
“เคล็ดลับคือ เงินเดือนคุณเท่าไร คุณพยายามทำงานให้ได้งานเป็นสองเท่าของเงินเดือนนะ แล้วคุณจะโต” ประโยคนี้ เป็นประโยคที่ผมใช้งานสอนงาน ลูกน้องบ่อยๆตลอด 10 กว่าปีที่ผ่านมา เพราะคนรุ่นผมถูกฝึกให้ขยัน ลุยงาน และอดทน และมันก็ได้กลายเป็นนิสัยติดตัวผมมาตั้งแต่สมัยที่ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยตั้งแต่อยู่ ABAC เท่าที่ผมทำมามันเป็นสิ่งที่ได้ผลจริงๆนะ เพราะมันทำให้เราพยายามทำงานทุกอย่างที่ทำได้ อยากเรียนรู้ทุกเรื่องแม้ว่าไม่ใช่ในงานของเรา ทำให้เรารู้กว้างขึ้น อย่างตอนที่ผมไปทำงานคุมงานก่อสร้างไซท์แรก ด้วยความที่เราไม่ได้จบมาสายก่อสร้างโดยตรง ทำให้เราต้องขยันเป็น 2-3 เท่า ของคนที่เรียนด้านนี้มา เพื่อพยายามจะเรียนรู้ในสิ่งที่ต้องรู้ ผมไปไซท์ เดือนละ 30 วัน ไม่มีวันหยุด ผมไม่ยอมหยุด เพราะทุกวันมีงานใหม่ๆ ที่ผมไม่เคยเห็น ไม่เคยรู้เกิดขึ้นทุกวัน การหยุดงานไป 1 วัน แปลว่า ผมจะพลาดการเรียนรู้ไป 1 วัน ผมอยู่ไซท์งานแรก 10 เดือนเต็ม ลองทำเองทุกอย่างตั้งแต่ คุมงาน รับวัสดุ โทรสั่งของ หัดคิดแบบก่อสร้าง ทำรายงานประชุม เข้าประชุมกับฝรั่ง เสนอราคา วางบิล เก็บเช็ค แม้กระทั่งไปช่วยคนงานก่อสร้างเทปูน ทำอยู่อย่างนี้จนเจ้าของโครงการเห็นว่าไอ้หมอนี้มันเป็นสารพัดช่าง เลยมาชวนผมไปทำงานด้วย โดยเสนอให้เงินเดือน 2 เท่าของที่ได้อยู่ พร้อมรถประจำตำแหน่งอีก 1 คัน แหม เท่โคตร
( แต่โชคดีที่ไม่ได้ไปนะ เพราะตอนต้มยำกุ้งบริษัทเจ้าของงานนี้ เจ๊งก่อนเลย 555 )
ที่ผมอยากจะบอกทุกท่าน คือ
1.คนเรา ไม่จำเป็นต้องทำงานได้ดีในสายงานที่เรียนมาโดยตรงก็ได้ เรียนจากหนังสือไม่เท่าเรียนรู้จากชีวิตจริง อันนี้มีตัวอย่างหลายๆคนที่ประสบความสำเร็จ พิสูจน์มาแล้วมากมาย
2.ความขยัน ไม่เคยทำให้ใครโง่ แต่จะทำให้เราได้รู้อะไรมากกว่าคนขี้เกียจ 2 ช่วงตัวเสมอ
3.แม้ว่า สังคม เปลี่ยนไป คน GEN นี้ กับคน GEN ผม มีความคิดและสิ่งแวดล้อมที่ต่างกันมหาศาล แต่ การที่คน GEN นี้ มีสิ่งที่ช่วยให้การทำงานให้ประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้น ก็ไม่ควรละทิ้ง ความพยายามเรียนรู้และความขยันที่อยากให้ติดอยู่ในพันธุกรรมของคนไทยทุกคนจริงๆ
4.มีหลายคนเถียงผมในใจ เรื่องทำงานให้เป็น 2 เท่าของเงินเดือน ว่ามันไม่แฟร์ ผมจะบอกว่า ไม่มีอะไรแฟร์หรอกครับบนโลกใบนี้ ทำไปเถอะถ้ามันไม่ได้ทำเงินเดือนคุณขึ้นมา 2 เท่า แต่มันจะทำให้คุณมีค่าเป็น 2 เท่าเมื่อเทียบกับคนอื่น และเมื่อใดที่คุณไม่ได้เป็นมนุษย์เงินเดือนอีกต่อไป คุณจะรู้ว่ามันโคตรคุ้ม ที่ได้ทำแบบนี้มาตลอดชีวิต ครับ
