มาอยู่อเมริกาได้สักระยะแล้วครับ อยากพัฒนาสกิลการพูดให้ดีกว่านี้ ขอคำแนะนำหน่อยครับ

มาเรียนโทได้สักระยะแล้ว ยังมีปัญหาเรื่องสกิลการพูดอยู่ ขอถามเป็นข้อๆเลยละกันนะครับ ผมเชื่อว่าปัญหานี้ นร ไทยน่าจะประสบกันหลายคน ยิ้ม

1. ผมเคยลองหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตดูเกี่ยวกับเรื่องนี้ เค้าบอกประมาณว่าเนื่องจากว่าวิธีการคิดของเรากับ English Native Speakers มันต่างกัน พวกฝรั่งเค้าจะค่อนข้างโฟกัสกับลำดับเวลา ทำให้เค้าสามารถพูดได้อย่างไม่มีปัญหา - ผมพยายามลองโฟกัสอดีตแล้ว แต่ก็ยังมีหลุดพูด V1 มาได้ 70% เลยครับ (ถ้าคุยกับ นร ต่างชาติด้วยกันเค้าเข้าใจ แต่บางครั้งถ้าคุยกับอเมริกันแท้ๆ เค้าจะค่อนข้างสับสน)

2. ในเรื่องของการตั้งประโยคคำถามเหมือนกันครับ วิธีนี้ผมจะแก้โดยแปะประโยคบอกเล่าไป แล้วจบด้วย ,right? เช่น You are going to the mall, right? <- อันนี้มันเหมือนจะง่ายนะครับ ก็แค่เอา Are ไปไว้ข้างหน้า แต่ในสถานการณ์จริงผมชอบใช้แบบนี้มากกว่า 555

3. เมื่อไหร่ควรใช้ past tense เมื่อไหร่ใช้ present perfect ครับ ผมเข้าใจความแตกต่างระหว่างสอง tense นี้ เพียงแต่ผมอยากให้มันพูดโดยไม่ต้องคิดก่อนอ่ะครับ แบบพอจะถาม หรือพูดก็รู้ได้เลยว่าต้องใช้อันไหน ไม่ใช่มานั่งคิดว่าอันนี้มีผลกระทบถึงปัจจุบันรึเปล่า อะไรแบบนี้ ประมาณว่ามีวิธีปรับระบบความคิดยังไงอ่ะครับ

4. ผมคุยกับคนจีนคนนึงที่มาอยู่ที่นี่ได้สักพักแล้ว (สำเนียง/การพูด นี่ใกล้เคียงอเมริกันเลย) เค้าบอกว่าตอนนี้ตัวเค้าคิดเป็นภาษาอังกฤษไปแล้ว เวลาจะพูดภาษาบ้านเกิด (บางครั้ง)เค้าจะต้องแปลงจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาจีน แต่ไม่เป็นอุปสรรคแต่อย่างใด ผมเลยอยากรู้ครับว่าทำยังไงให้เราสามารถคิดเป็นภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทยได้ มีวิธีต้องฝึกยังไงเหรอครับ


คำถามอาจจะยาวหน่อยนะครับ แต่ผมค่อนข้างเชื่อว่าปัญหาเหล่านี้เด็กไทยทุกคนต้องเจอ ถือซะว่าเป็นคำแนะนำสำหรับ นร ที่กำลังจะมาเรียนที่นี่ด้วยละกันครับ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 8
ปัญหาที่คุณพูดมาข้อต้นๆ น่าจะมาจากเป็นเพราะเรียนแกรมม่ามาไม่แน่นรึเปล่า เลยยังติดการใช้ภาษาแบบศัพท์เบื้องต้น กิริยาช่อง 1 ที่ไม่ต้องเติมหรือตัดหรือเปลี่ยนรูปเลย (หรืออาจเพิ่งมาเรียนได้ไม่นาน) อันนี้เป็นปัญหาที่พบได้ในนักเรียนต่างชาติอยู่แล้ว ใครๆก็เป็น จะแก้ได้น่าจะเป็นพูดให้ช้าลงหน่อย คิดลำดับเรียงเรื่องราวก่อนพูด ในชีวิตประจำวันไม่ได้เน้นใช้ past tense เสมอไป แต่ยังมี present ซึ่งยังแบ่งออกเป็นหมวดหมู่ย่อยๆอีก อย่างเช่น simple past, past perfect... เยอะมาก ขนาดดิฉันใช้อยู่ทุกวันนี้ก็ยังงงๆอยู่เลยว่าจะพูดอันไหนดีบางทีให้มันฟังดูสละสวยที่สุด

