว้อ่านกันเล่นๆ ผมไปเจอคำถามที่เป็นประเด็นน่าสนใจเกี่ยวกับคุณรินเค้า อาจจะ spoil รึเปล่า ก็ไม่แน่ หรืออาจจะไม่ใช่ก็ได้ เพราะเป็นแค่ความคิดเห็นของคนๆหนึ่ง ไม่ต้องไปคิดอะไรมาก ใครสนใจก็ลองอ่านดูครับ ส่วนถ้าใครไม่สนใจก็ลองอ่านดูครับ ^_^ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ข้อความใน { } เป็นข้อความที่ผู้แปลเพิ่มเอง นอกนั้นก็จากต้นฉบับ


สวัสดีครับ ผมกำลังคิดถึงเรื่องการเงินและครอบครัวของริน คุณคิดว่าทำไมรินถึงไม่เรียนต่อจนจบม.ปลายที่ออสเตรเลีย ทำไมเขาถึงกลับมาที่ญี่ปุ่น แล้วหน้าที่การงานของแม่รินนั้นคืออะไร ครอบครัวของรินดูเหมือนว่าจะรวยมาก และเกิดอะไรขึ้นกับรินที่ออสเตรเลียครับ คุณมีความเห็นอย่างไร ขอบคุณมาก

ฉันไม่ได้เก่งด้านการวิเคราะห์ตัวละครสักเท่าไหร่ และรินคือตัวละครที่มีความซับซ้อนเกินกว่าทักษะการวิเคราะห์ของฉัน แต่ฉันจะลองพยายามดูให้

สองคำถามแรกนั้น คำตอบมันได้ปรากฏออกมาอย่างชัดเจนแล้ว รินกลับมาที่ญี่ปุ่นก็เพราะว่าฮารุ — ในตอนที่รินแพ้ฮารุในช่วงม.ต้น มันได้สร้างบาดแผลในใจให้กับรินในการที่จะก้าวต่อไป รินไม่ได้ถนัดนักในการแสดงความรู้สึกเหล่านี้ออกมา แต่เขาก็ได้แหงนมองการว่ายน้ำของฮารุอยู่ตลอด {คิดว่าฮารุเหนือกว่าตลอด} และตอนที่ฮารุได้บอกกับรินว่าเขาได้เข้าร่วมสโมสรว่ายน้ำในช่วงนั้น (มันหมายความว่าฮารุได้ตั้งหน้าตั้งตาว่ายน้ำอย่างจริงจัง) บางทีรินอาจมองว่าเป็นการคุกคามหรือคำขู่อย่างนึง มันเหมือนเป็นอุปสรรคที่ใหญ่หลวงมากของเป้าหมายของริน รินกลับมาที่ญี่ปุ่นในช่วงปีสองม.ปลาย ไม่ใช่ปีแรก ดังนั้นในช่วงที่รินกลับไปที่ออสฯหลังจากที่แพ้ฮารุ เขาได้ฝึก ฝึก และก็ฝึก เพื่อที่จะพยายามลืมความรู้สึกแย่ๆเหล่านั้นจนกระทั่งม.ปลายปีหนึ่ง เขาได้ตัดสินใจที่จะทำอะไรสักอย่าง ก่อนที่จะเข้าสู่โลกของความเป็นผู้ใหญ่อย่างเต็มตัวที่จะต้องเจอกับชีวิตในมหา’ลัย และฉันไม่คิดว่ารินเป็นคนที่แสดงออกมาได้ดีนัก เวลาที่รินพูดถึงคู่แข่งของเขา (ตัวอย่างคือ ตอนที่รินให้สัมภาษณ์ มันดูไม่ค่อยน่าฟังสักเท่าไหร่)

[แต่พูดกันตรงๆเลยนะ บางทีมันอาจเป็นเรื่องที่ง่ายกว่าสำหรับผู้ทำอนิเมะ ที่รินได้กลับมาในช่วงปีที่สอง {ม.5} เพราะว่านางิสะอ่อนกว่าหนึ่งปี และอนิเมะเรื่องนี้ก็เกี่ยวกับเด็กม.ปลาย “มันคือเรื่องราวของการเติบโต” เป็นวลีของเรื่องนี้ในแบบฉบับญี่ปุ่น]

