❝ ยุคทอง ❞ ของเศรษฐกิจไทย ระหว่างปี 2546 ถึง ปี 2555

กระทู้สนทนา
การลงทุนด้านการศึกษาของรัฐบาล เมื่อ 8 พฤษภาคม 2540   ผลลัพธ์คือ   ❝ ยุคทอง  ❞ ของเศรษฐกิจไทย ระหว่างปี 2546 ถึง ปี 2555

การเติบโตของเศรษฐกิจไทยรายปี จากรายงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจ และ สังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 8

ช่วง 2537–2545

โตเฉลี่ย 3.3% (ตัดปี 2540–2541 ที่ผันผวน)
ปี 2541 ต่ำสุด -7.6%

ช่วง 2546–2555

โตเฉลี่ย 4.5%

ช่วง 2556–2565

โตเฉลี่ย 1.9%
ปี 2563 ต่ำสุด -6.1%

ปี 2566

Q3/2566 โต 1.5%
คาดทั้งปี GDP ปี 2566 โตประมาณ 2.5%

ปี 2567 (ประมาณการ)

สภาพัฒน์ฯ คาด 2.7–3.7%
สศค. คาด 3.2%
ธปท. คาด 3.2–3.8%
กกร. คาด 2.8–3.3%

อ้างอิง https://www.bangkokbiznews.com/business/economic/1106409



ที่มา https://www.bangkokbiznews.com/business/economic/1106409#

คนไทยอายุ 3-17ปี 4.35 ล้านคน จากครอบครัวยากจน ตอบแทนสังคมไทย จากการลงทุนด้านการศึกษา เมื่อ 8 พฤษภาคม 2540 คือ

ปี 2546

อายุ 15–17 ปี (จำนวน 2,000,000 คน) เข้าเรียน 8 พฤษภาคม 2540 จบปี 2543

สรุป

กลุ่ม:: อายุ 15–17 ปี
จำนวน: 2,000,000 คน
ระดับการศึกษา: มัธยมศึกษาตอนปลาย และรวมอาชีวศึกษา
สิทธิประโยชน์: การศึกษา, อาหาร, อุปกรณ์การเรียน, ค่าพาหนะ ฟรี
เริ่มทำงาน: ปี 2543
สิ้นสุดช่วงนี้: ปี 2546
ผลกระทบต่อ GDP: กลุ่มนี้สร้างแรงขับเคลื่อน GDP ปี  2543-2546 สูง เนื่องจากเข้ามาเป็นแรงงานในระบบ
ถ้าใช้สมมติฐาน GDP ต่อปีถัวเฉลี่ยจากตัวเลข 25ปีรวม 4.37 ล้านล้านบาท

GDP ต่อปี = 4.37 ÷ 26 ≈ 0.168 ล้านล้านบาท
GDP 2543–2546 (4 ปี) = 0.168 × 4 ≈ 0.672 ล้านล้านบาท
✅ ดังนั้น เด็กกลุ่มนี้สร้าง GDP ช่วง 2543–2546 ≈ 0.672 ล้านล้านบาท

อายุ 12–14 ปี จำนวน 1,000,000 คน ที่เข้าเรียน 8 พ.ค. 2540 และจบปี 2546

ข้อมูลพื้นฐาน:

กลุ่ม: อายุ 12–14 ปี
จำนวน: 1,000,000 คน
ระดับการศึกษา: มัธยมศึกษาตอนต้น
สิทธิประโยชน์: การศึกษา, อาหาร, อุปกรณ์การเรียน, ค่าพาหนะ ฟรี
เข้าเรียน: 8 พฤษภาคม 2540
จบการศึกษา: ปี 2546
ปีทำงานเริ่ม: ปี 2546


สมมติฐาน:
GDP ต่อปีเฉลี่ยจากตัวเลข 22 ปี รวม 3.696 ล้านล้านบาท (กลุ่มเด็กจบปี 2546)
GDP ต่อปี = 3.696 ÷ 23 ≈ 0.1607 ล้านล้านบาท
ปี 2546 (ปีเดียว) ที่เด็กกลุ่มนี้เริ่มทำงาน:
GDP ที่สร้างได้ ≈ 0.1607 ล้านล้านบาท


ผลกระทบต่อ GDP ปี 2546
เด็ก 15–17 ปี (เริ่มทำงานปี 2543) → ผลกระทบปี 2546 = 0.168 ล้านล้านบาท
เด็ก 12–14 ปี (เริ่มทำงานปี 2546) → ผลกระทบปี 2546 = 0.1607 ล้านล้านบาท
รวม GDP ที่สร้างได้ปี 2546 ≈ 0.168 + 0.1607 = 0.3287 ล้านล้านบาท


เด็กอายุ 6–11 ปี จำนวน 650,000 คน
ระดับ: ประถมศึกษา
หมายเหตุ: ได้รับการศึกษา อาหาร อุปกรณ์ และค่าพาหนะฟรี
เข้าเรียน: 8 พฤษภาคม 2540

