กรณีแบบนี้ผมผิดหรือคนขายไม่มีน้ำใจ

คือเรื่องมันมีอยู่ว่า ผมได้ไปซื้อของมือสองมาในราคา 4000 บาท ซึ่งทางร้าน(หน้าเว็บ) บอกว่าถ้ามีปัญหาเปลี่ยนได้หน้าร้านเลย
ผมก็เลยไปสอบถาม และ ซื้อของเค้าถืงหน้าบ้าน เค้าไม่ต้องเสียค่าส่งสักบาทให้ผม

ซึ่งตอนซื้อเค้าก็ได้เปิดและลองให้ดูว่าสินค้าใช้งานได้อยู่ นั่นก็เป็นเรื่องปรกติเวลาซื้อของราคาขนาดนี้แน่นอนครับ

แต่พอผมนำของมาใช้งาน ผลมันก็คือไม่สามารถเข้าได้กับอุปกรณ์ของผม
วันต่อมาผมจึงได้โทรไปแจ้งเค้าว่าของใช้กับอุปกรณ์ผมไม่ได้ ผมขอคืนสินค้าได้หรือไม่
เค้าบอกว่าคืนได้ แต่จะต้องหักค่าคืนสินค้า 30% ของราคาของที่ซื้อไป ก็เท่ากับว่า ของราคา 4 พัน จะโดนหักไป 1200 บาท ในขณะที่มันไม่ได้เสียหายอะไร และผ่านไปไม่ถึง 24 ชม.ด้วยซ้ำ

เค้าอธิบายว่า เค้าเคยเจอคนมาขอซื้อไปในราคา 1000 บาท(สมมุติ) แล้วไปตั้งขาย 1300 แล้วขายไม่ได้ เลยเอามาคืนเค้า เค้าก็คืนให้ไป

ซึ่งผมฟังดูมันก็มีเหตุผลอยู่ที่เพื่อป้องกันพวกที่ซื้อมาแล้วไปขายต่อเพื่อเอากำไร แต่ขายไม่ได้ก็เอาทุนคืน

แต่ว่า ผมคิดอีกทีว่า ของที่จะไปตั้งขาย จนกว่าจะรู้ตัวว่าขายไม่ได้ อย่างน้อยๆ ก็ต้อง 3 - 4 วันขึ้นไป
แต่การซื้อไปใช้งานส่วนตัว แค่ ไม่เกิน 1 วันก็ทราบแล้วว่ามันใช้ได้หรือไม่ได้

ผมเองก็ขายสินค้ามือสองเช่นกัน เวลาขาย ผมประกันคืนเต็มจำนวนให้ภายใน 7 - 15 วันด้วยซ้ำไป(เผื่อเวลาให้ลูกค้าไปลองดูก่อนว่าได้หรือไม่ได้ ) ซึ่งหลายๆคนก็ใช้ประกันใจแบบนี้ในการค้าขายเช่นกัน

แต่กรณีไม่ถึงวัน และ ของไม่ได้เสียหายอะไร ต้องโดนหักไป 30% แบบนี้ ผมคิดว่าอาจจะมากและเอาเปรียบไปหรือเปล่าครับ ?
หรือว่า สมควรแล้ว ?
ถ้าเป็นกรณีซื้อไปขายต่อ ก็ต้องพิจารณาระยะเวลาที่ซื้อไปประกอบด้วยไม่ใช่หรือ ?
ซึ่งยังไง ราคาที่ขายมาคุณก็ได้กำไรในส่วนนั้นอยู่แล้ว คืนกลับไป ก็ไปขายคนอื่นต่อได้ ไม่ใช่ซื้อไปสองเดือนจนราคามันตกแล้วจะมาขอราคาเดิมคืน อันนี้ก็เหมาะสมจะหักค่าเสื่อมราคาอยู่แล้ว ยอมรับได้

แบบนี้คิดว่ายังไงครับ

ซื้อของ บิ๊กซี โลตัส เซเว่น ไม่พอใจ ไม่ชอบใจ ก็เอามาเปลี่ยนได้ทันทีไม่มีปัญหา