"นิพิฏฐ์" เผยพร้อมผนึกกำลัง "พธม." ล้มระบอบทักษิณ ชี้ที่ผ่านมาไร้พลัง ยังกั๊กเรื่องลาออก ส.ส.
วันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 15:42:43 น.
เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า เมื่อค่ำวันที่ 15 สิงหาคม ตนพร้อมด้วย
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ นายกษิต ภิรมย์ และคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์
ได้เข้าพูดคุยเป็นการส่วนตัวและเป็นทางการกับนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ แกนนำรุ่น 2 และโฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ในเรื่องทิศทางการต่อสู้ทางการเมืองของแต่ละฝ่าย ซึ่งสถานการณ์ในขณะนี้คาดว่าทั้งสองฝ่ายมีความเข้าใจกันดีแล้ว และในทางการเมืองนับจากนี้คงทำงานร่วมกันได้ โดยสาเหตุในการพูดคุยเริ่มต้นจากเห็นว่ามีหลายกลุ่มที่ต่อสู้กับระบอบทักษิณ แต่ไม่มีความเป็นเอกภาพ
เมื่อไม่รวมกันก็จะไม่มีพลัง จึงติดต่อพูดคุยจับมือกัน ซึ่ง
เรื่องทั้งหมดตนได้เรียนให้ผู้ใหญ่ในพรรครับทราบแล้ว
นายนิพิฏฐ์กล่าวต่อว่า การพูดคุยนั้นแต่ละฝ่ายได้พูดถึงแนวทางในการต่อสู้เพื่อนำข้อสรุปในการหารือไปบอกกล่าวแกนนำของแต่ละฝ่าย เพราะเห็นว่าทั้งสองกลุ่มต่าง
มีเป้าหมายเดียวกัน คือคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่จะลบล้างความผิดและ
โค่นล้มระบอบทักษิณ แม้ขณะนี้เราจะมีแนวทางวิธีการต่อสู้ที่แตกต่างกัน แต่ก็มีเป้าหมายเดียวกัน ดังนั้น จะสามารถร่วมกันขับเคลื่อนไปด้วยกันได้ เพราะเชื่อว่าสุดท้ายแล้วแนวทางการต่อสู้ของทุกกลุ่มก็จะออกมาเป็นแนวทางเดียวกันที่เป็นเอกภาพ แต่ในระยะนี้แต่ละกลุ่มมีเงื่อนไขของตัวเอง เช่น แกนนำพันธมิตรติดเงื่อนไขของศาล ไม่สามารถขึ้นเวทีปราศรัยได้ ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่สามารถลาออกจาก ส.ส.ได้ เพราะจะไม่เป็นผลดีต่อการต่อสู้ แต่เราก็ไม่ปิดทาง เพราะ
ถ้าเกิดสถานการณ์ใกล้เคียงกับที่พรรคประชาธิปัตย์เคยประกาศไม่ลงรับเลือกตั้ง ก็อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีการลาออก ดังนั้น ขณะนี้
เราจะต่อสู้ทั้งในและนอกสภา ขณะที่กลุ่มพันธมิตรก็บอกชัดเจนว่า เขาจะสู้เพื่อล้มระบอบทักษิณให้ถึงที่สุด
ก่อนหน้านี้
นายปานเทพ พัวพงศพันธุ์ ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก เปิดเผยว่า ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้มาพบเพื่อหารือถึงการร่วมมือกันทางการเมือง มีข้อความดังต่อไป
ตามที่คุณนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ได้ให้สัมภาษณ์ว่าวันนี้มีการคุยกันระหว่างพันธมิตรฯกับคนของพรรคประชาธิปัตย์ 3-4 คน ผมจึงขอเรียนให้ทราบว่าเรื่องดังกล่าว
ผมกับคุณประพันธุ์ คูณมี ได้นัดพบกับ ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์เป็นความจริง เป็นการหารือเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ที่เอาผลประโยชน์ประเทศชาติเป็นตัวตั้ง โดยผมได้เสนอความคิดตามข้อเสนอของคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ที่ขอให้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ลาออกมาเพื่อหยุดความชอบธรรมของระบบเผด็จการที่มาจากการเลือกตั้งนี้ เพื่อมาร่วมกับพี่น้องประชาชนคนทั้งประเทศ ไม่ใช่เพื่อการเปลี่ยนขั้ว แต่มาร่วมกันต่อสู้เพื่อปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประโยชน์ต่อคนไทยทั้งประเทศ 65 ล้านคน ซึ่งคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ก็พร้อมจะเข้าร่วมเดิมพันที่จะมีความคุ้มค่าครั้งนี้ด้วย
