เพราะหัวใจเจ็บจนไม่เหลือชิ้นดีทำให้น้ำตาลนั่งร้องไห้ดื่มเหล้าอยู่ในคลับหรูของโรงแรม
“นายเป็นใครถึงได้ทำให้ฉันเจ็บได้ถึงขนาดนี้......ไอ้บ้า.....คนใจร้ายใจดำ.....ออกไปจากชีวิตฉันซะทีได้ไหม”
น้ำตาลพร่ำพูดทั้งน้ำตาเพราะฤทธิเหล้า
“คนไม่มีหัวใจอย่างเธอร้องไห้เป็นด้วยเหรอ”
น้ำเสียงเข้มที่ดังขึ้นทำให้น้ำตาลเงยหน้าขึ้นมองด้วยอาการศีรษะโงนเงน

“ปีศาจ.....ร้ายกาจ”
น้ำตาลพูดถึงพันธมิตรอย่างขาดสติ
“ถ้าฉันเป็นปีศาจเธอก็นางมารร้าย.....เหมาะสมกันที่สุด”
“ไอ้บ้า.....นายมันบ้าที่มาหลงรักคนอย่างฉันสมน้ำหน้านาย.....ฮึๆๆ”
น้ำตาลหัวเราะเบาๆแต่ทว่ารอยยิ้มของเธอกลับทำให้พันธมิตรโกรธจนหน้าแดงภายในพริบตา
“เธออยากตายเร็วๆใช่ไหมถึงทำเลวทรามแบบนี้”
พันธมิตรกัดฟันกรอดๆกระชากแขนน้ำตาลจนตัวเธอยกขึ้นตามแรงกระชากของเขาก่อนจะล่วงลงกับพื้นเพราะความเมา
“เอาเลยอยากฆ่าฉันก็เชิญเลยเอาให้ตายเลยนะฉันเองก็ไม่อยากอยู่นักหรอก”
น้ำตาลพูดลิ้นพันกันก่อนจะทรุดตัวลงนอนราบไปกับพื้นอย่างหมดสภาพ
“มันง่ายเกินไปอย่างเธอมันต้องตายทั้งเป็นถึงจะสาสม”
พันธมิตรกัดฟันพูดเสียงเหี้ยมก่อนจะกระชากร่างสมส่วนของน้ำตาลขึ้นมาอีกครั้งและจับไหล่ทั้งสองข้างของเธอไว้
“ใครอยากขึ้นเตียงกับเธอคืนนี้ประมูลมาได้เลย”
สิ้นเสียงพันธมิตรหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ในคลับก็แย่งกันประมูลตัวน้ำตาลกันให้วุ่นวาย
“หมื่นนึง”
หนุ่มน้อยใจกล้าตะโกนขึ้นเป็นคนแรก
“สองหมื่น”
“ห้าหมื่น”
เสี่ยใจถึงคนนึงตะโกนขึ้นสายตาจ้องมองน้ำตาลอย่างหื่นกระหาย
“หนึ่งแสน”
เสี่ยแก่ๆคนนึงตะโกนขึ้นทำให้ทุกคนนั่งเงียบอย่างไม่กล้าสู้ต่อ
“ขอบคุณทุกคนที่ร่วมสนุก”
พันธมิตรยิ้มเหี้ยมก่อนจะอุ้มร่างของหนุ่มน้อยคนแรกที่ประมูลน้ำตาล
“กติกาของผมก็คือใครถูกที่สุดจะได้ตัวเธอไป”
พันธมิตรพร้อมส่งร่างน้ำตาลให้เขาและเดินออกไปจากคลับท่ามกลางความงงงันของทุกคน
“จะพาฉันไปไหน....ปล่อย”
น้ำตาลโวยวายได้เพียงแผ่วเบาเพราะตอนนี้เธอทำไม่ได้แม้กระทั้งพาตัวเองออกไปจากที่นี่
“คืนนี้เราจะมีความสุขกันนะจ๊ะคนสวย”
หนุ่มน้อยเพิ่งเริ่มริรักเอ่ยขึ้นพร้อมอุ้มร่างของน้ำตาลไปที่ห้องของเขาและจัดการถอดเสื้อผ้าเธอออกจนเหลือแต่ชุดชั้นใน ทันทีที่เห็นเรือนร่างงามของสตรีหนุ่มน้อยก็ตาโตด้วยความตื่นเต้นแต่ทันทีที่เขาโน้มตัวลงกอดน้ำตาลเรือนร่างงามก็ต่อต้านเขาสุดกำลังจนเขากลิ้งล่วงจากเตียงชนโต๊ะจนล้มเกิดเสียงดังจนหน้าตกใจ
“ปล่อยนะ.......อย่า.....ช่วยด้วย”
จิตใต้สำนึกของน้ำตาลยังคงไม่เลอะเลือนร้องขอให้คนช่วยทั้งที่ไม่ได้สติ
“อย่า......”
น้ำตาลร้องไห้โฮร้องกรี๊ดๆจนหนุ่มน้อยยืนมองเธอหน้าเสียเพราะความตกใจ
“บ้าที่สุด” แบงค์ลุกขึ้นจากเตียงบ่นอย่างหัวเสียเมื่อได้ยินเสียงเอะอะของข้างๆห้องเต็มสองรูหู
“ทำบ้าอะไรกันวะ.....พวกเซ็กซาดิสไหงวะ”
แบงค์บ่นเสียงลั่นอยากให้ห้องข้างๆได้ยินเขาบ้าง
“อย่า........”
