มีเพื่อนบ้านเป็นคนสติไม่ค่อยดีแก้ไขยังไงดีค่ะ

บ้านที่ดิฉันอยู่ปัจจุบันอยู่มานานเป็น20-30ปีแล้วตั้งแต่รุ่นคุณปู่เป็นตึกแถวย่านการค้าซึ่งบ้านดิฉันอยู่ติดถนนใหญ่
ส่วนบ้านคู่กรณีอยู่ในซอย  แต่หลังบ้านติดกัน

โดยที่ภายในบ้านดิฉันมีกันอยู่ 5 คน และอีก2คนไปๆมาๆ  เพราะต้องดูแลไร่ที่ ตจว.
และบ้านคู่กรณี มีกันอยู่ 9 คน ประมาณ 3ครอบครัว โดยมี พี่สาว2คน  ครอบครัวน้องชาย5คน และอีก2คนไม่ทราบ (เพราะพี่สาวไม่ได้แจกแจงให้ฟัง)

เหตุเกิดเพราะน้องชาย (ซึ่งพี่สาวได้ยื่นยันแล้วว่าเป็นคนสติไม่ค่อยดีและได้มีการรักษาตัวที่โรงพยาบาลอยู่ แต่เรียนจบกฎหมาย ตอนเรียนไม่เป็น  มาเป็นตอนเริ่มทำงานแล้ว และช่วงหลังๆไม่ได้ไปหาหมอค่ะ) ไปแจ้งทางเขตว่า เวลาบ้านดิฉันทำอาหาร  ควันจากบ้านดิฉันได้เข้าบ้านเค้า  และต้องการให้ทางเขตมาจัดการให้บ้านดิฉันทำการแก้ไข  ซึ่งทางเขตได้มาดูบ้านดิฉันและบ้านคู่กรณีตั้งแต่ปีที่แล้ว  ดิฉันยอมรับว่าทำอาหารจริง และปล่องบ้านดิฉันตรงกับประตูทางชั้น3ของเค้าจริง  แต่บ้านดิฉันไม่ได้ทำอาหารบ่อยหรือไม่ใช่บ้านดิฉันทำอาหารบ้านเดียว  ซึ่งบ้านอื่นก็ทำเหมือนกัน  อยู่ดีๆจะมาให้บ้านดิฉันปิดปล่องควันทิ้งเลย  หรือต้องต่อปล่องควันขึ้นไปอีก(ซึ่งกำลังเครื่องดูควันบ้านฉันคงจะดูดและปล่อยไม่ไหวแน่ๆ) และเมื่อต่อปล่องควันขึ้นไปก็ต้องเสี่ยงกับลมพัดปล่องควันล้มไปโดนบ้านคนอื่นอีก  คงทำไม่ได้  แต่อยู่ในขั้นตอนปรึกษากับทางเขตอยู่  และหลังจากนั้นก็ไม่ค่อยได้ทำกับข้าวค่ะ  ส่วนใหญ่ซื้อกิน ไหว้เจ้า หรือว่าต้มๆ เจียวไข่เล็กๆน้อยๆ แบบว่ากับข้าวกินง่ายๆ อันนี้ก็ต้องเปิดแหละค่ะ อันนี้คือเหตุการณ์ที่ 1 นะค่ะ

เหตุการณ์ที่2  น้องชายคนเดิมไปแจ้งกรมโยธาว่าทางหลังบ้านดิฉันและทุกๆบ้านในระแวกนี้ไม่มีทางหนีไฟ  ซึ่งรู้อยู่แก่ใจว่ามันจะต้องมี  ตั้งแต่ดิฉันเกิดมา29ปี  มันก็ไม่มีมาอยู่แล้ว  และไม่มีตั้งกะรุ่นอากงอาม่าแล้ว  เพราะทุกบ้านได้ปรึกษากันว่าปิดเพื่อป้องกันขโมย  สมัยก่อนไม่มีกล้องวงจรปิดนะค่ะ  ต้องช่วยกันดูแลเอง  และครอบครัวน้องชายพึ่งย้ายมาจาก ตจว. (ไม่แน่ใจว่ากี่ปี) และก็เกิดเรื่องขึ้น  หลังจากทางเขตส่งคนมาดูไม่กี่เดือน  กรมโยธาก็ส่งคนมาดูทุกบ้านและพบว่าไม่มีทางหนีไฟจริง แต่ทุกบ้านก็ไม่มีใครเดือดร้อน รวมไปถึงได้มีการนัดตัวแทนทุกบ้านไกล่เกลี่ยที่เขตเรียบร้อย  แต่วันนั้นทางบ้านคู่กรณีไม่ได้ไป  ซึ่งลงความเห็นว่าหากต้องทุบจริงๆ  ก็ให้บ้านต้นเหตุทุบก่อน และบ้านอื่นๆจะทุบตาม (ยังไงก็ต้องทำให้ถูกต้องอะเนอะ  แต่ในเมื่ออยู่30ปีกว่าแล้วไม่มีอะไรจะทุบทำไม)

