...จากตอนที่ผมลำดับเหตุการณ์ทางการเมืองมาสองตอน มันก็อาจจะมีประเด็นตกหล่นไปบ้างจึงเขียนกระทู้คำถามตอนเสริมนี้ขึ้นมา
จากวุฒิสภาที่มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด ผลพวงของการรัฐประหารก็ทำการเปลี่ยนแปลงให้กลายเป็นสมาชิกวุฒิสภามาจากการเลือกตั้งและจากการแต่งตั้ง โดยเลือกตั้งจังหวัดละ 1 คน 76 จังหวัดรวม 76 คน และแต่งตั้ง 74 คน (แต่งตั้งก็คือสรรหาอะเนอะ แต่มันไม่เหมาะกับคำว่าสรรหาเลยไม่ได้ใช้คำนี้) ซึ่งมันผิดแปลกกับท่วงทำนองประชาธิปไตยของประเทศเราที่ดำเนินมาในช่วงนั้นก็ประมาณ 75 ปี จริงอยู่ว่าการเลือกตั้งมิใช่สิ่งที่บอกว่านั้นคือประชาธิปไตยทั้งหมด แต่เพียงแค่การเลือกตั้งซึ่งเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของประชาธิปไตยกลับถูกดูดกลืนจากอำนาจฝ่ายเผด็จการ และสรรหาบุคคลมาเป็น ส.ว. ที่มาจากกลุ่มคนไม่กี่คน นี่หรือความยุติธรรม นี่หรือประชาธิปไตย การได้มาซึ่ง ส.ว.ด้วยการเลือกตั้งเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งที่ห้ามมิให้สังกัดพรรคการเมือง แต่กลุ่ม ส.ว.อีกประเภทหนึ่งนี่ ผมไม่เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งของที่มาเช่นนี้ ส.ว.ไม่จำเป็นต้องเป็นกลางทางการเมืองหรอกครับ แต่ึก็ควรมาจากเสียงของประชาชนสิ คราวนี่คุณจะมาอภิปรายต่อต้านฝ่ายการเมืองฝ่ายที่คุณไม่ชอบอย่างไรตามสะดวกตามสบาย ผลพวงของการรัฐประหาร'49 ก็ทำให้เห็นกลุ่ม ส.ว.กลุ่มหนึ่งอันโด่งดังมายันทุกวันนี้ที่สื่อสารมวลชนตั้งให้ก็คือ "กลุ่ม 40 ส.ว."
หน้าที่ของกลุ่ม ส.ว.นี้คือเป็นผลผลิตชั้นยอดของการรัฐประหาร เสียดายโอกาสของประเทศไทยหลายๆอย่างที่ต้องมาเจอฝ่ายนิติบัญญัติเช่นนี้
คำถามก็คือ ทำไมการที่แต่งตั้งกลุ่มบุคคลซึ่งมีสีมีฝ่ายชัดเจนเช่นนี้กลับเรียกว่า "ระบอบประชาธิปไตย" ผมเสียใจที่ผู้ใหญ่ ผู้ที่ติดตามทางการเมืองกลับไม่รู้สึกอะไร และผมก็รู้สึกเสียใจอีกเช่นกันที่เพื่อนๆในรุ่นๆก็ไม่สนใจทางการเมือง มันก็เลยเหมือนการปล้นกินอำนาจประชาชนโดยถาวร....
คำถามจากเด็กอายุ 19 ตอนเสริม
จากวุฒิสภาที่มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด ผลพวงของการรัฐประหารก็ทำการเปลี่ยนแปลงให้กลายเป็นสมาชิกวุฒิสภามาจากการเลือกตั้งและจากการแต่งตั้ง โดยเลือกตั้งจังหวัดละ 1 คน 76 จังหวัดรวม 76 คน และแต่งตั้ง 74 คน (แต่งตั้งก็คือสรรหาอะเนอะ แต่มันไม่เหมาะกับคำว่าสรรหาเลยไม่ได้ใช้คำนี้) ซึ่งมันผิดแปลกกับท่วงทำนองประชาธิปไตยของประเทศเราที่ดำเนินมาในช่วงนั้นก็ประมาณ 75 ปี จริงอยู่ว่าการเลือกตั้งมิใช่สิ่งที่บอกว่านั้นคือประชาธิปไตยทั้งหมด แต่เพียงแค่การเลือกตั้งซึ่งเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของประชาธิปไตยกลับถูกดูดกลืนจากอำนาจฝ่ายเผด็จการ และสรรหาบุคคลมาเป็น ส.ว. ที่มาจากกลุ่มคนไม่กี่คน นี่หรือความยุติธรรม นี่หรือประชาธิปไตย การได้มาซึ่ง ส.ว.ด้วยการเลือกตั้งเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งที่ห้ามมิให้สังกัดพรรคการเมือง แต่กลุ่ม ส.ว.อีกประเภทหนึ่งนี่ ผมไม่เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งของที่มาเช่นนี้ ส.ว.ไม่จำเป็นต้องเป็นกลางทางการเมืองหรอกครับ แต่ึก็ควรมาจากเสียงของประชาชนสิ คราวนี่คุณจะมาอภิปรายต่อต้านฝ่ายการเมืองฝ่ายที่คุณไม่ชอบอย่างไรตามสะดวกตามสบาย ผลพวงของการรัฐประหาร'49 ก็ทำให้เห็นกลุ่ม ส.ว.กลุ่มหนึ่งอันโด่งดังมายันทุกวันนี้ที่สื่อสารมวลชนตั้งให้ก็คือ "กลุ่ม 40 ส.ว."
หน้าที่ของกลุ่ม ส.ว.นี้คือเป็นผลผลิตชั้นยอดของการรัฐประหาร เสียดายโอกาสของประเทศไทยหลายๆอย่างที่ต้องมาเจอฝ่ายนิติบัญญัติเช่นนี้
คำถามก็คือ ทำไมการที่แต่งตั้งกลุ่มบุคคลซึ่งมีสีมีฝ่ายชัดเจนเช่นนี้กลับเรียกว่า "ระบอบประชาธิปไตย" ผมเสียใจที่ผู้ใหญ่ ผู้ที่ติดตามทางการเมืองกลับไม่รู้สึกอะไร และผมก็รู้สึกเสียใจอีกเช่นกันที่เพื่อนๆในรุ่นๆก็ไม่สนใจทางการเมือง มันก็เลยเหมือนการปล้นกินอำนาจประชาชนโดยถาวร....