คนไทยในกองทัพนาซี

กระทู้สนทนา

อาวุธยุทโธปกรณ์ ชีวประวัติบุคคล ประวัติศาสตร์

" คนไทยในกองทัพนาซี "

. . . ซึ่งนอกจากชาวไทยแล้วยังมีคนชาติอื่นอีกมากมายหลายชาติครับที่เข้าเป็นทหารในกองทัพนาซี เปิดดูได้ตามลิ้งค์นี้เลยครับ : http://www.taringa.net/posts/offtopic/13212749/El-Ejercito-Nazi-tenia-otras-razas-ademas-de-la-Aria.html
..............................................................................
. . . ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ ๒ กองทัพเยอรมันได้แสดงแสนยานุภาพไปทั่วโลก บุกเข้าประเทศนั้นประเทศนี้ กองเรือเยอรมนีรบชนะกองเรือสัมพันธมิตรที่นั่นที่นี่ เอาอาวุธใหม่ๆ แปลกๆ มาใช้อีกมากมาย จู่ๆ มีคนไทยพลัดเข้าไปเป็นนายทหารอยู่ในกองทัพนาซีเยอรมนีในระหว่างนั้น ซึ่งก็คือนักเรียนทุนกระทรวงกลาโหมไปศึกษาวิชาการทหาร จากแผนเดิมที่ต้องศึกษาในประเทศเบลเยี่ยม โดนลมแห่งโชคชะตาพัดให้ไปศึกษายังโรงรายนายร้อยทหารบกเยอรมัน รวมถึงโรงเรียนกองกำลังสนับสนุนต่างๆ และได้กลายเป็นฟันเฟืองอันหนึ่งของกองกำลังอักษะ และจากนั้นชะตาพลิกผัน กลายเป็นเชลยศึก อยู่ในค่ายกักกันหลังสงคราม หลังเยอรมันแพ้สงคราม
. . . ต่อมาท่านได้เป็นผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารบกไทย ณ กรุงปรารีส คนที่ 5 ในปี พ.ศ.2507 – 2510 และต่อมาช่วงบั้นปลายชีวิตการงาน ท่านก็ได้ดำรงตำแหน่งเป็นเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปรารีส ประเทศฝรั่งเศส คนที่ 8 ในปี พ.ศ. 2516 – 2518 ชื่อของท่านก็คือ พันเอกวิชา ฐิตวัฒน์ ผู้เขียนหนังสือชื่อ "คนไทยในกองทัพนาซี" นั่นเอง ......
--------------------------------------------------------------
::>>เริ่มด้วยรูป : http://i684.photobucket.com/albums/vv206/Tortac1999/ale35f13.jpg
----> (คนในภาพ คือ นายทหาราบรถถัง ของหน่วย Panzer Grenadier Division ที่ 29 กองพลยานเกราะนาซีครับ .. ซึ่งหากดูจากข้อเขียนของพันเอกวิชา ผู้เขียนหนังสือ คนไทยในกองทัพนาซี นายทหารท่านนี้น่าจะเป็นเพื่อนของพันเอกวิชา เรียนนายร้อยเยอรมันพร้อมกัน และต่อมายิงตัวเองตายขณะประจำการเป็นนักเรียนทำการฯในกองทัพบกเยอรมัน ซึ่งรู้สึกว่าทหารไทยคนในภาพนี้มีปัญหาชีวิตส่วนตัว และยิงตัวตายในยุโรปครับ ไม่ได้กลับมาบ้านเกิด เป็นทหารไทยที่จังหวะผลักให้กลายไปเป็นนายทหารเยอรมันยุคเข้าสู่สงครามโลกอีกคนหนึ่ง)