จากตรงนี้ไปฉันขอเดาล้วนๆ (ค่อนข้างจะมั่วไปเรื่อย) ฉันคิดไม่ออกเลยจริงๆว่าแม่ของรินนั้นทำอาชีพอะไร (ครอบครัวของรินอาจได้รับมรดกมาจากรุ่นก่อน ซึ่งมันอาจไม่จำเป็นที่แม่ของรินต้องมีอาชีพที่ค่าตัวสูง) และมันก็ใช่ที่ว่าครอบครัวของรินน่าจะมีหน้าที่การงานที่ดี …ไม่ได้ รวย ถึงขนาดนั้น แต่ความเป็นอยู่ก็สะดวกสบายพอที่จะส่งรินไปเรียนต่อเมืองนอกและออกค่าใช้จ่ายต่างๆให้

บางทีมันอาจไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับรินที่ออสเตรเลีย มันก็แค่เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตทั่วๆไป คุณคงไม่ได้ทำตัวแบบเดิมเหมือนตอนอยู่ม.ต้นหรือม.ปลายหรอก ในชีวิตจริงเมื่อคุณเติบโตขึ้น ฉันอาจพูดกระทบสักหน่อย คุณเรียนรู้ที่จะตั้งข้อสงสัย ไม่ใช่เอาแต่ฝันไปวันๆ สิ่งที่คุณมั่นใจว่าทำได้เมื่อตอนที่คุณยังเป็นเด็ก พอโตขึ้นคุณอาจไม่สามารถทำมันได้อย่างมีอิสระ บางทีสิ่งหนึ่งที่ยากที่สุดในชีวิตของพวกเราที่พวกเราต้องทำก็คือการแสดงออกต่อการยอมแพ้ในเรื่องต่างๆ — ในกรณีของรินนี้ก็เหมือนกับการยอมแพ้ต่อสิ่งที่คุณฝันมาอย่างยาวนาน ในชีวิตจริงมีเพียงไม่กี่คนที่สามารถใช้ชีวิตอยู่กับความฝันและประสบความสำเร็จกับฝันนั้นได้ อีกอย่างหนึ่งที่เกี่ยวกับรินคือ รินหมกมุ่นและคิดแต่เรื่องของฮารุใน “สิ่งที่รินไม่เคยเห็นมาก่อน” {เรื่องการว่ายของฮารุ} รินอาจไม่ได้เห็นมันเป็นสิ่งที่กระตุ้นใจ {ในแง่บวก} แต่อาจเห็นเป็นเรื่องที่ทำให้กลัวหรือขู่ขวัญริน ส่วนสิ่งที่รินได้โชว์ให้ฮารุดูนั้น รินอาจรู้สึกว่ามันไม่มีค่าแต่อย่างใด มันคงเป็นเรื่องยากของพวกเราที่จะเอาชนะความสงสัยในเรื่องพวกนี้ ฉันรู้จักกับผู้หลักผู้ใหญ่หลายๆคนที่ได้เลือกงานที่พวกเขากำลังทำอยู่ ก็เพราะว่าพวกเขาจำเป็นต้องยอมแพ้กับทางเลือกอื่น หรือลองดูอย่างอามะจัง หรือแม้กระทั่งโค้ชซาซาเบะ พวกเขานั้นจำเป็นต้องเลือกทางเดินของชีวิตที่ดีที่สุดอันดับสอง หรือไม่ก็อันดับสาม หรือมันอาจจะไม่ได้ดีที่สุดด้วยซ้ำ.... และนั่นมันก็คือการดำเนินชีวิต: ที่นอกเหนือไปจากความคาดหวังของคุณ {ผู้แปลซึ้ง T-T}

