สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
- เมืองไทยมีอาหารการกินสมบูรณ์กว่าเยอะค่ะ ผลไม้มีหลากหลาย เปลี่ยนไปตามฤดูกาล
เมืองไทยถ้ามีบ้านหลักแรกและอยู่เอง ไม่ต้องเสียภาษี อเมริกาต้องเสียภาษีค่ะ ถูกแพงก็แล้วแต่ว่าอยู่รัฐไหนเมืองไหน
เมืองไทยหาซื้ออาหารได้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ที่อเมริการ้านอาหารเปิดปิดเป็นเวลาค่ะ
คนอยู่เมืองไทยไม่ต้องติดตามข่าวสารเรื่องลมฟ้าอากาศ มีร่มคันเดียวใช้ได้ทุกฤดูกาล
คนอยู่เมืองไทยไม่ต้องตื่นแต่เช้ามาโกยหิมะออกจากรถ และขูดน้ำแข็งออกจากกระจกรถในหน้าหนาวเหมือนคนอเมริกันที่อยู่ตอนเหนือๆของประเทศ
ที่เมืองไทยเวลาไปทานข้าวตามร้านอาหาร ไม่จำเป็นต้องให้ทิปถ้าไม่มีเงินเหลือเฟือ (ยกเว้นร้านอาหารที่รวมค่าบริการเข้าไปแล้ว) แต่ที่อเมริกาควรจะให้ทิปตลอด เพราะพนักงานเสริฟส่วนมากมีรายได้จากทิปอย่างเดียว
ที่เมืองไทยไปมาหาสู่ญาติพี่น้องหรือเพื่อนฝูงส่วนมาก เมื่อไหร่ก็ได้ถ้าไม่เช้าเกินไป หรือดึกเกินไป ญาติพี่น้องหรือเพื่อนฝูงไม่ว่าเอา แต่ที่อเมริกาจะต้องบอกกล่าวและ
ถามไถ่เจ้าบ้านก่อนว่าแวะไปหาวันนี้ เวลานี้ได้หรือไม่
ที่เมืองไทยถ้าเจ็บไข้ไม่สบายกระทันหัน (และมีเงิน) ไปคลีนิคหรือไปที่ห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล จะได้รับการดูแลทันที แต่ที่อเมริกา นั่งคอยไปเหอะค่ะ หมอและพยาบาลของเค้าค่าแรงแพง เค้าเลือกให้การรักษากับคนไข้ที่จำเป็นก่อน หลายต่อหลายครั้ง คนไข้ที่ไปนั่งคอยคอยกันเป็นสี่ห้าชั่วโมง หรือไม่ก็คอยจนอาการดีขึ้น ยอมกลับบ้านแล้วค่อยโทรนัดหมอประจำตัวเอาวันอื่นก็มีค่ะ
ที่เมืองไทยยาบางอย่างเช่น ยาแก้อักเสบ ยาคุมกำเนิด สามารถซื้อได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งยาจากหมอ ที่นี่ไม่ได้ค่ะ
ที่เมืองไทยเวลาจะตัดแว่นสายตาก็เดินไปร้านแว่นให้พนักงานวัดสายตาให้ได้เลย ที่นี่ถ้าจะตัดแว่นสายตาต้องให้หมอตาวัดสายตาให้ก่อน แล้วเอาใบนั้นไปที่ร้านแว่นอีกที (เสียหลายต่อจริงๆ)
อยู่เมืองไทยไปบ้านเพื่อนฝูง ไปบ้านญาติ ถ้าหิวขอข้าวกินได้ ไม่โดนด่าลับหลัง ถ้าเป็นที่อเมริกาต้องสนิทถึงสนิทมากที่สุดถึงจะทำอย่างนั้นได้
อยู่เมืองไทยค่าสระผมค่าไดร์ผมถูกมาก ไม่ต้องนัดล่วงหน้าก็ได้ แถมไม่ต้องทิปอีก แต่ที่อเมริกาถ้าไม่นัดล่วงหน้าก็อาจจะไปแล้วช่างไม่ว่าง และถ้าไม่ทิปก็ไม่ควรจะกลับไปอีก เพราะช่างคงไม่อยากทำให้ ฮ่าๆๆ
