พิษรัก ตอนที่ 9

กระทู้สนทนา
เพราะแบงค์ไม่เข้ามาทำงานตอนบ่ายทำให้น้ำตาลนั่งไม่ติดพื้นเพราะรู้ดีว่าอาการแพ้กุ้งของแบงค์นั้นหนักหนาแค่ไหน
“แค่นี้ไม่ตายหรอกน่า.........มันเทียบไม่ได้เลยด้วยซ้ำกับสิ่งที่นายทำกับฉัน”
น้ำตาลนั่งบนคนเดียวจนไม่เป็นอันทำงานแต่เพราะฐิทิทำให้เธอไม่ยอมไปดูอาการแบงค์
“คุณน้ำตาลคะลูกค้าอยากพบผู้จัดการคะ”
เพราะคำพูดของลูกน้องทำให้น้ำตาลรีบรับอาสาไปตามแบงค์ให้
“อยู่ไหนนะ”
น้ำตาลพรึมพรำคนเดียวไปตามหาแบงค์ที่ห้องน้ำชายแต่ก็ไม่พบเขา
“อย่าบอกนะว่านายแพ้จนตายไปแล้ว”
น้ำตาลชักกลัวรีบตรงไปหาแบงค์ต่อที่ห้องพยาบาลพบเขานั่งถอดเสื้ออ๊วกเอาเป็นเอาตายอยู่บนเตียง ตามลำตัวและใบหน้าแดงเป็นผื่นเพราะอาการแพ้
“คุณพระช่วย”
น้ำตาลอุทานด้วยความตกใจยกมือขึ้นปิดปากตัวเองกลัวว่าแบงค์จะได้ยิน
“อ๊วก........”
แบงค์ยังคงอ๊วกและตามตัวเริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆ
“นายอย่าตายนะ”
น้ำตาลคิดในใจนึกถึงภาพเหตุการณ์ที่แบงค์เคยแพ้กุ้งจนต้องเข้าโรงพยาบาลและในครั้งนั้นเขาก็เกือบเอาชีวิตไม่รอดมาแล้ว
“ไปโรงพยาบาลเถอะฉันจะพานายไปโรงพยาบาลเอง”
น้ำตาลพูดตรงเข้าประคองแบงค์ด้วยความเป็นห่วงแต่เขากลับสะบัดเธอจนเซล้มลงกับพื้น
“ฉันขอโทษ.....ฉันไม่ได้อยากให้นายเป็นถึงขนาดนี้.....ฉันขอโทษ”
“ไม่ต้องมาขอโทษผมแค่อยู่ห่างๆผมไว้ก็พอ เพราะทุกครั้งที่ผมอยู่ใกล้คุณไม่เจ็บใจก็ต้องเจ็บตัวทุกที”
แบงค์ตะวาดน้ำตาลเสียงลั่นก่อนจะอ๊วกจนตัวโก่งอีกครั้ง
“แบงค์.....แบงค์เป็นยังไงบ้าง”
น้ำเสียงร้อนรนที่ดังขึ้นพร้อมร่างงามระหงษ์ของ “ปูน”ที่ตรงดิ่งมาหาแบงค์ทำให้เขาน้ำตาลนั่งนิ่งงันอยู่ที่เดิม น่าแปลกที่หัวใจยังคงเจ็บปวดเมื่อเห็นว่าข้างกายแบงค์มีคนอื่นอยู่เคียงข้างทั้งที่เธอเลิกกับเขานานแล้ว
“เธอก็รู้ว่าตัวเองแพ้กุ้งทำไมถึงกินมันล่ะแบงค์”
ปูนเอ่ยถามแบงค์ขณะช่วยเขาใส่เสื้อให้เรียบร้อยแต่กลับได้เพียงความเงียบงันเป็นคำตอบ
“ไปคะ”
ปูนช่วยพยุงแบงค์ให้ลุกขึ้นพลันสายตาก็เหลือบไปเห็นน้ำตาลยืนหลบมุมอยู่หน้าประตู

ไม่มีคำพูดใดๆหลุดออกจากปากปูนเธอทำได้เพียงประคองแบงค์เดินผ่านหน้าน้ำตาลไปด้วยจังหวะการเต้นของหัวใจที่รุนแรงจนแบงค์ได้ยินและรู้ว่าปูนกำลังกลัวว่าเขาจะทิ้งเธอและเดินกลับมาหาน้ำตาล