น้ำเสียงหวีดร้องที่ยังคงดังขึ้นทำให้แบงค์คว้าหมอนเขวี้ยงใส่ฝาพนังอย่างหัวเสียสุดๆ
“เบาๆหน่อยได้ไหมไอ้พวกไม่มีมารยาท”
“อย่านะ....แบงค์ช่วยด้วย.....แบงค์”
น้ำเสียงตื่นที่ดังขึ้นอีกครั้งและเรียกชื่อตัวเองทำให้แบงค์ตาโตด้วยความตกใจรีบวิ่งไปที่ห้องข้างๆและเคาะประตูรัวอย่างขาดสติ
“เฮ้ย....เปิดประตู......เปิด”
แบงค์ทั้งถีบทั้งใช้ไหล่กระแทกประตูอย่างลืมตัว
“พลั๊ว”

เสียงประตูถูกเปิดออกโดยที่แบงค์ไม่ทันตั้งตัว ร่างบึกบึนล้มคว่ำลงกับพื้นไม่เป็นท่าพร้อมกันกับที่หนุ่มน้อยวิ่งหน้าตื่นออกจากห้องไป
“น้ำตาล”
แบงค์อุทานด้วยความตกใจเมื่อเห็นร่างเกือบปล่าวเปลือยของน้ำตาล ริมฝีปากบางยังคงหวีดร้องขอความช่วยเหลือเรือนร่างงดงามยังคงสั่นเทาเพราะความหวาดกลัวที่แบงค์เคยรู้ดีว่ามันมากมายแค่ไหน
“อย่านะ....อย่า”
“น้ำตาล”
แบงค์เรียกชื่อเธอเบาๆตรงเข้าโอบกอดร่างสั่นเทาของน้ำตาลด้วยความรู้สึกที่ไม่อาจห้ามใจ สิ่งที่รับรู้ตอนนี้มีเพียงแค่อยากจะโอบกอดน้ำตาลให้แน่นเท่าที่แรงจะมี
“ปล่อย......”
น้ำตาลพึมพำดิ้นรนอยู่ภายใต้อ้อมแขนแน่นหนาของแบงค์
“อย่าเป็นแบบนี้ได้ไหมอย่ามาเจ็บอยู่ตรงหน้าเรา....น้ำตาลอย่าทรมานเราแบบนี้”
แบงค์พูดเสียงแผ่วโอบกอดร่างของน้ำตาลไว้ในอ้อมแขนเพราะเขารู้ดีว่าเรือนร่างงามนี้จะไม่มีวันสงบลงถ้าเขาไม่กอดเธอไว้จนเธอไม่หวาดกลัว เขาไม่อาจนิ่งเฉยได้เพียงเพราะไม่แน่ใจว่านี่คือเสแสร้งหรือเรื่องจริง
“กรี๊ด......” เสียงแหลมที่ดังปี๊ดขึ้นทำให้แบงค์สะดุ้งตื่นด้วยความตกใจก่อนจะมองภาพน้ำตาลด้วยความเซ็งเมื่อเธอโวยวายเสียงลั่นห้อง
“ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง.....แล้วทำไมนายมานอนอยู่ข้างๆฉัน”
น้ำตาลตะโกนใส่แบงค์ขว้างปาหมอนใส่เขา
“หยุดคิดฟุ้งซ่านได้แล้วผมไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้นคุณต่างหากที่ทำให้ผมต้องเดือดร้อน......แล้วที่ผมมานอนอยู่ที่นี่ก็เพราะว่าผมเผลอหลับไปเท่านั้นเอง”
แบงค์ไม่อยากพูดให้มากเรื่องลุกเดินหนีน้ำตาลแต่เธอไม่ยอมง่ายๆลุกขึ้นมาบังหน้าเขาไว้
“ให้ท่าผมอย่างงั้นเหรอครับคุณผู้หญิง”
แบงค์พูดก้มมองน้ำตาลที่อยู่ในชุดชั้นในสุดเซ็กซี่ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า
“ไอ้บ้านี่นายถอดเสื้อผ้าฉันเหรอ.....ทุเรศที่สุด”
น้ำตาลโวยเสียงลั่นคว้าผ้าห่มมาพันตัวพัลวัน
“ไม่ใช่ผมแต่เป็นไอ้หื่นกามเจ้าของห้องนี้ที่ถอดเสื้อผ้าคุณออก”
แบงค์พูดจบจะเดินออกจากห้องแต่น้ำตาลก็ขวางเขาไว้อีก
“นายหมายความว่ามีคนพาฉันมาที่นี่เมื่อคืนอย่างนั้นเหรอ”
“ใช่.....แถมยังสนุกกันจนเกินเหตุผมเลยต้องเข้ามาดูเพราะเสียงร้องครวญครางที่พยายามจะทำให้ตัวเองดูเหมือนสาวบริสุทธิของคุณแล้วหนุ่มน้อยนั่นก็เลยวิ่งหนีไป.......โทษทีนะที่ทำให้คุณอดสนุกเมื่อคืนนี้”
เพราะคำพูดที่ร้ายกาจของแบงค์ทำให้น้ำตาลยืนนิ่งอย่างพยายามสะกัดกลั้นความโกรธและความเจ็บปวดที่กำลังจะเอ่อล้นออกมาเป็นน้ำตา