ปล. ดิฉันอยู่อเมริกาปีหน้าครบสิบปีเต็ม อยู่แถบนิวอิงค์แลนด์ค่ะ
เมืองไทยถ้ามีบ้านหลักแรกและอยู่เอง ไม่ต้องเสียภาษี อเมริกาต้องเสียภาษีค่ะ ถูกแพงก็แล้วแต่ว่าอยู่รัฐไหนเมืองไหน
เมืองไทยหาซื้ออาหารได้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ที่อเมริการ้านอาหารเปิดปิดเป็นเวลาค่ะ
คนอยู่เมืองไทยไม่ต้องติดตามข่าวสารเรื่องลมฟ้าอากาศ มีร่มคันเดียวใช้ได้ทุกฤดูกาล
คนอยู่เมืองไทยไม่ต้องตื่นแต่เช้ามาโกยหิมะออกจากรถ และขูดน้ำแข็งออกจากกระจกรถในหน้าหนาวเหมือนคนอเมริกันที่อยู่ตอนเหนือๆของประเทศ
ที่เมืองไทยเวลาไปทานข้าวตามร้านอาหาร ไม่จำเป็นต้องให้ทิปถ้าไม่มีเงินเหลือเฟือ (ยกเว้นร้านอาหารที่รวมค่าบริการเข้าไปแล้ว) แต่ที่อเมริกาควรจะให้ทิปตลอด เพราะพนักงานเสริฟส่วนมากมีรายได้จากทิปอย่างเดียว
ที่เมืองไทยไปมาหาสู่ญาติพี่น้องหรือเพื่อนฝูงส่วนมาก เมื่อไหร่ก็ได้ถ้าไม่เช้าเกินไป หรือดึกเกินไป ญาติพี่น้องหรือเพื่อนฝูงไม่ว่าเอา แต่ที่อเมริกาจะต้องบอกกล่าวและ
ถามไถ่เจ้าบ้านก่อนว่าแวะไปหาวันนี้ เวลานี้ได้หรือไม่
ที่เมืองไทยถ้าเจ็บไข้ไม่สบายกระทันหัน (และมีเงิน) ไปคลีนิคหรือไปที่ห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล จะได้รับการดูแลทันที แต่ที่อเมริกา นั่งคอยไปเหอะค่ะ หมอและพยาบาลของเค้าค่าแรงแพง เค้าเลือกให้การรักษากับคนไข้ที่จำเป็นก่อน หลายต่อหลายครั้ง คนไข้ที่ไปนั่งคอยคอยกันเป็นสี่ห้าชั่วโมง หรือไม่ก็คอยจนอาการดีขึ้น ยอมกลับบ้านแล้วค่อยโทรนัดหมอประจำตัวเอาวันอื่นก็มีค่ะ
ที่เมืองไทยยาบางอย่างเช่น ยาแก้อักเสบ ยาคุมกำเนิด สามารถซื้อได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งยาจากหมอ ที่นี่ไม่ได้ค่ะ
ที่เมืองไทยเวลาจะตัดแว่นสายตาก็เดินไปร้านแว่นให้พนักงานวัดสายตาให้ได้เลย ที่นี่ถ้าจะตัดแว่นสายตาต้องให้หมอตาวัดสายตาให้ก่อน แล้วเอาใบนั้นไปที่ร้านแว่นอีกที (เสียหลายต่อจริงๆ)
อยู่เมืองไทยไปบ้านเพื่อนฝูง ไปบ้านญาติ ถ้าหิวขอข้าวกินได้ ไม่โดนด่าลับหลัง ถ้าเป็นที่อเมริกาต้องสนิทถึงสนิทมากที่สุดถึงจะทำอย่างนั้นได้
อยู่เมืองไทยค่าสระผมค่าไดร์ผมถูกมาก ไม่ต้องนัดล่วงหน้าก็ได้ แถมไม่ต้องทิปอีก แต่ที่อเมริกาถ้าไม่นัดล่วงหน้าก็อาจจะไปแล้วช่างไม่ว่าง และถ้าไม่ทิปก็ไม่ควรจะกลับไปอีก เพราะช่างคงไม่อยากทำให้ ฮ่าๆๆ
ปล. ดิฉันอยู่อเมริกาปีหน้าครบสิบปีเต็ม อยู่แถบนิวอิงค์แลนด์ค่ะ
แสดงความคิดเห็น
เมืองไทยดีกว่าอเมริกายังไงบ้างครับ