ญาติที่นับถือคริสต์ เอาของที่เป็นความเชื่ออื่นในบ้านที่่ไม่ใช่ของตัวเองไปทิ้ง

ใจแรกไม่อยากตอบกระทู้นี้เลยจ้า 55 กลัวโดนว่า ว่าอวดรู้ หยิ่ง ^^
เพราะที่จะเม้นท์ต่อไปข้างล่าง คือการตำหนิคริสเตียนด้วยกันเองเป็นส่วนใหญ่

แต่ก็อยากจะเขียนเอาไว้ เผื่อว่า ผู้เชื่อใหม่ที่ไม่ได้มีพี่เลี้ยง (คนไปประกาศทิ้งๆ ขว้างๆ)
หรือเพื่อนต่างความเชื่อ อ่านแล้วจะได้เข้าใจคริสเตียนมากขึ้นว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้
แล้วคริสเตียนจริงๆ เป็นอย่างไร เพราะทุกวันนี้ คริสเตียนด้วยกันเองนี่แหละ
ที่ทำให้คนทั่วไปติดลบกับพระเจ้า ติดลบกับพระเยซูไปเยอะแล้ว -"-

เอาเป็นว่า เหตุผล และการอธิบาย ติดสปอยล์ไว้แล้วกันเนอะ ^^
เผื่อใครไม่อยากอ่านยาวจะได้ข้ามไป

.....................................

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้สำหรับคริสเตียน ในกรณีที่ ถ้าอยู่บ้านร่วมกับคนอื่น ที่มีความเชื่อต่าง
จะไม่มีการสอนให้เอาของๆ คนอื่นไปทิ้ง หรือทำลายจ้า
เพราะนั่นเป็นวิธีการที่นอกจากจะไม่เป็นประโยชน์แล้ว ยังเป็นโทษอีกด้วย

แต่ที่ยังเห็นว่า มีคริสเตียนบางคน บางกลุ่มทำอยู่
ก็เกิดมาจากปัญหาหลายสาเหตุ เช่น

- ลัทธิที่เกิดขึ้นมากมาย ทั้งลัทธิที่ได้รับการยอมรับว่าถูกต้อง
หรือแม้กระทั่งลัทธิที่กล่าวว่า เป็นลัทธิเทียมเท็จ
(นิกายโปรแตสแตนท์จะมีความเชื่อที่แตกต่างกันหลายแบบ
คำสอนโดยรวมอาจจะตรงกัน แต่สิ่งที่เน้นต่างกัน)

ฉะนั้น คำสอนอาจจะมาจากพระคัมภีร์เล่มเดียวก็จริง
แต่คนที่ฟังเทศน์หรือเรียนพระคัมภีร์นั้น
อาจเข้าใจผิดพลาดไปจากคำสอนเดิม
ทั้งนี้ก็ตามแต่ต้นสังกัด ลัทธิ อาจารย์ ที่คริสเตียนคนนั้นเรียนด้วย

- การประกาศข่าวประเสริฐแบบเน้นให้คนกลับใจ แต่ไม่ติดตามผล
ไม่ดูแลกันต่อในด้านความเชื่อที่ถูกต้อง
เป็นการเน้นปริมาณให้มาเชื่อ ให้มาโบสถ์เพียงอย่างเดียว
ถือเป็นความไม่รอบคอบของกลุ่มคริสเตียนเอง

- อาจเกิดจากการที่คริสเตียนคนนั้นๆ เข้าใจเรื่องฝ่ายวิญญาณแบบผิดๆ
ทั้งเรื่องการอัศจรรย์เอย การขับไล่ผี ซาตาน มารร้าย ฯลฯ

ในข้อนี้ เราไม่ได้หมายความว่า สิ่งเหล่านี้ไม่มีจริงนะ
เราเชื่อว่ามี เพราะในพระคัมภีร์ก็กล่าวถึง ทั้งเราเองก็เจอมาแล้วทั้ง
การทูลขอ การขับผี รักษาโรค ประสบการณ์ในพระวิญญาณ

แต่ก็จะมีคริสเตียนจำพวกที่เหมือนจะหลงใหล (จนหลงกล)
กับเรื่องพวกนี้มากเกินไป จนแยกแยะไม่ออก

จากสาเหตุโดยประมาณข้างต้นนั้นเอง
ทำให้หลายคนไม่ได้เข้มแข็งในความเชื่อ
กลัวว่าบ้านของตัวเองจะไม่บริสุทธิ์บ้างล่ะ,  
กลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีกับตัวเองบ้าง
กลัวว่าจะทำผิดต่อพระเจ้าบ้างล่ะ โดยลืมไปว่า

สำหรับคริสเตียนนั้น พระเจ้ายิ่งใหญ่ และ พระเยซูก็ยิ่งใหญ่

ถ้าเปรียบเทียบให้เห็นภาพหน่อย สำหรับคริสเตียนเหล่านี้
ก็คงจะเหมือนกับ คนทั่วไป ที่จะไม่เอาของที่เกี่ยวกับวิญญาณไว้ในบ้าน
อย่าง ดินป่าช้า ของใช้คนตาย หรือของผุพัง เช่น พระพุทธรูปเศียรขาด กระจกแตก หวีหัก
เพราะเชื่อว่ามันมีฤทธิ์เดช มันมีอาถรรพ์ ทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นได้... ประมาณนั้น

เมื่อคริสเตียนเผลอมีความคิดทำนองนี้ ก็เลยพาลขนข้าวขนของที่เกี่ยวข้อง
กับศาสนาหรือความเชื่ออื่นออกไปทิ้งหมด ซึ่งถ้าอยู่คนเดียว
หรือทั้งครอบครัวเป็นคริสเตียนหมด นี่คือสิ่งที่ ควรทำ