กลุ่มนี้ จบปี 2552 → เริ่มทำงานปี 2552
จำนวนปีทำงาน: 2552–2568 = 17 ปี
จากข้อมูลเดิม GDP รวมของกลุ่มนี้ 1.86 ล้านล้านบาท → GDP ต่อปี ≈ 0.109 ล้านล้านบาท


อายุ 3–5 ปี จำนวน 700,000 คน
ระดับ: เด็กเล็กก่อนวัยเรียน
หมายเหตุ: ดูแลและพัฒนาเต็มศักยภาพ
เข้าเรียน: 8 พฤษภาคม 2540 เรียนฟรีจริง 15 ปี รุ่นแรกและรุ่นเดียว ( การเปลี่ยนแปลงนโยบายของรัฐบาลต่อๆมา ปัจจุบันไม่มีข้อมูล)
เรียนจบ ปี 2555

คำนวณผลกระทบต่อ GDP
ข้อมูลเดิมระบุว่า GDP รวมของเกลุ่มนี้ 1.41 ล้านล้านบาท (ช่วง 13 ปี)
GDP ต่อปี ≈ 1.41 ÷ 12 ≈ 0.118 ล้านล้านบาท/ปี


✅ สรุป:
กลุ่มอายุ 3-5 ปี  700,000 คน  (เข้าเรียนปี 2540 จบปี 2555) เริ่มทำงานปี 2555 และ สร้าง GDP ต่อปีประมาณ 0.118 ล้านล้านบาท

หลังปี 2555 หมดอานิสงส์ จากกลุ่ม 4.35ล้านคน  ตัวเลขเศรษฐกิจไทย จึงตกต่ำ




อ้างอิง https://www.bangkokbiznews.com/business/economic/1106409#

ฯพณฯ สุขวิช รังสิตพล – ผู้สร้างระบบการศึกษาของไทย

8 พฤษภาคม 2540 รับคนจน อายุ 3-17ปี 4.35ล้านคน เพิ่ม (เดิมมีเพียง 12.33 ล้านคนในระบบ เนื่องจากคนจน ไม่ได้เรียน ) ส่งผลให้ คนไทย ทุกคน อายุ 3-17 ปี ซึ่งมี 16.68 ล้านคน ได้รับบริการการศึกษาพื้นฐาน 12 ปี + อนุบาล 3ปี ที่มาของ รัฐธรรมนูญ 2540 มาตรา 43 และ 80 รัฐธรรมนูญไทยฉบับแรก มอบสิทธิการศึกษามากกว่า ชั้นประถมให้คนไทย พร้อมอาหารกลาง วัน, รถรับส่ง หรือค่าเดินทางอยู่ประจำได้อาหาร 3 มื้อ เครื่องแบบ ครบชุดทุกชุด และ อุปกรณ์การเรียนครบครัน

ทำงาน คนเดียวในเชิงออกแบบระบบ (System Architecture) แต่ใช้ Participatory Planning ให้ครู นักเรียน ผู้ปกครอง และชุมชนมีส่วนร่วม
การอภิวัฒน์การศึกษา 2538: 
ปรับปรุงโรงเรียน 29,845 แห่ง
ปรับปรุงห้องเรียน 38,112 แห่ง
ปรับปรุง อาคารเอนกประสงค์ 12,227 อาคาร
ปรับปรุงห้องน้ำ 11,257 โรงเรียน
สร้าง การศึกษาเสมอภาคและเรียนฟรี 3–17 ปี: ครอบคลุมค่าเล่าเรียน, หนังสือ, อุปกรณ์, ชุดนักเรียน, อาหารกลางวัน และค่าขนส่ง
ผลกระทบระดับชาติ: เด็กยากจนกว่า 4.35 ล้านคนเข้าสู่ระบบ ลดความเหลื่อมล้ำ, พัฒนาฐานเศรษฐกิจความรู้, เป็นรากฐานของ แผนพัฒนาฯ 8 และรัฐธรรมนูญ 2540

สรุป:
🌟 สุขวิช = ออกแบบระบบเพียงคนเดียว
🌟 ประชาชน = ผู้ร่วมผลักดัน ทั้งกำลังกายและกำลังทรัพย์
🌟 สร้างการศึกษาเสมอภาคและโครงสร้างใหญ่ที่สุดของไทยหลัง 2500
🌟 ทำสำเร็จแม้ประเทศไทยเผชิญการเมืองปั่นป่วนที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย
(รัฐประหาร 2534, พฤษภาทมิฬ 2535–2539, เลือกตั้ง 4 ครั้ง, นายกรัฐมนตรี 5 คน, วิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง 2540)
🇹🇭 ผู้คิดกระบวนทัศน์ใหม่ในการจัดทำ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 8 ให้ไทยเป็นประเทศพัฒนาแล้วในปี 2563 (แผนยุทธศาสตร์ชาติ 25 ปี 2538–2563)
🇹🇭 ผู้นำฝ่ายรัฐบาลในฐานะ รองนายกรัฐมนตรี จัดทำ รัฐธรรมนูญ 2540 และแก้ปัญหาเชิงนโยบาย เช่น กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา โดยนำกฎหมายปี 2491 มารองรับจนสำเร็จ

