[กระทู้ ฉ.20+] เมื่อคุณยายสารภาพว่าเคยเล่นชู้...

เรื่องมันมีอยู่ว่า มีครอบครัวคุณตาข้างๆบ้านผม ท่านอยู่กับคุณยายสองคน เป็นคู่ที่อยู่กันมายืดยาวทั้งหมู่บ้านรู้จักกันเป็นอย่างดี คุณตาเป็นคนที่มีอารมณ์ขัน คุณยายก็เป็นคนที่ร่าเริง ดูเป็นคนแก่ใจดี เวลาไปไหนมาดูน่ารักตามประสาคู่แก่เฒ่า วันนึงคุณตาก็ได้มีความคิดอยากที่จะกล่าวคำปฏิญาณ กันในโบสถ์อีกครั้ง(ทั้งสองท่านนับถือคริสต์) เพราะท่านได้แต่งงานกันมา 50 ปีแล้ว ท่านไม่เคยนอกใจคุณยายเลยสักครั้ง แม้ทั้งวัยหนุ่มที่ท่านออกไปทำงานไกลๆ(คุณตาทำอาชีพผู้รับเหมา) ท่านมีเพียงคุณยายเป็นคู่นอนคนเดียวตลอดมาในชีวิตของท่าน เมื่อคิดดังนั้นคุณตาก็ได้วางแผนที่จะแต่งงานอีกครั้งในโบสถ์ การจัดการก็ดำเนินไปจนถึงใกล้วันงานก็มีลูกหลานแวะเวียนกันเข้ามาเพื่อจะเตรียมงานกัน เย็นวันนึงเมื่อเหล่าลูกๆหลานๆมากันพร้อมหน้าพร้อมตา ท่านจึงได้สอนวิถีการใช้ชีวิตแบบคริสเตียนให้ลูกๆหลานๆฟัง และสิ่งที่ท่านภูมิใจที่สุดคือการได้แต่งงานและอยู่กัยคู่เพียงคนเดียวตลอดชีวิต คุณตาดีใจมากที่มีคุณยายเป็นคู่ครอง ที่มอบความรักให้แก่ตนพร้อมทั้งยังซื้อสัตย์เฉกเช่นเดียวกัน การสนทนาก็ผ่านไป แต่คุณยายกลับมีน้ำตาไหลและเดินหนีออกไปจากห้อง คุณตาเห็นดังนั้นจึงค่อยๆเดินตามไปทั้งสองหายเข้าไปในห้องนอนราว 10 นาทีและประตูก็เปิดออกคุณตาเดินออกจากบ้านพร้อมถอยรถออกจากบ้านไป ท่ามกลางความงุนงงของคนในบ้านรวมทั้งผมเอง(ไปช่วยงานครับ)ภายหลังคุณยายก็ได้เดินออกมาจากห้องเหล่าลูกหลานก็ได้แต่สอบถาม คุณยายนั่งลงที่โซฟาพร้อมกับเล่าให้พวกเราฟังว่าตอนคุณยายสาวๆ ท่านได้ทำอาชีพเป็นนางพยาบาล ได้รู้จักกับคุณตาตั้งแต่เป็นสมัยเรียนมัธยมต้นคบเป็นเพื่อน เป็นแฟนจนแต่งงานกันไม่เคยมีชายคนอื่นเหมือนกับคุณตาที่ไม่เคยมองหญิงอื่น โดยตอนแต่งงานได้กล่าวคำปฎิญาณว่าจะรักและซื่อสัตย์กับคู่ของตนเองตลอดไป พอเมื่อแต่งงานหน้าที่การงานของทั้งคู่ทำให้มีเวลาอยุ่ด้วยกันน้อยแต่ความรักความซื่อสัตย์ของคุณตา ทำให้คุณยายไม่หวั่นไหวแม้จะมีคนมาจีบ(คุณยายเล่าว่าตอนท่านสาวๆจัดว่าเป็นคนสวย) แต่เมื่อเวลาผ่านไปจิตใจของคุณยายที่อ่อนแอเองจึงแอบไปมีความสัมพันธ์กับหมอหนุ่มในระหว่างที่คุณตาไปทำงานไกลๆและเวลานานๆด้วยความเต็มใจ คุณยายเล่าว่าติดกามรมณ์ของหมอหนุ่มอย่างโงหัวไม่ขึ้น จนเวลาล่วงเลยไปสามปีหมอหนุ่มก็ชิ่งไปแต่งงาน คุณยายเศร้าใจยิ่งนัก คุณตาในเวลานั้นได้เห็นถึงความเศร้าสร้อย จึงคิดว่าทิ้งเมียไว้นานๆแล้วคงเหงาจึงเลิกทำอาชีพผู้รับเหมาและใช้เส้นใช้สายเข้ารับราชการอยู่ใกล้ๆกัน คุณยายเมื่อเห็นดังนั้นจึงคิดถึงความรักความเสียสละ ความซื่อสัตย์ของคุณตาจึงเข้าใจได้ว่านี่คือความรักที่แท้จริงและการมีสัมพันธ์กับหมอหนุ่มนั่นคือกิเลสตัณหาจึงเลือกที่จะเก็บความลับนี้ไว้ในใจตลอดมา จนวันนี้เมื่อได้เห็นประกายจากแววตาของคุณตาในความศรัทธาในวิถีผัวเดียวเมียเดียว มันทำให้บาดลึกลงไปในจิตใจจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ จนต้องสารภาพกับคุณตาออกไปเมื่อคุณตาได้ฟังเรื่องทั้งหมดก็ทำอะไรไม่ถูกได้แต่นิ่งแล้วขับรถออกไปจากบ้าน...

