ผ่านม็อบ "สวนลุมพินี" ของกองทัพประชาชน โค่นระบอบทักษิณ มายังม็อบ "แยกอุรุพงษ์" ของเครือข่ายนักศึกษาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศแล้ว
ต้องยกนิ้วให้ "พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย"
การเคลื่อนไหวในห้วงก่อนรัฐประหารเดือนกันยายน 2549 การเคลื่อนไหวในห้วงเดือนพฤษภาคม-ธันวาคม 2551
ไม่ต้องพูดถึง
แต่ที่เยี่ยมวรยุทธ์มากยิ่งกว่านั้นก็คือ การประกาศ "ยุติ" การเคลื่อนไหวเมื่อเดือนสิงหาคม 2556
เฉียบขาดจริงๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความเฉียบขาดอันสามารถสัมผัสได้จากท่าทีและท่วงทำนองของ นายสนธิ ลิ้มทองกุล
หาก นายเสกสรรค์ ประเสริฐกุล กับ นายธีรยุทธ บุญมี ถือว่าเป็น "ตัวจริง" ของการเคลื่อนไหวเมื่อเดือนตุลาคม 2516 ก็ต้องยอมรับว่า นายสนธิ ลิ้มทองกุล เป็น "ตัวจริง" ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
จริงเพราะอ่าน "สถานการณ์" ขาด
หากดูจากบรรดา "แกนนำ" ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อมีการประกาศ "ยุติ" การเคลื่อนไหว
หลายคนก็ตระเวนหาแหล่ง "พักพิง"
พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ยังไปขึ้นเวที "สวนลุมพินี" เพราะว่ามีเยื่อใยอยู่กับกองทัพธรรมแห่งสันติอโศก รวมถึง พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ เพื่อนรัก
นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แวะเวียนไปเวที "สวนลุมพินี" แล้วก็เข้ารับตำแหน่งประธานสภาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (สปท.) โดยมี นายสุริยะใส กตะศิลา เป็นคณะทำงานอันแข็งขัน
นายพิภพ ธงไชย รับหน้าเสื่อเป็นที่ปรึกษา
มีแต่ นายสนธิ ลิ้มทองกุล เท่านั้นที่สงบนิ่งอยู่ในที่ตั้งบ้านท่าพระอาทิตย์อย่างเยือกเย็น แม้ นายนิติธร ล้ำเหลือ จากม็อบ "แยกอุรุพงษ์" พยายามจะดึงให้เข้าไปมีส่วนร่วมด้วยก็ยังยืนหยัดอย่างไม่แปรเปลี่ยน
มองทะลุทั้ง "สวนลุมพินี" มองทะลุทั้ง "แยกอุรุพงษ์" ว่ามีเงาของ "ประชาธิปัตย์" ว่อนไหวไปมา
ยิ้มเห็น "แก้ม" แย้มเห็น "ฟัน"
ถึงแม้ นายสนธิ ลิ้มทองกุล มิได้ออกมา "วิเคราะห์" ด้วยตนเอง แต่ท่าทีของ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ก็เท่ากับเป็น "เงาสะท้อน"
มอง "สวนลุมพินี" อย่างไร มอง "แยกอุรุพงษ์" อย่างไร
กลุ่มคนที่จะได้ประโยชน์สูงสุดในเชิงอำนาจและผลประโยชน์จากการล้มรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์
คือ พรรคประชาธิปัตย์
คือคณะทหารที่จะทำการรัฐประหาร (ถ้ามี)
"หลักการนี้คือหน้าที่เสี่ยงชีวิตและคดีความเป็นของประชาชน หน้าที่เข้าสู่อำนาจรัฐและผลประโยชน์เป็นของพรรคประชาธิปัตย์ การปรากฏตัวของ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ในที่ชุมนุมไปเพื่อหาเสียงเท่านั้น ไม่พร้อมเสี่ยงที่จะนำโค่นระบอบทักษิณด้วยตัวเอง"
ชัดเจน แจ่มแจ้ง
(@ มติชนสุดสัปดาห์ )
