"นายกฯปู" สั่งยกเครื่อง "รฟท." รับ 2 ล้านล้าน

กระทู้สนทนา
วันนี้ 10ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการเผยแพร่เทปรายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน มีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ร่วมรายการ เพื่อชี้แจงภาคกิจที่ได้ร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาบริการรถไฟ ก่อนทำภารกิจใน จ.นครปฐม ราชบุรี และ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และประชุมหัวหน้าส่วนราชการในระดับปลัดกระทรวง

น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า การเดินทางโดยรถไฟครั้งนี้เพื่อให้เข้าใจและเห็นสภาพแวดล้อมจริง การพัฒนารถไฟได้มอบให้เน้น 2 เรื่องคือ การแก้ปัญหารถไฟปัจจุบัน เพื่อให้บริการประชาชนดีขึ้น และอีกเรื่องคือ การพัฒนารถไฟให้สอดรับกับโครงการลงทุนตามเงินกู้ 2 ล้านล้าน โดยให้คำนึงถึงการให้บริการที่สะดวกสบายแก่ประชาชน กระจายความเจริญสู่เมืองต่างๆ และช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจได้เติบโต

ทั้งนี้ ได้ให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และกระทรวงคมนาคมศึกษาผลตอบแทนการลงทุนแบบครบวงจร โดยให้รถไฟ สายสีแดง บางซื่อ-รังสิต เป็นกรณีศึกษาตั้งแต่ต้นทาง ในตัวสถานีมีอะไรบ้าง ทั้งบริการภาครัฐและเอกชน รายได้ การลงทุน นอกจากค่าโดยสาร การพัฒนาเศรษฐกิจโดยรวม การดูแลบุคลากร งานบริการ การนำสินค้าโอทอปในแต่ละสถานที่ใกล้พื้นที่มาขายให้มีรายได้เพิ่ม

“ต้นทุนเป็นส่วนหนึ่งแต่ สิ่งที่อยากให้มององค์รวมคือมูลค่าเศรษฐกิจและความเจริญที่เกิดขึ้นในบริเวณนั้น เพราะการที่มีการลงทุนจากภาครัฐ ก็อยากให้เห็นว่ามีผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ อยากให้ผู้เดินทางทางถนน หรือโหมดทางเครื่องบินมาใช้บริการรถไฟ นอกจากปลอดภัยก็ประหยัดพลังงานที่จะไปใช้กับรถยนต์ ถ้าเรามาศึกษาและทำให้ดี เชื่อว่าจะทำให้พี่น้องประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นด้วย” น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว

ส่วนปัญหาหนี้สินของ รฟท. เป็นสิ่งที่เป็นจริง แต่รฟท.ต้องมุ่งในการนำมีที่ดินต่างๆ มาพัฒนาก่อให้เกิดรายได้ และต้องเน้นการบริกรประชาชนควบคู่ไป โดยพยายามทำให้ผู้โดยสารอื่นๆ หัยมาใช้รถไฟเพิ่ม เพราะนอกจากปลอดภัยแล้วยังลดใช้พลังงานจากรถยนต์ นอกจากนี้ยังให้นโยบายในการพัฒนาขวัญกำลังใจบุคลากร โดยให้ไปศึกษาว่า ขวัญกำลังใจ อัตราการจูงใจ จำนวนบุคลากรให้พอ แต่แผนระยะสั้นที่อยากฝาก คือ ให้เร่งปรับปรุงห้องน้ำตามสถานี และห้องน้ำบนรถไฟ ตลอดจนป้ายบอกทางเพื่อเพิ่มการบริการดียิ่งขึ้น และคำนึงถึงคนพิการด้วย

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม กล่าวว่า ความคุ้มค่าของการสร้างรถไฟความเร็วสูงนอกจากความสะดวกรวดเร็วแล้ว ขอให้มองความคุ้มค่าด้านการเติบโตเศรษฐกิจด้วย เพราะจะช่วยให้เกิดการสร้างงาน กระจายความเจริญไปสู่ต่างจังหวัด เป็นเมืองใหม่ และการลงทุนอื่นๆ ตามมา ดังนั้นจะคิดเอาค่าตั๋วโดยสารมาชดเชยค่าใช้จ่ายลงทุนอย่างเดียวไม่ได้ ต้องมองการเจริญเติบโตของภาพรวมเศรษฐกิจ  อย่างไรก็ตาม แผนการพัฒนาเมืองตามแนวเส้นทางรถไฟ จะไม่เวนคืนที่ดินเอกชน แต่เน้นใช้ที่ของหน่วยงานภาครัฐก่อน ทั้งที่ดินราชพัสดุ และที่ดินราชการอื่นๆ ที่ไม่ใช้ประโยชน์ แต่การพัฒนาแค่ละสถานีจะแตกต่างกัน และมีการนำสินค้าโอทอปวางจำหน่าย รวมทั้งการตัดถนนเพื่อเชื่อมโยงการเดินทางระบบรางกับทางน้ำ และทางอากาศ

http://www.dailynews.co.th/businesss/225176
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่