[Spoil แน่นอน] ฉลอง World Embryo เล่ม 8 ภาษาไทยออกวางตลาด...ท่านใดอ่านแล้วมาคุยกันได้เลยครับ

ฉลอง World Embryo เล่ม 8 ฉบับภาษาไทยออกด้วยการตั้งกระทู้คุยกันเกี่ยวกับเล่มนี้เป็นประเดิมครับ

ว่าที่จริงอยากตั้งกระทู้คุยกันเรื่องเนื้อหาของช่วงนี้มานานแล้วเหมือนกัน แต่ติดที่ฉบับภาษาไทยยังไม่ถึงเล่มนี้และคิดว่าคนที่ตามอ่านเวอร์ชั่นอังกฤษอยู่คงมีน้อย ก็เลยได้แต่รอมา จนกระทั่งวันนี้ได้ข่าวว่าเล่ม 8 จะออกแล้ว เลยตัดสินใจรอจนถึงวันนี้ค่อยเริ่มตั้งกระทู้นี่แหละครับ (ถึงเอาเข้าจริงผมจะเคย Spoil เรื่องย่อแบบตอนต่อตอนของเล่ม 8 ทั้งเล่มไปตั้งกะสมัยรวมเล่มยังไม่ออกไปหมดแล้วก็เถอะ เค้าล้อเล่น)






เนื้อหาเล่มนี้เรียกว่าทำได้เด็ดสุดๆ ทั้งหนักแน่นเข้มข้นสมกับเป็นเล่มว่าด้วย "ปฐมบทที่แท้จริงของสงคราม" จริงๆ (เนื้อหาช่วงย้อนอดีตเกาะฮัตสึมินั้นกินเนื้อที่ถึงกว่า 90% ของทั้งเล่มเลยทีเดียว) ในเล่มประกอบด้วยเรื่องราวของตัวละครต่างๆ ทั้งคาราซาว่า ริวเซย์ เรน่า รวมถึงตัวละครอื่นๆ อีกมากมาย ที่ดูเผินๆ คล้ายมาอยู่ด้วยกันมาเกี่ยวข้องกันโดยไม่ตั้งใจ แต่พอปูบทผ่านไปได้ซักพัก เรื่องราวของแต่ละคนก็ค่อยๆ ถูกเอามาตีแผ่และผูกมัดเข้าด้วยกันไว้อย่างแน่นหนาเหมือนโดนล่ามไว้ด้วยกุญแจมือเส้นใหญ่ ชนิดที่จะสลัดอย่างไรก็หนีกันไม่พ้นจริงๆ แม้แต่ตัวบักริคุที่เข้ามาในฐานะ "ผู้ชม" วงนอกเองก็ยังพลอยถูกกุญแจมือนั้นล่ามไว้กับเนื้อหาเหล่านั้นด้วยเช่นกัน

ผมสงสารชะตากรรมของเรน่าสมัยยังเป็น "มิทามะ" และทาคาโอะสมัยยังใช้ชื่อว่า "ทาคาโอะ ริวเซย์" จริงๆ ครับ เห็นแล้วอดคิดไม่ได้จริงๆ ว่าเด็กคนหนึ่งที่ถูกเลี้ยงมาในฐานะ "คนตาย" และ "ตัวเสนียดยิ้มของคนทั้งเกาะ" ตลอดชั่วชีวิตแบบนี้ จะให้เขาเหลือเยื่อใยอะไรกับครอบครัวกับคนทั้งเกาะได้อีกล่ะ นอกจากความหวาดกลัว ว้าเหว่ และความเคียดแค้นชิงชังต่อทุกคนที่ช่วงชิงอิสรภาพของพวกเขาไป

ความบ้าคลั่งในตอนท้ายที่เรน่าแสดงออกมาหลังจากเล่นเล่ห์จนเกาะทั้งเกาะพินาศไปสมใจตัวเองแล้วนั้นเป็นฉากที่เรียกว่าหดหู่ที่สุดในเล่มนี้เลยครับ หดหู่ขนาดที่ผมเห็นครั้งแรกก็แทบไม่อยากเปิดไปอ่านอีกเลยเป็นครั้งที่สอง

แต่ถ้าถามว่าใครที่ผมชอบที่สุดในเล่มนี้แล้วละก็ ขอตอบเปรี้ยงเดียวว่า "คาราซาว่า ชิโร่" ครับ แม้ตลอด 7 เล่มที่ผ่านมา เขาจะทำตนประหนึ่งมารร้ายที่ทุกคนเกลียดชังในฐานะ "แหล่งแพร่" ศัตรูคนสำคัญของผู้่ใช้จิงกิ แต่เมื่อขึ้นเนื้อหาเล่มนี้แล้ว เขาก็แทบจะเรียกว่าพลิกบทบาทกลับมาเป็น "ตัวเอกอีกคนหนึ่ง" ของเรื่องนี้เคียงคู่ไปกับริคุได้อย่างไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ เรียกว่าเล่มนี้ทั้งเล่มดำเนินเรื่องไปโดยคาราซาว่า ส่วนริคุเป็นแค่คนดูก็ไม่ผิดนัก

