งานรับปริญญา @ ม.เกษตรฯ by laser

กระทู้สนทนา
เป็นเวลานานหลายปีแล้ว ที่ประกาศว่าเลิกถ่ายรูปงานต่างๆตามคำขอ

หนึ่งนั้นเป็นเพราะอายุมากขึ้น การตะลอนเดินตามถ่ายรูปทั้งวัน จบงานต้องพักฟื้นฟูร่างกายไปอีกหลายวัน

งานแต่งงานต้องถ่ายทั้งงานหมั้นและงานแต่ง วันแต่งรับเจ้าสาวกันตีสามตีสี่ สายยกน้ำชา เย็นงานเลี้ยง

แต่ตอนเข้าหอดันไม่ให้เข้าไปถ่าย งานศพยิ่งแล้วใหญ่ ถ่ายกันตั้งแต่ยกลงโลงจนถึงลงหลุมหรือเผาแล้วลอยอังคาร

อีกทั้งการไปถ่ายรูปตามคำขอนั้น อย่างเก่งก็ได้แค่ซองแดงไม่กี่ร้อย หรือ เลี้ยงข้าวหนึ่งมื้อพร้อมคำขอบคุณ

ซึ่งแน่นอนว่า ประหยัดเงินคนไหว้วานไปหลายเงินอยู่ เพราะการจ้างช่างภาพแบบเป็นเรื่องเป็นราวนั้น

ปัจจุบันไม่ต่ำกว่าวันละ 3,000 บาท งานรับปริญญาบางงานต้องจ้างช่างภาพถึงงานละ 6,000 บาทด้วยซ้ำไป

แต่ถึงแม้ว่าจะประกาศไปแล้ว ก็ยังมีเพื่อนฝูงขอให้ไปถ่ายรูปและต้องปฏิเสธอยู่เรื่อยๆ จนบางครั้งอดคิดในใจไม่ได้ว่า

"นี่ข้าต้องถ่ายรูปเอ็งตั้งแต่เรียนจบรับปริญญา แต่งงาน งานศพพ่อแม่ ลูกรับปริญญา งานแต่งงานลูก จนถึงงานศพเอ็งหรือเปล่าวะ?"

แต่ก็ยังมีข้อยกเว้นบ้างในบางกรณี เช่น สนิทกันมากจนออกปากไปถ่ายรูปเอง หรือ รู้ดีว่าฐานะของเพื่อนเป็นเช่นไร

ช่วงนี้เป็นช่วงที่มหาวิทยาลัยหลายแห่งมีงานพระราชทานปริญญาบัตร ปีนี้ยังคงต้องปฏิเสธคำขอไปหลายราย

แต่มีอยู่รายหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ เพราะเป็นการรับปริญญาตรีของหลานชายแฟน ที่จบวิศวะฯเกษตร



แม้ว่ามีงานทำแล้ว แต่เห็นว่าขยันเรียนจนได้เกียรตินิยมอันดับ 2 ก็เลยไปถ่ายรูปให้



ไปถึงก่อนเวลานัดแปดโมงครึ่ง เดินเก็บบรรยากาศ ที่รุ่นน้องบูมแสดงความยินดีกับรุ่นพี่



ที่ต้องออกไปหาเลี้ยงตัวเอง แบมือขอเงินพ่อแม่ไม่ได้อีกต่อไป



ยกเว้นแบมือขอให้ออกเงินสินสอดไปหมั้นสาวแต่งสาว

เพราะยังหาเงินสะสมไม่ทัน แถมบางคนยังเลือกผ่อนรถก่อน

แล้วจึงผ่อนเมีย ด้วยเงินสดทันใจดอกเบี้ยโหดจากสารพัดบัตรเครดิต



น้องๆไม่ได้บูมให้ฟรี บูมเสร็จช่วยสมทบทุนค่าน้ำมะนาวบรรเทากล่องเสียงอักเสบหน่อยนะจ๊ะ



แต่บูมแบบนี้คุ้มหน่อย เพราะบูมครั้งเดียวแต่ได้หลายซอง



ความภูมิใจของครอบครัว



หลานแฟนมาตรงตามเวลานัด



ถ่ายรูปไปรับบูมจากรุ่นน้องไป



ญาติๆตามมาแสดงความยินดี



"เจ็บกว่านี้มีอีกไหม?"



