ส.ว.เลือกตั้งสุดฉุน! ซัด ปชป."ปากประชาธิปไตย ใจเผด็จการ"...โห แม้แต่ ส.ว.เลือกตั้งก็เหลืออดกับพฤติกรรมหน้าไหว้หลังหลอก

ส.ว.เลือกตั้งสุดฉุน! โดน ส.ส.ปชป.พาดพิง ประท้วงถอนคำพูด


ส.ว.เลือกตั้งสุดฉุน! ลุกประท้วงวุ่น ซัด "ปากประชาธิปไตย ใจเผด็จการ" หลังโดน ส.ส.ปชป.อภิปรายฯ พาดพิง ห่วงให้เลือกตั้งทั้งหมดเกรงไม่มีความเป็นกลาง...

วันที่ 22 ส.ค. ที่ประชุมร่วมรัฐสภา ยังคงอภิปรายร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ประเด็นที่มา ส.ว. มาตรา 3 ว่าด้วยที่มาและจำนวน ส.ว.จากการเลือกตั้ง 200 คน โดยนายประสงค์ นุรักษ์ ส.ว.สรรหา อภิปรายไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขให้ ส.ว.มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด เพราะจะทำให้เกิดปัญหาในเรื่องของการใช้อำนาจ พร้อมยืนยันการมี ส.ว.สรรหา ไม่ได้เป็นการทำลายระบอบประชาธิปไตย เนื่องจาก ส.ว.สรรหา มาจากการเลือกตั้งทางอ้อม ผ่านองค์กรวิชาชีพต่างๆ ซึ่งคณะกรรมการล้วนเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ ที่มีความน่าเชื่อถือ จึงเห็นว่าควรมี ส.ว.ทั้ง 2 ระบบควบคู่กัน เพื่อให้สังคมเดินหน้าตามระบอบประชาธิปไตย

ด้านนายธนา ชีระวินิจ ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายตัดมาตรา 3 ทั้งมาตรา เพราะไม่เห็นด้วยที่ให้วุฒิสภา มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด เพราะจะไม่เหลือความเป็นกลาง ในการทำหน้าที่อีกต่อไป หาก ส.ว.ที่ได้รับเลือก มาจากคนที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าส่วนรวม การทำหน้าที่ก็จะยึดผลประโยชน์ตนเองเป็นหลัก การแต่งตั้งผู้ซึ่งทำหน้าที่ในองค์กรอิสระก็จะไม่ได้คนดี การทำงานถูกครอบงำ

ดังนั้น การเลือกตั้งไม่ใช่คำตอบสุดท้าย แต่ต้องดูเป็นกรณี การตัดข้อจำกัดของนักการเมืองทั้งหมดในร่างกฎหมายฉบับนี้ ส่งผลให้คนดี คนมีความสามารถ ไม่สามารถผ่านการเลือกตั้งเข้ามาได้ เพราะไม่ใช่คนของฝ่ายการเมือง นอกจากนี้ การแก้ไขให้ ส.ว.ดำรงตำแหน่งโดยไม่จำกัด ส่งผลให้สุ่มเสี่ยงในการยึดติดอำนาจและต้องการกลับมาเป็นอีกครั้ง ท้ายที่สุดก็หนีไม่พ้นในการไปพึ่งพิงพรรคการเมืองให้สนับสนุนเพื่อชนะการเลือกตั้ง จึงไม่สมควรที่วุฒิสภาจะมาจากการเลือกตั้งทั้งหมด


ทั้งนี้ ในระหว่างการอภิปรายของนายธนา ซึ่งพาดพิง ส.ว.เลือกตั้งหลายครั้ง ทำให้ นายมงคล ศรีคำแหง ส.ว.จันทบุรี ลุกขึ้นประท้วง และขอสิทธิพาดพิง อย่างมีอารมณ์ว่า นายธนากล่าวหา ส.ว.เลือกตั้ง แอบอิงพรรคการเมือง เป็นคนของฝ่ายการเมือง หากกฎหมายให้สิทธิในการดำรงตำแหน่งต่อเนื่องจะเป็นผลเสีย จึงอยากถามกลับว่า เหตุใดไม่มอง ส.ว.สรรหา ที่สามารถดำรงตำแหน่งได้ 3 ปี กลับมาเป็นได้อีก 6 ปี ก่อนหน้านี้เป็น สนช.อีก 2 ปี ไม่ใช่การดำรงตำแหน่งที่ต่อเนื่อง หรืออย่างไร



นอกจากนี้ การแก้ไขให้ ส.ว.มาจากการเลือกตั้ง ก็ถือเป็นการให้สิทธิ์กับประชาชนในการเลือกตัวแทนเข้ามาทำหน้าที่ ซึ่งไม่ได้หมายความว่า บุคคลนั้นจะได้กลับมาเป็นอีกสมัย ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประชาชน ดังนั้น ไม่ควรที่จะกล่าวหา พร้อมตอบโต้ นายธนาว่า เป็นพวกปากประชาธิปไตย ใจเผด็จการ ซึ่งคำพูดนี้ส่งผลให้ นายกุลเดช พัวพัฒนากุล ส.ส.อุทัยธานี พรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นประท้วง เพื่อขอให้ถอนคำพูด เพราะเป็นการใช้คำพูดที่รุนแรงและไม่เป็นความจริง นายนิคม ไวยรัชพานิชย์ รองประธานรัฐสภา ซึ่งทำหน้าที่การประชุม จึงสั่งให้ถอนคำพูดเพื่อป้องกันความวุ่นวาย นายมงคลจึงยอมถอนคำพูด

ขณะที่ นายสามารถ แก้วมีชัย ในฐานะประธาน กมธ. ชี้แจงว่า ในส่วนขององค์กรอิสระ ถ้าอภิปรายกันให้ลึกหน่อย จะเห็นว่า การที่วุฒิสภาให้ความเห็นชอบกรรมการองค์กรอิสระ และองค์กรตามรัฐธรรมูญนั้น เกิดขึ้นหลังจากการที่คณะกรรมการตามที่ระบุในรัฐธรรมนูญ มีการสรรหามาเรียบร้อยแล้ว เพียงแต่ให้ที่ประชุมวุฒิสภาพิจารณาว่าเห็นชอบหรือไม่ ซึ่งหากวุฒิสภาไม่เห็นด้วย ก็กลับไปให้มีการสรรหาใหม่ ฉะนั้น มีระบบถ่วงดุลกันอย่างนี้ ขอให้อย่าคิดมาก.

ไทยรัฐออนไลน์  22 สิงหาคม 2556, 16:21 น.
http://www.thairath.co.th/content/pol/365126


                                       ????????????????????????????????????????????


"....เหตุใดไม่มอง ส.ว.สรรหา ที่สามารถดำรงตำแหน่งได้ 3 ปี กลับมาเป็นได้อีก 6 ปี ก่อนหน้านี้เป็น สนช.อีก 2 ปี ไม่ใช่การดำรงตำแหน่งที่ต่อเนื่อง หรืออย่างไร....."

"....เป็นพวกปากประชาธิปไตย ใจเผด็จการ..."


ชัดเจนดีกับประโยคนี้
อธิบายตัวตนของคนทั้งแก๊งได้แบบเห็นภาพพจน์หมดเลย  โดยไม่ต้องคิดหาคำจำกัดความอื่นใดให้เสียเวลา

คำๆนี้จะติดตรึงอยู่ที่หนังหน้าของคนทั้งพรรคไปตลอดกาลนาน


"พวกปากประชาธิปไตย ใจเผด็จการ"