ศาสนาต่างๆ ในโลกมีมากมาย แต่ละศาสนามีเจตนาที่จะช่วยแก้ปัญหามนุษย์ ให้ทุกคนพ้นทุกข์และมีชีวิตอย่างมีความสุข แต่ละคำสอนมีสิ่งที่เหมือนกันและมีสิ่งที่แตกต่างกัน
สิ่งหนึ่งที่คริสตชนยืดถือเป็นหลักข้อเชื่อ และเป็นสิ่งที่ถ่ายทอดให้ลูกหลานสืบทอดเป็นมรดกตลอดมาเป็นเวลามากกว่า 2000 ปี หลักข้อเชื่อดังกล่าวคือ
พระเยซูคริสต์ฟื้นขึ้นจากความตายและยังทรงพระชนม์อยู่ ความเชื่อนี้เป็นจุดที่แตกต่างจากทุกศาสนา อุโมงค์ว่างเปล่าเป็นสัญลักษณ์ที่คริสตชนยืดถือมาตลอด พระองค์ไม่อยู่ในหลุมฝังศพแต่ทรงเป็นขึ้นแล้ว พระองค์ดำรงชีพชั่วนิรันดร์ การฟื้นคืนชีพของพระเยซูคริสต์ไม่เพียงแต่เป็นวันให้ความสำคัญแด่พระเยซูคริสต์เท่านั้น แต่เป็นวันประกาศชัยชนะของคริสตชนด้วย เพราะการฟื้นคืนชีพของพระเยซูคริสต์นำชัยชนะและพระพรมากมายแด่ผู้ที่เชื่อในพระองค์ การฟื้นคืนชีพของพระเยซูคริสต์มีความสำคัญต่อ คริสเตียนอะไรบ้าง
1.
ประกาศความเป็นพระเจ้าของพระเยซูคริสต์ (โรม 1:3-4)
พระเยซูคริสต์ขณะที่ดำรงสภาพมนุษย์ เป็นบุตรมนุษย์ เป็นมนุษย์สมบูรณ์แบบ พระองค์ประสบกับความจำกัด ความหิว ความเจ็บปวด ความทุกข์ และในที่สุดพระองค์ชิมความตาย แต่ความตายกักได้เฉพาะคนบาป แต่พระเยซูคริสต์ปราศจากบาป ฉะนั้นอุโมงค์และเมืองมรณาจะกักขังพระองค์ไว้ไม่ได้ พระองค์ยอมที่จะรับความตายและชิมรสบึงไฟก็เพื่อชดใช้หนี้กรรมของมนุษย์ทั้งปวง พระเยซูตรัสก่อนสิ้นพระชนม์ว่า
“เราสละชีวิตของเรา เพื่อจะรับชีวิตนั้นคืนมาอีก ไม่มีผู้ใดชิงชีวิตไปจากเราได้ แต่เราสละชีวิตด้วยใจสมัครของเราเอง
เรามีสิทธิที่จะสละชีวิตนั้น และมีสิทธิที่จะรับคืนอีก...” (ยอห์น 10:17-18)
โดยเดชแห่งพระวิญญาณ การอัศจรรย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดได้เกิดขึ้น การที่ตายแล้วกลับฟื้นขึ้น วิญญาณของพระเยซูคริสต์กลับสู่กายที่ได้รับการเปลี่ยนแปลงกลายเป็นกายทิพย์ การฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซูคริสต์จึงเป็นการประกาศว่า
“พระองค์ไม่ใช่มนุษย์อย่างคนทั่วไป แต่พระองค์เป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า” หนึ่งในตรีเอกานุภาพ ที่เรียกอีกพระนามหนึ่งว่า
“พระบุตรของพระเจ้า”
2.
ให้ความกล้าหาญและขวัญกำลังใจในการประกาศ (กิจการ 4:2 , 17:32 ; 1 โครินธ์ 15:14-15)
ขณะที่พระเยซูคริสต์ยังอยู่ในอุโมงค์ บรรดาศิษย์ที่รักของพระองค์ทั้งหลายเต็มไปด้วยความกลัว อัครทูตเปโตรปฏิเสธว่าไม่รู้จักพระองค์ก่อนพระองค์ถูกตรึง เมื่อพระองค์วายพระชนม์แน่นอนยิ่งทำให้เปโตรเต็มไปด้วยความกลัว แต่ภายหลังที่เยซูเป็นขึ้นแล้ว พวกเขามีใจกล้าที่จะประกาศตนเองเป็นสาวกของพระเยซูคริสต์ และชักชวนให้ผู้อื่นรับเชื่อด้วย ถ้าพระเยซูคริสต์ไม่ได้ฟื้นคืนชีพจริง คนเหล่านั้นจะไม่กล้าประกาศตัวเองและชักชวนให้ผู้อื่นมาเชื่อในพระเยซูคริสต์แน่นอน ประสบการณ์ในองค์พระเยซูคริสต์ผู้เป็นขึ้นจากความตายจะมีผลอย่างเดียวกันกับคริสตชนทุกวันนี้ คือ ช่วยให้เราไม่อายที่จะประกาศตนเองว่าเป็นคริสเตียน และประกาศชักชวนผู้อื่นด้วยความมั่นใจให้เข้ามาหาพระเยซูคริสต์
3.