เหตุการณ์ที่3  สดๆวันนี้เลยค่ะ จนท.เขตชุดเดิม มาที่บ้านดิฉันอีกแล้ว  บอกว่าควันมันรบกวนเค้า  ซึ่งดิฉันก็ได้เล่าเรื่องจะต้องทุบหลังบ้านให้ฟัง  ถ้าหากดิฉันจะต้องต่อเติมปล่องควัน แล้วต่อมาดิฉันก็ต้องทุบมันทิ้ง  ดิฉันจะทำยังไง  และได้เรียกพี่สาวคู่กรณีมาคุย  พี่สาวบอกว่าควันบ้านดิฉันไม่ได้เข้าบ้านเค้า  ถึงเข้าก็เป็นส่วนน้อยเพราะไม่ใช่บ้านดิฉันทำอาหารบ้านเดียว  เพียงแค่ห้องของครอบครัวคู่กรณีอยู่ชั้น4 ปล่องควันอยู่ชั้น3 และเค้าก็เลยพาลไปฟ้องที่เขต  ซึ่งตัวพี่สาวที่เป็นเจ้าของบ้านก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยเลย  และตัวน้องชายก็ว่างงาน ไปนั่งเฝ้าที่เขตบ่อยจนทางเขตรู้จักเป็นอย่างดี ไม่ใช่เฉพาะทางเขตเท่านั้น  ทางสน. เทศกิจ รู้ถึงกิตติศัพท์เป็นอย่างดีด้วย  

บ้านดิฉันไม่กลัวที่จะต้องทุบ ไม่กลัวที่จะต้องขึ้นโรงขึ้นศาล  แต่กลัวว่าเค้าจะจุดไฟเผาบ้านค่ะ(เคยมีประวัติมาแล้ว) และคนในบ้านดิฉันเคยได้ยินน้องชายทะเลาะกับเมียเค้าโยนของงแตกเสียงดังมาแล้ว  ไม่อยากมีเรื่องกับเค้า  แต่เค้ามาระรานก่อน  ซึ่งถ้าพี่สาวเค้าหรือคนระแวกนั้นลงความเห็นว่าควันบ้านดิฉันไปทำให้หลายๆบ้านเดือดร้อน  ดิฉันจะยอมแก้ไขแต่โดยดี แต่นี้เป็นคนไม่ปกติมาแจ้ง และพี่สาวซึ่งปกติดีค้าขายมานานได้บอกว่าไม่ได้รบกวนอะไรเค้าเลย ดิฉันก็ไม่รู้ว่าจะต้องแก้ไขยังไงดีแล้วอะค่ะ

ล่าสุดได้ข่าวว่ามีหมายส่งมาบ้านคู่กรณีให้น้องชายออกจากบ้านนี้ก็ไม่เห็นจะออกอะไร  คนระแวกนี้เค้ากลัวกันหมดแล้วค่ะ  ครอบครัวดิฉันไม่รู้จักกฎหมายอะไร ถ้ามันจะต้องทำให้คนอื่นเดือดร้อนเราก็พร้อมจะแก้ไข  แต่ ณ ตอนนี้เราไม่รู้ว่าควรจะแก้ไขยังไงดีแล้วค่ะ  จนท.ทางเขตเค้าก็รับเรื่องจัดการควันอย่างเดียว  แต่เรื่องจัดการควันกับเรื่องทุบหลังบ้านมันเกี่ยวโยงกันอยู่ บ้านดิฉันก็รอให้บ้านเค้าเริ่มทุบอยู่ มันต้องมีค่าใช้จ่าย และน้องชายก็ไม่ได้เป็นเจ้าบ้าน  เรื่องทุบเจ้าบ้านต้องยินยอมด้วย  ก็เลยคาราคาซัง

