ประมาณสองปีก่อน เราซื้อห้องร้านค้าใต้คอนโดเพื่อให้แม่ขายของชำค่ะ เราอยู่ไกลพ่อแม่เป็นคนดำเนินการซื้อ เป็นการซื้อต่อจากเจ้าของเก่าค่ะ ไม่ใช่โครงการใหม่
มาทราบภายหลังว่า มีกฏของคอนโดระบุไว้ มีใจความว่า ห้องที่เราซื้อต้องเป็นร้านขายยา คือเราไม่ทราบว่าข้อความเป๊ะๆ เป็นอย่างไร ฟังมาจากพ่อแม่อีกที
ที่คอนโดนี้มีมินิมาร์ทเล็กๆ อยู่แล้วค่ะ (ไม่มีแบรนด์) แต่เนื่องจากแม่เราไม่ได้เป็นเภสัชกร จึงขายได้แค่ยาสามัญประจำบ้านเล็กๆ น้อยๆ เท่าที่ กม อนุญาต ต่อมาจึงเพิ่มสินค้าที่ใช้กับร่างกาย เช่น แชมพู ยาสีฟัน เพิ่ม ลูกอม น้ำดื่ม ชาขวด นึกภาพวัตสันขนาดเล็กๆ นะคะ แต่ไม่มีของมึนเมาและบุหรี่ ไม่มีของใช้ในครัว เช่น น้ำมันพืช ไม่มีผงซักฟอก น้ำยาล้างจาน
ที่ผ่านมาพ่อเราก็พยายามไฟท์ในที่ประชุมลูกบ้าน ขอให้แก้ไขกฏนี้ เพราะคิดว่าการอนุญาตให้มีมินิมาร์ทเพียงร้านเดียวถือเป็นการผูกขาดเกินไป (ซึ่งหลายคนก็เห็นด้วยเพราะร้านนั้นขายแพงและอัธยาศัยไม่ดี ส่วนใหญ่คนจึงซื้อของติดมือมาจากร้านหน้าปากซอยค่ะ) แต่ก็ยังแก้กฎไม่ได้
ตอนนี้พ่อเราบอกว่า ร้านมินิมาร์ทนั้นให้ทนายส่งหนังสือมาที่ร้านเรา ให้เลิกขายสินค้าที่ไม่ใช่ยา และจ่ายค่าเสียหายที่ทำให้ร้านของเค้าเสียรายได้บางส่วน (ช่วงหลังๆ ร้านแม่เราขายดีขึ้น เพราะร้านสะอาดและแม่เราบริการลูกค้าดี แต่ก็มีของจำกัด เพราะไม่สามารถเป็นมินิมาร์ทได้เต็มรูปแบบ)
พ่อบอกว่าจะลองปรึกษาทนายดู แต่เราร้อนใจเลยอยากขอความเห็นห้องนี้ดูอีกทาง
1) การที่เราขายสินค้าอื่นนอกจากยา เราทำผิดกฏคอนโดใช่มั้ยคะ อะไรคือคำจำกัดความของคำว่าร้านขายยา?
2) ร้านมินิมาร์ทสามารถขอค่าชดเชยรายได้ที่เค้าเสียไปได้มั้ย จะพิสูจน์ได้อย่างไรว่าเค้าเสียรายได้ไปเท่าไหร่?
3) เราสงสัยว่าพวกกฏต่างๆ ของพวกคอนโด ถ้าพิสูจน์แล้วว่าไม่เป็นผลดีกับผู้อาศัย จะสามารถเปลี่ยนแปลงได้มั้ย โดยทางใดบ้างคะ?
