สาวมะกันผวา! เจอ “ตำรวจ” บุกถึงบ้าน แค่ค้น Google หาซื้อ “หม้อความดัน”
รอยเตอร์ - นักเขียนหญิงชาวอเมริกันถูกตำรวจนิวยอร์กบุกสอบปากคำถึงบ้าน เพียงแค่เธอและสามีค้นเว็บไซต์กูเกิลเพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับ “หม้อต้มความดันและกระเป๋าเป้” ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่คนร้ายใช้ผลิตระเบิดโจมตีการแข่งขัน บอสตัน มาราธอน
สองพี่น้องตระกูลซาร์เนฟ ซึ่งเป็นพลเมืองอเมริกันเชื้อสายเชเชน นำระเบิดหม้อต้มความดันซ่อนไว้ในกระเป๋าเป้ ก่อนจะนำไปวางไว้ใกล้เส้นชัยในการแข่งวิ่งมาราธอนที่เมืองบอสตัน เมื่อวันที่ 15 เมษายนที่ผ่านมา แรงระเบิดส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บร่วม 300 คน ซึ่งหลายคนถึงขั้นพิการสูญเสียอวัยวะ
มิเชล คาตาลาโน นักเขียนชาวลองไอแลนด์ เขียนไว้ในบล็อกของเธอบนเว็บไซต์ Medium.com เมื่อวานนี้(1)ว่า การที่ตำรวจบุกมาสอบปากคำถึงบ้านถือเป็นการตั้งข้อสงสัยก่อการร้ายที่รุนแรงมากสำหรับเธอ
เธอยังเผยเรื่องนี้ต่อหนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนในอังกฤษด้วย แต่ยังไม่พร้อมให้สัมภาษณ์เพิ่มเติม
คาตาลาโน เขียนไว้ว่า “ฉันค้นข้อมูลเพราะอยากได้หม้อต้มความดันดีๆสักใบ ส่วนสามีอยากจะได้กระเป๋าเป้ ถ้าเป็นเวลาอื่นการค้นหาของทั้งสองอย่างนี้คงไม่น่าแปลก แต่ทุกวันนี้มันไม่ใช่แล้ว”
อย่างไรก็ตาม สำนักงานตำรวจประจำเทศมณฑลซัฟฟอล์ก รัฐนิวยอร์ก ได้อธิบายต่อสื่อมวลชนผ่านอีเมล์เมื่อวานนี้(1)ว่า บริษัทคอมพิวเตอร์แห่งหนึ่งแจ้งต่อพนักงานสืบสวนคดีอาชญากรรมว่า อดีตพนักงานเคยมีพฤติกรรมค้นข้อมูลที่น่าสงสัยผ่านคอมพิวเตอร์ของบริษัท ซึ่งคำค้นหาที่ว่าก็คือ “ระเบิดหม้อต้มความดัน” และ “กระเป๋าเป้”
“พนักงานสืบสวนประจำเทศมณฑลซัฟฟอล์กจึงได้เดินทางไปบ้านผู้ต้องสงสัย เพื่อสอบถามว่า พวกเขาค้นคำเหล่านั้นไปเพื่ออะไร” แต่สุดท้ายก็พบว่าทั้งสองไม่มีเจตนาก่ออาชญากรรม ถ้อยแถลงจากตำรวจระบุ
ด้านโฆษกสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) สำนักงานนิวยอร์ก และสำนักงานตำรวจเทศมณฑลนัสเซา ปฏิเสธไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสอบปากคำพลเมืองครั้งนี้
คาตาลาโน เล่าว่า ตำรวจมาถึงบ้านในเวลาประมาณ 9.00 น. ซึ่งสามีอยู่ที่บ้านคนเดียว จากนั้นก็ตั้งคำถามว่า “คุณมีหม้อต้มความดันหรือเปล่า”
เมื่อสามีของเธอตอบว่า มีเอาไว้ใช้ต้ม “ควินัว” (เมล็ดพืชซึ่งเป็นอาหารพื้นเมืองแถบอเมริกาใต้) คำถามต่อมาที่ได้รับก็คือ “ควินัว นี่มันอะไรกัน”