. .อีกสักภาพครับ : http://kriegsgeschichte.kr.funpic.de/phpBB2/userpix/28_lucienthai_1.jpg
----> (คนในรูปเป็นนี้เป็นทหารอาสาลูกครึ่งไทย - ฝรั่งเศส ชื่อว่า " Lucien Kemarat " อายุ16 ปี ถ่ายเมื่อปี 1943 ครับ โดยเป็นทหารเก่าจาก หน่วยทหารอาสาฝรั่งเศษ (The Legion de Volontaires Francaises ) และต่อมาได้ย้ายไปสังกัดกับกองพลทหารราบยานยนต์ เอสเอส ที่ 33 Waffen SS Grenadier Division "Charlemagne " ซึ่งกว่าจะย้ายไปได้ก็ยากมากๆเพราะว่าพ่อเค้าเป็นคนไทยแต่ก็ย้ายไปจนได้เพราะมีประวัติดีครับ และถูกจับเป็นเฉลยในการรบที่ฝรั่งเศษและหลังจากสงครามสิ้นสุดเขายังคงอาศัยอยู่ทางใต้ของฝรั่งเศษจนปัจจุบันไม่รู้เว่ายังมีชีวิตหรือหรือไม่ครับผม)...
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
. . . ต่อด้วยชาวจีนสักท่านครับ : http://i684.photobucket.com/albums/vv206/Tortac1999/Chiang1.jpg
(ในภาพ : เป็นคนจีน ที่ได้รับเหรียญกางเขนเหล็ก ชั้นที่สอง!!! ถ่ายคู่กับคนฮังการี่ครับ..ที่สำคัญเป็นบุตรชายของจอมพลเจียงไคเชค ชื่อ "Chiang Wei Guo" ผู้โด่งดังนั่นเอง ได้ไปเรียนการทหารที่เยอรมันและได้รับยศเป็นร้อยตรี และยังเป็นผู้บังคับการรถถัง Panzer ด้วย ก่อนที่จะกลับไปประเทศจีนครับ)
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
. . . กลับเข้ามาสู่ทหารนาซีชาวไทยกันต่อครับ "เคยมีเพื่อนนายทหารไทยร่วมรุ่นอีกคนก็ได้เขียนหนังสือเรื่องชื่อ “คนไทยในกองทัพนาซี” เช่นกัน เขาเป็นนายทหารไทยคนหนึ่งซึ่งอยู่ในกลุ่มนายทหารบกไทยหลายคนที่จบนายร้อยแล้วได้ทุนไปเรียนต่อในยุโรปช่วงก่อนเกิดสงคราม พอไปถึงนั่นก็เรียนเตรียมตัวต่างๆ ในต่างที่กัน ส่วนมากจะเข้าเรียนต่อในโรงเรียนเฉพาะด้านของนายทหารเยอรมันคือตอนไปเรียนก็เข้าไปแต่งตั้งติดยศเป็นทหารเยอรมันไปเลยเป็นกรณีพิเศษ แต่พิธีติดยศนั้นต้องทำการสาบานตนว่าจะจงรักภักดีต่อเยอรมัน “ตราบเท่าที่สังกัดอยู่ในกองทัพเยอรมัน” ต่างกับทหารเยอรมันพันธุ์แท้ ผู้เขียนเรียนสาขาทหารสื่อสารที่เมืองฮันโนเวอร์ เขาเขียนเล่าประสบการณ์สนุกมากโดยเฉพาะเรื่องการฝึกสุดโหด ระเบียบวินัยของกองทัพเยอรมัน และเรื่องความเป็นอยู่ในช่วงสงคราม ตอนแรกจบแล้วจะโดนส่งไปรบแนวกับโซเวียตแนวตะวันออก แต่ ผบ.โรงเรียนเห็นใจว่า เป็นเอเชียกลัวหนาวตายเลยส่งไปประจำในฝรั่งเศสจนแพ้สงครามก็ขว้างปืนพกประจำตัวทิ้งทะเลสาบ ตั้งแถวยอมแพ้กับทหารอเมริกันทั้งเครื่องแบบ ไปอยู่ในค่ายเชลยตั้งนานกว่าจะหลุดกลับมาเมืองไทยได้ ระหว่างทางมีบุญได้เข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่รัชกาลที่ ๘ และรัชกาลที่ ๙ ที่ สวิสเซอร์แลนด์ด้วย".. พันเอกวิชากล่าว..