ปล. ยังไม่จบมีต่ออีกแต่ขอตัวไปทำงานสักครู่....
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 55
อ่านเรื่องคุณตากะคุณยายแล้วซึ้ง เลยขอนิยายรักอมตะมั่ง (จำเขามา)

เรื่องมีว่าใน ชนบท ตปท แห่งหนึ่ง มีข่าวเล่าลือกันถึงคุณตากะคุณยายคู่หนึ่งว่ารักกันมาก แต่งงานกันมากว่า 50 ปีแล้ว ไม่เคยทะเลาะกันสักครั้ง แบบว่า คุณตาว่าอะไร คุณยายก็เออ ๆ คะ ๆ ตาม น่ารักจริง ๆ

นสพ ประจำถิ่นทราบข่าวเข้า เลยให้นักข่าวไปสัมภาษณ์ จะทำคอลัมน์ดังประจำสัปดาห์กันละ และก็บังเอิญที่วันนัด ก็พบทั้งสองท่านอยู่กับบ้าน
ทั้งคู่

นักข่าวยิงคำถามตรงเป้า ว่าท่านผู้อาวุโสทั้งสองมีเคล็ดลับการอยู่ร่วมกันยังไง หลาน ๆ ขอแชร์ ได้ไหม จะทำข่าวให้ดังละคราวนี้

คุณตาไม่ใช่คนช่างพูดช่างอธิบาย เลยเกี่ยงให้คุณยายเล่าให้ฟังแทน

คุณยายเฉลยว่า เราทั้งคู่ก็เป็นคนในหมู่บ้านเดียวกันนี่แหละ ไม่ค่อยรู้จักกันมาก่อนหรอก แต่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายของเราเห็นเหมาะสม ก็จัดให้ดูตัว แล้วแต่งงานกัน

แต่งงานใหม่ ๆ ได้สองอาทิตย์ เราทั้งคู่ก็ไปขี่ม้าเที่ยวตามละแวกบ้าน คุณยายไม่เคยขี่ก็ให้หวาด ๆ กลัวตกม้า แต่คุณตารับรองว่า ม้าทั้งสองตัวนี้เลี้ยงมานาน เข้าใจภาษาคนเป็นอย่างดี สั่งให้เดิน หยุด วิ่ง ทำได้ทั้งนั้น คุณตาจะกำกับดูแลให้ คุณยายก็เออออ ขี่ม้าไปเที่ยวกัน