แต่ถ้าอยู่ร่วมกับคนอื่น แล้วไปเอาของๆ เขาทิ้งหมด มันก็ผิด เพราะ

๑.บุคคลนั้นยุ่งวุ่นวายกับของคนอื่น เท่ากับลักขโมย
ทำลายทรัพย์สินของเขา แค่นี้พระเจ้าก็ไม่ปลื้มแล้วนะ

๒.แสดงว่า บุคคลนั้นเชื่อว่ามีสิ่งอื่นยิ่งใหญ่กว่าพระเจ้า
ถึงบันดาลเรื่องไม่ดีให้เกิดกับเขาได้ ทั้งที่พระเจ้าอยู่ในตัว

๓.แสดงว่าบุคคลนั้นไม่เชื่อว่า พระเจ้าเข้าใจเขา รู้จักเขาดีพอ
และรู้ว่าเขามีความจำเป็นที่จะต้องอาศัยอยู่ท่ามกลางรูปเคารพเหล่านั้น

ด้วยความเชื่อที่ไม่สมบูรณ์ ฉะนั้นจึงมีคริสเตียน
ที่หลงติดอยู่กับสิ่งของ รูปเคารพ เครื่องราง
เชื่อว่า "ของสิ่งนี้ไม่ดี ฉันต้องเอาไปทิ้งให้หมด"
แล้วก็จะลามไปถึงเชื่อว่า "นี่เป็นของดีจากพระเจ้า ฉันต้องเก็บไว้"
(อย่างกรณีเกล็ดเพชรจากพระสิริของพระเจ้า ในงานฟื้นฟู ที่เกาะตามเนื้อตัว
คือ ไม่ค้านถ้าจะเชื่อว่านั่นเป็นพระสิริจริงๆ แต่เราก็สงสัยว่าตอนเราเป็นพุทธ
เราไปกราบพระ เราก็มีเกล็ดเพชรพวกนี้ติดเนื้อติดตัวมาด้วยเหมือนกันนะ
เพราะงั้น ถ้าจะเชื่อเรื่องเกล็ดเพชร ไม่ต้องเชื่อพระเจ้าก็ได้ไหม ที่ไหนๆ ก็มีเหมือนกัน)

และด้วยพฤติกรรมแบบนี้ จะถูกมองจากเพื่อนต่างความเชื่อว่า
เพี้ยน บ้า คลั่ง หรืองมงาย ก็ไม่แปลก และก็ไม่โกรธด้วย
ที่เวลาถูกเพื่อนต่างศาสนาถามอะไรแบบนี้... ก็มันจริงนี่นา -"-

ดังนั้น สำหรับคริสเตียน เรื่องการข่มเหงมีจริง
เรื่องสงครามฝ่ายวิญญาณก็มีจริง
ซาตานมีจริง และอยู่เบื้องหลังสิ่งร้าย นั่นก็จริง
แต่เราจะมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อสิ่งเหล่านี้อย่างไร

ก. ทำตามความคลั่งไคล้ส่วนตัวของเราเอง (ทุบ รื้อ โยนทิ้งให้หมด
ทั้งที่เราไม่มีสิทธิ์ไปละเมิดคนอื่น)

ข. ตอบสนองตามความเชื่อที่ประกอบด้วยสติปัญญาจากพระเจ้า

อย่าลืมว่า พระเยซูคริสต์ นอกจากจะสอนให้เชื่อแล้ว
พระองค์ยังบอกเหล่าสาวกว่า ให้มี

ความสุภาพ และฉลาด

แต่ไม่ว่ายังไง สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลจริงๆ  

..........................................

สรุปแบบสั้นๆ จากคำถามบนกระทู้จ้า

การกระทำแบบนี้ถือว่าผิดไหม...

ตอบ ผิดในเรื่องมารยาททางสังคม และพลาดในความเชื่อ



การกระทำแบบนี้มีคำสอนให้ทำไหม...

ตอบ มีบันทึกเกี่ยวกับการทำลายรูปเคารพจ้า
แต่ในบริบท และสิ่งแวดล้อมที่แตกต่างกัน
แต่ที่แน่ๆ ห้ามกราบไหว้บูชาพระอื่น อันนี้แน่นอน



มีใครเคยพบเจอเรื่องแบบนี้บ้างไหมครับ...

ตอบ เราเจอ และยังอยู่ในสถานการณ์แบบนี้อยู่ ^^

ในครอบครัวมีเราเป็นคริสเตียนคนเดียว ที่บ้านเลยมีทั้งพระพุทธรูป
เทวรูป ไทย จีน แขก, รูปภาพพระ/เทพ พระเครื่อง เครื่องรางของขลัง
อุปกรณ์ดูดวง ตำราคาถาอาคม ฯลฯ นับรวมๆ ก็น่าจะเกินร้อยอย่างนะ
หน้าต่างห้องนอน ถ้าเปิดออกไป ก็ประจันหน้ากับศาลพระภูมิ

ตอนค่ำๆ คนอื่นก็สวดมนต์บนชั้นสอง (บ้านสองชั้น)
เหนือโต๊ะทำงานของเรา ดังลงมาข้างล่าง
เราก็ไม่เดือดร้อน ไม่ยุ่ง ไม่สนใจด้วย เลยกลับกัน
เป็นที่บ้านเสียอีกที่จะกระเซ้าให้เราไหว้พระ ไปวัด ทำบุญ อะไรพวกนั้นแทน



จบจ้า หวังว่าคงพอช่วยตอบคำถามของคุณ จขกท. ได้นะ ...
^_^