เรื่องภาษาเนี่ยต้องใช้เวลา(นาน)และความเคยชินอย่างเดียว การที่เราอ่านหนังสือภาษาอังกฤษ บ่อยๆก็จะช่วยให้เราเห็นถึงลักษณะการใช้ภาษา รวมถึงความหลากหลาย และการพลิกแพลงของประโยค

การตั้งประโยคคำถามของคุณ เป็นการเอาตัวรอดได้ดี เพราะถามแบบนั้นคนตั้งก็ง่าย คนตอบก็เข้าใจง่ายไม่ผิดเพี้ยน แต่ดิฉันก็ยังคิดว่าคงมาจากการรู้ภาษาที่ไม่แน่น ซึ่งก็ไม่แปลกเพราะถ้าประโยคบอกเล่ายังไม่ค่อยรู้ว่าจะใช้ tense ไหน อะไรยังไง จะให้ข้ามไปเป็นประโยคคำถามเลยมันก็ยากเอาการ เพราะประโยคคำถามเกิดจากการย้ายกิริยามาไว้ข้างหน้าประธานและกรรม รวมถึงมีการใช้กิริยาช่วยเข้าช่วยในการประกอบประโยคขึ้นมา

ต้องเข้าใจก่อนว่า past tense มีทั้ง past simple และ past perfect (ก็เหมือนกับ present tense ที่มีทั้ง present simple กับ present perfect)
สมัยก่อนเวลาดิฉันคุยกับเพื่อน มักถามเค้าว่า Did you finish your homework?
แต่พอมาเรื่อยๆ ฟังจากคนอื่นว่าเค้าพูดยังไง เลยเปลี่ยนมาถามว่า Have you finished your homework?
ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ประโยคทั้งสองอัน ใช้ได้ ไม่มีอันไหนผิด
อันแรกหมายความว่า ทำการบ้านเสร็จไปแล้วใช่ไหม
อันที่สอง คือ ทำการบ้านเสร็จรึยัง
ฟังดูมันก็เหมือนๆกัน แต่ถ้าใช้ภาษาไปมากๆ อยู่ไปนานๆ จะเข้าใจเอง อธิบายไม่ถูกจริงๆค่ะ

เมื่อก่อนเวลาจะพูดภาษาอังกฤษ จะเกร็งและคิดมาก เพราะกลัวพูดผิด เลยต้องคิดประโยคที่จะพูดไว้ล่วงหน้านานๆหน่อย
อย่างเช่น ถ้าจะไปคุยกับอาจารย์ ก็ต้องคิดเอาไว้ก่อนว่าเราจะพูดยังไง เริ่มยังไง แล้วถ้าเค้าตอบมาแบบนี้ แล้วเราจะตอบเค้าไปยังไง
คิดเยอะๆก่อนพูด ทำให้ไม่ตะกุกตะกักเวลาพูด เพิ่มความมั่นใจขึ้นนิดนึง
แต่เดี๋ยวนี้ไม่ต้องคิดแล้ว เดินดุ่มๆเข้าไปเลย พอเห็นหน้าคู่สนทนาแล้วค่อยคิด หัวมันจะไปเอง คิดได้เร็วขึ้นค่ะ ถามตอบได้แบบต่อเนื่อง
เคยมีนะที่บางทีคิดคำเป็นภาษาอังกฤษอยู่ในหัว แต่แปลเป็นไทยไม่ออก อธิบายไม่ถูก
แต่สรุปรวมๆแล้วภาษาไทยก็ยังถนัดกว่าอยู่ดี เพราะเอาให้ตายยังไงก็สู้คนที่ใช้ภาษานี้มาตั้งแต่เกิดไม่ได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่