4) ที่หน้าร้านเรามีตู้เอทีเอ็มด้วยค่ะ พ่อเราเป็นคนดำเนินการขอตั้งเอง ถ้าอย่างนี้ ถือว่าเป็นธุรกิจที่นอกเหนือจากร้านขายยามั้ยคะ (แต่ในจดหมายที่ได้รับไม่ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ เราแค่สงสัย)
ปล เราอยู่ไกล ไม่ได้อ่านเอกสารต่างๆ ด้วยตัวเอง เลยให้ข้อมูลคร่าวๆ ก่อนนะคะ
เพิ่ม ข้อ 4) ค่ะ เพิ่งนึกออก
แก้อพาร์ตเมนท์ เป็นคอนโดค่ะ
ได้รับจดหมายเตือนจากผู้ทำธุรกิจในคอนโด แจ้งว่าทำผิดกฏของคอนโด สั่งให้จ่ายค่าชดเชย
มาทราบภายหลังว่า มีกฏของคอนโดระบุไว้ มีใจความว่า ห้องที่เราซื้อต้องเป็นร้านขายยา คือเราไม่ทราบว่าข้อความเป๊ะๆ เป็นอย่างไร ฟังมาจากพ่อแม่อีกที
ที่คอนโดนี้มีมินิมาร์ทเล็กๆ อยู่แล้วค่ะ (ไม่มีแบรนด์) แต่เนื่องจากแม่เราไม่ได้เป็นเภสัชกร จึงขายได้แค่ยาสามัญประจำบ้านเล็กๆ น้อยๆ เท่าที่ กม อนุญาต ต่อมาจึงเพิ่มสินค้าที่ใช้กับร่างกาย เช่น แชมพู ยาสีฟัน เพิ่ม ลูกอม น้ำดื่ม ชาขวด นึกภาพวัตสันขนาดเล็กๆ นะคะ แต่ไม่มีของมึนเมาและบุหรี่ ไม่มีของใช้ในครัว เช่น น้ำมันพืช ไม่มีผงซักฟอก น้ำยาล้างจาน
ที่ผ่านมาพ่อเราก็พยายามไฟท์ในที่ประชุมลูกบ้าน ขอให้แก้ไขกฏนี้ เพราะคิดว่าการอนุญาตให้มีมินิมาร์ทเพียงร้านเดียวถือเป็นการผูกขาดเกินไป (ซึ่งหลายคนก็เห็นด้วยเพราะร้านนั้นขายแพงและอัธยาศัยไม่ดี ส่วนใหญ่คนจึงซื้อของติดมือมาจากร้านหน้าปากซอยค่ะ) แต่ก็ยังแก้กฎไม่ได้
ตอนนี้พ่อเราบอกว่า ร้านมินิมาร์ทนั้นให้ทนายส่งหนังสือมาที่ร้านเรา ให้เลิกขายสินค้าที่ไม่ใช่ยา และจ่ายค่าเสียหายที่ทำให้ร้านของเค้าเสียรายได้บางส่วน (ช่วงหลังๆ ร้านแม่เราขายดีขึ้น เพราะร้านสะอาดและแม่เราบริการลูกค้าดี แต่ก็มีของจำกัด เพราะไม่สามารถเป็นมินิมาร์ทได้เต็มรูปแบบ)
พ่อบอกว่าจะลองปรึกษาทนายดู แต่เราร้อนใจเลยอยากขอความเห็นห้องนี้ดูอีกทาง
1) การที่เราขายสินค้าอื่นนอกจากยา เราทำผิดกฏคอนโดใช่มั้ยคะ อะไรคือคำจำกัดความของคำว่าร้านขายยา?
2) ร้านมินิมาร์ทสามารถขอค่าชดเชยรายได้ที่เค้าเสียไปได้มั้ย จะพิสูจน์ได้อย่างไรว่าเค้าเสียรายได้ไปเท่าไหร่?
3) เราสงสัยว่าพวกกฏต่างๆ ของพวกคอนโด ถ้าพิสูจน์แล้วว่าไม่เป็นผลดีกับผู้อาศัย จะสามารถเปลี่ยนแปลงได้มั้ย โดยทางใดบ้างคะ?
4) ที่หน้าร้านเรามีตู้เอทีเอ็มด้วยค่ะ พ่อเราเป็นคนดำเนินการขอตั้งเอง ถ้าอย่างนี้ ถือว่าเป็นธุรกิจที่นอกเหนือจากร้านขายยามั้ยคะ (แต่ในจดหมายที่ได้รับไม่ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ เราแค่สงสัย)
ปล เราอยู่ไกล ไม่ได้อ่านเอกสารต่างๆ ด้วยตัวเอง เลยให้ข้อมูลคร่าวๆ ก่อนนะคะ
เพิ่ม ข้อ 4) ค่ะ เพิ่งนึกออก
แก้อพาร์ตเมนท์ เป็นคอนโดค่ะ