เพื่อเอาชาติเป็นตัวตั้ง แม้จะยังไม่ได้ข้อสรุปวันนี้เพราะเป็นการพูดคุยครั้งแรก แต่พรรคประชาธิปัตย์น่าจะต้องไปพิจารณาข้อเสนอนี้ในพรรคต่อไป
การพบปะในวันนี้ ฝ่าย ปชป. มี คุณนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ , คุณเฉลิมชัย ศรีอ่อน, คุณกษิต ภิรมย์, ส่วนคุณหญิงกัลยา โสภณพานิช เข้ามาช่วงแรกแต่ติดภารกิจอภิปรายงบประมาณในสภา ส่วนผมไปกับคุณประพันธุ์ คูณมี โดยภาพรวมดูเหมือนคิดตรงกันหลายเรื่อง (ในความคิดของผม) เพียงแต่พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคใหญ่อย่างไรเสียก็ต้องกลับไปหารือในพรรคอีกครั้ง ให้เวลาพวกเขาหน่อยครับ และพวกเราเห็นพ้องต้องกันว่าเรื่องการพูดคุยครั้งนี้แม้จะยังไม่ได้ข้อยุติแต่ก็สามารถให้ข่าวได้เพื่อให้ประชาชนได้ทราบว่ามีการเคลื่อนไหวและการพูดคุยนี้เกิดขึ้น เพื่อให้ประชาชนได้ยินดีและมีความหวังที่จะก้าวต่อไปครับ
คุณสนธิ ลิ้มทองกุล ไม่ได้ชวนพรรคประชาธิปัตย์มาเพียงแค่คัดค้าน พรบ.นิรโทษกรรม และไม่ได้ชวนให้มาร่วมกันโค่นระบอบทักษิณ แต่ชวนลาออกมาเพื่อหยุด
ระบอบเผด็จการที่มาจากการเลือกตั้ง มาร่วมมือเปลี่ยนประเทศนี้ด้วยกันเพื่อผลประโยชน์ของคนไทย 65 ล้านคน
มีบางคนคนถามผมว่าไป
เจรจากับ คนพรรคประชาธิปัตย์ได้อย่างไร ไว้ใจได้หรือ ยังไม่เข็ดอีกหรือ โง่หรือเปล่า ผมก็ขอตอบว่า ไม่ลองก็ไม่รู้ และอย่างน้อยก็ได้ลองทำแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ข้อเสนอของคุณสนธิ ลิ้มทองกุลครั้งนี้เกิดปัญญาและคิดได้ในขณะกำลังสวดมนต์ ไม่ว่าประชาธิปัตย์จะปฏิเสธ ตอบรับ หรือตอบรับแต่ไม่จริงใจ เชื่อเถอะครับ เมื่อถึงเวลานั้นประชาชนจะเห็นเองและตัดสินได้เองว่าควรจะทำอะไรต่อไปหลังจากนั้น
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1376631947&grpid=00&catid=&subcatid=
?????????????????????????????????????
"....
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ .....พร้อมด้วย
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค... นายกษิต ภิรมย์ และคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์
ได้เข้าพูดคุยเป็นการส่วนตัวและเป็นทางการกับนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ แกนนำรุ่น 2 และโฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ในเรื่องทิศทางการต่อสู้ทางการเมืองของแต่ละฝ่าย .......จึงติดต่อพูดคุยจับมือกัน ซึ่ง
เรื่องทั้งหมดตนได้เรียนให้ผู้ใหญ่ในพรรครับทราบแล้ว...."
".....
ถ้าเกิดสถานการณ์ใกล้เคียงกับที่พรรคประชาธิปัตย์เคยประกาศไม่ลงรับเลือกตั้ง
ก็อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีการลาออก ...."
"....เจรจากับ คนพรรคประชาธิปัตย์ได้อย่างไร
ไว้ใจได้หรือ ยังไม่เข็ดอีกหรือ โง่หรือเปล่า .......
ข้อเสนอของคุณสนธิ ลิ้มทองกุลครั้งนี้
เกิดปัญญาและคิดได้ในขณะกำลังสวดมนต์ ...."
ไม่มีปัญญาสู้ตามแนวทางตามระบอบประชาธิไตยเหมือนสังคมโลกเขาได้แล้วจริงๆใช่ไหมพรรคประชาธิปัตย์
ต้องสิ้นคิด ยอมเปลืองเนื้อเปลืองตัว ลดตัวลงทำถึงเพียงนี้เชียวหรือ ????
ข่าวนี้จะประจานพฤติกรรมการทำลายล้างระบอบการปกครองในประเทศไทยของพรรคไร้สติไปชั่วกัลปาวสานต์....
พรรคนี้พิสูจน์ตัวตนแล้วว่า เป็นได้เพียง "แก๊งข้างถนน" เท่านั้นเอง
ศักดิ์ศรีสิ้นแล้วสิ้นเลย
ไร้ค่าไร้ราคาในโลกของคนรักสิทธิเสรีภาพตามระบอบประชาธิปไตย.....