หญิงสาวยอมรับว่า เหตุการณ์นี้ทำให้เธอเสียขวัญไม่น้อย “ถ้าคราวหน้าจะซื้อหม้อต้มความดันใหม่ ฉันจะไม่ซื้อผ่านเว็บไซต์อีกแน่นอน”
ข่าวจาก :
http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9560000095115
----------------------------
แฉอีก โปรแกรม XKeyscore ช่วย จนท.สหรัฐฯ สืบค้นได้แทบทุกอย่าง
เดอะ การ์เดียน แฉข้อมูลล่าสุดจากสโนวเดน เรื่องโปรแกรม XKeyscore ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่วิเคราะห์ข้อมูลสามารถสืบค้นข้อมูล "กิจกรรมแทบทุกอย่างที่ผู้ใช้งานกระทำในอินเทอร์เน็ต" ตั้งแต่อีเมล, การแชท, การใช้คำค้นหาในเว็บต่างๆ และเลขไอพีของผู้เข้าชมเว็บ
เมื่อวันที่ 31 ก.ค. สำนักข่าวเดอะ การ์เดียน เปิดเผยเอกสารลับชุดใหม่ของสภาความมั่งคงแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (NSA) ที่กล่าวถึงโปรแกรมชื่อ XKeyscore ซึ่งเป็นโปรแกรมที่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่สามารถเข้าค้นข้อมูลอีเมล, การสนทนาออนไลน์ และประวัติการเข้าเว็บของผู้คนจำนวนมากได้
เอกสารล่าสุดนี้มาจากเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน ผู้เปิดโปงโครงการสอดแนมของรัฐบาลสหรัฐฯ เป็นเอกสารการฝึกอบรมของ NSA ที่ระบุว่ามีความสามารถในการสอดแนมข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตได้ในวงกว้าง
เอกสารการฝึกอบรมการใช้ XKeyscore ระบุถึงรายละเอียดการใช้งานว่าเจ้าหน้าที่สามารถใช้โปรแกรมนี้ร่วมกับระบบอื่นๆ ในการดักจับข้อมูลการใช้งานอินเทอร์เน็ตของบุคคลได้ทันทีความเวลาจริง (real-time) โดยข้อมูลต่างๆ รวมถึงอีเมล, ประวัติการเข้าเว็บ, การใช้คำค้นหา รวมถึงนิยามข้อมูล (metadata) ของบุคคลนั้นๆ ได้
โดยตามกฎหมายการสืบราชการลับต่างประเทศ (FISA) ปี 1978 ของสหรัฐฯ แล้ว NSA ต้องขอหมายค้นหากเป้าหมายเป็นพลเมืองสหรัฐฯ หรือบุคคลที่อาศัยอยู่ในสหรัฐฯ ส่วนกรณีการสื่อสารระหว่างชาวสหรัฐฯ กับคนต่างชาติไม่จำเป็นต้องมีหมายค้น แต่โปรแกรม XKeyscore มีความสามารถในการสอดแนมได้แม้กระทั่งชาวสหรัฐฯ โดยไม่จำเป็นต้องมีหมายค้น
ข้อมูลจากภาพสไลด์ของเอกสารแสดงให้เห็นว่า XKeyscore สามารถให้เจ้าหน้าที่ค้นหาข้อมูลต่างๆ ที่ถูกดักไว้โดยค้นจากหมายเลขโทรศัพท์มือถือ, หมายเลขไอพี หรือคำสำคัญได้
เอกสารของ NSA ยังมีการกล่าวอ้างอีกว่าจนถึงปี 2008 พวกเขาสามารถใช้ข้อมูลจาก XKeyscore จับกุมผู้ก่อการร้ายได้ 300 ราย