                      เพราะอาการแพ้อยู่ในระดับรุนแรงทำให้แบงค์ต้องนอนพักที่โรงพยาบาลหนึ่งคืนตามคำสั่งของหมอ
“นอนพักซะแล้วเย็นๆปูนจะมาใหม่”
ปูนพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบเป็นปกติแต่ทว่าแบงค์รู้ดีว่าเธอกำลังไม่สบายใจเพราะสองตาเศร้าๆของเธอ
“เรื่องบางเรื่องมันจบไปนานแล้วและไม่มีวันที่จะเริ่มต้นใหม่ได้อีก เพราะว่าความทรงจำที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดทำให้เราหวาดกลัวว่าจะเจ็บจนเอาชีวิตไม่รอด”
แบงค์พูดขึ้นเสียงเรียบและเขารู้ว่าปูนเข้าใจในสิ่งที่เขาพูด
“แต่ความทรงจำดีๆก็มีอยู่ไม่ใช่เหรอแบงค์”
“มันไม่มากพอจะทำให้เราลืมความเจ็บปวดได้หรอกแล้วเราก็ไม่เคยลืมว่าใครที่คอยเช็ดน้ำตาให้เราในวันที่เราแพ้”
“เป็นอีกหนึ่งครั้งที่เราจะเชื่อใจเธอได้ใช่ไหมแบงค์”
ปูนเอ่ยถามแบงค์ที่พยักหน้าให้เธอแทนคำตอบ
                      เพราะความเป็นห่วงทำให้น้ำตาลมายืนเก้ๆกังๆอยู่หน้าห้องคนป่วยที่แบงค์รักษาตัวอยู่แต่เพราะไม่กล้าเข้าไปข้างในทำให้น้ำตาลตัดสินใจวางกระเช้าดอกไม้ไว้หน้าห้อง
“เธอมาทำอะไรที่นี่”
น้ำเสียงดุดันที่ดังขึ้นทำให้น้ำตาลหันไปหาต้นเสียงด้วยความหวั่นใจ
“เธอยังกล้ามาที่นี่อีกเหรอใบหน้าสวยๆของเธอมันไม่ช่วยทำให้ใจของเธองดงามขึ้นมาบ้างเลยหรือไง ทำไมถึงได้ใจร้ายกับเพื่อนผมนัก”
พลโวยใส่น้ำตาลเสียงลั่น
“ฉันแค่จะมาดูว่าเพื่อนคุณตายหรือยังก็แค่นั้นแหละไม่ได้จะมาทำลายความสัมพันของใครอย่างที่คุณเข้าใจหรอก”
น้ำตาลรีบแก้ตัวไว้ก่อน
“ถ้ามันจะตายมันก็คงตายไปตั้งแต่สามปีก่อนแล้วล่ะ แต่ตอนนี้มันก็รอดมาแล้วคุณก็ปล่อยมันไปเถอะ”
“อย่ามาพูดว่าฉันทิ้งเขานะเขานั่นแหละที่เป็นคนทิ้งฉัน”
น้ำตาลตะวาดพลด้วยความโมโห
“ใครทิ้งใครมันไม่สำคัญหรอกมันสำคัญตรงที่เรื่องของคุณมันจบไปนานแล้ว อย่าพยายามรื้อฟื้นมันอีกเลย”
“ฉันไม่เคยคิดจะรื้อฟื้นอย่างที่นายพูดเพราะว่าฉันรู้ดีว่าคนเราเมื่อหมดรักแล้วมันก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะรั้งเขาไว้ ช่วยทำความเข้าใจฉันใหม่ด้วยนะคุณ”
น้ำตาลพูดประโยคสุดท้ายก่อนจะหมุนตัวออกจากตรงนั้นแต่เธอกลับต้องเผชิญหน้ากับปูนอย่างไม่คาดคิด
“เธอกลับมาทำไม”
ปูนเอ่ยถามน้ำตาลด้วยน้ำเสียงและท่าทีที่เย็นชาที่สุด
