เป็นเรื่องยากที่จะจินตนาการว่า
คนดังในอดีตเคยดิ้นรนเพื่อหาเงินยังชีพ
แม้ว่าตอนนี้จะไม่ใช่คนไร้บ้าน/คนจนอีกต่อไปแล้ว
แต่ก่อนหน้านี้คนดังเหล่านี้เคยเป็นคนไร้บ้าน/คนเร่ร่อน
เรื่องราวของคนบางคนจากยาจกกลายเป็นคนร่ำรวย
เรื่องราวของคนบางคนที่ไม่ธรรมดา
เรื่องราวของคนบางคนที่เหลือเชื่อมาก
เรื่องราวของคนบางคนที่ไม่มีแม้แต่ที่นอน
บางวันต้องนอนบนเก้าอี้สาธารณะหรือนอนบนพื้นถนน

แต่ในที่สุดพวกเขาต่างหันเห/เปลี่ยนแปลงชีวิตจากจุดเดิม
และได้กลายเป็นคนสร้างแรงบันดาลใจให้คนอีกหลายคน
ทำให้คนเหล่านั้นต่างมีความคิดความฝันในวิชาชีพ
แม้ว่าจะเริ่มต้นจากศูนย์ที่ไม่มีอะไรเลย



Halle Berry ดารารางวัล Oscar เล่าว่าในช่วงวัยยี่สิบต้น ๆ
ครั้งหนึ่งเคยพักอาศัยในสถานที่พักพิงคนไร้บ้าน(มีหลายแบบ)
ในช่วงแรกที่เธอย้ายไปอยู่ที่ชิคาโกเพื่อหางานทำเป็นนักแสดง
ในการให้สัมภาษณ์กับ Star Pulse เธอเล่าให้ฟังว่า



" แม่ขับรถไปส่งฉันที่นั่น  
แต่ฉันไม่เคยคิดเลยว่าแม่จะเคยคิดหรือไม่
ว่าเรื่องทุกอย่างมันจะลงเอยไปด้วยดี
หลังจากเดือนหนึ่งหรือสองเดือนต่อมา
ฉันก็หมดเงิน จึงโทรหาแม่แล้วพูดว่า

หนูไม่อยากจะบอกเรื่องนี้กับแม่เลย
แม่ช่วยส่งเงินมาให้หนูหน่อยได้ไหม
หนูไม่เหลือเงินอีกแล้ว
ไม่มีอะไรจะกินในสัปดาห์นี้ด้วย
แต่แม่กลับบอกเธอว่า
ไม่เด็ดขาด  หยุดพูดเรื่องนี้ซะ  หรือไม่ก็กลับบ้านมาเลย

แม่พูดแบบนี้ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนคนบ้าไปเลย
เรื่องนี้ทำให้ฉันโกรธมาก
จนฉันไม่ยอมพูดกับแม่เป็นเวลาปีครึ่ง "

แต่ตอนนี้นักแสดงหญิงวัย 40 ปียอมรับว่า
แม่ได้ทำสิ่งที่ถูกต้องและเธอรู้สึกขอบคุณ
แม้ว่าการแสดงออกถึงความรักของแม่
จะทำร้ายจิตใจเธอกับแม่เหมือนกัน
เรื่องนี้ทำให้เธอพูดเสริมอีกว่า

" เรื่องนี้ได้สอนฉันถึงวิธีการดูแลตัวเอง
และทำให้ฉันสามารถใช้ชีวิตผ่านความยากลำบาก
ผ่านสถานการณ์ใด ๆ มาได้ แม้ว่ามันหมายความว่า
จะต้องไปพักพิงที่บ้านของคนไร้บ้าน
มีพื้นที่จำกัดจำเขี่ย และมีที่นอนขนาดเล็ก
หรือการใช้ชีวิตอยู่ในแบบที่ไม่เพียงพอ
ซึ่งหมายความว่า ขาดแคลน/ยากจน
ทำให้ฉันกลายเป็นคนที่รู้ว่า
ฉันต้องหาหนทางออกสำหรับตัวฉันเองเสมอ
หรือฉันต้องมีวิถีชีวิตของตนเอง "