ให้ชีวิตชีวา ความสุขสดชื่นแก่คริสตชน (ยอห์น 20:20)
ไม่มีความสุขสดชื่นทางวิญญาณใดเทียบเท่ากับ เมื่อเรามีประสบการณ์กับพระเยซูคริสต์ผู้เป็นขึ้นจากตาย เฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราทราบว่า
การฟื้นคืนพระชนม์ของพระคริสต์ คือ หลักประกันสำคัญที่สุดว่า ผู้ที่เชื่อในพระเยซูคริสต์ได้เป็นผู้ชอบธรรมแน่นอน (โรม 4:24-25, 8:33-34)
ถ้าพระเยซูคริสต์ไม่ได้ฟื้นขึ้นจากความตาย แสดงว่าพระองค์ไม่ได้มีชีวิตปราศจากบาป และคำสอนที่ว่า คนชอบธรรมในที่สุดจะฟื้นคืนชีพอีกนั้นจะไม่เป็นความจริงเลย การฟื้นคืนพระชนม์ช่วยให้เรามีความหวังที่มีชีวิต เราจะฟื้นคืนชีพและรับร่างกายเช่นเดียวกับพระองค์
ขอให้เราเฉลิมฉลองการฟื้นคืนพระชนม์ ยกย่องความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า ความบริสุทธิ์ขององค์พระเยซูคริสต์ ให้ชื่นชมยินดีในหลักประกันความรอดอันยิ่งใหญ่ที่จะมาถึง และให้เราประกาศพระคริสต์ผู้ทรงพระชนม์อยู่ตลอดกาล
โดย : ศจ.ดร.วีรชัย โกแวร์
ขอพระเจ้าอวยพระพรครับ
พระเยซูผู้ทรงพระชนม์
สิ่งหนึ่งที่คริสตชนยืดถือเป็นหลักข้อเชื่อ และเป็นสิ่งที่ถ่ายทอดให้ลูกหลานสืบทอดเป็นมรดกตลอดมาเป็นเวลามากกว่า 2000 ปี หลักข้อเชื่อดังกล่าวคือ พระเยซูคริสต์ฟื้นขึ้นจากความตายและยังทรงพระชนม์อยู่ ความเชื่อนี้เป็นจุดที่แตกต่างจากทุกศาสนา อุโมงค์ว่างเปล่าเป็นสัญลักษณ์ที่คริสตชนยืดถือมาตลอด พระองค์ไม่อยู่ในหลุมฝังศพแต่ทรงเป็นขึ้นแล้ว พระองค์ดำรงชีพชั่วนิรันดร์ การฟื้นคืนชีพของพระเยซูคริสต์ไม่เพียงแต่เป็นวันให้ความสำคัญแด่พระเยซูคริสต์เท่านั้น แต่เป็นวันประกาศชัยชนะของคริสตชนด้วย เพราะการฟื้นคืนชีพของพระเยซูคริสต์นำชัยชนะและพระพรมากมายแด่ผู้ที่เชื่อในพระองค์ การฟื้นคืนชีพของพระเยซูคริสต์มีความสำคัญต่อ คริสเตียนอะไรบ้าง
1. ประกาศความเป็นพระเจ้าของพระเยซูคริสต์ (โรม 1:3-4)
พระเยซูคริสต์ขณะที่ดำรงสภาพมนุษย์ เป็นบุตรมนุษย์ เป็นมนุษย์สมบูรณ์แบบ พระองค์ประสบกับความจำกัด ความหิว ความเจ็บปวด ความทุกข์ และในที่สุดพระองค์ชิมความตาย แต่ความตายกักได้เฉพาะคนบาป แต่พระเยซูคริสต์ปราศจากบาป ฉะนั้นอุโมงค์และเมืองมรณาจะกักขังพระองค์ไว้ไม่ได้ พระองค์ยอมที่จะรับความตายและชิมรสบึงไฟก็เพื่อชดใช้หนี้กรรมของมนุษย์ทั้งปวง พระเยซูตรัสก่อนสิ้นพระชนม์ว่า
“เราสละชีวิตของเรา เพื่อจะรับชีวิตนั้นคืนมาอีก ไม่มีผู้ใดชิงชีวิตไปจากเราได้ แต่เราสละชีวิตด้วยใจสมัครของเราเอง
เรามีสิทธิที่จะสละชีวิตนั้น และมีสิทธิที่จะรับคืนอีก...” (ยอห์น 10:17-18)
