ขอบคุณ ( Thank you )

กระทู้สนทนา
ขอบคุณ    (  Thank you   )  
                                                           อนัตดา  พุทธิกุล

ช่วงบ่าย …  ก่อนจะลงมือเตรียมอาหารมื้อเย็น  ให้สุดที่รัก    ฉันจะมีเวลา ช่วงสั้นๆ  เป็นของตัวเอง  
และเวลาส่วนใหญ่ที่ว่า  จะหมดไปกับการเขียน  เรื่องสั้น    และนิยาย  ที่เขียนมาแต่ปีมะโว้   แต่ยังไม่จบสักที
วันนี้ก็เช่นกัน    ฉันมานั่งแปะที่หน้าคอมพ์     แก้ไขเรื่องสั้นเรื่องล่าสุด    ที่เพิ่งจะเขียนจบไปหมาดๆ  

เริ่มต้น  ยังไม่จูงใจ
เนื้อเรื่องไม่ใช่
ลงท้าย  มันควรจะดีกว่านี้

นั่งคิดอยู่เป็นนานสองนาน   แต่คิดยังไง ก็คิดไม่ออก    เกิดอาการ     Writer’s Block    
จะเอาแน่อะไรกับ  สมองคน  
ที่เปิดๆ ปิดๆ     ราวกับ สวิทช์ไฟ

บทมันจะ ทำงาน   ยังไม่ทันจะหย่อนตัวลงนั่ง    วลีงามงด    ถ้อยคำหมดจด     พากันเดินแถวตบเท้าพรึบพรับมาในอากาศ
แค่เอื้อมมือไปคว้ามัน   ทีละคำ  สองคำ   เดี๋ยวเดียวเท่านั้น    เขียนได้เป็นหน้าๆ
แต่อนิจจา
บทมันจะ  ติดขัดขึ้นมา    
ต่อให้เอาสวิงไปช้อน  หรือตัก  ให้ตาย   ยังไง๊ยังไง  ก็ไม่ได้อยู่ดี  

ทุกปัญหา  มีทางแก้  
ขอให้เกิดอาการดังกล่าวขึ้นมาคราวใด     ฉันจะหาทางออกให้กับตัวเอง   ง่ายๆแบบฉัน  
ดูหนัง    ฟังเพลง   บางทีคลื้มใจมากๆ   ก็วาดรูป วิว  รูปสัตว์   ไปตามเรื่อง
และวันนี้  ให้นึกอยากวาดรูป  ขึ้นมาตะหงิดๆ    วาดเล่นๆไปอย่างนั้น    ไม่ได้กะเอาไปโชว์ ที่หอศิล์ป    หรือพิพิธภัณฑ์  
คิดสมอารมณ์หมาย  จัดแจงเปิดลิ้นชัก   หาดินสอ  กับ  สมุดสเก็ต   แต่พอเปิดลิ้นชัก  ดันเห็น  จดหมายฉบับนั้น

จดหมายใคร  ?
คำถามนั้น    ทำให้ความสนใจในเรื่องวาดรูปหมดไป   ยกซองจดหมายสีขาวเล็กๆ   ส่องตรงหน้า   หน้าซอง ไม่มี ชื่อ  และ  ที่อยู่     ทั้งของผู้ส่ง   และผู้รับ    เพียงแต่จ่าหน้าซองสั้นๆ  ถึงเรา
Mr. & Mrs . ….

ความอยากรู้ ก็เลยเปิดมันออกดู    พอเห็นรูป เด็กชายในเครื่องแบบลูกเสือ    (Boy Scouts   )   ยืนจับกลุ่มยิ้มแฉ่งกับเพื่อนๆ   ที่แนบมากับจดหมาย     ก็ยิ้มแป้น
นึกว่าจดหมายของใคร    ที่แท้ก็เป็นจดหมายของเด็กคนนั้นนั่นเอง  
ไม่ได้การ เรื่องน่ารักๆอย่างนี้    เก็บเอาไว้คนเดียวไม่ได้   เห็นทีต้อง เล่าสู่กันฟัง

เรื่องมันมีอยู่อย่างนี้ค่ะ  
เมื่อปลายปีที่แล้ว    เพื่อนของแฟน  ที่เคยทำงานร่วมกัน   ส่งเมทเซท  มาหา   บอกว่า  ลูกชายของเขา ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มลูกเสือ  Boy scouts of America   จะไปเข้าค่ายฤดูร้อน  แต่มีเพื่อนในกลุ่มของลูก  อยากไป   แต่ทางบ้านยากจน  ไปไม่ได้   ต้องการความช่วยเหลือ
เพื่อนก็เลยถามแฟน    คุณอยากจะเป็น สปอนเซอร์ ให้เด็กคนนี้ไหม  ค่าใช้จ่าย  ต่อหนึ่งคน  ตกประมาณ….
แฟนรู้ความ   ก็ไม่รอช้า  หยิบสมุดเช็คออกมา  เขียนเช็คให้ทันที

