ปวดข้อเท้า มีอาการบวมร่วมด้วย เป็นมาจะ 2 ปี ละ

กระทู้คำถาม
มีอาการปวดข้อเท้าและบวม (บริเวณตาตุ่มด้านนอก)
สาเหตุบอกตามตรงว่า ไม่รู้ว่าเกิดจากกรณีไหน
คืออาจเป็นเพราะการใส่ส้นสูง , การใส่รองเท้าที่พื้นรองเท้าเรียบเกินไป (ไม่มีส้น) หรือข้อเท้าแพลง ใส่รองเท้าแต่ก็แพลง ร้องไห้
และอาจเป็นเพราะเดินเยอะ (เป็นคนชอบเดิน)

ช่วงปีแรกที่เป็นไม่ได้ไปหาหมอค่ะ ซื้อยามานวดเอง ตอนนั้นยังไม่ค่อยบวม แต่ก็ยังไม่เลิกใส่รองเท้าส้นสูง
แต่เราก็ไม่ได้ใส่ทุกวันนะคะ อาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง มันเป็นๆ หายๆ ไปเอง ที่ตัดสินใจไม่ไปหาหมอเพราะตอนนั้น
กล้ามเนื้อบริเวณข้อศอกขวามีอาการอักเสบ แขนขวาไม่สามารถยืด-หด ได้เต็มที่เหมือนแขนข้างซ้าย
สาเหตุเดาเอาว่าเกิดจากการยกของหนัก ไปหาหมอค่ะ (สิทธิประกันสังคม) คุณหมอส่งไปเอ็กซเรย์
ก็ไม่พบความผิดปกติใดๆ เลยให้ยาแก้ปวด แก้อักเสบมากิน
ก็ดีขึ้น (แต่ไม่นานก็เป็นอีก แต่มันไม่หนักเท่ากรณีข้อเท้าเลยเลือกรักษาข้อเท้าก่อน)

แล้วทั้งขาและแขนก็เป็นๆ หายๆ เรื่อยมา จนกระทั่งเข้าปีที่ 2 (เอ็กซเรย์ไม่พบความผิดปกติ)
ตัดสินใจหาหมอเรื่องข้อเท้ามากขึ้น  เหมือนเดิม คุณหมอให้ยาแก้อักเสบ แก้ปวด ยานวด
และห้ามเดินเยอะ หากเกิดอาการอีกให้มาพบคุณหมออีกครั้ง (ไม่ได้เขียนใบนัด)
ตอนนั้นกินยามันก็หายค่ะ แต่พอยาหมดไม่นานก็เป็นอีก

เริ่มรู้สึกเบื่อตัวเอง เบื่อการรักษาแบบแค่ให้ยาแก้อักเสบมากินแล้วค่ะตอนนั้น
กินยามาเกือบปีครึ่ง คุณหมอก็บอกไม่ได้ว่าเกิดจากอะไร จนกระทั่งเมื่อต้นปีที่ผ่านมา
คุณหมอส่งตัวไปอีก รพ.หนึ่งเพื่อทำ เอ็ม.อาร์.ไอ ผลตรวจพบการอักเสบของกล้ามเนื้อเล็กน้อย
แต่วันที่เอาผลไปพบคุณหมอ คุณหมอตัดสินใจเจาะบริเวณที่บวมเพื่อส่งผลตรวจ
สิ่งที่ได้จากการเจาะคือน้ำค่ะ คุณหมอบอกว่าเป็นน้ำดี เหมือนน้ำในร่างกายทั่วไป ไม่ใช่พวกน้ำเหลือง รู้สึกเจาะออกไปเยอะเหมือนกัน
ไม่รู้ว่าคุณหมอส่งไปตรวจอะไรบ้าง แต่อีกหนึ่งเดือนให้มาใหม่เพื่อฟังผลตรวจ

หลังจากเจาะเอาน้ำออก ไม่ปวดเลยค่ะ ปกติตอนเช้านี่เป็นเวลาแห่งความเจ็บปวดเลย
กลายเป็นหายไปเลย แต่ยังบวมอยู่นิดๆ

หนึ่งเดือนต่อมาไปตามคุณหมอนัด ผลตรวจน้ำที่เจาะออกไปไม่มีอะไรผิดปกติ แต่ยังมีอีกหนึ่งอย่างที่ผลตรวจยังไม่ออก
ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร ไอ้เราก็ไม่ได้ถามหมอด้วยว่ามันเรียกแบบที่ชาวบ้านเข้าใจง่ายๆ ว่าอะไร
แต่มีคำถามว่า "นี่ฉันต้องมาฟังผลตรวจเดือนหน้าอีกเหรอ" ไปฟังผลวันนั้นคุณหมอไม่ได้ให้ยาค่ะ เพราะไม่ได้ปวด