คำถามค่ะ
1.  บ้านดิฉันก็ต้องทำอาหารบ้างจะให้มาปิดปล่องควันก็ไม่ได้ บิ้วอินหมด จะให้เอามือเอื้อมไปทำความสะอาดก็ไม่ได้มันได้แค่ขอบๆเท่านั้น จะให้ซื้อกินตลอดก็ไม่ไหว
2.  ไม่อยากให้เค้าอยู่ที่นี่เลยอะค่ะ  กลัวใจเค้า  เกิดนึกอยากจะเผาบ้านเมื่อไหร่ก็ไม่รู้  ขนาดพี่สาวเค้าเองยังเอาไม่อยู่เลยค่ะ
3.  เค้าเป็นคนไม่ปกติ  แล้วทางเขตทางโยธาสามารถรับเรื่องได้ด้วยหรอค่ะ  
4.  เนื่องจากพี่สาวไม่สามารถขอใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลเจ้าพระยาได้  และเมียก็ไม่ยอมไปขอ(เข้าข้างผัวนั้นเอง) จะสามารถแก้ไขตรงจุดนี้ยังไงดีค่ะ

อันนี้คือแอบเม้านะค่ะ  พี่สาวเล่าให้ฟังว่าเมื่อก่อนที่ไปพบหมอ หมอจิตแพทย์ก็จะถามญาติว่าผู้ป่วยเป็นยังไงบ้าง  น้องชายบอกหมอว่าทำไมไม่ถามเค้าซึ่งเป็นผู้ป่วย  ไปถามญาติทำไม ผมจะฟ้องคุณหมอฐานปฏิบัติหน้าที่ไม่ถูกต้อง  หมอเงิบค่ะ
ขอบคุณที่ให้คำแนะนำอย่างสูงเลยค่ะ
-------------------------------------------------------------------
เพิ่มเติม คห.5-6 ขออนุญาตมาแปะนี้เลยนะค่ะ
เข้าใจค่ะ  ยอมรับว่าทำผิดจริงๆ  ซึ่งผิดมานานแล้วด้วย  แต่มันก็แทบจะไม่มีปัญหาอะไรเลยค่ะ  เพื่อนบ้านรอบข้างน่ารักมาก
เพียงแค่ถ้าหากว่าเราต่อปล่องขึ้นไปอีกก็จะไม่พ้นบ้านเค้าอยู่ดีค่ะ
บ้านเรา4ชั้น  บ้านเค้า6ชั้น  และบังเอิญชั้น3ที่มีปล่องเนี้ยทุกบ้านไม่ได้ต่อเติม และมีปล่องทุกบ้าน ก็จะเป็นทางโล่งๆค่ะ มองเห็นทุกบ้าน แล้วแต่บ้านใครจะต่อกำแพง

สมมุติถ้าเราต้องต่อปล่องให้เลยบ้านเค้าซึ่งคือต้องพ้น6ชั้น  และเวลาลมตีปล่องเราหักไปโดนบ้านเค้า  เราก็ต้องรับผิดชอบ  เราเข้าใจค่ะเมื่อปีที่แล้วได้ทำการคุยกับทางเขตแล้วว่าจะทำยังไงดี  ก็ข้อสรุปเบื้องต้นว่าให้เอาปล่องอ้อมลงน้ำแทน  ซึ่งเราก็ให้บอกทางเขตว่า  ทางเขตสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อจะซ่อมแซมตรงจุดนี้ได้มั้ย  ทางเขตก็รับปากให้เรียบร้อย  และจะไปหาทางออกแบบแก้ไขให้ (เพราะฉะนั้นมันคือเรากำลังดำเนินการใช่มั้ยค่ะ)