“แต่ผมว่าสมัยนี้ผู้ชายเขาไม่ค่อยถือกันหรอกคุณไม่ต้องพยายามขนาดนั้นก็ได้เพราะว่ามันดูน่าเกลียดในสายตาของผู้ชายที่เคยนอนกับคุณอย่างผม”
เพราะคำพูดของแบงค์ทำให้น้ำตาลไม่อาจกลั้นน้ำตาไว้ได้ แต่เธอก็ทำได้เพียงยืนนิ่งและจ้องมองเขาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด
“ทีหลังจะทำอะไรก็ดูซะบ้างซิว่าพวกผู้ชายคนเก่าๆของคุณเขาอยู่แถวนั้นหรือปล่าวจะได้ไม่น่าเกลียด”
“มันไม่มีประโยชน์ที่ฉันจะอธิบายให้นายฟังคนเราเมื่อหมดใจก็คือไม่เหลืออะไรเลย เหมือนกับที่ตอนนี้ในใจนายไม่มีฉันอีกแล้วแม้แต่นิดเดียว”
น้ำตาลพูดจะเดินนำแบงค์ออกไปจากห้องแต่ทว่าเขากลับจับไหล่ทั้งสองข้างของเธอไว้
“จะไปยั่วผู้ชายหรือไงคุณ”
แบงค์พูดประโยคสุดท้ายก่อนจะเดินออกไปจากห้องเพื่อให้น้ำตาลแต่งตัว
เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้น้ำตาลบุกไปหาพันธมิตรถึงห้องพักของเขา
“เมื่อคืนนี้อยู่กับกิ๊กเก่าทั้งคืนเร้าใจดีไหม”
พันธมิตรพูดประโยคที่ทำให้น้ำตาลรู้ว่าเธอเข้าใจไม่ผิด
“นายนี่มันเลวได้ใจจริงๆเลยนะ.....นายมีสิทธิอะไรมาทำกับฉันแบบนี้นายมีสิทธิอะไรถึงได้ทำร้ายฉันถึงขนาดนี้มีสิทธิอะไรถึงได้คอยตามดูฉันตลอดแบบนี้”
น้ำตาลโวยเสียงลั่นตบตีพันธมิตรด้วยความโมโห
“เหตุผลข้อเดียวที่ทำให้ผมเป็นแบบนี้.......ผมเกลียดคุณที่สุดผมอยากให้คุณต้องทุกข์ใจจนวันสุดท้ายของชีวิต”
พันธมิตรพูดแววตาที่จ้องมองน้ำตาลเต็มไปด้วยความเกลียดชัง
“ฉันไปทำอะไรให้นายหนักหนานายต่างหากที่ทำชีวิตฉันพังนายต่างหากที่ฉันแสนเกลียดชัง.....ไอ้บ้า....นายมันโรคจิต”
น้ำตาลทุบไม่ยั้งแต่เพียงแค่พันธมิตรตวัดมือทีเดียวร่างของน้ำตาลก็เซล้มลงกับพื้น
“ปั้ง....”
เสียงประตูห้องถูกพันธมิตรปิดลงอย่างแรงจนทำให้น้ำตาลสะดุ้งด้วยความตกใจ
“นายจะทำอะไร......”
น้ำตาลเอ่ยถามเสียงสั่นเมื่อเห็นท่าทีและแววตาที่ดุดันของพันธมิตร
“เกลียดผมอย่างงั้นเหรอคุณมีสิทธิอย่างนั้นเหรอคุณมีสิทธิทำแบบนั้นกับผมอย่างงั้นเหรอ”
พันธมิตรตะคอกน้ำตาลเสียงลั่นท่าทีของเขาดูน่ากลัวกว่าปกติเพราะกำลังควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่
“อย่าทำอะไรบ้าๆนะ.....”
น้ำตาลพูดลำตัวสั่นเทาเพราะความหวาดกลัว
“นี่คุณกลัวผมอย่างงั้นเหรอผู้หญิงที่ปั่นหัวผู้ชายเล่นเป็นสันดานอย่างคุณกลัวผู้ชายอย่างผมอย่างงั้นเหรอ.....ฮึ”
พันธมิตรหัวเราะเยาะด้วยความดูถูกก่อนจะตรงเข้าใช้กำลังปล้ำกอดน้ำตาลโดยไม่ฟังเสียงร้องของเธอสักนิด

“อย่า.....อย่า.....กรี๊ด”
น้ำตาลร้องสุดเสียงดิ้นรนอยู่ในอ้อมแขนของพันธมิตรด้วยความหวาดกลัวในขณะที่ริมฝีปากได้รูปของเขายังคงซุกไซร้ซอกคอขาวอย่างบ้าเถื่อน เพราะอารมณ์โกรธที่พลุ่งพล่านอยู่ในใจทำให้พันธมิตรไม่อาจรู้สึกได้ถึงความสั่นไหวของเรือนร่างงามในอ้อมแขนของเขา
“พี่.....พี่......”