***เกร็ดที่น่าสนใจเมื่อตอนพันเอกวิชากลับถึงประเทศไทย...
. . 1. กลับมาเมืองไทยมีคนถามว่าเป็นนายทหารในกองทัพเยอรมันเป็นยังไงบังคับบัญชาได้ดีหรือไม่เพราะเป็นยุคเผด็จการเหยียดผิว เขาบอกว่าเรื่องนี้ไม่เคยนึกถึงด้วยซ้ำ เพราะวินัยในกองทัพเยอรมันนั้นแข็งมาก แค่นายสิบพลทหารก็กลัวกันแล้ว เป็นนายทหารนี่ พลทหาร และนายสิบยิ่งเรียบร้อย ดึงบุหรี่ออกมาตัวนึง ลูกน้องรอบตัวรีบควักไฟแชก ไม่ขีดยื่นให้ครึ่งโหล คราวนึงยื่นอยู่ข้างถนน ทหาร SS ยศต่ำกว่าเดินผ่านมาแล้วทำความเคารพเขาไม่เรียบร้อยตามแบบ คือยกมือตรงแบบนาซีแต่แขนไม่ตรงดี ก็เรียกมาด่า ให้เดินย้อนกลับไปแล้วเดินาทำความเคารพใหม่ต่อหน้าประชาชน ทหาร SS ก็ทำตามไม่ออกท่าขัดขืน
. . 2. ตอนอยู่ในค่ายเชลยศึก นายทหารเยอรมันบอกเขาว่า “บัดนี้ประเทศเยอรมันก็ประสบกับความหายนะจากสงครามแล้ว แต่ประเทศไทยยังมีโอกาสเจริญขึ้นต่อไปได้อีก”

. . .อีกทั้งยังมีข้อความที่น่าสนใจจากหนังสือ''คนไทยในกองทัพนาซี'' กล่าวถึงฮิตเลอร์ไว้น่าสนใจมาก .คือ .''อาหารที่ฮิตเลอร์โปรดที่สุดคืออาหารสำหรับกรรมกร ที่เรียกกันว่า ''หม้อเดียว'' อาหารชนิดนี้จะมีถั่วอยู่เป็นส่วนมาก หลังจากได้เป็นผู้เผด็จการปกครองเยอรมันนี ฮิตเล่อร์ก็กลายเป็นมังสวิรัติ ไม่ยอมกินเนื้อสัตว์แม้แต้น้อย คงรับอาหารอนามัยที่หมอกำหนดอย่างเคร่งครัด แต่บรรดาลูกน้องที่อยู่นบ้านคงอนุญาตให้กินเนื้อสัตว์และดื่มสุราได้
. . . ขณะอยู่ที่กองบัญชาการสนามซึ่งอยู่แถวปรัสเซียตะวันออก ฮิตเลอร์อยู่อย่างปราศจากพิธีรีตรอง ใช้ชีวิตเหมือนพลทหารธรรมดา นอกจากห้องที่สร้างอย่างแข็งแรงกันลูกระเบิดบอมได้แล้ว ก็ไม่มีอะไรประดับประดา ผนังไม่ทาสี พื้นก็เป็นกระดานธรรมดา เตียงของฮิตเลอร์ยังคงใช้เตียงฉำฉาดุจพลทหาร ใช้ผ้าแบลงเก็ตห่ม ฮิตเลอร์พยายามให้มีความเป็นอยู่ดุจพลทหารคนหนึ่งที่อยู่ในสนามรบ โดยเห็นว่าการที่ทำเช่นนี้ ตนจะสามารถติดต่อทางใจและทำให้รู้ถึงขวัญของทหารดี แต่ฮิตเลอร์ไม่เคยบังคับให้คนอื่นทรมานอย่างตน จอมพลและนายพลทั้งหลายนับว่ามีความเป็นอยู่อย่างสุขสมบูรณ์กว่าฮิตเลอร์ขณะที่อยู่ในสนามรบอย่างมากมาย'' ...
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
"มาดูทางด้านบทวิจารณหนังสือของพันเอกวิชากันครับ"
http://www.pramool.com/auctpic15/added/10560572_1.jpg

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ภาพเก่าๆ ที่บอกว่านาซีก็ไม่ได้เหยียดผิวอะไรมากมาย
http://www.taringa.net/posts/offtopic/13212749/El-Ejercito-Nazi-tenia-otras-razas-ademas-de-la-Aria.html