ผมโคตรจะชอบฉากในตอนสุดท้ายของเล่มนี้ที่ริคุได้เห็นฉากชีวิตของคาราซาว่าในช่วงท้ายๆ หลังการล่มสลายของเกาะฮัตสึมิเลยครับ เนื้อเรื่องในเล่มนี้ชี้ให้เห็นถึงความ "เหมือน" ระหว่างริคุกับคาราซาว่าได้อย่างถึงพริกถึงขิง โดยเฉพาะฉากย้อนอดีตของคาราซาว่าช่วงก่อร่างสร้าง F.L.A.G. จนถึงช่วงตามหาเอนเดพบนั้น แต่ละฉากแทบจะเรียกได้ว่าเป็นภาพซ้อนทับไปกับภาพย้อนอดีตของริคุในแต่ละช่วงเลยทีเดียว ชนิดที่อ่านแล้วเข้าใจขึ้นมาเลยว่านอกจากเรื่องของเนเน่ที่เป็นคิวกิแล้ว ทำไมคาราซาว่าที่มุ่งแต่เป้าหมายของตัวเองจนไม่เห็นสิ่งใดอยู่ในสายตา ถึงได้พยายามเข้าหาริคุและอยากให้ริคุมาเป็นพวกเดียวกันมากถึงขนาดนี้ เนื้อเรื่องในตอนนี้สะท้อนให้เห็นว่าริคุกับคาราซาว่าต่างเป็นเหมือนกระจกเงาที่สะท้อนชีวิตของกันและกัน ว่าสิ่งที่คาราซาว่าเป็นในวันนั้น ก็คือสิ่งที่ริคุเป็นในวันนี้ ขณะเดียวกัน สิ่งที่คาราซาว่าเป็นในวันนี้ ก็คือสิ่งที่ริคุมีแนวโน้มจะเป็นในวันข้างหน้าเช่นกัน...เรียกว่าหากริคุทำใจให้เหี้ยมกว่านี้สักหน่อย บวกกับความเจ้าเล่ห์ฉลาดแกมโกงเพิ่มขึ้นสักเล็กน้อย ก็มีสิทธิ์สูงมากที่จะเดินเส้นทางเดียวกับคาราซาว่าได้อย่างง่ายดาย

แต่ลงท้าย แม้จะเหมือนกันจนแทบเรียกได้ว่าเป็น "ฝาแฝดทางวิญญาณ" ของกัน เนื้อเรื่องก็ยังแสดงให้เห็นอยู่ดีว่าริคุนั้น "ต่าง" จากคาราซาว่า นั่นเพราะริคุยังคงเหลือความดีงามอยู่ในตัวบ้าง ยังรู้จักห่วงคนอื่น รู้จักคิดถึงคนอื่น ไม่ได้คิดถึงแต่เรื่องหาทางทำให้เนเน่เติบโตหรือเรื่องตามหาอามาเนะแต่เพียงอย่างเดียว ในขณะที่คาราซาว่านั้นแทบจะเรียกได้ว่าฉลาดแกมโกง ใช้ลูกเล่นทุกวิถีทางเพื่อไม่ว่าจะสะอาดหรือสกปรกเพื่อเป้าหมายของตัวเอง ไม่สนใจว่าใครจะเป็นจะตายจะเจ็บปวดอย่างไร

ฉากที่ริคุระเบิดเสียงร้องไห้สำนึกในความผิดพลาดของตนเอง...ที่คอยแต่จะตั้งข้อระแวงมือมนุษย์ทุกมือที่ยื่นเข้าใกล้ไม่วางใจ ส่งผลให้ทำแต่เรื่องผิดพลาดจนต้องสูญเสียทุกอย่างไป...เรียกว่าเป็นจุดสำคัญที่บ่งบอกถึงความแตกต่างระหว่างคาราซาว่ากับริคุได้ชัดเจนจริงๆ

อาจเป็นเพราะเหตุนี้ก็ได้ ที่ทำให้คาราซาว่าซึ่งสูญเสียทุกอย่างไปในท้ายสุด มองเห็นความหวังบางอย่างในตัวริคุ และตัดสินใจให้ริคุได้เห็นอดีตของตนทั้งหมด เพราะบางทีตัวคาราซาว่าเองก็อาจจะอยากเห็น หรือไม่ก็แอบหวังอยู่ลึกๆ ก็ได้ ว่าคนที่พบเจออดีตคล้ายกับตัวเองอย่างริคุ หากได้รับรู้เรื่องราวทั้งหมดตั้งแต่ต้น อาจจะเลือกเส้นทางที่แตกต่างไปจากตัวเอง จะไม่กลายเป็นปีศาจเหมือนอย่างตัวเองก็ได้ ซึ่งผลสุดท้ายของมันก็นับว่าคุ้มค่ากับที่ลงทุนย้อนอดีต (หรือที่จริงต้องเรียกว่า "ขอให้จูริช่วยย้อนอดีต" มากกว่า) ทั้งหมดให้ริคุดูจริงๆ



ทั้งหมดนี่ละครับคือความประทับใจของผมกับ World Embryo เล่ม 8 นี้ ท่านใดคิดเห็นยังไงลองคุยกันได้ครับ ยิ้ม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่