อีกเดือนต่อมาไปตามใบนัด ผลตรวจนั้นออกมาแล้ว (ซึ่งก็ไม่รู้คือผลอะไร) สรุปก็ไม่ได้เป็นอะไร
แต่! แต่! หนึ่งอาทิตย์ก่อนไปพบคุณหมอ เราปวดข้อเท้ามากขึ้น ลามไปยันฝ่าเท้า แทบทิ้งน้ำหนักตัวลงขาข้างขวาไม่ได้เลย
เราก็บอกคุณหมอไปว่ามันปวดมากกว่าเดิม ปวดกว่าเดิมด้วย คุณหมอดูนิดหน่อยแล้วก็ให้ยาแก้ปวดแก้อักเสบมากิน
แล้วอีกหนึ่งเดือนนัดไปอีกรอบ...

จะ 2 ปีแล้วนะ  ทำไมมันไม่หายขาดซะที ร้องไห้
ต้องไปพบคุณหมออีกกี่เดือน กี่ปีคะ ถึงจะหายขาด
สเตียรอยด์จะกินตับหนูหมดแล้วค่ะคุณหมอ!!!
อมยิ้ม14 อมยิ้ม20อมยิ้ม20



ที่มาตั้งกระทู้ที่นี่ก็เผื่อมีใครพอจะแนะนำการรักษาให้เราได้บ้าง อยากหายขาดซะที
อยากวิ่ง อยากตีแบต ออกกำลังกายก็เป็นไปได้ยากเหลือเกิน





ปล. มีคนรู้จักแนะนำให้ใส่รองเท้าที่พื้นนูนรองรับความลึกของตรงกลางฝ่าเท้าอ่ะค่ะ ก็เลยไปซื้อมาใส่
บวกกับกินยาแก้อักเสบด้วยมั้ง เลยดีขึ้น สามีนวดข้อเท้าให้ทุกวัน รวมๆ ก็ทรมารลดลงไปหน่อย
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
ข้อเท้าที่ปวด บวมแดง รู้สึกร้อนๆ มั้ยคะ

ปวดข้อนานๆ เรื้อรัง แบบนี้ ลองไปหาหมอทางด้านอักเสบรูมาตอยด์ อย่างที่ คห บนบอกนะคะ
ไม่ใช่หมอแผนกกระดูกนะคะ

เราเคยข้อเท้าแพลงสมัยมัธยมถึงมหาวิทยาลัย อยู่เป็นปีๆ ก็กินยาแบบคุณ แต่ตอนนั้นมันหายไปเอง
แล้วมันจะปวด เป็นๆ หายๆ ในข้ออื่น
บังเอิญลังเกิดอาการกำเริบหนัก เป็นลามไปทุกข้อ ถึงได้รู้ตัวเองเป็นกลุ่มข้ออักเสบเรื้อรัง

ถ้าเป็นกลุ่มข้ออักเสบเรื้อรัง แนะนำให้หาหมอที่ถูกด้าน อย่างน้อยยาที่กินมันจะได้แก้ถูกโรค
ไม่ได้กินยาแก้กล้ามเนื้ออักเสบเรื่อยเปื่อยแบบนี้ มันบั่นทอนตับและกระเพาะ

แต่ว่าถ้าเป็นพวกข้ออักเสบเรื้อรังนี่ ทำใจไว้เลยค่ะ บางเคสกินยารักษานานเป็นปีๆ มันเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายตัวคุณเอง
เหมือนพวกภูมิแพ้ รักษาอาการให้สงบ ไม่ปวดข้อได้ แต่ใช้เวลามากๆ

คำแนะนำในการดูแลร่างกาย พยายามรักษาสุขภาพให้ดี แข็งแรง ไม่เป็นโรค ไม่ท้องเสีย (กินของสุก) และไม่เครียด
เป็นวิธีปฏิบัติเบื้องต้น แต่คุณมีอาการปวดข้ออยู่ แนะนำไปหาคุณหมอรักษาอาการให้ทุเลา หรือหายนะคะ

ปล. ถ้าคุณรักษาอาการอักเสบที่ข้อหายแล้ว คุณก็ออกกำลังกายได้ เช่น ฟิตเนส
แต่ถ้าเป็นข้ออักเสบ ต้องระวังไม่ออกกำลังกายที่เสี่ยงกับข้อต่อต่างๆ แนะนำ ว่ายน้ำ เหมาะสมที่สุด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่