น้ำเสียงทุ้มของบุคคลอันเป็นที่รักที่ดังชัดเจนขึ้นทำให้พันธมิตรต้องหยุดการกระทำอันป่าเถื่อนของตัวเองและผละจากร่างของน้ำตาลด้วยความรู้สึกผิดชอบชั่วดีที่เคยมีอยู่เต็มหัวใจของเขา
“อย่านะ.....อย่า.....อย่าทำอะไรฉัน”
น้ำตาลร้องไห้โฮอย่างขาดสติก่อนจะวิ่งไปหลบอยู่มุมห้องด้วยอาการรนราน
“อย่านะ......อย่า...ฮือ”
“ทำไม.....ทำไมนายต้องรักเขามากขนาดนี้ ทำไมถึงได้รักเธอขนาดนี้”
พันธมิตรพูดเสียงแผ่ว นัยน์ตาแสนเศร้าที่เต็มไปด้วยหยดน้ำตาจ้องมองน้ำตาลด้วยความรู้สึกผิดที่เพิ่งเกิดขึ้นในใจ
“ทำไมนายต้องรักเธอ......รักมากกว่าพี่อย่างงั้นเหรอ”
พันธมิตรพูดจ้องมองร่างสั่นเทาของน้ำตาลไม่วางสายตา สองเท้าก้าวเดินเข้าไปหาเธอที่กลัวเขาจนรนราน
“นายอย่าโกรธพี่เลยนะ....อย่าโกรธที่พี่ให้อภัยเธอไม่ได้”
พันธมิตรพูดพร่ำก่อนจะโอบกอดร่างของน้ำตาลไว้ในอ้อมแขนด้วยแรงทั้งหมดที่มีเพราะน้องชายคนเดียวรักน้ำตาลมากมายเหลือเกิน เผื่อว่าความรักของเขาจะหลงเหลืออยู่ในหัวใจของเธอ
“ทำไมนายต้องทิ้งพี่ไปแนท....ทำไมต้องทิ้งพี่ไปด้วย.......”
เสียงสะอื้นของพี่ชายดังขึ้นเพราะความเจ็บปวด
“พี่ให้อภัยเธอไม่ได้พี่จะทำให้เธอรู้ว่าความเจ็บปวดมันเป็นยังไง........เธอต้องเจ็บมากเท่าที่เราเจ็บ”
พันธการในนามพันธมิตรเอ่ยขึ้นด้วยแววตาที่แสนเคียดแค้นแต่ทว่ายังคงโอบกอดน้ำตาลไว้ในอ้อมแขนเพื่อให้เธอสงบลง
บนหาดทรายสีขาวสะอาดนักท่องเที่ยวถูกกันออกไปจากบริเวณนั้นเป็นบริเวณกว้างเพราะงานหมั้นที่กำลังจัดเตรียมสถานที่อยู่ด้วยบริษัท Paradise ที่มีแบงค์และน้ำตาลเป็นผู้รับผิดชอบ
“เสร็จสักทีฉันจะได้ไม่ต้องเห็นหน้านายอีก”
น้ำตาลพูดกับแบงค์หลังจากที่ทำงานด้วยกันโดยที่ไม่พูดกันสักคำมาตลอดสองสามวันที่ผ่านมา
“ใครเขาอยากเห็นหน้าคุณ”
แบงค์พูดเดินหนีน้ำตาลไปอีกทาง
“ไอ้บ้า........”
น้ำตาลถอดรองเท้าเขวี้ยงใส่หลังแบงค์จนเขาร้อง “โอ๊ะ”
“ยายเด็กปัญญาอ่อน”
แบงค์หันมาตวาดน้ำตาลอย่างนึกรำคาญใจ
“มีปัญหาไหมล่ะก็ฉันเหม็นหน้านายนี่นา.....จะทำไม”
น้ำตาลตะโกนอย่างเอาแต่ใจถอดรองเท้าอีกข้างขว้างใส่แบงค์จนเขาต้องร้องเสียงดังกว่าเก่า
“หาเรื่องเก่งจังนะ”
แบงค์ชักโมโหก้มลงเก็บก้อนหินปาใส่น้ำตาลให้รู้สำนึกซะบ้าง
“ฉันเจ็บนะไอ้บ้านี่”
น้ำตาลโวยวายเพราะเจ็บตัว ตรงเข้าหาแบงค์หวังจะเล่นงานเขาให้น่วมแต่ก็ต้องหยุดชะงักเพราะนิ้วชี้ที่ชี้หน้าเธอ และแววตาที่ดุดันของเขา
“หยุดเลยนะคุณหนูน้ำตาลไม่อย่างนั้นเราได้เห็นดีกันแน่”
“ทำไมนายจะชกหน้าฉันหรือไง”
น้ำตาลลอยหน้าพูดเล่นหูเล่นตาใส่แบงค์อย่างไม่ยอมแพ้ง่ายๆ
“เธอนี่มัน....มัน.....”
แบงค์ยกมือขึ้นนึกอยากจะพลักหัวน้ำตาลสักทีให้หายแค้นแต่เพราะความสดใสน่ารักบนใบหน้างดงามของเธอทำให้แบงค์ทำไม่ลง
“หยุดทำไมล่ะ.......ตบเลยซิถ้านายไม่อยากเป็นลูกผู้ชายแล้ว”
น้ำตาลตะโกนท้าทาย
“เธอนี่มัน.......มันจริงๆเลย”
แบงค์ทำได้แค่ใช้นิ้วชี้ผลักหัวน้ำตาลเบาๆและหันหลังให้เธอเพราะแพ้ความน่ารักของเธอ ไม่ว่าในใจเขาน้ำตาลจะมีนิสัยร้ายกาจแค่ไหน แบงค์ก็ปฏิเสธความจริงที่ว่าน้ำตาลเป็นผู้หญิงสวยน่ารักและเซ็กซี่ไม่ได้
“ฉันเกลียดนาย”
น้ำตาลตะโกนเสียงลั่นคว้าก้อนหินเขวี้ยงใส่แบงค์เพราะความโมโห แต่ทว่าก้อนหินกลับลอยไปอีกทาง
“โอ๊ย.....”