สิบโมงครึ่งบัณฑิตต้องแยกไปเช็คชื่อเช็คความพร้อมในการเข้าหอประชุม

กว่าจะออกจากหอประชุมก็เกือบหกโมงเย็น ร้านอาหารทั้งในและรอบมหาวิทยาลัยเต็มทุกร้านแน่นอน

จึงยกขโยง 11 คนไปทานข้าวเดินเล่นฆ่าเวลาที่เซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว

ครั้งแรกเลือกร้าน Zen แต่ส่วนใหญ่เบื่ออาหารญี่ปุ่นกันแล้ว ก็เลยเข้าร้านตะลิงปลิงที่อยู่ติดกัน



อาหารสั่งสองชุดแปดอย่าง

ทอดมันปลาม้วนไข่เค็ม 140 บาท



ยำปลาสลิดใส่ตะลิงปลิง 145 บาท



หลนปลาอินทรีเค็ม 145 บาท ไม่ได้กลิ่นปลาเค็ม



ผัดสะตอกุ้งหมูสับ 165 บาท เผ็ดจัดและออกเค็ม



ทอดมันกุ้ง 160 บาท



ซี่โครงหมูอบ 165 บาท



แกงเนื้อปูใบชะพลู 185 บาท ไม่คุ้นกับกลิ่นของใบชะพลูในแกง

ส่วนแกงเผ็ดเป็ดย่างใส่ตะลิงปลิง 165 บาทขี้เกียจถ่าย

มื้อนี้ 11 คน ข้าวสามโถ(70 บาท) หนึ่งจาน(28 บาท) รวมค่าบริการและภาษี 3557.75 บาท

โดยรวมแล้ว รสชาติสู้สาขาสยามพาราก้อนไม่ได้



อิ่มแล้วสาวๆเดินดูเสื้อผ้า จากนั้นแยกย้ายไปทำธุระหรือกลับบ้าน ก่อนนัดเจอกันที่ ม.เกษตรอีกครั้งห้าโมงครึ่ง

แฟนตะคริวกินขา ก็เลยแวะนั่งที่ร้าน Flour Shoppe ในห้างเซ็นทรัล



สั้นๆแต่ชัดเจน



ของแฟนเป็น Green Tea Frappe 135 บาท



ของตัวเองเป็น Americano Float 125 บาท กาแฟเข้มแต่ลืมเติมน้ำตาล



หาอะไรทานเล่น



อาวุธคนละชุด



Ice cream & Fresh Strawberry on Waffle 220 บาท



ไม่ได้ความอิ่มท้อง ได้แต่ความฟินอภิรมย์

รวมค่าบริการรวมภาษี 528 บาท แพงกว่าหนึ่งมื้อที่เคเอฟซี



กลับไป ม.เกษตรทันก่อนพายุฝนรุนแรงเข้าโจมตีตอนบ่ายสี่โมง

นั่งรออยู่ในห้องพักผู้ปกครองซึ่งติดเครื่องปรับอากาศและบริการน้ำดื่มฟรี ส่วนขนมฟรีหมดแล้ว



หกโมงเย็นฝนปรอยๆพอถ่ายรูปได้

หุ้มกล้องและแฟลชด้วยถุงพลาสติดใส มีซอฟท์บ็อกซ์ช่วยบังแฟลชส่วนหนึ่ง

ติดแฟลชกับตัวกล้อง ไม่แยกแฟลชด้วยสายแฟลชเหมือนช่วงเช้า



ความภูมิใจของป้า



เด็กๆอยากทาน Jeffer แต่สาขางามวงศ์วานคนเพียบแน่

จึงเบนเข็มหนีความแออัดของร้านอาหารรอบ ม.เกษตร ทั้ง บัวและแดรี่ควีนส์ ไปที่ Terminal 21



จอดรถที่ Level 1 ซึ่งเป็นชั้นญี่ปุ่น



อั้นกันมานานขอแวะห้องน้ำกันก่อน



อย่างที่รู้กันว่าห้องน้ำของที่นี่ดังแค่ไหน



พาใครมาเที่ยวต้องพามาดูส้วมให้ครบทุกชั้น ไม่อย่างนั้นถือว่าพามาไม่ถึง



ทีนี่มี Jeffer อยู่ที่ชั้น 5 ตามที่เด็กๆต้องการ



จานนี้ของเด็กกำลังโต เขาให้เลือกได้สองอย่าง แต่ขอเพิ่มไส้กรอกอีกดุ้น 284 บาท



สั่งพร้อมน้ำปั่นจาก 49 บาทเหลือ 39 บาท



สะเต๊กปลาแซลม่อนและปลาสวายเวียดนาม 219 บาท



ของตัวเองเรียกน้ำย่อยด้วย หอยเชลล์และหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์อบชีสและผักโขม 135 บาท



มันฝรั่งอบเนยหนึ่งลูก 69 บาท เนยน้อยไปหน่อยไม่หอมเลย



น้ำกีวี่ปั่น 39 บาท ถูกใจหวานน้อย



จานหลักเป็นเนื้อหมูและซี่โครงหมูบาร์บีคิวราดซอสพริกไทยดำ 204 บาท



สงสัยจะหมักด้วยผงหมักโชตธนโชติ เพราะมันนุ่มเกินไปจนเหมือนหมูบด เหมาะกับคนฟันไม่ค่อยดี



มื้อนี้ 7 คน มีแต่ภาษี 1,772 บาท อิ่มจนต่อข้าวเหนียวมะม่วง หรือ ไอศครีมไม่ไหว

ถ่ายรูปวันนี้ถ่ายฟรี แต่ต้องควักเงินเลี้ยงอีกหกพัน ซื้ออุปกรณ์ถ่ายรูปเพิ่มอีกหลายร้อย

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่