Jim Carrey เคยอาศัยอยู่ในรถตู้โฟล์คสวาเก้นแบบพักแรม
และกินอยู่หลับนอนในเต็นท์ที่กางอยู่บนสนามหญ้าหน้าบ้านพี่สาว
โดยรถตู้โฟล์คสวาเก้นจอดอยู่บนท้องถนนสาธารณะ
มันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากมากในเรื่องเงินทอง
แต่เรื่องนี้ได้ทำให้เขามีเวลาได้พัฒนาอารมณ์
ความรู้สึกการมองโลกในแง่ดีมีอารมณ์ขันขึ้นมาได้

Yahoo  ได้รายงานว่านักแสดงตลกรายนี้
ได้ลาออกจากโรงเรียนตอนเรียนชั้นมัธยม
และอาศัยอยู่ในรถตู้โฟล์คสวาเก้นแบบพักแรม
โดยเขากับครอบครัวได้เดินทางและจอดรถคันนี้
ไว้ในสถานที่ที่แตกต่างกันไปทั่วประเทศแคนาดา
ในที่สุดพวกเขาได้ย้ายไปกางเต้นท์บนสนามหญ้าบ้านพี่สาว
และรถตู้โฟล์คสวาเก้นแบบพักแรม
ต้องจอดอยู่บนถนนสาธารณะ



Frank O’ Dea  ผู้ร่วมก่อตั้งร้านกาแฟ Second Cup
ในประเทศแคนาดาที่มีสาขามากที่สุดถึง 360 สาขา
ครั้งหนึ่งเคยเป็นคนไร้บ้าน เพราะปัญหาเรื่องเหล้า
ในช่วงวัยยี่สิบต้น ๆ เขาต้องเดินขอทานตามท้องถนน
ใช้ชิวิตบนท้องถนน  ตามคำบอกเล่าของ John Demont
สำนักข่าว The Chronicle Herald

จนกระทั่งวันหนึ่ง เขากับหุ้นส่วนธุรกิจ
ได้เปิดร้านกาแฟ Second Cup
จึงเปลี่ยนสภาพจากยาจกเป็นมหาเศรษฐี  
ทั้งนี้อดีตคนไร้บ้าน ผู้สร้างร้านกาแฟระดับชาติ
ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนที่จะขึ้นสู่เวทีที่ประชุม
ผู้นำสุขภาพแห่งชาติ  ที่ Halifax
เขายอมรับอย่างเปิดอกว่า

"  ผมไม่รู้จริง ๆ เลยเกี่ยวกับระบบการดูแลสุขภาพ
แต่เรื่องนี้มันไม่สำคัญหรอกว่า  เพราะถ้าคุณอยู่ในธุรกิจ
ไม่ว่าจะธุรกิจกาแฟ หรือ ผู้ตีพิมพ์หนังสือพิมพ์ หรือ
ธุรกิจการให้บริการดูแลสุขภาพ  
เรื่องที่คุณควรจะคิดก็คือ การสร้างตลาดใหม่
มากกว่าเรื่องที่คิดจะต่อสู้เพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาด
เพราะตลาดมักจะมีขนาดใหญ่มาก
ใหญ่มากกว่าที่คุณคิดว่ามันควรจะเป็นซะอีก "

ข้อความนี้เป็นการตกผลึกทางความคิด
และมาจากการสร้างแรงบันดาลใจส่วนตัวของเขาเอง
หลังจากเดินออกจากบ้านพักให้คนรายได้ต่ำพักค้างคืน
โดยรัฐคิดค่าพักเพียงคืน ๆ ละ 50 เซ็นต์(ประมาณ 15.-บาท)
แล้วมุ่งหน้าสร้างธุรกิจดาวรุ่ง
ที่ตอนนี้รวมทั้ง Proshred  International  กับ กองเรือบินพยาบาล
พร้อม ๆ กับการเข้าร่วมในกิจกรรมสังคมด้านมนุษยธรรม

The Second Cup เป็นธุรกิจที่ผ่านการพิสูจน์แล้วว่า
เป็นการสร้างตลาดใหม่ที่เริ่มต้นจากร้านแรกร้านเดียว
โดยขายกาแฟชั้นดีเป็นปอนด์ ในปี 1975(2518)
เมื่อถึงเวลาที่เขาได้คิดและค้นพบแล้วว่า ยูเรก้า eureka
ด้วยการขายกาแฟเกรดดีเยี่ยมพร้อมถ้วยแก้ว
มีกลุ่มควันรวมทั้งกลิ่นหอมจากกาแฟที่ชง
พวยพุ่งขึ้นมาสูงมากกว่าเจ้าอื่น ๆ ในท้องตลาด
ทั้งนี้เพื่อทำให้ลูกค้าได้ตระหนักว่า
พวกเขาจะได้รับสินค้าชั้นเยี่ยม