เสียงร้องที่ดังขึ้นทำให้แบงค์และน้ำตาลหันไปหาต้นเสียงด้วยความตกใจ
“ปูน”
พิษรัก ตอนที่ 12
“นายเป็นใครถึงได้ทำให้ฉันเจ็บได้ถึงขนาดนี้......ไอ้บ้า.....คนใจร้ายใจดำ.....ออกไปจากชีวิตฉันซะทีได้ไหม”
น้ำตาลพร่ำพูดทั้งน้ำตาเพราะฤทธิเหล้า
“คนไม่มีหัวใจอย่างเธอร้องไห้เป็นด้วยเหรอ”
น้ำเสียงเข้มที่ดังขึ้นทำให้น้ำตาลเงยหน้าขึ้นมองด้วยอาการศีรษะโงนเงน
“ปีศาจ.....ร้ายกาจ”
น้ำตาลพูดถึงพันธมิตรอย่างขาดสติ
“ถ้าฉันเป็นปีศาจเธอก็นางมารร้าย.....เหมาะสมกันที่สุด”
“ไอ้บ้า.....นายมันบ้าที่มาหลงรักคนอย่างฉันสมน้ำหน้านาย.....ฮึๆๆ”
น้ำตาลหัวเราะเบาๆแต่ทว่ารอยยิ้มของเธอกลับทำให้พันธมิตรโกรธจนหน้าแดงภายในพริบตา
“เธออยากตายเร็วๆใช่ไหมถึงทำเลวทรามแบบนี้”
พันธมิตรกัดฟันกรอดๆกระชากแขนน้ำตาลจนตัวเธอยกขึ้นตามแรงกระชากของเขาก่อนจะล่วงลงกับพื้นเพราะความเมา
“เอาเลยอยากฆ่าฉันก็เชิญเลยเอาให้ตายเลยนะฉันเองก็ไม่อยากอยู่นักหรอก”
น้ำตาลพูดลิ้นพันกันก่อนจะทรุดตัวลงนอนราบไปกับพื้นอย่างหมดสภาพ
“มันง่ายเกินไปอย่างเธอมันต้องตายทั้งเป็นถึงจะสาสม”
พันธมิตรกัดฟันพูดเสียงเหี้ยมก่อนจะกระชากร่างสมส่วนของน้ำตาลขึ้นมาอีกครั้งและจับไหล่ทั้งสองข้างของเธอไว้
“ใครอยากขึ้นเตียงกับเธอคืนนี้ประมูลมาได้เลย”
สิ้นเสียงพันธมิตรหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ในคลับก็แย่งกันประมูลตัวน้ำตาลกันให้วุ่นวาย
“หมื่นนึง”
หนุ่มน้อยใจกล้าตะโกนขึ้นเป็นคนแรก
“สองหมื่น”
“ห้าหมื่น”
เสี่ยใจถึงคนนึงตะโกนขึ้นสายตาจ้องมองน้ำตาลอย่างหื่นกระหาย
“หนึ่งแสน”
เสี่ยแก่ๆคนนึงตะโกนขึ้นทำให้ทุกคนนั่งเงียบอย่างไม่กล้าสู้ต่อ
“ขอบคุณทุกคนที่ร่วมสนุก”
พันธมิตรยิ้มเหี้ยมก่อนจะอุ้มร่างของหนุ่มน้อยคนแรกที่ประมูลน้ำตาล
“กติกาของผมก็คือใครถูกที่สุดจะได้ตัวเธอไป”
พันธมิตรพร้อมส่งร่างน้ำตาลให้เขาและเดินออกไปจากคลับท่ามกลางความงงงันของทุกคน
“จะพาฉันไปไหน....ปล่อย”
น้ำตาลโวยวายได้เพียงแผ่วเบาเพราะตอนนี้เธอทำไม่ได้แม้กระทั้งพาตัวเองออกไปจากที่นี่
“คืนนี้เราจะมีความสุขกันนะจ๊ะคนสวย”
หนุ่มน้อยเพิ่งเริ่มริรักเอ่ยขึ้นพร้อมอุ้มร่างของน้ำตาลไปที่ห้องของเขาและจัดการถอดเสื้อผ้าเธอออกจนเหลือแต่ชุดชั้นใน ทันทีที่เห็นเรือนร่างงามของสตรีหนุ่มน้อยก็ตาโตด้วยความตื่นเต้นแต่ทันทีที่เขาโน้มตัวลงกอดน้ำตาลเรือนร่างงามก็ต่อต้านเขาสุดกำลังจนเขากลิ้งล่วงจากเตียงชนโต๊ะจนล้มเกิดเสียงดังจนหน้าตกใจ
“ปล่อยนะ.......อย่า.....ช่วยด้วย”
จิตใต้สำนึกของน้ำตาลยังคงไม่เลอะเลือนร้องขอให้คนช่วยทั้งที่ไม่ได้สติ
“อย่า......”
น้ำตาลร้องไห้โฮร้องกรี๊ดๆจนหนุ่มน้อยยืนมองเธอหน้าเสียเพราะความตกใจ
“บ้าที่สุด” แบงค์ลุกขึ้นจากเตียงบ่นอย่างหัวเสียเมื่อได้ยินเสียงเอะอะของข้างๆห้องเต็มสองรูหู
“ทำบ้าอะไรกันวะ.....พวกเซ็กซาดิสไหงวะ”
แบงค์บ่นเสียงลั่นอยากให้ห้องข้างๆได้ยินเขาบ้าง
“อย่า........”
