คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
ขออนุญาตชี้แจงข้อมูลตามที่ คุณโอ้โหเฮะคุง สอบถาม ดังนี้ค่ะ
ในการขอสินเชื่อบ้านกสิกรไทย โดยปกติจะมีแค่ประกันอัคคีภัยที่จะมาพร้อมกับการทำสินเชื่อ เนื่องจากประกันเป็นความคุ้มครองในตัวทรัพย์สิน (บ้าน) ที่ทำการขอกรณีเกิดเพลิงไหม้ แต่หากเป็นประกันอื่นๆ ทางธนาคารจะไม่มีการบังคับ หรือหากมีความประสงค์ที่ต้องการทำสามารถระบุช่วงอายุตัวประกันที่ต้องการสมัครได้นะคะ
สำหรับสินเชื่อบ้านเพื่อรวงข้าวพิทักษ์สินกสิกรไทยนั้น เป็นประกันชีวิตที่มีความคุ้มครองทั้งการเสียชีวิต และทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิงของผู้ยื่นกู้ โดยสินเชื่อที่ยังมีอยู่นั้น ผู้สืบทอดไม่ต้องทำการรับภาระแทน โดยทางบริษัทประกันจะเป็นผู้รับภาระในการใช้หนี้ค่ะ
อย่างไรแล้วจากปัญหาเบื้องต้นสามารถแจ้งข้อมูลเพิ่มเติมเข้ามาทางหลังไมค์ เพื่อประสานงานฝ่ายงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบ ดังนี้ค่ะ
- ชื่อและนามสกุลของผู้กู้
- หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน
- ช่องทางในการยื่นเอกสาร
- หมายเลขโทรศัพท์ที่ทางธนาคารใช้ติดต่อ
- หมายเลขโทรศัพท์ที่สะดวกให้ติดต่อ
ทั้งนี้ทางธนาคารต้องขออภัยสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยค่ะ
ในการขอสินเชื่อบ้านกสิกรไทย โดยปกติจะมีแค่ประกันอัคคีภัยที่จะมาพร้อมกับการทำสินเชื่อ เนื่องจากประกันเป็นความคุ้มครองในตัวทรัพย์สิน (บ้าน) ที่ทำการขอกรณีเกิดเพลิงไหม้ แต่หากเป็นประกันอื่นๆ ทางธนาคารจะไม่มีการบังคับ หรือหากมีความประสงค์ที่ต้องการทำสามารถระบุช่วงอายุตัวประกันที่ต้องการสมัครได้นะคะ
สำหรับสินเชื่อบ้านเพื่อรวงข้าวพิทักษ์สินกสิกรไทยนั้น เป็นประกันชีวิตที่มีความคุ้มครองทั้งการเสียชีวิต และทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิงของผู้ยื่นกู้ โดยสินเชื่อที่ยังมีอยู่นั้น ผู้สืบทอดไม่ต้องทำการรับภาระแทน โดยทางบริษัทประกันจะเป็นผู้รับภาระในการใช้หนี้ค่ะ
อย่างไรแล้วจากปัญหาเบื้องต้นสามารถแจ้งข้อมูลเพิ่มเติมเข้ามาทางหลังไมค์ เพื่อประสานงานฝ่ายงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบ ดังนี้ค่ะ
- ชื่อและนามสกุลของผู้กู้
- หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน
- ช่องทางในการยื่นเอกสาร
- หมายเลขโทรศัพท์ที่ทางธนาคารใช้ติดต่อ
- หมายเลขโทรศัพท์ที่สะดวกให้ติดต่อ
ทั้งนี้ทางธนาคารต้องขออภัยสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยค่ะ
แสดงความคิดเห็น
เรียน ถาม คุณ K8888 หรือผู้รู้ เรื่องการยื่นกู้ซื้อบ้านครับ
คือ ผมได้ติดต่อ ธ.กสิกรฯเพื่อขอสินเชื่อซื้อบ้านร่วมกับภรรยา โดยยื่นซื้อบ้านราคา 3.2 ล้านบาท
โดยเบื้องต้นธนาคารฯอนุมัติในวงเงินดังกล่าวโดยแบ่งเป็นค่ากู้บ้าน ประมาณ 2.8 ค่าตกแต่ง 3แสน
และเบี้ยประกัน 4.85 แสนบาท โดยให้ดอกเบิ้ย 4.75 ต่อปี โดยยอดกู้รวมทั้งสิ้น 3.65 ล้านบาท ระยะ
เวลาผ่อนรวม 30 ปี
จากนั้นผมกับภรรยา ข้องใจว่าทำไมเงินประกันชีวิตของเราถึงสูงขนาดนั้นเลยต่อรองกับทางเจ้าหน้าที่ฯ
โดยลดระยะเวลาทำประกันชีวิต(ทั้งคู่)ลงเหลือ 10 ปี โดยเงินประกันลดลงไปกว่า 3.8 แสนบาท และยอด
กู้รวมเหลือประมาณ 3.3 ล้านบาท........ ซึ่งเราทั้ง 2 คนรับได้
มาวันนี้เจ้าหน้าที่สินเชื่อฯโทรมาแจ้งว่าทางสาขาใหญ่ไม่อนุมัติให้ดอกเบี้ย 4.75 บาทต่อปีได้ ถ้าผู้ยื่นกู้ไม่ทำประกัน
ชีวิตเต็มระยะเวลากู้ คือ 30 ปี โดยธนาคารจะให้ดอกเบี้ยแก่ผู้กู้ 5 บาทต่อปีแทน ซึ่ง......หมายความว่า เราต้อง
กลับเสียค่าประกัน 4.85 แสนบาทอีกครั้ง ถ้าอยากลดเงินประกันชีวิตลง หรือไม่ก็ต้องยอมรับดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น
0.25บาทเป็นระยะเวลา 30 ปีแทน
ผมอยากขอเรียนถามความรู้จากคุณ K8888 หรือผู้รู้ใน pantip ว่าธนาคารมีนโยบายดังกล่าวจริงหรือไม่ เหตุใดจึงเป็น
อย่างนั้น ส่วนตัวผมเห็นว่าไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค และผมอยากทราบว่าเงินประกันชีวิตดังกล่าวเป็นเงินกินเปล่าใช่หรือ
ไม่ครับ
ส่วนตัวผมและภรรยารู้สึกผิดหวังกับเหตุผลของธนาคารฯครับ เพราะเรา 2 คนเข้าใจว่าการซื้อประกันหรือไม่เป็นทางเลือก
ของผู้บริโภค แต่จำนวนนั้นมันมากเกินไปสำหรับเราทั้งคู่ครับ และผมเองตั้งใจจะซื้อประกันชีวิตกับบริษัทอื่นเพิ่มเติมอยู่แล้ว
ด้วยครับ ตอนนี้เรากำลังตัดสินใจว่าจะเลือกใช้บริการสินเชื่อของธนาคารอื่นแทนครับ
ขอขอบคุณทุกคำตอบด้วยใจจริงครับ