หลังจากนั้นไม่กี่เดือนก็มี จนท.โยธามาคุย  ว่าจะต้องทำการทุบหลังบ้านทิ้ง  เราก็อ่าวนี้ไม่ได้เป็นเรื่องของเรากับเค้าแล้ว เป็นเรื่องของทั้งระแวกเลยค่ะ  แล้วเรื่องก็ไปถึงโยธาแล้ว  ซึ่งทาง จนท.ก็บอกว่า  เพราะเรื่องขึ้นไปสูงแล้วเลยจะห้ามก็ไม่ได้  เราก็อ่าวถ้างั้นไหนๆจะต้องทุบแล้วเราต้องต่อปล่องด้วยหรอ (อันนี้คงเข้าใจนะค่ะ ในเมื่อจะทุบตรงปล่องชั้น3 ลงมาข้างล่างเลยเพราะฉะนั้นเราก็รอทุบแล้วค่อยทำปล่องใหม่อะค่ะ)  ทีนี้บ้านอื่นๆก็ไม่อยากทุบเพราะต้องเสียค่าใช้จ่าย  แถมเป็นการเปิดช่องทางให้ใครก็ไม่รู้เดินผ่านหลังบ้านได้ตลอดเวลา  แต่ถ้าจะต้องทำ  ก็นัดกันทำพร้อมๆกันไปเลยจะได้เสียงดังทีเดียว  และได้ให้บ้านคู่กรณีดำเนินเรื่องเรียกช่างมาเริ่มก่อนเลย  (แบบว่าจะได้โดนใจและจะได้ไม่ต้องมาผิดทีหลังอีก  ก็มีเค้าที่รู้กฎหมายอะค่ะ  เราไม่รู้กฎหมายอะไรก็ได้แต่รอ ว่าเค้าจะเริ่มยังไง)

จะเรียกว่าข้ออ้างเพียบมั้ยมันก็เพียบอะค่ะ  แต่เราคิดว่าเราพยายามแก้ปัญหาแรกแล้ว  และมีปัญหาที่2ตามมาในเวลาที่ติดกันเลย มันเลยคาบเกี่ยวกันอยู่อะค่ะ  เราเลยมาถามว่าถ้าเราทำปล่องขึ้นไปแล้วเราก็ต้องมาทุบมันไปอีกซึ่งเราไม่รู้เลยว่าเมื่อไหร่  ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น ณ ตอนนี้(สำหรับปล่อง)และอนาคต(สำหรับทุบ)หล่ะ  แบบนี้จะเรียกว่าอ้างก็ได้ค่ะ

ยังไงก็ขอบคุณมากๆเลยค่ะ  อันนี้คือมาชี้แจงนิดนึงอะค่ะ  เพราะเค้าอ้างกฎหมายโน่นนี่  เราก็คิดว่าในทางกฎหมายเนี้ย จะมีการอะลุ่มอลวยให้เราได้ทางไหนได้บ้างอะค่ะ
แก้ไข** ปล่องไม่ได้ใหญ่นะค่ะ ประมาณ3มือโอบ อะค่ะ

คือถ้าจะเอาให้เป๊ะๆเลยเนี้ย  นอกจากทุบหลังบ้านทั้งหมดนี้  ตามพิมพ์เขียวเค้าสามารถสร้างได้เต็มที่ 3-4ชั้นเองค่ะ  บ้านเค้ามีถึง6ชั้นก็ผิดแล้ว
บ้านอื่นก็ 4-6ชั้น และไม่ใช่ระแวกเราระแวกเดียว มันทั้งหมดเลยฝั่งตรงข้าม โห แบบว่าเยอะเลยค่ะ  ย่านการค้าด้วยจะให้แก้ทั้งหมดเนี้ยเป็นไปไม่ได้เลยค่ะ  T^T  เท่าที่เราเข้าใจอยู่ด้วยกันสงบๆและทอยทีทอยอาศัยกัน  มันก็น่าจะเพียงพอแล้ว

โอเคถ้าจะบอกว่าไม่งั้นเค้าจะมีกฎหมายไว้ทำไม  เราจึงอยากมาถามอะค่ะ ว่าในทางกฎหมายแล้วเราจะมีทางออกที่เค้ารับได้ เรารับได้ มั้ยค่ะ
และตอนนี้ถามคนในระแวกเค้าก็ว่าน้องชายพาลไปโดนพวกเค้า  เหตุเพราะปล่องของเรา  เราก็รู้สึกผิดมากแล้วค่ะ
----------------------------------------------------------------------------------
เพิ่มเติมจุดปล่องค่ะ
จุดสี่เหลี่ยมดำๆคือหน้าต่างบ้านเราค่ะ  และตรงกลางทั้งแถบคือจุดที่จะต้องทุบค่ะ  นี้คือชั้น3นะค่ะ  เราไม่รู้ว่าจะทุบเมื่อไหร่ และเราก็ไม่รู้ว่าจะทำปล่องเพิ่มทำไมในเมื่อมันต้องทุบ(จะว่าเห็นแก่ตัวก็ได้ค่ะ เงินๆทองๆอะเนอะ)

เพิ่มเติมชั้น2-3ค่ะ สีเทาคือจุดที่ต้องทุบค่ะ วงกลมดำคือปล่อง สี่เหลี่ยมดำคือหน้าต่าง  
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่