น้ำเสียงหวีดร้องที่ยังคงดังขึ้นทำให้แบงค์คว้าหมอนเขวี้ยงใส่ฝาพนังอย่างหัวเสียสุดๆ
“เบาๆหน่อยได้ไหมไอ้พวกไม่มีมารยาท”
“อย่านะ....แบงค์ช่วยด้วย.....แบงค์”
น้ำเสียงตื่นที่ดังขึ้นอีกครั้งและเรียกชื่อตัวเองทำให้แบงค์ตาโตด้วยความตกใจรีบวิ่งไปที่ห้องข้างๆและเคาะประตูรัวอย่างขาดสติ
“เฮ้ย....เปิดประตู......เปิด”
แบงค์ทั้งถีบทั้งใช้ไหล่กระแทกประตูอย่างลืมตัว
“พลั๊ว”
เสียงประตูถูกเปิดออกโดยที่แบงค์ไม่ทันตั้งตัว ร่างบึกบึนล้มคว่ำลงกับพื้นไม่เป็นท่าพร้อมกันกับที่หนุ่มน้อยวิ่งหน้าตื่นออกจากห้องไป
“น้ำตาล”
แบงค์อุทานด้วยความตกใจเมื่อเห็นร่างเกือบปล่าวเปลือยของน้ำตาล ริมฝีปากบางยังคงหวีดร้องขอความช่วยเหลือเรือนร่างงดงามยังคงสั่นเทาเพราะความหวาดกลัวที่แบงค์เคยรู้ดีว่ามันมากมายแค่ไหน
“อย่านะ....อย่า”
“น้ำตาล”
แบงค์เรียกชื่อเธอเบาๆตรงเข้าโอบกอดร่างสั่นเทาของน้ำตาลด้วยความรู้สึกที่ไม่อาจห้ามใจ สิ่งที่รับรู้ตอนนี้มีเพียงแค่อยากจะโอบกอดน้ำตาลให้แน่นเท่าที่แรงจะมี
“ปล่อย......”
น้ำตาลพึมพำดิ้นรนอยู่ภายใต้อ้อมแขนแน่นหนาของแบงค์
“อย่าเป็นแบบนี้ได้ไหมอย่ามาเจ็บอยู่ตรงหน้าเรา....น้ำตาลอย่าทรมานเราแบบนี้”
แบงค์พูดเสียงแผ่วโอบกอดร่างของน้ำตาลไว้ในอ้อมแขนเพราะเขารู้ดีว่าเรือนร่างงามนี้จะไม่มีวันสงบลงถ้าเขาไม่กอดเธอไว้จนเธอไม่หวาดกลัว เขาไม่อาจนิ่งเฉยได้เพียงเพราะไม่แน่ใจว่านี่คือเสแสร้งหรือเรื่องจริง
“กรี๊ด......” เสียงแหลมที่ดังปี๊ดขึ้นทำให้แบงค์สะดุ้งตื่นด้วยความตกใจก่อนจะมองภาพน้ำตาลด้วยความเซ็งเมื่อเธอโวยวายเสียงลั่นห้อง
“ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง.....แล้วทำไมนายมานอนอยู่ข้างๆฉัน”
น้ำตาลตะโกนใส่แบงค์ขว้างปาหมอนใส่เขา
“หยุดคิดฟุ้งซ่านได้แล้วผมไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้นคุณต่างหากที่ทำให้ผมต้องเดือดร้อน......แล้วที่ผมมานอนอยู่ที่นี่ก็เพราะว่าผมเผลอหลับไปเท่านั้นเอง”
แบงค์ไม่อยากพูดให้มากเรื่องลุกเดินหนีน้ำตาลแต่เธอไม่ยอมง่ายๆลุกขึ้นมาบังหน้าเขาไว้
“ให้ท่าผมอย่างงั้นเหรอครับคุณผู้หญิง”
แบงค์พูดก้มมองน้ำตาลที่อยู่ในชุดชั้นในสุดเซ็กซี่ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า
“ไอ้บ้านี่นายถอดเสื้อผ้าฉันเหรอ.....ทุเรศที่สุด”
น้ำตาลโวยเสียงลั่นคว้าผ้าห่มมาพันตัวพัลวัน
“ไม่ใช่ผมแต่เป็นไอ้หื่นกามเจ้าของห้องนี้ที่ถอดเสื้อผ้าคุณออก”
แบงค์พูดจบจะเดินออกจากห้องแต่น้ำตาลก็ขวางเขาไว้อีก
“นายหมายความว่ามีคนพาฉันมาที่นี่เมื่อคืนอย่างนั้นเหรอ”
“ใช่.....แถมยังสนุกกันจนเกินเหตุผมเลยต้องเข้ามาดูเพราะเสียงร้องครวญครางที่พยายามจะทำให้ตัวเองดูเหมือนสาวบริสุทธิของคุณแล้วหนุ่มน้อยนั่นก็เลยวิ่งหนีไป.......โทษทีนะที่ทำให้คุณอดสนุกเมื่อคืนนี้”
เพราะคำพูดที่ร้ายกาจของแบงค์ทำให้น้ำตาลยืนนิ่งอย่างพยายามสะกัดกลั้นความโกรธและความเจ็บปวดที่กำลังจะเอ่อล้นออกมาเป็นน้ำตา