อ้าว ! ไม่รู้คุณตาทำอีท่าไหน ม้ามันสบัดตกลงมาเสียฟอร์มซะนี่  แต่คุณตาใจเย็น เตือนม้าเสียงต่ำ ๆ ว่า "อย่าทำแบบนี้อีกนะ"  
ดูว่าม้ามันทำกริยาเข้าใจนะ (บอกแล้วว่ามันเข้าใจภาษา) คุณตาก็ปีนขึ้นหลังม้า ทั้งคู่ก็ขี่ม้าต่อ คุยกันไปเรื่อย ๆ อีกครู่ใหญ่

อ้าว ! (อีกที) คุณตาถูกม้าสบัดตกอีกแล้ว  คราวนี้คุณตาไม่ฟังอีร้า คว้าปืนจากไหนก็ไม่รู้ เล็งที่หัวม้า ยิงเปรี้ยง ม้าตัวเก่งล้มดิ้น ตายคาที่

คุณยายตกใจร้องไห้  ไม่รู้เลยว่าคุณตาจะโมโหร้ายขนาดนี้ เลยต่อว่าคุณตาไปว่า "คุณใจร้าย ยิงมันได้ยังไง ม้ามันไม่เจตนาแกล้ง เท่านี้
ต้องยิงกันเลยเหรอ"

คุณตาหันกลับมามองหน้าคุณยาย เตือนเสียงต่ำ ๆ ว่า "อย่าพูดแบบนี้อีกนะ"

เท่านั้นแหละหลาน.................................................................................................................................................


............................................................................เราสองคนอยู่ด้วยกันมา 50 ปีจนวันนี้ ไม่มีเรื่องทะเลาะกันสักครั้งเลย 555
ความคิดเห็นที่ 47
แต่พอมาถามความรู้สึกจริงๆ คือ เสียใจที่ไม่สามารถช่วยอะไรแฟนได้
คุณตาจึงพูดให้คิดใหม่ ยอมรับในสิ่งที่คนรักของเราเป็น ไม่ว่าเธอจะผ่านอะไรมา(ตอนนั้นคุณตาลืมเรื่องตัวเองไปขณะหนึ่ง)
ก็คุยไปจนเย็น เด็กหนุ่มก็ขอลาคุณตา คุณตาก็มานั่งครุ่นคิด ว่าเราเนี่ยสามารถให้คำแนะนำคนอื่น แต่ทำไมเราจะให้อภัยตัวเองไม่ได้
ตลอดระยะเวลาที่อยู่ด้วยกันมาผ่านอะไรด้วยกัน มันมีแต่เรื่องที่ดี มากกว่าเรื่องที่แย่
เมื่อนึกได้ดังนั้นคุณตาจึงกลับมา พอเล่าเสร็จคุณตาก็ยิ้มด้วยใบหน้าสดใส
พร้อมกับบอกหลานๆว่า คนเราผิดพลาดกันได้ แล้วคนเราก็พร้อมที่จะอภัยกันได้

รุ่งขึ้นคุณตากับคุณยายก็ได้เข้าโบสถ์ พร้อมกล่าวคำปฏิญาณกันใหม่(คุณยายไม่ได้ใส่ชุดเจ้าสาวเหมือนในหนังนะครับ แต่งชุดผ้าไหม)
ท่ามกลางสักขีพยาน ลูก หลาน ญาติ(อันนี้ผมไม่ได้ไปนะ เดา)

ปัจจุบันคุณตาคุณยายได้จากไปอย่างสงบ โดยคุณตาหลับไปแล้วไม่ตื่น และหลังจากเสียเพียง สัปดาห์เดียว คุณยายก็หลับไปไม่ตื่นเช่นกัน
ราวกับว่าคุณตามารับคุณยายไปอยู่ด้วย
- - จบ --
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่