สวัสดีค่ะ ช่วงนี้ที่ญี่ปุ่นอาการร้อนอีกแล้ว หลังจากไต้ฝุ่นหมดไปเมื่ออาทิตย์ก่อน
วันนี้มีเรื่องสดๆร้อนๆมาเล่าให้ฟังค่ะ
เรื่องเกิดเมื่อวานนี้เอง พอดีมีข้อความใน inbox fb ของเราเข้ามาค่ะ
คนนี้เค้าเป็นผญ.นะคะ กำลังจะได้แต่งงานกับคนญี่ปุ่นแล้วย้ายมาอยู่ญี่ปุ่นค่ะ
ประเด็นคือว่า...เค้าบอกว่า เค้าจะย้ายมาอยู่ญี่ปุ่นอย่างสุขสบาย
โดยที่ "ไม่ต้องหางานทำ หรือทำอะไรเลย เค้าไม่ต้องดิ้นรน" ...เหมือนเรา
บอกก่อนเลยค่ะว่า
เราเป็นผญ.ไทยที่ "ดิ้นรน" หางานทำในญี่ปุ่น
อาชีพเราคือล่ามภาษาไทย เรารับจ๊อบล่ามตามโรงงานผลิตรถยนต์และผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ ในจ.ไอจิและจ.ใกล้เคียง
ช่วงที่มีพนักงานคนไทย เช่นพวกเอ็นจิเนียร์มาเทรนนิ่งที่ญี่ปุ่น
รายได้อยู่ที่ 2000เยนup / ชั่วโมง (ค่าเดินทางต่างหาก)
เวลาเราไปสัมภาษณ์งานหรือทำงานที่ไหน เราก็จะอัพลง fb
ผญ.คนนี้เค้าก็จะตามมากด like ให้ค่ะ (ติดตามตามข่าวสารเราตลอด)
เวลาเค้ามีปัญหาไม่เข้าใจเกี่ยวกับการจดทะเบียนแต่งงานกับคนญี่ปุ่น
ก็จะ inbox มาถามเรา เราก็ยินดีให้คำแนะนำไปตามที่เรารู้
พักหลัง เหมือนเค้าจะเริ่มอัพเดทชีวิตตัวเองแบบเวิ่นเว้อ
ซึ่งเราก็ไม่ได้สนใจอ่าน เพราะบางทีก็อ่านดูแล้วเค้าฝันกลางวันมากไป
เราไม่ตอบนะคะ ปล่อยผ่าน เรื่องของเค้า ชีวิตของเค้า
จนเมื่อวานนี้ เค้าแท็กมาหาเราค่ะ เค้าแท็กมาหาเราเอง
เราไม่ได้อยากเข้าไปอ่าน แต่พอมันเด้งมา เราก็ดู
เค้าก็บ่นๆค่ะ บอกว่าเดี๋ยวโตเกียวโอลิมปิค2020 เค้าต้องแย่แน่เลย
ฝรั่งต้องเดินเต็มโตเกียวไปหมด เค้าจะทำยังไงดี
เค้าเกลียดภาษาอังกฤษ เกลียดฝรั่ง กลัวฝรั่ง บลาๆ
พอเราอ่านแล้วก็...เออ เป็นเอามากนะเนี่ย เลยตอบไปว่า
โตเกียวโอลิมปิค อีกตั้ง 6-7 ปี จะมานั่งตีโพยตีพายทำไมตอนนี้
คือ งง...กะนางมาก เอือมระอา
จริงๆแล้ว ถ้านางไม่แท็กมา เราจะไม่เข้าไปตอบหรอกค่ะ
แต่นางแท็กเรามา ก็เลยตอบไปซะหน่อย
แล้วเราก็บอกให้นาง ไปหารายการ Youは何しに日本へ (คุณมาทำอะไรที่ญี่ปุ่น?) มาดู
จะได้รู้ว่า พวกฝรั่งน่ะ เค้ามาเที่ยวญี่ปุ่นกันเยอะมากแล้วก็เก่งมากด้วย
บางคนก็พูดภาษาญี่ปุ่นได้ด้วยซ้ำ
เผื่อนางดูรายการนี้แล้ว จะได้เลิกคิดว่า "ฝรั่งเค้าจะถามทางหรือมาพูดคุยกับเธอ"
จะได้ไม่ต้องฟุ้งซ่าน
จิตตกล่วงหน้าตั้ง 7 ปีแบบนี้
แล้วที่นี้ นางก็หลังไมค์มาว่า (ด่า) เราค่ะ แล้วนางก็ทิ้งท้ายไว้ว่า
นางเป็นนักเรียน xxx มหาวิทยาลัย xxx ชื่อดัง (ขอไม่บอกชื่อนะคะ) สมัยมัธยมเรียนคอนแวนต์
แต่ไม่ชอบฝรั่ง ไม่ชอบภาษาอังกฤษ มีไรป่ะ???