"นิพิฏฐ์" เผยพร้อมผนึกกำลัง"พธม."ล้มระบอบทักษิณ...เอาละหวา แก๊งป่วนเมืองทาสเผด็จการเริ่มนัดแนะกันเพื่อป่วนประเทศอีกแล้ว
วันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 15:42:43 น.
เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า เมื่อค่ำวันที่ 15 สิงหาคม ตนพร้อมด้วยนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ นายกษิต ภิรมย์ และคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ได้เข้าพูดคุยเป็นการส่วนตัวและเป็นทางการกับนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ แกนนำรุ่น 2 และโฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ในเรื่องทิศทางการต่อสู้ทางการเมืองของแต่ละฝ่าย ซึ่งสถานการณ์ในขณะนี้คาดว่าทั้งสองฝ่ายมีความเข้าใจกันดีแล้ว และในทางการเมืองนับจากนี้คงทำงานร่วมกันได้ โดยสาเหตุในการพูดคุยเริ่มต้นจากเห็นว่ามีหลายกลุ่มที่ต่อสู้กับระบอบทักษิณ แต่ไม่มีความเป็นเอกภาพ เมื่อไม่รวมกันก็จะไม่มีพลัง จึงติดต่อพูดคุยจับมือกัน ซึ่งเรื่องทั้งหมดตนได้เรียนให้ผู้ใหญ่ในพรรครับทราบแล้ว
นายนิพิฏฐ์กล่าวต่อว่า การพูดคุยนั้นแต่ละฝ่ายได้พูดถึงแนวทางในการต่อสู้เพื่อนำข้อสรุปในการหารือไปบอกกล่าวแกนนำของแต่ละฝ่าย เพราะเห็นว่าทั้งสองกลุ่มต่างมีเป้าหมายเดียวกัน คือคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่จะลบล้างความผิดและโค่นล้มระบอบทักษิณ แม้ขณะนี้เราจะมีแนวทางวิธีการต่อสู้ที่แตกต่างกัน แต่ก็มีเป้าหมายเดียวกัน ดังนั้น จะสามารถร่วมกันขับเคลื่อนไปด้วยกันได้ เพราะเชื่อว่าสุดท้ายแล้วแนวทางการต่อสู้ของทุกกลุ่มก็จะออกมาเป็นแนวทางเดียวกันที่เป็นเอกภาพ แต่ในระยะนี้แต่ละกลุ่มมีเงื่อนไขของตัวเอง เช่น แกนนำพันธมิตรติดเงื่อนไขของศาล ไม่สามารถขึ้นเวทีปราศรัยได้ ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่สามารถลาออกจาก ส.ส.ได้ เพราะจะไม่เป็นผลดีต่อการต่อสู้ แต่เราก็ไม่ปิดทาง เพราะถ้าเกิดสถานการณ์ใกล้เคียงกับที่พรรคประชาธิปัตย์เคยประกาศไม่ลงรับเลือกตั้ง ก็อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีการลาออก ดังนั้น ขณะนี้เราจะต่อสู้ทั้งในและนอกสภา ขณะที่กลุ่มพันธมิตรก็บอกชัดเจนว่า เขาจะสู้เพื่อล้มระบอบทักษิณให้ถึงที่สุด
ก่อนหน้านี้ นายปานเทพ พัวพงศพันธุ์ ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก เปิดเผยว่า ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้มาพบเพื่อหารือถึงการร่วมมือกันทางการเมือง มีข้อความดังต่อไป
ตามที่คุณนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ได้ให้สัมภาษณ์ว่าวันนี้มีการคุยกันระหว่างพันธมิตรฯกับคนของพรรคประชาธิปัตย์ 3-4 คน ผมจึงขอเรียนให้ทราบว่าเรื่องดังกล่าวผมกับคุณประพันธุ์ คูณมี ได้นัดพบกับ ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์เป็นความจริง เป็นการหารือเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ที่เอาผลประโยชน์ประเทศชาติเป็นตัวตั้ง โดยผมได้เสนอความคิดตามข้อเสนอของคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ที่ขอให้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ลาออกมาเพื่อหยุดความชอบธรรมของระบบเผด็จการที่มาจากการเลือกตั้งนี้ เพื่อมาร่วมกับพี่น้องประชาชนคนทั้งประเทศ ไม่ใช่เพื่อการเปลี่ยนขั้ว แต่มาร่วมกันต่อสู้เพื่อปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประโยชน์ต่อคนไทยทั้งประเทศ 65 ล้านคน ซึ่งคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ก็พร้อมจะเข้าร่วมเดิมพันที่จะมีความคุ้มค่าครั้งนี้ด้วย เพื่อเอาชาติเป็นตัวตั้ง แม้จะยังไม่ได้ข้อสรุปวันนี้เพราะเป็นการพูดคุยครั้งแรก แต่พรรคประชาธิปัตย์น่าจะต้องไปพิจารณาข้อเสนอนี้ในพรรคต่อไป