"  ผมได้เปลี่ยนความสัมพันธ์ระหว่างกาแฟกับลูกค้า
ลูกค้าซื้อกาแฟเพราะมันเป็นของดี
และลูกค้าก็เต็มใจที่จะจ่ายเงินมากขึ้นสำหรับสินค้านั้น
ทำให้พวกเขาต้องรอเวลาสักครู่หนึ่งก่อน เพื่อรอรับกาแฟ
เหมือนบ่อน้ำในทะเลทรายที่ใช้ดับกระหาย/ความอยาก
โดยเหตุผลนี้เอง ทำให้เกิดธุรกิจกาแฟที่มีมูลค่าหลายล้านเหรียญสหรัฐ
เพราะกาแฟไม่ได้เป็นสินค้าอุตสาหกรรมเพียงอย่างเดียว
แต่กาแฟเป็นไปได้หลายอย่างในเชิงธุรกิจ "



ทั้งนี้ Frank ได้ยกกรณีศึกษาตัวอย่าง
ตอนที่ Wine Casella ของ Yellow Tail ผู้ผลิตจากออสเตรเลีย
ได้ตัดสินใจที่จะบุกตลาดไวน์ในสหรัฐอเมริกา
ที่มีผู้ผลิตท้องถิ่นเพียงไม่กี่ราย
ยังผูกขาดควบคุมธุรกิจ/อุตสาหกรรมนี้อยู่
Yellow Tail ก็ยังกล้าเข้ามาและไม่ได้ใช้เงินเลย
แต่พยายามที่จะเอาชนะใจคนซื้อ
ที่ยังหวาดหวั่นและกลัวเกินไปที่จะซื้อไวน์
เพราะมีกระบวนการวิธีชิมและเลือกไวน์
ที่มีขั้นตอนและหลักการอย่างมากมาย
และแล้ววิธีการของ Wine Casella  ได้เปลี่ยนแปลงโลกไป

" บริษัทให้บริการด้านการดูแลสุขภาพ
ก็สามารถทำสิ่งเดียวกันได้ ด้วยการคิดระดับชาติ
เพราะอย่างไรตามการบริการที่มีอยู่เดิมมีข้อจำกัดมากเกินไป
ในโลกนี้มีผู้คนมากกว่าเก้าพันล้านคน
พวกเขาทุกคนต่างต้องดูแลสุขภาพ
กุญแจที่สำคัญที่สุดคือ การคิดใหม่
เสนอสินค้าและบริการแบบใหม่
ที่ยังไม่เคยมีใครพบเห็นมาก่อน
และทุกคนต่างยอมรับได้
เรื่องแบบนี้ยังไม่มีการแตะจากราชา Midas
(นิทานกรีก ราชาที่ได้รับพรจากเทพเจ้า
แตะอะไรก็จะกลายเป็นทองคำทั้งหมด)
ผมเองก็เคยประสบความล้มเหลวหลายต่อหลายครั้ง
แต่ความสำเร็จเกิดขึ้นจากการลองผิดลองถูก
และเรียนรู้จากข้อผิดพลาดด้วยการทุ่มเททรัพยากรและเวลา "



กูรูด้านการลงทุนส่วนบุคคล Suze Orman
ในตอนนี้มีทรัพย์สินมุลค่าประมาณ 25 ล้านเหรียญสหรัฐ
แต่เธอเคยอยู่อาศัยในรถแวนถึง 4 เดือนในปี 1973(2516)
ครั้งแรกที่เธอย้ายไปอยู่ที่ Berkeley รัฐ California
Suze  Orman ต้องพักอาศัยอยู่ในรถตู้ของเธอ
แต่ทุกวันนี้เธอเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์
มูลค่าราคาประมาณ  7,000,000 เหรียญสหรัฐ
(ประมาณ 210,000,000.-บาท)
ทั้งนี้ตามรายงานของ  msn.com

เธอเป็นที่รู้จักกันดีที่เคยชนะรางวัล
ที่ปรึกษาด้านการเงิน Emmy-winning financial advisor
หนังสือของเธอมีการตีพิมพ์และขายดีมาก
จากคำวิจารณ์/แนะนำของ New York Times