ในภาพสไลด์ของเอกสารในเดือน ธ.ค. 2012 ได้บรรยายถึงข้อมูลที่สามารถสืบค้นได้โดยเจ้าหน้าที่เช่น บัญชีรายชื่ออีเมลทุกบัญชีที่ถูกดักข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นชื่อผู้ใช้หรือชื่อโดเมน หมายเลขโทรศัพท์ทุกหมายเลขที่ถูกดัก รวมถึงกิจกรรมของผู้ใช้อินเทอร์เน็ต ตั้งแต่เว็บเมล การสนทนา รวมถึงรายชื่อผู้ใช้ รายชื่อเพื่อน และคุกกี้ (ข้อมูลขนาดเล็กซึ่งถูกเก็บไว้ที่โปรแกรมท่องเว็บ เช่น ข้อมูลการเข้าถึงเว็บไซต์ หรือข้อมูลส่วนตัวของเราลงทะเบียนกับเว็บไซต์ต่างๆ)
ภาพสไลด์ที่เดอะ การ์เดียน นำมาเผยแพร่ยังแสดงให้เห็นตัวอย่างการพยายามสาธิตวิธีการให้เจ้าหน้าที่ค้นหาผ่านข้อมูลการสนทนาทางเฟซบุ๊ก การแยะแยกข้อมูลว่าบุคคลผู้หนึ่งมีกิจกรรมค้นหาข้อมูลเช่นไรบ้าง เช่น การที่ผู้ใช้ค้นหาคำว่า "Musharraf" ผ่านเว็บไซต์ BBC
เดอะ การ์เดียนกล่าวอีกว่า โปรแกรม XKeyscore ทำให้เจ้าหน้าที่นักวิเคราะห์ข้อมูลสามารถทราบถึงเลขที่อยู่ไอพีของทุกคนที่เข้าถึงเว็บไซต์หนึ่งๆ ได้ เช่น การที่เจ้าหน้าที่สามารถค้นหาว่ามีบุคคล (หมายเลขไอพี) ใดบ้างในประเทศสวีเดนที่เข้าสู่เว็บบอร์ดเสวนาของกลุ่มหัวรุนแรง
ข่าวจาก :
http://www.prachatai.com/journal/2013/08/47972
---------------------------
ใครอยู่ USA แดนเสรีชน สบายดีกันไหมครับ
พลเมืองอเมริกันครับ วันนี้สบายดีไหมครับ (ถามรวมถึงคนที่ไปใช้ชีวิตชั่วคราว ไม่ได้เป็นพลเมืองด้วยนะ)
รอยเตอร์ - นักเขียนหญิงชาวอเมริกันถูกตำรวจนิวยอร์กบุกสอบปากคำถึงบ้าน เพียงแค่เธอและสามีค้นเว็บไซต์กูเกิลเพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับ “หม้อต้มความดันและกระเป๋าเป้” ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่คนร้ายใช้ผลิตระเบิดโจมตีการแข่งขัน บอสตัน มาราธอน
สองพี่น้องตระกูลซาร์เนฟ ซึ่งเป็นพลเมืองอเมริกันเชื้อสายเชเชน นำระเบิดหม้อต้มความดันซ่อนไว้ในกระเป๋าเป้ ก่อนจะนำไปวางไว้ใกล้เส้นชัยในการแข่งวิ่งมาราธอนที่เมืองบอสตัน เมื่อวันที่ 15 เมษายนที่ผ่านมา แรงระเบิดส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บร่วม 300 คน ซึ่งหลายคนถึงขั้นพิการสูญเสียอวัยวะ
มิเชล คาตาลาโน นักเขียนชาวลองไอแลนด์ เขียนไว้ในบล็อกของเธอบนเว็บไซต์ Medium.com เมื่อวานนี้(1)ว่า การที่ตำรวจบุกมาสอบปากคำถึงบ้านถือเป็นการตั้งข้อสงสัยก่อการร้ายที่รุนแรงมากสำหรับเธอ
เธอยังเผยเรื่องนี้ต่อหนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนในอังกฤษด้วย แต่ยังไม่พร้อมให้สัมภาษณ์เพิ่มเติม