“อย่ามามองฉันแบบนี้เพราะว่าฉันไม่เคยคิดแย่งของของใคร”
น้ำตาลพูดเดินชนไหล่ปูนออกไป
“เดี๋ยวก่อน”
ปูนพูดเสียงเข้มคว้าข้อมือน้ำตาลไว้
“ฉันไม่มีอะไรจะพูด....ปล่อยเดี๋ยวนี้”
“ถ้าเธอไม่ต้องการเขาอย่างที่พูดแล้วเธอกลับมาที่นี่ทำไม........กลับมาทำไม”
ปูนบีบข้อมือน้ำตาลแน่นจ้องหน้าเธออย่างจะกินเลือดกินเนื้อ
“ถ้าหากฉันต้องการเขาจริงๆอย่างที่เธอพูดมันก็ไม่มีประโยชน์อะไรหรอกเพราะว่าเขาไม่ได้รักฉันอีกแล้ว”
เพราะคำพูดของน้ำตาลทำให้ปูนถึงกับเข่าอ่อนทรุดลงกับพื้นเพราะเธอรู้อยู่เต็มอกว่าแบงค์ไม่เคยลืมน้ำตาลได้เลย
“เธอช่วยอยู่ห่างๆเขาได้ไหมเพราะฉันกลัวกลัวว่าเขาจะยังรักเธออยู่”
ปูนเอ่ยปากข้อร้องน้ำตาลทั้งน้ำตา
“ฉันไม่รู้หรอกนะว่าคุณพูดเรื่องอะไรแต่ฉันไม่มีเวลามาพูดเรื่องไร้สาระกับคุณทั้งวันหรอก”
น้ำตาลพูดเดินออกไปจากตรงนั้นแต่เพราะน้ำเสียงเย็นชาของแบงค์ที่ดังขึ้นทำให้น้ำตาลต้องหันกลับมาอีกครั้ง

“คุณน้ำตาล.........ผมขอเชิญคุณมางานแต่งงานของผมกับเจ้าสาวที่ผมรักเธอมากที่สุด”
แบงค์พูดขณะประคองปูนให้ลุกขึ้น
“แน่นอนฉันต้องมาแสดงความยินดีกับเพื่อนเก่าแน่ๆ”
น้ำตาลพูดเสียงเรียบแต่แววตากลับแฝงไปด้วยความเจ็บปวด
“แล้วผมจะรอรับของขวัญจากคุณ”
แบงค์พูดประคองปูนเข้าไปในห้องโดยไม่สนใจน้ำตาลอีก
“แล้วฉันจะเตรียมของขวัญให้เธอ”
น้ำตาลพูดในใจก่อนจะเดินจากไปพร้อมหยดน้ำตาที่ไม่ต้องการให้ใครได้เห็น
                      เช้าวันใหม่แบงค์ไปทำงานตามปกติเช่นเดียวกับน้ำตาลแต่ทว่าวันนี้เธอกลับไม่ยอมพูดกับเขา แม้เวลาเดินผ่านก็ไม่ยอมมองหน้า
“คุณเป็ดคะไปบอกเจ้านายคุณด้วยนะคะว่าพรุ่งนี้เขาต้องไปเกาะกับน้ำตาลเพื่อดูสถานที่เตรียมทำงานใหญ่”
น้ำตาลสั่งลูกน้องให้ไปบอกแบงค์ทั้งๆที่เขาก็ยืนอยู่ข้างๆเธอ
“ผมไม่ไป....ไม่อยากทำงานกับเด็กปัญญาอ่อน”
แบงค์โพล่งขึ้นอย่างหัวเสียเดินหนีน้ำตาลเอาดื้อๆ
“คุณเป็ดบอกนายคุณด้วยนะคะว่าถ้าไม่มีปัญญาทำงานใหญ่ๆก็ลาออกไปซะอย่ามาถ่วงความเจริญคนอื่นเขา”
น้ำตาลตะโกนเสียงลั่นจนแบงค์ต้องเดินกลับมาหาเธอ
“คุณจะเอาไงแน่คุณหนูน้ำตาลวันทั้งวันคุณไม่พูดไม่มองหน้าผมด้วยซ้ำแล้วจะให้ผมไปทำงานกับคุณยังไงไม่ทราบ ผมไม่ได้เรียนภาษาใบ้มานะครับหรือว่าคุณจะให้ผมใช้ภาษากายหรือไง........ความคิดดีนี่คุณแอบชอบผมก็บอกมาตรงๆก็ได้ไม่ต้องมาเหนือเมฆแบบนี้”