แล้วช้านกำลังจะได้แต่งงานไปอยู่ญี่ปุ่นกับคนที่รัก
แล้ว "
ช้านก็ไม่ต้องทำงานหรือทำอะไรเลย ไม่ต้องหางานทำ ไม่ต้องดิ้นรน แบบเธอ !! "
จบค่ะ แล้วนางก็ unfriend เราไปเลย
โห...............ไม่ให้โอกาสด่ากลับเลยนะเนี่ย // ชิ่งแล้วหนี
อ่านแล้ว
สมเพชจริงๆ ค่ะ บอกตามตรง
แล้วก็มีอีกสเตตัสนึงก่อนหน้านี้ ที่อ่านแล้วรู้สึกว่านาง "หลงตัวเอง" ไม่ใช่น้อย คือ
นางก็บ่นเรื่องผลสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่นค่ะ บอกว่าสอบวัดระดับ 2 ไม่ผ่านซะที
เป็นเพราะไม่ได้อ่านหนังสือและปีนี้บินไปญี่ปุ่นบ่อย
แต่ไม่เป็นไรหรอก สอบไม่ผ่านก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็ต้องไปเป็นแม่บ้านอยู่บ้านเลี้ยงลูกแล้ว ไม่จำเป็น!!
เราอ่านแล้วก็เตือนไปด้วยความหวังดีว่า
"อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน
ถ้ามีโอกาสก็อยากให้สอบให้ผ่าน เผื่อว่าในอนาคตมันอาจจะมีประโยชน์"
(เช่น เอาไปใช้สมัครงานในบริษัทญี่ปุ่นได้)
สุดท้าย เผื่อนางผ่านมาอ่าน อยากบอกว่า
การที่คิดว่าจะมาเป็น
แม่บ้านอยู่แต่บ้าน มันดูมีค่า มีศักดิ์ศรีมากกว่าแม่บ้านอีกคน
ที่ "ดิ้นรน ตะเกียกตะกายหางานทำ" เป็นสิ่งที่ทำให้คุณดูสูงกว่าคนอื่น
การที่คิดว่า ได้แต่งงานมาอยู่ญี่ปุ่น แล้วมาเป็นแม่บ้านให้สามีหาเลี้ยง
ได้ใช้ชีวิตอยู่อย่างเลิศๆ เชิดๆ นี่ ขอบอกว่าคิดผิดนะคะ
อีกอย่างสามีคุณก็เป็นแค่ salaryman อายุ 30 ต้นๆ ชีวิตมันยังเพิ่งเริ่มค่ะ
ยิ่งถ้าเดี๋ยวมีลูก พอลูกโตขึ้นเรื่อยๆ สามีทำงานหาเลี้ยงนอกบ้านคนเดียวด้วย
ครอบครัวในฝันของคุณ มันจะไม่ได้เป็นอย่างที่คิดแน่นอน
ป.ล. อย่าให้รู้นะ ว่ามาญี่ปุ่นแล้วก็หางานทำเหมือนกัน
อยู่เป็นแม่บ้านให้สามีสุดที่รักเลี้ยงไปให้ได้ตลอดชีวิตนะคะ ขอให้โชคดี
********************
จขกท. มาตอบที่นี่นะคะ
ตื่นเช้ามานี้ กระทู้เราคนเข้ามาเมนต์กันเพียบ
เท่าที่อ่านดูก็จะเห็นด้วยกับกุ้ง 70% เห็นด้วยกับฟ้า 30%
ซึ่งมันก็
ไม่เท่ากับการบอกว่าเราเป็นฝ่ายขี้อิจฉา หรือมีปม อะไรก็ว่าไป
เรายอมรับค่ะ ว่าตัดสินใจมาอยู่ต่างแดนเอง
ยอมรับสภาพที่ต้องมาเป็นแม่บ้าน แต่ถึงอย่างนั้น เราก็ยังมีความคิดที่จะหางานทำ