“แต่ผมว่าสมัยนี้ผู้ชายเขาไม่ค่อยถือกันหรอกคุณไม่ต้องพยายามขนาดนั้นก็ได้เพราะว่ามันดูน่าเกลียดในสายตาของผู้ชายที่เคยนอนกับคุณอย่างผม”
เพราะคำพูดของแบงค์ทำให้น้ำตาลไม่อาจกลั้นน้ำตาไว้ได้ แต่เธอก็ทำได้เพียงยืนนิ่งและจ้องมองเขาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด
“ทีหลังจะทำอะไรก็ดูซะบ้างซิว่าพวกผู้ชายคนเก่าๆของคุณเขาอยู่แถวนั้นหรือปล่าวจะได้ไม่น่าเกลียด”
“มันไม่มีประโยชน์ที่ฉันจะอธิบายให้นายฟังคนเราเมื่อหมดใจก็คือไม่เหลืออะไรเลย เหมือนกับที่ตอนนี้ในใจนายไม่มีฉันอีกแล้วแม้แต่นิดเดียว”
น้ำตาลพูดจะเดินนำแบงค์ออกไปจากห้องแต่ทว่าเขากลับจับไหล่ทั้งสองข้างของเธอไว้
“จะไปยั่วผู้ชายหรือไงคุณ”
แบงค์พูดประโยคสุดท้ายก่อนจะเดินออกไปจากห้องเพื่อให้น้ำตาลแต่งตัว
เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้น้ำตาลบุกไปหาพันธมิตรถึงห้องพักของเขา
“เมื่อคืนนี้อยู่กับกิ๊กเก่าทั้งคืนเร้าใจดีไหม”
พันธมิตรพูดประโยคที่ทำให้น้ำตาลรู้ว่าเธอเข้าใจไม่ผิด
“นายนี่มันเลวได้ใจจริงๆเลยนะ.....นายมีสิทธิอะไรมาทำกับฉันแบบนี้นายมีสิทธิอะไรถึงได้ทำร้ายฉันถึงขนาดนี้มีสิทธิอะไรถึงได้คอยตามดูฉันตลอดแบบนี้”
น้ำตาลโวยเสียงลั่นตบตีพันธมิตรด้วยความโมโห
“เหตุผลข้อเดียวที่ทำให้ผมเป็นแบบนี้.......ผมเกลียดคุณที่สุดผมอยากให้คุณต้องทุกข์ใจจนวันสุดท้ายของชีวิต”
พันธมิตรพูดแววตาที่จ้องมองน้ำตาลเต็มไปด้วยความเกลียดชัง
“ฉันไปทำอะไรให้นายหนักหนานายต่างหากที่ทำชีวิตฉันพังนายต่างหากที่ฉันแสนเกลียดชัง.....ไอ้บ้า....นายมันโรคจิต”
น้ำตาลทุบไม่ยั้งแต่เพียงแค่พันธมิตรตวัดมือทีเดียวร่างของน้ำตาลก็เซล้มลงกับพื้น
“ปั้ง....”
เสียงประตูห้องถูกพันธมิตรปิดลงอย่างแรงจนทำให้น้ำตาลสะดุ้งด้วยความตกใจ
“นายจะทำอะไร......”
น้ำตาลเอ่ยถามเสียงสั่นเมื่อเห็นท่าทีและแววตาที่ดุดันของพันธมิตร
“เกลียดผมอย่างงั้นเหรอคุณมีสิทธิอย่างนั้นเหรอคุณมีสิทธิทำแบบนั้นกับผมอย่างงั้นเหรอ”
พันธมิตรตะคอกน้ำตาลเสียงลั่นท่าทีของเขาดูน่ากลัวกว่าปกติเพราะกำลังควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่
“อย่าทำอะไรบ้าๆนะ.....”
น้ำตาลพูดลำตัวสั่นเทาเพราะความหวาดกลัว
“นี่คุณกลัวผมอย่างงั้นเหรอผู้หญิงที่ปั่นหัวผู้ชายเล่นเป็นสันดานอย่างคุณกลัวผู้ชายอย่างผมอย่างงั้นเหรอ.....ฮึ”
พันธมิตรหัวเราะเยาะด้วยความดูถูกก่อนจะตรงเข้าใช้กำลังปล้ำกอดน้ำตาลโดยไม่ฟังเสียงร้องของเธอสักนิด
“อย่า.....อย่า.....กรี๊ด”
น้ำตาลร้องสุดเสียงดิ้นรนอยู่ในอ้อมแขนของพันธมิตรด้วยความหวาดกลัวในขณะที่ริมฝีปากได้รูปของเขายังคงซุกไซร้ซอกคอขาวอย่างบ้าเถื่อน เพราะอารมณ์โกรธที่พลุ่งพล่านอยู่ในใจทำให้พันธมิตรไม่อาจรู้สึกได้ถึงความสั่นไหวของเรือนร่างงามในอ้อมแขนของเขา
“พี่.....พี่......”