แบงค์พูดรวดเดียวจบก่อนจะเดินหนีน้ำตาลออกไปปล่อยให้เธอยืนเต้นเร่าๆอยู่คนเดียว

“ไอ้บ้านี่.......นายตายแน่”
น้ำตาลหวีดขึ้นสุดเสียงวิ่งตามแบงค์ออกไปติดๆ
“หยุดนะ......ไอ้บ้านี่ ฉันบอกให้หยุด”
น้ำตาลตะโกนเสียงลั่นวิ่งตามแบงค์จนหอบ แบงค์เห็นน้ำตาลวิ่งตามไม่ยอมเลิกลาเขาจึงวิ่งหนีเธอเข้าไปในห้องน้ำชายแต่ทว่าน้ำตาลกลับวิ่งตามเขาเข้าไปอย่างลืมตัว
“หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ....หยุดเลย”
น้ำตาลคว้าข้อมือแบงค์ไว้มั่นหยุดยืนหอบจนตัวโยน
“นายหนีฉันไม่พ้นหรอก.....ไอ้บ้า”
น้ำตาลอมยิ้มภาคภูมิใจทั้งที่เพราะแบงค์หยุดยืนอยู่กับที่เธอถึงจับเขาได้
“คุณตามผมมาถึงในห้องน้ำชายเนี๊ยะคิดลามกกับผมหรือปล่าว…ผมไม่ยอมคุณหรอกนะ อย่ามาคิดว่าจะได้ตัวผมง่ายๆ”
แบงค์ตะโกนเสียงลั่นจนสุภาพบุรุษในห้องน้ำออกมามองกันหน้าสะลอนทำให้น้ำตาลรู้ตัวว่าตัวเองอยู่ในห้องน้ำชาย
“ไอ้บ้านี่.......ออกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ”
น้ำตาลโวยวายพยายามลากแบงค์ออกจากห้องน้ำแต่เขาก็ฝืนไว้จนสุดแรงและตะโกนใส่ร้ายน้ำตาล
“ช่วยด้วยครับ......เธอจะข่มขืนผมครับ.....ช่วยด้วย”
“น้องสาวครับใจเย็นๆครับ”
“นายอย่ามายุ่งถอยไปเลยนะถ้าไม่อยากเดือดร้อน”
น้ำตาลตะวาดใส่ผู้หวังดีเสียงลั่นในขณะที่แบงค์ก็ยังตะโกนแกล้งน้ำตาลอย่างสนุกสนาน
“เธอเพิ่งออกมาจากชายแดนครับเลยเที่ยวฉุดผู้ชายไปทั่ว...ช่วยผมด้วย”
“นี่นาย......หยุดพูดพล่อยๆเดี๋ยวนี้”
น้ำตาลพยายามดึงแบงค์จนสุดแรงแต่เขาก็ไม่ยอมท่าเดียว
“เอางี้ไหมครับน้องถ้าน้องอยากสนุกไปกับพี่ พี่ไม่คิดเงินสักบาท”
ชายหนุ่มรูปหล่อคนนึงเสนอตัว
“ไปกับพี่ดีกว่ารับรองสนุกกว่า”
“ไปกับผมไหมครับผมจะอยู่กับคุณทั้งวันทั้งคืนเลย”
หนุ่มๆในห้องน้ำพากันเสนอตัวเพราะคำพูดของแบงค์
“จะบ้าเหรอ”
น้ำตาลโวยขึ้นเสียงลั่นเมื่อทุกคนพากันมองจ้องเธอเป็นตาเดียว
“ไปเถอะ”
แบงค์พูดเสียงเข้มฉุดแขนน้ำตาลออกไปจากห้องน้ำอย่างรวดเร็ว
“นี่นายปล่อยนะ......ฉันเจ็บ”
น้ำตาลตะคอกใส่แบงค์ที่ฉุดแขนเธอด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่เขามี
“ทำไมเหรอหรือว่าคุณอยากจะไปกับไอ้พวกบ้ากามพวกนั้น”
แบงค์ตะวาดใส่น้ำตาลเสียงเขียว