แต่รินเป็นคนที่ยอมแพ้ยาก นี่มันไม่ใช่นิสัยที่ไม่ดี ฉันเห็นดีด้วยกับรินก็เพราะว่ารินได้ฝึกหนักเพื่อเป้าหมายของเขา และหนทางที่ดีที่สุดในการไล่ตามเป้าหมายคือ ทำทุกอย่างที่ตัวเองมีอยู่ให้เต็มที่และเติมเต็มในสิ่งที่ขาด — แต่มันก็ดูเหมือนว่ารินได้มองความทุ่มเทและความพยายามของเขาในแง่ลบไปซะหมด นอกจากนี้สิ่งที่ฉันได้เห็นคือพ่อของรินได้เสียชีวิตไปตั้งแต่ตอนที่รินยังเป็นเด็ก ดังนั้นรินจึงจำเป็นต้องเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ให้เร็ว บางทีอาจจะเร็วเกินไป และฉันคิดว่ารินเป็นแบบนี้ก็เพราะการเสียชีวิตของพ่อเขา ในช่วงเวลาวัยรุ่นของริน เด็กคนอื่นๆมักจะมีพ่อคอยชี้แนะหรือคอยสอนสิ่งต่างๆให้ แต่รินเป็นต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเอง {แล้วแม่ล่ะ} และตั้งแต่ที่เขาเป็นคนที่จริงจังกับชีวิต เขาตั้งใจทำทุกอย่างโดยที่ไม่ขอความช่วยเหลือจากใคร ซึ่งฉันคิดว่านั่นแหละคือปัญหาหลักของรินเลย เขาพยายามสร้างภาพว่าเขาเป็นคนมีอารมณ์ที่มั่นคง หนักแน่น แต่เขาก็ยังคงสับสนเหมือนเด็กวัยรุ่นทั่วๆไป และในขณะที่ฮารุจดจำได้แล้วว่าตัวเองนั้นไม่ได้ว่ายน้ำอยู่ตามลำพัง ส่วนรินก็ยังปิดกั้นตัวเองจากผู้อื่นเพื่อที่จะว่ายน้ำอยู่อย่างโดดเดี่ยว

รินได้หลงลืม “ความสนุกสนาน” ที่ได้จากการว่ายน้ำ ความฝันมักจะมาด้วยกันกับ “สิ่งที่ต้องทำ” และ “ความสนุกที่ได้ทำ” เสมอ และความฝันของรินได้กลายเป็นอะไรที่น่าเบื่อมากกว่าที่เขาจะได้สนุกกับมัน ดังนั้นฉันจึงปรารถนาให้รินจำได้ว่า เขา “ได้สนุก” กับการว่ายน้ำ และไม่ได้ว่ายเพื่อตัวเองเท่านั้น

CREDIT



และมีอีกคนได้ถามต่อว่า

ผมไม่คิดว่ารินกลับมาเพราะฮารุ เขาเจอฮารุที่ทางรถไฟโดยบังเอิญ คุณก็เห็นได้ว่ารินเซอร์ไพรส์แค่ไหน และผมก็ไม่คิดว่ารินกำลังไปที่ร.ร.เก่าหรือที่บ้านฮารุแต่อย่างใด บางทีมันอาจจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นที่ออสฯ แต่มันต้องมีบางอย่างที่ผิดปกติหลังจากที่รินกลับมาเยี่ยมบ้าน เพราะตอนนั้นเขาดูอารมณ์เสีย เขาไม่ยอมโทรไปหาเพื่อนๆด้วยซ้ำ

เมื่อตอนที่ฉันพูดถึงตอนที่รินกลับมา ฉันหมายถึงตอนม.ปลาย มันถูกแล้วที่รินไม่ได้กลับมาบ้านเพราะฮารุในช่วงม.ต้นที่พวกเขาได้เจอกัน และก็ถูกอีกที่ว่ารินไม่ได้ต้องการเจอพวกเขาแต่อย่างใด มันดูเหมือนว่ารินได้ตัดสินใจทำอะไรบางอย่างในวันนั้นเลย {ท้าฮารุแข่ง} มากไปกว่านั้น บุคลิกของรินในตอนนั้นได้เปลี่ยนไปแล้ว รินคงรู้สึกอึดอัดใจที่ได้เจอคนในอดีตที่รู้จักตัวตนของเขามาก่อน ส่วนตัวฉันแล้วเมื่อมองย้อนกลับไป ฉันคิดว่าถ้าฮารุไม่ได้พูดว่าเขาได้ร่วมคลับว่ายน้ำในช่วงม.ต้นนั้น รินอาจแสดงท่าทางที่ต่างจากเดิม และเขาอาจมีอนาคตที่แตกต่างอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้