น้ำเสียงทุ้มของบุคคลอันเป็นที่รักที่ดังชัดเจนขึ้นทำให้พันธมิตรต้องหยุดการกระทำอันป่าเถื่อนของตัวเองและผละจากร่างของน้ำตาลด้วยความรู้สึกผิดชอบชั่วดีที่เคยมีอยู่เต็มหัวใจของเขา
“อย่านะ.....อย่า.....อย่าทำอะไรฉัน”
น้ำตาลร้องไห้โฮอย่างขาดสติก่อนจะวิ่งไปหลบอยู่มุมห้องด้วยอาการรนราน
“อย่านะ......อย่า...ฮือ”
“ทำไม.....ทำไมนายต้องรักเขามากขนาดนี้ ทำไมถึงได้รักเธอขนาดนี้”
พันธมิตรพูดเสียงแผ่ว นัยน์ตาแสนเศร้าที่เต็มไปด้วยหยดน้ำตาจ้องมองน้ำตาลด้วยความรู้สึกผิดที่เพิ่งเกิดขึ้นในใจ
“ทำไมนายต้องรักเธอ......รักมากกว่าพี่อย่างงั้นเหรอ”
พันธมิตรพูดจ้องมองร่างสั่นเทาของน้ำตาลไม่วางสายตา สองเท้าก้าวเดินเข้าไปหาเธอที่กลัวเขาจนรนราน
“นายอย่าโกรธพี่เลยนะ....อย่าโกรธที่พี่ให้อภัยเธอไม่ได้”
พันธมิตรพูดพร่ำก่อนจะโอบกอดร่างของน้ำตาลไว้ในอ้อมแขนด้วยแรงทั้งหมดที่มีเพราะน้องชายคนเดียวรักน้ำตาลมากมายเหลือเกิน เผื่อว่าความรักของเขาจะหลงเหลืออยู่ในหัวใจของเธอ
“ทำไมนายต้องทิ้งพี่ไปแนท....ทำไมต้องทิ้งพี่ไปด้วย.......”
เสียงสะอื้นของพี่ชายดังขึ้นเพราะความเจ็บปวด
“พี่ให้อภัยเธอไม่ได้พี่จะทำให้เธอรู้ว่าความเจ็บปวดมันเป็นยังไง........เธอต้องเจ็บมากเท่าที่เราเจ็บ”
พันธการในนามพันธมิตรเอ่ยขึ้นด้วยแววตาที่แสนเคียดแค้นแต่ทว่ายังคงโอบกอดน้ำตาลไว้ในอ้อมแขนเพื่อให้เธอสงบลง
บนหาดทรายสีขาวสะอาดนักท่องเที่ยวถูกกันออกไปจากบริเวณนั้นเป็นบริเวณกว้างเพราะงานหมั้นที่กำลังจัดเตรียมสถานที่อยู่ด้วยบริษัท Paradise ที่มีแบงค์และน้ำตาลเป็นผู้รับผิดชอบ
“เสร็จสักทีฉันจะได้ไม่ต้องเห็นหน้านายอีก”
น้ำตาลพูดกับแบงค์หลังจากที่ทำงานด้วยกันโดยที่ไม่พูดกันสักคำมาตลอดสองสามวันที่ผ่านมา
“ใครเขาอยากเห็นหน้าคุณ”
แบงค์พูดเดินหนีน้ำตาลไปอีกทาง
“ไอ้บ้า........”
น้ำตาลถอดรองเท้าเขวี้ยงใส่หลังแบงค์จนเขาร้อง “โอ๊ะ”
“ยายเด็กปัญญาอ่อน”
แบงค์หันมาตวาดน้ำตาลอย่างนึกรำคาญใจ
“มีปัญหาไหมล่ะก็ฉันเหม็นหน้านายนี่นา.....จะทำไม”
น้ำตาลตะโกนอย่างเอาแต่ใจถอดรองเท้าอีกข้างขว้างใส่แบงค์จนเขาต้องร้องเสียงดังกว่าเก่า
“หาเรื่องเก่งจังนะ”
แบงค์ชักโมโหก้มลงเก็บก้อนหินปาใส่น้ำตาลให้รู้สำนึกซะบ้าง
“ฉันเจ็บนะไอ้บ้านี่”
น้ำตาลโวยวายเพราะเจ็บตัว ตรงเข้าหาแบงค์หวังจะเล่นงานเขาให้น่วมแต่ก็ต้องหยุดชะงักเพราะนิ้วชี้ที่ชี้หน้าเธอ และแววตาที่ดุดันของเขา
“หยุดเลยนะคุณหนูน้ำตาลไม่อย่างนั้นเราได้เห็นดีกันแน่”
“ทำไมนายจะชกหน้าฉันหรือไง”
น้ำตาลลอยหน้าพูดเล่นหูเล่นตาใส่แบงค์อย่างไม่ยอมแพ้ง่ายๆ
“เธอนี่มัน....มัน.....”
แบงค์ยกมือขึ้นนึกอยากจะพลักหัวน้ำตาลสักทีให้หายแค้นแต่เพราะความสดใสน่ารักบนใบหน้างดงามของเธอทำให้แบงค์ทำไม่ลง
“หยุดทำไมล่ะ.......ตบเลยซิถ้านายไม่อยากเป็นลูกผู้ชายแล้ว”
น้ำตาลตะโกนท้าทาย
“เธอนี่มัน.......มันจริงๆเลย”
แบงค์ทำได้แค่ใช้นิ้วชี้ผลักหัวน้ำตาลเบาๆและหันหลังให้เธอเพราะแพ้ความน่ารักของเธอ ไม่ว่าในใจเขาน้ำตาลจะมีนิสัยร้ายกาจแค่ไหน แบงค์ก็ปฏิเสธความจริงที่ว่าน้ำตาลเป็นผู้หญิงสวยน่ารักและเซ็กซี่ไม่ได้
“ฉันเกลียดนาย”
น้ำตาลตะโกนเสียงลั่นคว้าก้อนหินเขวี้ยงใส่แบงค์เพราะความโมโห แต่ทว่าก้อนหินกลับลอยไปอีกทาง
“โอ๊ย.....”
เสียงร้องที่ดังขึ้นทำให้แบงค์และน้ำตาลหันไปหาต้นเสียงด้วยความตกใจ
“ปูน”