“นายยังมีหน้ามาด่าฉันอีกเหรอ นายไม่ใช่หรือไงที่ทำให้คนพวกนั้นเข้าใจฉันผิด”
“ไม่ต้องมาพูดท่านู้นท่านี้หรอก มันเข้าทางคุณไม่ใช่เหรอที่ผู้ชายพวกนั้นมันพากันจ้องคุณตาเป็นมัน”
แบงค์พูดจ้องน้ำตาลตาขวาง
“ใช่......นายนี่ช่างรู้ใจฉันจริงๆเลยนะ ดีนะที่นายยังจำได้ว่าฉันเป็นโรคร่านผู้ชาย”
น้ำตาลสวนแบงค์กลับเพราะความโมโหเช่นกัน
“สันดารคนนี่มันขุดไม่ขึ้นจริงๆ”
“ก็ใช่นะซิไอ้โรคร่านผู้ชายของฉันเนี๊ยะนะนับวันๆมันจะยิ่งรุนแรงมากขึ้นทุกทีๆแล้ว”
เพราะคำพูดที่ฟังดูช่างท้าทายของน้ำตาลทำให้แบงค์โมโหจนคุมตัวเองไม่อยู่ ตรงเข้าล็อคใบหน้าของน้ำตาลด้วยสองมือแข็งแกร่ง ลำตัวกำยำเข้าประชิดร่างบางของน้ำตาลจนติดฝาพนังอย่างรวดเร็ว ริมฝีปากได้รูปบดขยี้ริมฝีปากบางของน้ำตาลด้วยความหยาบคายและรุนแรงเพราะอารมณ์โกรธที่พลุ่งพล่านอยู่ในใจ แต่ทว่าหยดน้ำอุ่นๆที่สัมผัสแก้มของเขาและลำตัวที่เริ่มสั่นเทาทำให้แบงค์ได้สติและปล่อยน้ำตาลให้เป็นอิสระ
“เพราะฉันเคยเป็นของคุณใช่ไหม เพราะอย่างนั้นคุณถึงได้คิดว่าจะทำอะไรกับฉันก็ได้”
น้ำตาลพูดประโยคสุดท้ายด้วยน้ำเสียงสั่นๆก่อนจะวิ่งร้องไห้ออกไปจากตรงนั้น เพราะไม่อยากให้แบงค์ได้เห็นเวลาที่เธออ่อนแอ
“นี่คือตัวตนของคุณหรือปล่าวน้ำตาล การกระทำกับร่างกายอันไหนมันคือคุณ”
แบงค์ครุ่นคิดถึงคำถามที่เขาเองก็ไม่เคยรู้คำตอบ
             เพราะน้ำตาลยังคงทำให้หัวใจต้องเจ็บปวดทำให้เป็นอีกหนึ่งคืนที่แบงค์ต้องมานั่งดื่มเหล้าที่คลับของต่อ
“เพราะยายคนสวยใจดำนั่นอีกแล้วใช่ไหม”
ต่อเอ่ยถามเพื่อนที่นั่งดื่มไม่พูดจากับใคร
“ตอนนี้คนที่ทำให้เจ็บหัวใจได้ขนาดนี้ควรจะเป็นปูนได้แล้วไม่ใช่ยายน้ำตาลขมนั่น ทำแบบนี้ปูนจะรู้สึกยังไงเขาจะเสียใจแค่ไหนที่รู้ว่าผู้หญิงที่ทิ้งไปมีความสำคัญมากกว่าเขาที่อยู่ข้างๆซะอีก”
“ถ้ากูบังคับหัวใจตัวเองได้กูจะมานั่ง-เหล้าที่ร้านทำไม”
แบงค์พูดประโยคสั้นๆก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาดื่มจนฟุบไปกับโต๊ะ
“กูบอกแล้วว่าเสือผู้หญิงอย่างเราน่ะมันต้องคำสาป ความรักเป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับเรา”
ต่อพูดขณะประคองแบงค์ขึ้นไปนอนชั้นบนสภาพของแบงค์ตอนนี้ไม่ได้แตกต่างไปจากเมื่อสามปีก่อนนี้สักนิด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่