มุมมองของ สนธิ ลิ้มทองกุล (จาก มติชนสุดสัปดาห์)
ผ่านม็อบ "สวนลุมพินี" ของกองทัพประชาชน โค่นระบอบทักษิณ มายังม็อบ "แยกอุรุพงษ์" ของเครือข่ายนักศึกษาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศแล้ว
ต้องยกนิ้วให้ "พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย"
การเคลื่อนไหวในห้วงก่อนรัฐประหารเดือนกันยายน 2549 การเคลื่อนไหวในห้วงเดือนพฤษภาคม-ธันวาคม 2551
ไม่ต้องพูดถึง
แต่ที่เยี่ยมวรยุทธ์มากยิ่งกว่านั้นก็คือ การประกาศ "ยุติ" การเคลื่อนไหวเมื่อเดือนสิงหาคม 2556
เฉียบขาดจริงๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความเฉียบขาดอันสามารถสัมผัสได้จากท่าทีและท่วงทำนองของ นายสนธิ ลิ้มทองกุล
หาก นายเสกสรรค์ ประเสริฐกุล กับ นายธีรยุทธ บุญมี ถือว่าเป็น "ตัวจริง" ของการเคลื่อนไหวเมื่อเดือนตุลาคม 2516 ก็ต้องยอมรับว่า นายสนธิ ลิ้มทองกุล เป็น "ตัวจริง" ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
จริงเพราะอ่าน "สถานการณ์" ขาด
หากดูจากบรรดา "แกนนำ" ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อมีการประกาศ "ยุติ" การเคลื่อนไหว
หลายคนก็ตระเวนหาแหล่ง "พักพิง"
พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ยังไปขึ้นเวที "สวนลุมพินี" เพราะว่ามีเยื่อใยอยู่กับกองทัพธรรมแห่งสันติอโศก รวมถึง พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ เพื่อนรัก
นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แวะเวียนไปเวที "สวนลุมพินี" แล้วก็เข้ารับตำแหน่งประธานสภาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (สปท.) โดยมี นายสุริยะใส กตะศิลา เป็นคณะทำงานอันแข็งขัน
นายพิภพ ธงไชย รับหน้าเสื่อเป็นที่ปรึกษา
มีแต่ นายสนธิ ลิ้มทองกุล เท่านั้นที่สงบนิ่งอยู่ในที่ตั้งบ้านท่าพระอาทิตย์อย่างเยือกเย็น แม้ นายนิติธร ล้ำเหลือ จากม็อบ "แยกอุรุพงษ์" พยายามจะดึงให้เข้าไปมีส่วนร่วมด้วยก็ยังยืนหยัดอย่างไม่แปรเปลี่ยน
มองทะลุทั้ง "สวนลุมพินี" มองทะลุทั้ง "แยกอุรุพงษ์" ว่ามีเงาของ "ประชาธิปัตย์" ว่อนไหวไปมา
ยิ้มเห็น "แก้ม" แย้มเห็น "ฟัน"
ถึงแม้ นายสนธิ ลิ้มทองกุล มิได้ออกมา "วิเคราะห์" ด้วยตนเอง แต่ท่าทีของ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ก็เท่ากับเป็น "เงาสะท้อน"
มอง "สวนลุมพินี" อย่างไร มอง "แยกอุรุพงษ์" อย่างไร
กลุ่มคนที่จะได้ประโยชน์สูงสุดในเชิงอำนาจและผลประโยชน์จากการล้มรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์
คือ พรรคประชาธิปัตย์
คือคณะทหารที่จะทำการรัฐประหาร (ถ้ามี)
"หลักการนี้คือหน้าที่เสี่ยงชีวิตและคดีความเป็นของประชาชน หน้าที่เข้าสู่อำนาจรัฐและผลประโยชน์เป็นของพรรคประชาธิปัตย์ การปรากฏตัวของ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ในที่ชุมนุมไปเพื่อหาเสียงเท่านั้น ไม่พร้อมเสี่ยงที่จะนำโค่นระบอบทักษิณด้วยตัวเอง"
ชัดเจน แจ่มแจ้ง
(@ มติชนสุดสัปดาห์ )