คาตาลาโน เขียนไว้ว่า “ฉันค้นข้อมูลเพราะอยากได้หม้อต้มความดันดีๆสักใบ ส่วนสามีอยากจะได้กระเป๋าเป้ ถ้าเป็นเวลาอื่นการค้นหาของทั้งสองอย่างนี้คงไม่น่าแปลก แต่ทุกวันนี้มันไม่ใช่แล้ว”
อย่างไรก็ตาม สำนักงานตำรวจประจำเทศมณฑลซัฟฟอล์ก รัฐนิวยอร์ก ได้อธิบายต่อสื่อมวลชนผ่านอีเมล์เมื่อวานนี้(1)ว่า บริษัทคอมพิวเตอร์แห่งหนึ่งแจ้งต่อพนักงานสืบสวนคดีอาชญากรรมว่า อดีตพนักงานเคยมีพฤติกรรมค้นข้อมูลที่น่าสงสัยผ่านคอมพิวเตอร์ของบริษัท ซึ่งคำค้นหาที่ว่าก็คือ “ระเบิดหม้อต้มความดัน” และ “กระเป๋าเป้”
“พนักงานสืบสวนประจำเทศมณฑลซัฟฟอล์กจึงได้เดินทางไปบ้านผู้ต้องสงสัย เพื่อสอบถามว่า พวกเขาค้นคำเหล่านั้นไปเพื่ออะไร” แต่สุดท้ายก็พบว่าทั้งสองไม่มีเจตนาก่ออาชญากรรม ถ้อยแถลงจากตำรวจระบุ
ด้านโฆษกสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) สำนักงานนิวยอร์ก และสำนักงานตำรวจเทศมณฑลนัสเซา ปฏิเสธไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสอบปากคำพลเมืองครั้งนี้
คาตาลาโน เล่าว่า ตำรวจมาถึงบ้านในเวลาประมาณ 9.00 น. ซึ่งสามีอยู่ที่บ้านคนเดียว จากนั้นก็ตั้งคำถามว่า “คุณมีหม้อต้มความดันหรือเปล่า”
เมื่อสามีของเธอตอบว่า มีเอาไว้ใช้ต้ม “ควินัว” (เมล็ดพืชซึ่งเป็นอาหารพื้นเมืองแถบอเมริกาใต้) คำถามต่อมาที่ได้รับก็คือ “ควินัว นี่มันอะไรกัน”
หญิงสาวยอมรับว่า เหตุการณ์นี้ทำให้เธอเสียขวัญไม่น้อย “ถ้าคราวหน้าจะซื้อหม้อต้มความดันใหม่ ฉันจะไม่ซื้อผ่านเว็บไซต์อีกแน่นอน”
ข่าวจาก : http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9560000095115
----------------------------
แฉอีก โปรแกรม XKeyscore ช่วย จนท.สหรัฐฯ สืบค้นได้แทบทุกอย่าง
เดอะ การ์เดียน แฉข้อมูลล่าสุดจากสโนวเดน เรื่องโปรแกรม XKeyscore ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่วิเคราะห์ข้อมูลสามารถสืบค้นข้อมูล "กิจกรรมแทบทุกอย่างที่ผู้ใช้งานกระทำในอินเทอร์เน็ต" ตั้งแต่อีเมล, การแชท, การใช้คำค้นหาในเว็บต่างๆ และเลขไอพีของผู้เข้าชมเว็บ
เมื่อวันที่ 31 ก.ค. สำนักข่าวเดอะ การ์เดียน เปิดเผยเอกสารลับชุดใหม่ของสภาความมั่งคงแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (NSA) ที่กล่าวถึงโปรแกรมชื่อ XKeyscore ซึ่งเป็นโปรแกรมที่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่สามารถเข้าค้นข้อมูลอีเมล, การสนทนาออนไลน์ และประวัติการเข้าเว็บของผู้คนจำนวนมากได้
เอกสารล่าสุดนี้มาจากเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน ผู้เปิดโปงโครงการสอดแนมของรัฐบาลสหรัฐฯ เป็นเอกสารการฝึกอบรมของ NSA ที่ระบุว่ามีความสามารถในการสอดแนมข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตได้ในวงกว้าง