เธอเกิดในครอบครัวชาวยิว
อาศัยอยู่ตอนใต้ของชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ในปี 1951
แม่เธอเป็นเลขานุการของแรบไบของชุมชน(นักบวชชาวยิว)
พ่อเธอเป็นผู้อพยพชาวรัสเซีย ทำงานในฟาร์มไก่
และดูแลร้านขนมใน Hyde Park

เธอเข้าเรียนที่หาวิทยาลัยอิลลินอยส์ วิทยาเขต Urbana-Champaign
University of Illinois at Urbana-Champaign
จบปริญญาตรีด้านสังคมสงเคราะห์ ในปี 1976
ในปี 2009 เธอได้รับปริญญาเอกกิตติมศักดิ์
ด้านมนุษยศาสตร์และอักษรศาสตร์
จากมหาวิทยาลัยเดิมของเธอ

หลังจากสำเร็จการศึกษา
Orman ย้ายไปอยู่ที่ เบิร์กลีย์ แคลิฟอร์เนีย
ทำงานเป็นสาวเสิร์ฟ
ในปี 1980 เธอยืมเงิน 52,000 เหรียญสหรัฐ
(ประมาณ 1,560,000.-บาท)
จากเพื่อนและผู้หวังดีเปิดร้านอาหาร

ต่อมา Orman ได้รับการฝึกอบรม
เป็นผู้บริหารบัญชีของ Merrill Lynch
พร้อมกับประสบความสำเร็จ
ในการที่เธอฟ้องชนะ Merrill Lynch
ที่ทำความเสียหายกับเงินลงทุน 50,000 เหรียญสหรัฐ
หลังจากจบการฝึกอบรมที่ Merrill Lynch
เธอยังทำงานอยู่ที่นั้นจนถึงปี 1983(2526)
จนกระทั่งมารับตำแหน่งรองประธาน
ด้านการลงทุน Prudential Bache Securities

ในปี 1987(2530) เธอลาออกจาก Prudential Bache Securities
มาตั้ง Suze Orman Financial Group ที่ เอเมอรีวิลล์ รัฐแคลิฟอร์เนีย
เธอเป็นผู้อำนวยการบริษัทจนถึงปี 1997(2540)
มีงานตีพิมพ์หนังสือสามเล่มระหว่าง ปี 1997(2540) และ 1999(2542)
9 ขั้นตอน ไปสู่อิสรภาพทางการเงิน ( 1997)
The 9 Steps to Financial Freedom (1997)

คุณออมเงินแต่อย่าสูญเสียเงินไป(1999)
You Earned it Don't Lose it (1999
กล้าที่จะรวย( 1999) The Courage to be Rich (1999)
หนังสือ เล่มอื่น ๆ
ถนนสู่ความมั่งคั่ง (2001)The Road to Wealth (2001)
กฎของเงิน (2003) The Laws of Money
บทเรียนชีวิต The Lessons of Life (2003)
รายการ Suze Orman Show
เริ่มออกอากาศที่สถานีโทรทัศน์ CNBC ในปี 2002
กุมภาพันธ์ 2008 Orman ได้มอบหนังสือ
ผู้หญิงกับเงิน Women and Money
ให้กับบรรดาผู้ชมที่ติดตามในรายการ TheOprah Winfrey Show
ให้ผู้สนใจดาวน์โหลดหนังสือได้ฟรี
มีการดาวน์โหลดเกือบ 2  ล้านครั้ง
เธอยังได้รับเชิญเป็นเกียรติในรายการ
The Food Network's Paula's Party
ในปี 2011 เธอปรากฏตัวในรายการโทรทัศน์ Oprah's Allstars
ในปี 2012 เธอเสนอ Series 6 ตอนใน America's Money Class
ในรายการของ Oprah Winfrey Network

Orman ยอมรับว่าเธอเป็นเลสเบี้ยน
ในปี 2008(2551) เธอบริจาคเงินให้กับพรรคเดโมแครต
ในการให้สัมภาษณ์กับ  Larry King
เธอบอกว่าชอบนโยบายของพรรคเดโมแครต กับ Barack Obama
ในการสัมภาษณ์ทางออนไลน์กับ The Young Turks
เธอบอกว่าทรัพย์สินสุทธิเธอมากกว่า 10 ล้านเหรียญสหรัฐ