-----
credit :
https://www.facebook.com/pages/%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%9E%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%95%E0%B8%AB%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B9%88-HI/577145815629857
ประวัติ “คุณใหญ่” เจ้าของงานเขียนชิ้นนี้ ซึ่งเป็นผู้ชนะเลิศการแข่งขัน THE STOCK MASTER
คุณใหญ่มีหน้าที่การงานที่เติบโต และตำแหน่งหลังสุดเป็นถึงผู้บริหารระัดับสูงของบริษัทก่อสร้างชั้นนำของประเทศ แต่ล่าสุดได้รีไทร์จากงาน เพื่อออกมาเป็นนักลงทุนเต็มตัวเขาค้นพบกับอะไร ถึงมีความมั่นใจในการเปลี่ยนแปลงชีวิตครั้งใหญ่ครั้งนี้
Happy Investor (HI) คือ นักลงทุนที่ยึดหลักความสุขนำและให้ผลพลอยได้เป็น “ขนาดพอร์ตการลงทุนที่ใหญ่ตามมา″
“มากกว่าแค่รวย แต่นี่คือรวยแบบมีความสุข” ช่างเป็นแนวทางการลงทุนที่น่าศึกษาและน่าทำตามอย่างที่ใครบางคนบอกไว้ “แค่เปลี่ยนความคิด ชีวิตก็เปลี่ยน” “แค่เปลี่ยนความคิด ก็ช่วยพลิกพอร์ต” ได้เหมือนกัน
เคล็ดลับสู่ความสำเร็จในการทำงาน
“เคล็ดลับคือ เงินเดือนคุณเท่าไร คุณพยายามทำงานให้ได้งานเป็นสองเท่าของเงินเดือนนะ แล้วคุณจะโต” ประโยคนี้ เป็นประโยคที่ผมใช้งานสอนงาน ลูกน้องบ่อยๆตลอด 10 กว่าปีที่ผ่านมา เพราะคนรุ่นผมถูกฝึกให้ขยัน ลุยงาน และอดทน และมันก็ได้กลายเป็นนิสัยติดตัวผมมาตั้งแต่สมัยที่ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยตั้งแต่อยู่ ABAC เท่าที่ผมทำมามันเป็นสิ่งที่ได้ผลจริงๆนะ เพราะมันทำให้เราพยายามทำงานทุกอย่างที่ทำได้ อยากเรียนรู้ทุกเรื่องแม้ว่าไม่ใช่ในงานของเรา ทำให้เรารู้กว้างขึ้น อย่างตอนที่ผมไปทำงานคุมงานก่อสร้างไซท์แรก ด้วยความที่เราไม่ได้จบมาสายก่อสร้างโดยตรง ทำให้เราต้องขยันเป็น 2-3 เท่า ของคนที่เรียนด้านนี้มา เพื่อพยายามจะเรียนรู้ในสิ่งที่ต้องรู้ ผมไปไซท์ เดือนละ 30 วัน ไม่มีวันหยุด ผมไม่ยอมหยุด เพราะทุกวันมีงานใหม่ๆ ที่ผมไม่เคยเห็น ไม่เคยรู้เกิดขึ้นทุกวัน การหยุดงานไป 1 วัน แปลว่า ผมจะพลาดการเรียนรู้ไป 1 วัน ผมอยู่ไซท์งานแรก 10 เดือนเต็ม ลองทำเองทุกอย่างตั้งแต่ คุมงาน รับวัสดุ โทรสั่งของ หัดคิดแบบก่อสร้าง ทำรายงานประชุม เข้าประชุมกับฝรั่ง เสนอราคา วางบิล เก็บเช็ค แม้กระทั่งไปช่วยคนงานก่อสร้างเทปูน ทำอยู่อย่างนี้จนเจ้าของโครงการเห็นว่าไอ้หมอนี้มันเป็นสารพัดช่าง เลยมาชวนผมไปทำงานด้วย โดยเสนอให้เงินเดือน 2 เท่าของที่ได้อยู่ พร้อมรถประจำตำแหน่งอีก 1 คัน แหม เท่โคตร