เอกสารการฝึกอบรมการใช้ XKeyscore ระบุถึงรายละเอียดการใช้งานว่าเจ้าหน้าที่สามารถใช้โปรแกรมนี้ร่วมกับระบบอื่นๆ ในการดักจับข้อมูลการใช้งานอินเทอร์เน็ตของบุคคลได้ทันทีความเวลาจริง (real-time) โดยข้อมูลต่างๆ รวมถึงอีเมล, ประวัติการเข้าเว็บ, การใช้คำค้นหา รวมถึงนิยามข้อมูล (metadata) ของบุคคลนั้นๆ ได้
โดยตามกฎหมายการสืบราชการลับต่างประเทศ (FISA) ปี 1978 ของสหรัฐฯ แล้ว NSA ต้องขอหมายค้นหากเป้าหมายเป็นพลเมืองสหรัฐฯ หรือบุคคลที่อาศัยอยู่ในสหรัฐฯ ส่วนกรณีการสื่อสารระหว่างชาวสหรัฐฯ กับคนต่างชาติไม่จำเป็นต้องมีหมายค้น แต่โปรแกรม XKeyscore มีความสามารถในการสอดแนมได้แม้กระทั่งชาวสหรัฐฯ โดยไม่จำเป็นต้องมีหมายค้น
ข้อมูลจากภาพสไลด์ของเอกสารแสดงให้เห็นว่า XKeyscore สามารถให้เจ้าหน้าที่ค้นหาข้อมูลต่างๆ ที่ถูกดักไว้โดยค้นจากหมายเลขโทรศัพท์มือถือ, หมายเลขไอพี หรือคำสำคัญได้
เอกสารของ NSA ยังมีการกล่าวอ้างอีกว่าจนถึงปี 2008 พวกเขาสามารถใช้ข้อมูลจาก XKeyscore จับกุมผู้ก่อการร้ายได้ 300 ราย
ในภาพสไลด์ของเอกสารในเดือน ธ.ค. 2012 ได้บรรยายถึงข้อมูลที่สามารถสืบค้นได้โดยเจ้าหน้าที่เช่น บัญชีรายชื่ออีเมลทุกบัญชีที่ถูกดักข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นชื่อผู้ใช้หรือชื่อโดเมน หมายเลขโทรศัพท์ทุกหมายเลขที่ถูกดัก รวมถึงกิจกรรมของผู้ใช้อินเทอร์เน็ต ตั้งแต่เว็บเมล การสนทนา รวมถึงรายชื่อผู้ใช้ รายชื่อเพื่อน และคุกกี้ (ข้อมูลขนาดเล็กซึ่งถูกเก็บไว้ที่โปรแกรมท่องเว็บ เช่น ข้อมูลการเข้าถึงเว็บไซต์ หรือข้อมูลส่วนตัวของเราลงทะเบียนกับเว็บไซต์ต่างๆ)
ภาพสไลด์ที่เดอะ การ์เดียน นำมาเผยแพร่ยังแสดงให้เห็นตัวอย่างการพยายามสาธิตวิธีการให้เจ้าหน้าที่ค้นหาผ่านข้อมูลการสนทนาทางเฟซบุ๊ก การแยะแยกข้อมูลว่าบุคคลผู้หนึ่งมีกิจกรรมค้นหาข้อมูลเช่นไรบ้าง เช่น การที่ผู้ใช้ค้นหาคำว่า "Musharraf" ผ่านเว็บไซต์ BBC
เดอะ การ์เดียนกล่าวอีกว่า โปรแกรม XKeyscore ทำให้เจ้าหน้าที่นักวิเคราะห์ข้อมูลสามารถทราบถึงเลขที่อยู่ไอพีของทุกคนที่เข้าถึงเว็บไซต์หนึ่งๆ ได้ เช่น การที่เจ้าหน้าที่สามารถค้นหาว่ามีบุคคล (หมายเลขไอพี) ใดบ้างในประเทศสวีเดนที่เข้าสู่เว็บบอร์ดเสวนาของกลุ่มหัวรุนแรง
ข่าวจาก : http://www.prachatai.com/journal/2013/08/47972
---------------------------
ใครอยู่ USA แดนเสรีชน สบายดีกันไหมครับ