✈️ ผู้นำระบบ PPP มาแก้ไขปัญหาสนามบินสุวรรณภูมิ ลงนามปี 2539 กำหนดเสร็จ 2543 ⚫️ล่าช้า 7 ปี เพราะนักการเมืองแทรกแซง (ระบบPPP คือ ระบบป้องกันการแทรกแซงของนักการเมือง ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ใช้ในประเทศพัฒนาแล้วทั่วโลก) https://www.jsce.or.jp/e/archive/project/pj17.html

🏭⛽💨 ใช้ระบบ PPP ก่อตั้งโรงกลั่น SPRC 

🎓 💰 กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ตั้งโดยรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ปิ2538 ฯพณฯสุขวิช แก้ปัญหาเพีนงคนเดียว โดยใช้กฎหมายปี 2491 มารองรับตั้งแต่16 มกราคม 2539 จนถึงปัจจุบัน 2568

🏛️ แผนแม่บทปฏิรูประบบราชการ ปี 2540 -2544

🏠 แผนแม่บทการเคหะแห่งชาติ ปี 2540-2544 

ยุทธศาสตร์เศรษฐกิจชุมชน 🏘️💰⚙️ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่8 เพื่อความมั่นคงของเศรษฐกิจฐานราก

🌾 🐟 พักหนี้เกษตรกร & ประมง ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๐ และ ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๔๐  

🚑 🏥 🩺  ระบบประกันสุขภาพ 2540 —> แผนพัฒนาฯ8 ครอบคลุมพื้นที่ 100%. ของ 🇹🇭, รัฐธรรมนูญ 40 มาตรา 52,62,&82 สิทธิรักษาพยาบาลทุกคน,เท่าเทียม,ทั่วถึง&ทั่วไทย 

🧠⚔️🕊️ สุขวิชโนมิกส์ติดอาวธทางปัญญาด้วยการศึกษาเพื่อให้ประชาชนทำสงครามกับยาเสพติด ด้วย สันติวิธี 


สุขวิชโนมิกส์: การลงทุนด้านการศึกษา = แรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย

1️⃣ ปรัชญาหลัก

ฯพณฯ สุขวิช รังสิตพล ออกแบบระบบการศึกษาไทย (System Architecture) คนเดียว
ใช้ Participatory Planning ให้ครู นักเรียน ผู้ปกครอง และชุมชนร่วมสร้างระบบ
การอภิวัฒน์การศึกษา 2538:

การอภิวัฒน์การศึกษา 2538
ปรับปรุงโรงเรียน 29,845 แห่ง
ปรับปรุงห้องเรียน 38,112 แห่ง
ปรับปรุง อาคารเอนกประสงค์ 12,227 อาคาร
ปรับปรุงห้องน้ำ 11,257 โรงเรียน

กลุ่มเปราะบาง 4.35 ล้านคนเข้าสู่ระบบ ลดความเหลื่อมล้ำ พัฒนาฐานเศรษฐกิจ สร้างสรรค์สังคทแห่งการเรียนรู้ อย่างเป็นรูปธรรม
และเป็นรากฐานของ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 8 และ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2540



สรุปผลกระทบปี 2546:

เด็ก 15–17 ปี → 0.168 ล้านล้านบาท
เด็ก 12–14 ปี → 0.1607 ล้านล้านบาท
รวม ≈ 0.3287 ล้านล้านบาท

หลังปี 2555 อานิสงส์จากกลุ่มคนจน 4.35 ล้านคนหมดไป ส่งผลให้ GDP เติบโตช้าลง

3️⃣ การเติบโตของเศรษฐกิจไทยรายปี (ข้อมูลสภาพัฒน์ฯ)

2537–2545: เฉลี่ย 3.3% (ตัดปี 2540–2541)
2546–2555: เฉลี่ย 4.5% → ช่วง “ยุคทอง” GDP ได้แรงหนุนจากเด็กกลุ่มสุขวิชโนมิกส์
2556–2565: เฉลี่ย 1.9%
ปี 2563 ต่ำสุด -6.1%
ปี 2566 Q3 โต 1.5%, คาดทั้งปี 2.5%
ปี 2567 คาด 2.7–3.8%

ข้อสังเกต: การเติบโตสูงสุดเกิดจากการเข้าสู่แรงงานของเด็กกลุ่ม 4.35 ล้านคน

4️⃣ สรุปเชิงนโยบาย

🌟 สุขวิชโนมิกส์ = การลงทุนด้านการศึกษา ของ รัฐบาล เมื่อ 8 พฤษภาคม 2540 ผลลัพธ์คือ  ❝ ยุคทอง  ❞ ของเศรษฐกิจไทย ระหว่างปี 2546 และ ปี 2555
🌟 การศึกษาเสมอภาค 3–17 ปี ทำให้เด็กยากจนกลายเป็นแรงงานมีทักษะ → เพิ่ม  GDP
🌟 หลังปี 2555 หมดอานิสงส์จากกลุ่มนี้ → การเติบโตชะลอตัว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่