( แต่โชคดีที่ไม่ได้ไปนะ เพราะตอนต้มยำกุ้งบริษัทเจ้าของงานนี้ เจ๊งก่อนเลย 555 )
ที่ผมอยากจะบอกทุกท่าน คือ
1.คนเรา ไม่จำเป็นต้องทำงานได้ดีในสายงานที่เรียนมาโดยตรงก็ได้ เรียนจากหนังสือไม่เท่าเรียนรู้จากชีวิตจริง อันนี้มีตัวอย่างหลายๆคนที่ประสบความสำเร็จ พิสูจน์มาแล้วมากมาย
2.ความขยัน ไม่เคยทำให้ใครโง่ แต่จะทำให้เราได้รู้อะไรมากกว่าคนขี้เกียจ 2 ช่วงตัวเสมอ
3.แม้ว่า สังคม เปลี่ยนไป คน GEN นี้ กับคน GEN ผม มีความคิดและสิ่งแวดล้อมที่ต่างกันมหาศาล แต่ การที่คน GEN นี้ มีสิ่งที่ช่วยให้การทำงานให้ประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้น ก็ไม่ควรละทิ้ง ความพยายามเรียนรู้และความขยันที่อยากให้ติดอยู่ในพันธุกรรมของคนไทยทุกคนจริงๆ
4.มีหลายคนเถียงผมในใจ เรื่องทำงานให้เป็น 2 เท่าของเงินเดือน ว่ามันไม่แฟร์ ผมจะบอกว่า ไม่มีอะไรแฟร์หรอกครับบนโลกใบนี้ ทำไปเถอะถ้ามันไม่ได้ทำเงินเดือนคุณขึ้นมา 2 เท่า แต่มันจะทำให้คุณมีค่าเป็น 2 เท่าเมื่อเทียบกับคนอื่น และเมื่อใดที่คุณไม่ได้เป็นมนุษย์เงินเดือนอีกต่อไป คุณจะรู้ว่ามันโคตรคุ้ม ที่ได้ทำแบบนี้มาตลอดชีวิต ครับ
-----
credit : https://www.facebook.com/pages/%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%9E%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%95%E0%B8%AB%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B9%88-HI/577145815629857
ประวัติ “คุณใหญ่” เจ้าของงานเขียนชิ้นนี้ ซึ่งเป็นผู้ชนะเลิศการแข่งขัน THE STOCK MASTER
คุณใหญ่มีหน้าที่การงานที่เติบโต และตำแหน่งหลังสุดเป็นถึงผู้บริหารระัดับสูงของบริษัทก่อสร้างชั้นนำของประเทศ แต่ล่าสุดได้รีไทร์จากงาน เพื่อออกมาเป็นนักลงทุนเต็มตัวเขาค้นพบกับอะไร ถึงมีความมั่นใจในการเปลี่ยนแปลงชีวิตครั้งใหญ่ครั้งนี้
Happy Investor (HI) คือ นักลงทุนที่ยึดหลักความสุขนำและให้ผลพลอยได้เป็น “ขนาดพอร์ตการลงทุนที่ใหญ่ตามมา″
“มากกว่าแค่รวย แต่นี่คือรวยแบบมีความสุข” ช่างเป็นแนวทางการลงทุนที่น่าศึกษาและน่าทำตามอย่างที่ใครบางคนบอกไว้ “แค่เปลี่ยนความคิด ชีวิตก็เปลี่ยน” “แค่เปลี่ยนความคิด ก็ช่วยพลิกพอร์ต” ได้เหมือนกัน