โดยเดชแห่งพระวิญญาณ การอัศจรรย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดได้เกิดขึ้น การที่ตายแล้วกลับฟื้นขึ้น วิญญาณของพระเยซูคริสต์กลับสู่กายที่ได้รับการเปลี่ยนแปลงกลายเป็นกายทิพย์ การฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซูคริสต์จึงเป็นการประกาศว่า “พระองค์ไม่ใช่มนุษย์อย่างคนทั่วไป แต่พระองค์เป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า” หนึ่งในตรีเอกานุภาพ ที่เรียกอีกพระนามหนึ่งว่า “พระบุตรของพระเจ้า”
2. ให้ความกล้าหาญและขวัญกำลังใจในการประกาศ (กิจการ 4:2 , 17:32 ; 1 โครินธ์ 15:14-15)
ขณะที่พระเยซูคริสต์ยังอยู่ในอุโมงค์ บรรดาศิษย์ที่รักของพระองค์ทั้งหลายเต็มไปด้วยความกลัว อัครทูตเปโตรปฏิเสธว่าไม่รู้จักพระองค์ก่อนพระองค์ถูกตรึง เมื่อพระองค์วายพระชนม์แน่นอนยิ่งทำให้เปโตรเต็มไปด้วยความกลัว แต่ภายหลังที่เยซูเป็นขึ้นแล้ว พวกเขามีใจกล้าที่จะประกาศตนเองเป็นสาวกของพระเยซูคริสต์ และชักชวนให้ผู้อื่นรับเชื่อด้วย ถ้าพระเยซูคริสต์ไม่ได้ฟื้นคืนชีพจริง คนเหล่านั้นจะไม่กล้าประกาศตัวเองและชักชวนให้ผู้อื่นมาเชื่อในพระเยซูคริสต์แน่นอน ประสบการณ์ในองค์พระเยซูคริสต์ผู้เป็นขึ้นจากความตายจะมีผลอย่างเดียวกันกับคริสตชนทุกวันนี้ คือ ช่วยให้เราไม่อายที่จะประกาศตนเองว่าเป็นคริสเตียน และประกาศชักชวนผู้อื่นด้วยความมั่นใจให้เข้ามาหาพระเยซูคริสต์
3. ให้ชีวิตชีวา ความสุขสดชื่นแก่คริสตชน (ยอห์น 20:20)
ไม่มีความสุขสดชื่นทางวิญญาณใดเทียบเท่ากับ เมื่อเรามีประสบการณ์กับพระเยซูคริสต์ผู้เป็นขึ้นจากตาย เฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราทราบว่า
การฟื้นคืนพระชนม์ของพระคริสต์ คือ หลักประกันสำคัญที่สุดว่า ผู้ที่เชื่อในพระเยซูคริสต์ได้เป็นผู้ชอบธรรมแน่นอน (โรม 4:24-25, 8:33-34)
ถ้าพระเยซูคริสต์ไม่ได้ฟื้นขึ้นจากความตาย แสดงว่าพระองค์ไม่ได้มีชีวิตปราศจากบาป และคำสอนที่ว่า คนชอบธรรมในที่สุดจะฟื้นคืนชีพอีกนั้นจะไม่เป็นความจริงเลย การฟื้นคืนพระชนม์ช่วยให้เรามีความหวังที่มีชีวิต เราจะฟื้นคืนชีพและรับร่างกายเช่นเดียวกับพระองค์
ขอให้เราเฉลิมฉลองการฟื้นคืนพระชนม์ ยกย่องความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า ความบริสุทธิ์ขององค์พระเยซูคริสต์ ให้ชื่นชมยินดีในหลักประกันความรอดอันยิ่งใหญ่ที่จะมาถึง และให้เราประกาศพระคริสต์ผู้ทรงพระชนม์อยู่ตลอดกาล
โดย : ศจ.ดร.วีรชัย โกแวร์
ขอพระเจ้าอวยพระพรครับ