คุณบางคนคงไม่ทราบ ว่าก็ได้ทำงานในต่างประเทศ การได้ใช้ความรู้ความสามารถของตัวเอง หาเงินเข้าบ้าน มันภูมิใจแค่ไหน
ค่ากับข้าวแต่ละอาทิตย์ ถ้าเราจ่ายเอง เราก็ช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายของสามีได้
เพราะเค้าก็รับไปแล้ว ค่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าแก๊ซ ค่ารถ แค่นี้ก็หลายแสนเยนแล้วค่ะ
ถึงแม้ว่าคุณๆหลายๆคน ที่ไม่รู้ถึงความลำบากนี้ บอกว่าเราขี้อิจฉา มีปมก็ไม่เป็นไรค่ะ
ขอให้รู้ไว้ว่า อยู่เมืองไทยสบายที่สุดแล้วจริงๆ
ถึงกุ้ง
อย่างต้นกระทู้ เราบอกแล้วว่าเราตอบกลับเธอไม่ได้ แล้วฝากข้อความไว้ เผื่อเธอผ่านมาอ่าน
เนื้อความก็อย่างที่เขียนไป
และถ้าคำพูดของเราทำให้กุ้งคิดจะหางานทำขึ้นมาบ้าง เราก็ดีใจ
เอาไว้กุ้งมาอยู่เอง แล้วกุ้งคงสัมผัสได้
สุดท้ายนี้ เราก็อยากขอโทษกุ้งเหมือนกัน
ที่เราทำให้กุ้งเสียใจ เพราะเราเองก็เสียใจไม่น้อย
ส่วนเรา เรายังคงตั้งหน้าตั้งตาหางานทำต่อไป แล้วก็อยากเป็นพนักงานประจำให้ได้ในเร็ววัน
เพราะชีวิตคนเรา มันไม่แน่ไม่นอนจริงๆ
#ฝากถึงคนที่จะไปเที่ยวญี่ปุ่นช่วงนี้นะคะ แถวโอซาก้า ไล่ขึ้นมานาโกย่า แล้วคืนนี้คาดว่าแถวโตเกียว
ตอนนี้เจอพายุกระหน่ำค่ะ ฝนตก ลมแรงมาก ยังไงก็รักษาสุขภาพด้วยนะคะ
แม่บ้านญี่ปุ่นที่หางานทำ...มันดูด้อยค่า ยากจน สามีไม่เลี้ยง
วันนี้มีเรื่องสดๆร้อนๆมาเล่าให้ฟังค่ะ
เรื่องเกิดเมื่อวานนี้เอง พอดีมีข้อความใน inbox fb ของเราเข้ามาค่ะ
คนนี้เค้าเป็นผญ.นะคะ กำลังจะได้แต่งงานกับคนญี่ปุ่นแล้วย้ายมาอยู่ญี่ปุ่นค่ะ
ประเด็นคือว่า...เค้าบอกว่า เค้าจะย้ายมาอยู่ญี่ปุ่นอย่างสุขสบาย
โดยที่ "ไม่ต้องหางานทำ หรือทำอะไรเลย เค้าไม่ต้องดิ้นรน" ...เหมือนเรา
บอกก่อนเลยค่ะว่า เราเป็นผญ.ไทยที่ "ดิ้นรน" หางานทำในญี่ปุ่น
อาชีพเราคือล่ามภาษาไทย เรารับจ๊อบล่ามตามโรงงานผลิตรถยนต์และผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ ในจ.ไอจิและจ.ใกล้เคียง
ช่วงที่มีพนักงานคนไทย เช่นพวกเอ็นจิเนียร์มาเทรนนิ่งที่ญี่ปุ่น
รายได้อยู่ที่ 2000เยนup / ชั่วโมง (ค่าเดินทางต่างหาก)
เวลาเราไปสัมภาษณ์งานหรือทำงานที่ไหน เราก็จะอัพลง fb
ผญ.คนนี้เค้าก็จะตามมากด like ให้ค่ะ (ติดตามตามข่าวสารเราตลอด)
เวลาเค้ามีปัญหาไม่เข้าใจเกี่ยวกับการจดทะเบียนแต่งงานกับคนญี่ปุ่น