แต่ด้วยภาระกิจที่รัดตัว    เราจึงลืมเรื่องนี้ไปสนิท  กระทั่งเมื่อต้นปีที่ผ่านมา    เราได้รับจดหมาย จากเด็กคนที่เราส่งเงินไปให้  
เด็กชายคนนั้น   เขียนมา ไม่กี่บรรทัด  แค่จะบอกเราว่า  
“  ขอบคุณ  “

เราสองคนอ่านจดหมายของเขา  ก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่    ไม่คิดว่าเขาจะใส่ใจ    ที่ไหนได้   เขายังนึกถึง   มิตรจิต    ที่เราสองคน  หยิบยื่นให้กับเขา
น่าชื่นใจอะไรเช่นนี้

และนี่ คือใจความไม่กี่บรรทัด  ในจดหมายของเด็กคนนั้น ที่เขียนถึงเราสองคน

Dear Mr. ….    Jan  24  2013
Hi my name is …….or  .
Thank you  for sending  me to Summer camp. Summer camp  for me is like me    Being mater in  my early next chapter  in life.
I learn something  about summer camp.  I know  how to clean and shoot a 22 caliber rifle.
Thank you again for Summer camp and God will bless you.
From : ….

คุณ…ที่รัก     ยี่สิบสี่ มกรา  สองพันสิบสาม
ผมชื่อ  .. จะเรียกผมว่า  …ก็ได้
ขอบคุณ นะครับ   ที่ส่งผม  ไปเข้าค่ายฤดูร้อน   การได้ไปที่นั่น    ทำให้ผม   ได้เรียนรู้  อีกหนึ่งบทของชีวิต   ในค่าย  ฤดูร้อน   รู้วิธีการทำความสะอาดและยิงลำกล้องของปืนไรเฟิล 22
ขอบคุณอีกครั้งสำหรับค่ายฤดูร้อน   และขอให้พระเจ้า จงคุ้มครองคุณ
จาก: ....

นั่นคือความในใจของเด็กคนนั้น     ที่ต้องการบอกเราสองคน  
ฉันเองไม่ได้ตอบจดหมายเขา      เพราะมัวแต่ยุ่งๆ  จนเรื่องผ่านมาเนิ่นนาน
แต่ฉันก็คิดเสมอมา  
หากวันหนึ่ง  ได้พบเขา  ฉันกับแฟน    อยากจะบอกกับเขาอย่างนี้

เราให้    โดยไม่ได้หวังผลอะไรตอบแทน
แต่ดีใจ และซึ้งใจ   ที่รับจดหมาย จากเขา   ที่เขียนมา  ขอบคุณ เรา  

ไม่มีใคร  ล่วงรู้อนาคต  
ไม่แน่   วันหนึ่งข้างหน้า   เขาอาจจะเป็นหมอ  
ทนาย    
เป็นคนสำคัญ   ที่เปลี่ยนแปลงโลก ในทศวรรษใหม่
หรืออาจจะเป็นเพียงแค่  คนหาเช้ากินค่ำ  ธรรมดาๆ

แต่สำหรับเรา  
ยังไง  เขาก็คือ   เด็กชายคนที่ยิ้มสรวล  กับเพื่อนๆ ในรูปหมู่ ที่เขาถ่ายร่วมกัน
ซึ่งเราแน่ใจเหลือเกินว่า
ในช่วงเวลานั้น… เขาเป็นเด็กชาย     คนที่มีความสุขที่สุด  
และเราเอง  ก็แสนจะภูมิใจ และดีใจ   ที่มีส่วน   ทำให้เขา  ยิ้มออก     และมีความสุขในวันนั้น  



เก็บตก …โดย  ขนมเข่ง   (  ขู่แข่งกะลาแมร์ )

หลายวันก่อน  ไปยิม  ..
คลาสเรียน ซุมบ้า  เริ่ม เก้าโมงสิบนาที   แต่เราไปช้าห้านาที  เพราะมัวรบกับ หมาที่บ้าน  จะใคร  ถ้าไม่ใช่  เจ้า  ทิงเจอร์ไอโอดีน เอ๊ย   ทริกเกอร์  
เราเดินเข้าไปในคลาส    ตาทั้งสองก็สอดส่าย  หาที่ว่าง  สมาชิกหนาตาก็จริง  แต่ก็ยังพอมีที่เหลือ   ถ้าเขาขยับให้
หลายคนมองเราผ่านๆ   ไม่สนใจ   แต่น้องผิวคล้ำที่ยืนอยู่ริมทาง    ขยับ .. พร้อมกับยิ้มให้เรา
เรารอจนเพลงจบ   ก็ยื่นมือไปแตะบ่าน้อง  บอกยิ้มๆ   “ขอบคุณ  นะ  ”
  เขายิ้มตอบกลับมา   แต่ไม่ว่าอะไร
วันนั้น เราเต้นซุมบ้า อย่างมีความสุข   เพราะซาบซึ้ง น้ำใจน้องเขา
โลกเราจะน่าอยู่กว่านี้    ถ้ามีคน นิสัยโอบอ้อม   น่ารัก อย่างน้อง .
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  แต่งเรื่องสั้น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่