[Exclusive] อัยการปฏิเสธหมายค้น “บังชีฮยอก ประธานHYBE” จากตำรวจเป็นครั้งที่สอง เกิดความขัดแย้งระหว่างตำรวจ-อัยการ ‼️

หมายค้นถูกปฏิเสธเป็นครั้งที่สอง

ตำรวจและอัยการร่วมสอบสวนข้อกล่าวหาบังชีฮยอกเรื่องการธุรกรรมฉ้อโกงผิดกฎหมาย...

การปฏิเสธหมายซ้ำแล้วซ้ำเล่าทำให้ตำรวจไม่พอใจ... ความขัดแย้งระหว่างตำรวจ-อัยการยังคงดำเนินต่อไป

อัยการปฏิเสธหมายค้นในคดีของ ​บังชีฮยอก ประธานบริษัท HYBE อีกครั้ง หลังจากตำรวจยื่นขอหมายเพื่อเข้าค้นหาในข้อหาทำธุรกรรมโดยฉ้อโกง

​ส่งผลให้เกิดกระแสความไม่พอใจภายในตำรวจ เนื่องจากหมายค้นถูกปฏิเสธถึงสองครั้ง คาดว่าความตึงเครียดระหว่างตำรวจและอัยการจากการสอบสวน HYBE จะยังคงดำเนินต่อไปในระยะนี้

จากข้อมูลเมื่อวันที่ 15 ที่ผ่านมา แหล่งข่าวจากแวดวงกฎหมายเปิดเผยว่า หน่วยสืบสวนอาชญากรรมหลักทรัพย์ของสำนักงานอัยการเขตกรุงโซลตอนใต้ ได้แจ้งไม่รับคำร้องขอหมายค้นที่เกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาการค้าฉ้อโกงของประธานบัง โดยก่อนหน้านี้ หน่วยสืบสวนอาชญากรรมทางการเงินของสำนักงานตำรวจนครบาลกรุงโซลเป็นผู้ยื่นคำร้อง และนี่เป็นครั้งที่สองที่หมายค้นถูกปฏิเสธ

ตำรวจเริ่มการสอบสวนตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว หลังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการทำธุรกรรมระหว่างประธานบังชีฮยอกและกองทุนรวมเพื่อการลงทุน (PEF) ที่ใกล้ชิดกับเขา โดย HYBE ถูกตั้งข้อสงสัยว่าได้แจ้งนักลงทุนเดิมว่าไม่มีแผนจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ แต่กลับดำเนินการเตรียมตัวเข้าตลาดจริง

เมื่อวันที่ 30 เมษายน ตำรวจได้ยื่นขอหมายค้นครั้งแรก แต่ถูกอัยการปฏิเสธ จากนั้นจึงทำการสอบสวนเพิ่มเติมก่อนยื่นใหม่อีกครั้ง แต่ก็ถูกปฏิเสธอีก

ตำรวจจำเป็นต้องผ่านอัยการเพื่อดำเนินการขอหมายค้น และเนื่องจากไม่สามารถเปิดการสืบสวนแบบบังคับได้โดยตรง จึงมีรายงานว่าตำรวจจะยื่นขอหมายค้นอีกครั้งเพื่อให้สามารถรวบรวมพยานหลักฐานได้

ภายในหน่วยงานตำรวจ มีความสงสัยว่าอัยการกำลังพยายามขัดขวางหมายค้น เพื่อผลักดันให้ตำรวจพ้นจากการถืออำนาจนำในการสอบสวนคดี HYBE ​ขณะนี้อัยการก็กำลังสอบสวนคดีเดียวกันร่วมกับสำนักงานกำกับดูแลการเงิน (FSS)

เจ้าหน้าที่ตำรวจรายหนึ่งให้ความเห็นว่า “เมื่ออัยการได้รับคำร้องขอหมายค้นจากตำรวจ พวกเขาจะสามารถเข้าถึงข้อมูลการสืบสวนทั้งหมดได้อย่างละเอียด และหากสุดท้ายหมายค้นถูกปฏิเสธโดยอ้างว่าเป็นการสืบสวนซ้ำซ้อน ก็จะทำให้สงสัยได้ว่าอัยการแค่ต้องการนำข้อมูลไปใช้เอง”

มีการคาดการณ์ว่าความขัดแย้งระหว่างตำรวจและอัยการจะทวีความรุนแรงมากขึ้นในอนาคต ​ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ความตึงเครียดระหว่างสองหน่วยงานยังคงดำเนินต่อเนื่อง จากการแย่งชิงอำนาจในการสืบสวนคดีแผนประกาศกฎอัยการศึกเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม (เรียกย่อว่า “12·3”)

ในขณะนั้น หน่วยสอบสวนพิเศษของอัยการได้ปฏิเสธหมายค้นที่ตำรวจยื่นขอต่อกองบัญชาการต่อต้านข่าวกรอง แต่เพียงหนึ่งวันถัดมา อัยการกลับดำเนินการเข้าค้นเอง ส่งผลให้ถูกวิจารณ์ว่า “แย่งการสอบสวน”

นอกจากนี้ เมื่อเดือนที่แล้ว ขณะตำรวจดำเนินการขอข้อมูลบันทึกเซิร์ฟเวอร์ของโทรศัพท์ลับจากสำนักงานรักษาความปลอดภัยประธานาธิบดี อัยการก็ปรากฏตัวที่จุดเกิดเหตุโดยอ้างว่าจะรวบรวมหลักฐาน ทำให้เกิดความขัดแย้งกันในสถานที่จริงอีกครั้ง

https://n.news.naver.com/article/015/0005144716?sid=102
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่