ก็จะ inbox มาถามเรา เราก็ยินดีให้คำแนะนำไปตามที่เรารู้
พักหลัง เหมือนเค้าจะเริ่มอัพเดทชีวิตตัวเองแบบเวิ่นเว้อ
ซึ่งเราก็ไม่ได้สนใจอ่าน เพราะบางทีก็อ่านดูแล้วเค้าฝันกลางวันมากไป
เราไม่ตอบนะคะ ปล่อยผ่าน เรื่องของเค้า ชีวิตของเค้า
จนเมื่อวานนี้ เค้าแท็กมาหาเราค่ะ เค้าแท็กมาหาเราเอง
เราไม่ได้อยากเข้าไปอ่าน แต่พอมันเด้งมา เราก็ดู
เค้าก็บ่นๆค่ะ บอกว่าเดี๋ยวโตเกียวโอลิมปิค2020 เค้าต้องแย่แน่เลย
ฝรั่งต้องเดินเต็มโตเกียวไปหมด เค้าจะทำยังไงดี
เค้าเกลียดภาษาอังกฤษ เกลียดฝรั่ง กลัวฝรั่ง บลาๆ
พอเราอ่านแล้วก็...เออ เป็นเอามากนะเนี่ย เลยตอบไปว่า
โตเกียวโอลิมปิค อีกตั้ง 6-7 ปี จะมานั่งตีโพยตีพายทำไมตอนนี้
คือ งง...กะนางมาก เอือมระอา
จริงๆแล้ว ถ้านางไม่แท็กมา เราจะไม่เข้าไปตอบหรอกค่ะ
แต่นางแท็กเรามา ก็เลยตอบไปซะหน่อย
แล้วเราก็บอกให้นาง ไปหารายการ Youは何しに日本へ (คุณมาทำอะไรที่ญี่ปุ่น?) มาดู
จะได้รู้ว่า พวกฝรั่งน่ะ เค้ามาเที่ยวญี่ปุ่นกันเยอะมากแล้วก็เก่งมากด้วย
บางคนก็พูดภาษาญี่ปุ่นได้ด้วยซ้ำ
เผื่อนางดูรายการนี้แล้ว จะได้เลิกคิดว่า "ฝรั่งเค้าจะถามทางหรือมาพูดคุยกับเธอ"
จะได้ไม่ต้องฟุ้งซ่าน จิตตกล่วงหน้าตั้ง 7 ปีแบบนี้
แล้วที่นี้ นางก็หลังไมค์มาว่า (ด่า) เราค่ะ แล้วนางก็ทิ้งท้ายไว้ว่า
นางเป็นนักเรียน xxx มหาวิทยาลัย xxx ชื่อดัง (ขอไม่บอกชื่อนะคะ) สมัยมัธยมเรียนคอนแวนต์
แต่ไม่ชอบฝรั่ง ไม่ชอบภาษาอังกฤษ มีไรป่ะ???
แล้วช้านกำลังจะได้แต่งงานไปอยู่ญี่ปุ่นกับคนที่รัก
แล้ว " ช้านก็ไม่ต้องทำงานหรือทำอะไรเลย ไม่ต้องหางานทำ ไม่ต้องดิ้นรน แบบเธอ !! "
จบค่ะ แล้วนางก็ unfriend เราไปเลย
โห...............ไม่ให้โอกาสด่ากลับเลยนะเนี่ย // ชิ่งแล้วหนี
อ่านแล้ว สมเพชจริงๆ ค่ะ บอกตามตรง
แล้วก็มีอีกสเตตัสนึงก่อนหน้านี้ ที่อ่านแล้วรู้สึกว่านาง "หลงตัวเอง" ไม่ใช่น้อย คือ
นางก็บ่นเรื่องผลสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่นค่ะ บอกว่าสอบวัดระดับ 2 ไม่ผ่านซะที
เป็นเพราะไม่ได้อ่านหนังสือและปีนี้บินไปญี่ปุ่นบ่อย
แต่ไม่เป็นไรหรอก สอบไม่ผ่านก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็ต้องไปเป็นแม่บ้านอยู่บ้านเลี้ยงลูกแล้ว ไม่จำเป็น!!