การพบปะในวันนี้ ฝ่าย ปชป. มี คุณนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ , คุณเฉลิมชัย ศรีอ่อน, คุณกษิต ภิรมย์, ส่วนคุณหญิงกัลยา โสภณพานิช เข้ามาช่วงแรกแต่ติดภารกิจอภิปรายงบประมาณในสภา ส่วนผมไปกับคุณประพันธุ์ คูณมี โดยภาพรวมดูเหมือนคิดตรงกันหลายเรื่อง (ในความคิดของผม) เพียงแต่พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคใหญ่อย่างไรเสียก็ต้องกลับไปหารือในพรรคอีกครั้ง ให้เวลาพวกเขาหน่อยครับ และพวกเราเห็นพ้องต้องกันว่าเรื่องการพูดคุยครั้งนี้แม้จะยังไม่ได้ข้อยุติแต่ก็สามารถให้ข่าวได้เพื่อให้ประชาชนได้ทราบว่ามีการเคลื่อนไหวและการพูดคุยนี้เกิดขึ้น เพื่อให้ประชาชนได้ยินดีและมีความหวังที่จะก้าวต่อไปครับ
คุณสนธิ ลิ้มทองกุล ไม่ได้ชวนพรรคประชาธิปัตย์มาเพียงแค่คัดค้าน พรบ.นิรโทษกรรม และไม่ได้ชวนให้มาร่วมกันโค่นระบอบทักษิณ แต่ชวนลาออกมาเพื่อหยุดระบอบเผด็จการที่มาจากการเลือกตั้ง มาร่วมมือเปลี่ยนประเทศนี้ด้วยกันเพื่อผลประโยชน์ของคนไทย 65 ล้านคน
มีบางคนคนถามผมว่าไปเจรจากับ คนพรรคประชาธิปัตย์ได้อย่างไร ไว้ใจได้หรือ ยังไม่เข็ดอีกหรือ โง่หรือเปล่า ผมก็ขอตอบว่า ไม่ลองก็ไม่รู้ และอย่างน้อยก็ได้ลองทำแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อเสนอของคุณสนธิ ลิ้มทองกุลครั้งนี้เกิดปัญญาและคิดได้ในขณะกำลังสวดมนต์ ไม่ว่าประชาธิปัตย์จะปฏิเสธ ตอบรับ หรือตอบรับแต่ไม่จริงใจ เชื่อเถอะครับ เมื่อถึงเวลานั้นประชาชนจะเห็นเองและตัดสินได้เองว่าควรจะทำอะไรต่อไปหลังจากนั้น
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1376631947&grpid=00&catid=&subcatid=
?????????????????????????????????????
"....นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ .....พร้อมด้วยนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค... นายกษิต ภิรมย์ และคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ได้เข้าพูดคุยเป็นการส่วนตัวและเป็นทางการกับนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ แกนนำรุ่น 2 และโฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ในเรื่องทิศทางการต่อสู้ทางการเมืองของแต่ละฝ่าย .......จึงติดต่อพูดคุยจับมือกัน ซึ่งเรื่องทั้งหมดตนได้เรียนให้ผู้ใหญ่ในพรรครับทราบแล้ว...."
".....ถ้าเกิดสถานการณ์ใกล้เคียงกับที่พรรคประชาธิปัตย์เคยประกาศไม่ลงรับเลือกตั้ง ก็อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีการลาออก ...."
"....เจรจากับ คนพรรคประชาธิปัตย์ได้อย่างไร ไว้ใจได้หรือ ยังไม่เข็ดอีกหรือ โง่หรือเปล่า .......ข้อเสนอของคุณสนธิ ลิ้มทองกุลครั้งนี้เกิดปัญญาและคิดได้ในขณะกำลังสวดมนต์ ...."
ไม่มีปัญญาสู้ตามแนวทางตามระบอบประชาธิไตยเหมือนสังคมโลกเขาได้แล้วจริงๆใช่ไหมพรรคประชาธิปัตย์
ต้องสิ้นคิด ยอมเปลืองเนื้อเปลืองตัว ลดตัวลงทำถึงเพียงนี้เชียวหรือ ????
ข่าวนี้จะประจานพฤติกรรมการทำลายล้างระบอบการปกครองในประเทศไทยของพรรคไร้สติไปชั่วกัลปาวสานต์....
พรรคนี้พิสูจน์ตัวตนแล้วว่า เป็นได้เพียง "แก๊งข้างถนน" เท่านั้นเอง
ศักดิ์ศรีสิ้นแล้วสิ้นเลย
ไร้ค่าไร้ราคาในโลกของคนรักสิทธิเสรีภาพตามระบอบประชาธิปไตย.....