ฉันไม่ได้มองข้ามความคิดที่ว่ามันอาจจะมีบางอย่างผิดปกติที่บ้านของริน แต่ฉันคิดว่ามันไม่น่าจะเป็นไปได้ บางทีฉันก็ควรจะแก้บางประโยคในโพสที่แล้ว เมื่อตอนที่ฉันได้บอกว่าบางทีอาจไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับรินที่ออสฯ ฉันควรจะบอกว่า ฉันไม่คิดว่าการที่รินได้ไปอยู่ที่ออสฯ มันจะเป็นแก่นสำคัญนัก สิ่งที่ออสฯจะทำให้รินได้มากที่สุดก็น่าจะเป็นการทำให้รินกลัวหรือการขู่ขวัญรินจากความฝันของเขา เพราะว่าเขาได้ไปเห็นแล้วว่าการแข่งขันว่ายน้ำที่แท้จริงแล้วมันเป็นอย่างไร และเมื่อเขาได้กลับมาที่ญี่ปุ่นในวันนั้น {ม.ต้น} มันเต็มด้วยข้อกังขามากมาย บางคนอาจคิดว่ามันอาจจะดีทีเดียวถ้ารินอยู่ที่ญี่ปุ่นตลอดและได้แข่งอยู่แต่ในญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ฉันคิดว่าออสเตรเลียก็อาจมีส่วนที่ทำให้รินตกใจ เพราะว่าโอลิมปิคคือการแข่งระดับโลก และคุณจะไม่มีประสบการณ์การแข่งระดับโลกแบบนี้ในประเทศของตัวเองอย่างแน่นอน แต่ฉันยังนึกอยู่ว่า รินน่าจะไปที่ประเทศอังกฤษ หรือไม่ก็รัสเซีย ไม่ก็อเมริกา หรือประเทศอื่นๆที่คล้ายๆกัน ยังไงก็ตามฉันไม่คิดว่าข้อเท็จจริงที่รินได้ไปอยู่ที่ออสฯมันสำคัญนัก (ขอโทษที ฉันคิดว่าออสฯนั้นก็เจ๋งอยู่ แต่ว่า…) มันไม่ใช่ประเทศออสเตรเลียที่เปลี่ยนริน มันคือ การดำเนินชีวิต ต่างหากที่ทำให้รินเปลี่ยนไป

ฉันยังรู้สึกว่าสุดท้ายแล้วทุกคนจะต้องกลับมาหาฮารุ เพราะว่าอนิเมะเรื่องนี้เป็นเหมือนกับฮาเร็มของฮารุ {ฮาเร็ม!!!} ฉันขอโทษถ้าฉันพูดอะไรที่ฟังดูไม่เข้าเรื่อง ฉันเริ่มเหนื่อยกับมันแล้ว {อืมมม ...คนแปล+พิมพ์ก็เริ่มเหนื่อยเหมือนกัน >_<"} มันเป็นเรื่องที่ยากอยู่เหมือนกันในการพูดเกี่ยวกันริน เพราะบุคลิกของเขาได้เปลี่ยนแปลงเร็วมาก! พวกเราก็ต้องรอดูต่อไปว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น

CREDIT



ส่วนตัวผมนั้นคิดยังไงกับเรื่องนี้น่ะเหรอ ....หึๆ ....ขี้เกียจคิด ....ปวดตับ

**เพิ่มเติมได้นะครับ ผิดพลาดยังไงขออภัย อมยิ้ม02**


Ars longa, vita brevis ศิลปะยืนยาว ชีวิตสั้น "121 ปี ท่านอาจารย์ศิลป์ พีระศรี"
จากคนที่เคยเรียน รุ่นที่....(ไม่บอกหรอกเดี๋ยวรู้ อมยิ้ม35) - คิดถึงสะพานสระแก้ว ..มากกก
ด้วยรักและเคารพเป็นอย่างสูง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่