เราอ่านแล้วก็เตือนไปด้วยความหวังดีว่า "อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน
ถ้ามีโอกาสก็อยากให้สอบให้ผ่าน เผื่อว่าในอนาคตมันอาจจะมีประโยชน์"
(เช่น เอาไปใช้สมัครงานในบริษัทญี่ปุ่นได้)
สุดท้าย เผื่อนางผ่านมาอ่าน อยากบอกว่า
การที่คิดว่าจะมาเป็นแม่บ้านอยู่แต่บ้าน มันดูมีค่า มีศักดิ์ศรีมากกว่าแม่บ้านอีกคน
ที่ "ดิ้นรน ตะเกียกตะกายหางานทำ" เป็นสิ่งที่ทำให้คุณดูสูงกว่าคนอื่น
การที่คิดว่า ได้แต่งงานมาอยู่ญี่ปุ่น แล้วมาเป็นแม่บ้านให้สามีหาเลี้ยง
ได้ใช้ชีวิตอยู่อย่างเลิศๆ เชิดๆ นี่ ขอบอกว่าคิดผิดนะคะ
อีกอย่างสามีคุณก็เป็นแค่ salaryman อายุ 30 ต้นๆ ชีวิตมันยังเพิ่งเริ่มค่ะ
ยิ่งถ้าเดี๋ยวมีลูก พอลูกโตขึ้นเรื่อยๆ สามีทำงานหาเลี้ยงนอกบ้านคนเดียวด้วย
ครอบครัวในฝันของคุณ มันจะไม่ได้เป็นอย่างที่คิดแน่นอน
ป.ล. อย่าให้รู้นะ ว่ามาญี่ปุ่นแล้วก็หางานทำเหมือนกัน
อยู่เป็นแม่บ้านให้สามีสุดที่รักเลี้ยงไปให้ได้ตลอดชีวิตนะคะ ขอให้โชคดี
********************
จขกท. มาตอบที่นี่นะคะ
ตื่นเช้ามานี้ กระทู้เราคนเข้ามาเมนต์กันเพียบ
เท่าที่อ่านดูก็จะเห็นด้วยกับกุ้ง 70% เห็นด้วยกับฟ้า 30%
ซึ่งมันก็ไม่เท่ากับการบอกว่าเราเป็นฝ่ายขี้อิจฉา หรือมีปม อะไรก็ว่าไป
เรายอมรับค่ะ ว่าตัดสินใจมาอยู่ต่างแดนเอง
ยอมรับสภาพที่ต้องมาเป็นแม่บ้าน แต่ถึงอย่างนั้น เราก็ยังมีความคิดที่จะหางานทำ
คุณบางคนคงไม่ทราบ ว่าก็ได้ทำงานในต่างประเทศ การได้ใช้ความรู้ความสามารถของตัวเอง หาเงินเข้าบ้าน มันภูมิใจแค่ไหน
ค่ากับข้าวแต่ละอาทิตย์ ถ้าเราจ่ายเอง เราก็ช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายของสามีได้
เพราะเค้าก็รับไปแล้ว ค่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าแก๊ซ ค่ารถ แค่นี้ก็หลายแสนเยนแล้วค่ะ
ถึงแม้ว่าคุณๆหลายๆคน ที่ไม่รู้ถึงความลำบากนี้ บอกว่าเราขี้อิจฉา มีปมก็ไม่เป็นไรค่ะ
ขอให้รู้ไว้ว่า อยู่เมืองไทยสบายที่สุดแล้วจริงๆ
ถึงกุ้ง
อย่างต้นกระทู้ เราบอกแล้วว่าเราตอบกลับเธอไม่ได้ แล้วฝากข้อความไว้ เผื่อเธอผ่านมาอ่าน
เนื้อความก็อย่างที่เขียนไป
และถ้าคำพูดของเราทำให้กุ้งคิดจะหางานทำขึ้นมาบ้าง เราก็ดีใจ
เอาไว้กุ้งมาอยู่เอง แล้วกุ้งคงสัมผัสได้
สุดท้ายนี้ เราก็อยากขอโทษกุ้งเหมือนกัน
ที่เราทำให้กุ้งเสียใจ เพราะเราเองก็เสียใจไม่น้อย
ส่วนเรา เรายังคงตั้งหน้าตั้งตาหางานทำต่อไป แล้วก็อยากเป็นพนักงานประจำให้ได้ในเร็ววัน
เพราะชีวิตคนเรา มันไม่แน่ไม่นอนจริงๆ
#ฝากถึงคนที่จะไปเที่ยวญี่ปุ่นช่วงนี้นะคะ แถวโอซาก้า ไล่ขึ้นมานาโกย่า แล้วคืนนี้คาดว่าแถวโตเกียว
ตอนนี้เจอพายุกระหน่ำค่ะ ฝนตก ลมแรงมาก ยังไงก็รักษาสุขภาพด้วยนะคะ