คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
1.เอาชุดสปริงเดิม ทำสตรัท.....
เป็นแนวประหยัดครับ ผมเคยเห็นบางคนทำมาแล้ว
ราคาถูกกว่าจริงครับ แต่ก็ได้แค่เตี้ยครับ นอกนั้นไม่ได้ใช้ประโยชน์อื่นใดอีก
เพราะสปริงที่สตรัทใช้จะ "แข็งกว่า" สปริงติดรถครับ เอาแค่พวกตัวนิ่มๆอย่าง TEIN SS ก็หน้า 5K หลัง 3K แล้ว
แต่ขนาดนี้ คนที่เคยขับรถบ้านๆก็ยังบ่นว่าแข็งกระด้าง เพราะรถบ้านส่วนมาก หน้า 1.5K หลัง 0.5-1K เองครับ
ถ้าจะทำสตรัทเอง คุณต้องไปซื้อ "สปริงหลอด" แบบที่เขาใช้กับสตรัทมาทำครับ แต่ทำแล้วดี ทน เหมือนของที่ผลิตมาโดยตรงหรือเปล่านั้น
ผมว่าคุณต้องชั่งใจเองครับ
2.เปลี่ยนชุดสปริงตรงรุ่น....
หมายถึงสปริงหรือสตรัทครับ?
ถ้าเปลี่ยนเฉพาะสปริง สปริงโหลดส่วนใหญ่ ค่า K จะมากกว่าสปริงเดิม เพราะเตี้ยกว่า ระยะยุบตัวน้อยกว่า สปริงจึงต้องแข็งกว่า
นั่นก็คือ ช่วงล่างมันจะดีดดิ้นมากกว่าของเดิมติดรถครับ
แล้วโช้คอัพ ถูกออกแบบมาให้หยุดการเต้นของสปริง สปริงแข็งขึ้น โช้คอัพเดิม รถก็เด้งเป็นม้าพยศล่ะครับ และโช้คจะพังไวด้วย
เป็นแนวประหยัดครับ ผมเคยเห็นบางคนทำมาแล้ว
ราคาถูกกว่าจริงครับ แต่ก็ได้แค่เตี้ยครับ นอกนั้นไม่ได้ใช้ประโยชน์อื่นใดอีก
เพราะสปริงที่สตรัทใช้จะ "แข็งกว่า" สปริงติดรถครับ เอาแค่พวกตัวนิ่มๆอย่าง TEIN SS ก็หน้า 5K หลัง 3K แล้ว
แต่ขนาดนี้ คนที่เคยขับรถบ้านๆก็ยังบ่นว่าแข็งกระด้าง เพราะรถบ้านส่วนมาก หน้า 1.5K หลัง 0.5-1K เองครับ
ถ้าจะทำสตรัทเอง คุณต้องไปซื้อ "สปริงหลอด" แบบที่เขาใช้กับสตรัทมาทำครับ แต่ทำแล้วดี ทน เหมือนของที่ผลิตมาโดยตรงหรือเปล่านั้น
ผมว่าคุณต้องชั่งใจเองครับ
2.เปลี่ยนชุดสปริงตรงรุ่น....
หมายถึงสปริงหรือสตรัทครับ?
ถ้าเปลี่ยนเฉพาะสปริง สปริงโหลดส่วนใหญ่ ค่า K จะมากกว่าสปริงเดิม เพราะเตี้ยกว่า ระยะยุบตัวน้อยกว่า สปริงจึงต้องแข็งกว่า
นั่นก็คือ ช่วงล่างมันจะดีดดิ้นมากกว่าของเดิมติดรถครับ
แล้วโช้คอัพ ถูกออกแบบมาให้หยุดการเต้นของสปริง สปริงแข็งขึ้น โช้คอัพเดิม รถก็เด้งเป็นม้าพยศล่ะครับ และโช้คจะพังไวด้วย
แสดงความคิดเห็น
มือใหม่จะโหลดครับ ขอคำแนะนำ
1.เอาชุดสปริงเดิม ทำสตรัท
2.เปลี่ยนชุดสปริงตรงรุ่น
รบกวนด้วยครับ