ดิฉันเป็นลูกค้าธนาคารกรุงเทพ มีความประสงค์จะขอสอบถามความคืบหน้าจากกรณีที่เกิดกับดิฉันดังนี้
เมื่อประมาณกลางเดือนมิถุนายน 2556 คุณบุปผา เจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงเทพ สาขาท่าน้ำสาธุประดิษฐ์ ได้โทรศัพท์มาแจ้งดิฉันว่า ยอดเงินคงเหลือในบัญชีของดิฉันมียอดติดลบ และธนาคารไม่สามารถตัดเงินในบัญชีได้ โดยเจ้าหน้าที่ชี้แจ้งว่า เกิดจากดิฉันมีการถอนเงินผ่านเอทีเอ็มธนาคาร เมื่อต้นเดือนมิถุนายน และ ณ ตอนนั้นธนาคารไม่ได้ตัดบัญชี ดิฉันจึงสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่ธนาคารดังกล่าว เนื่องจากดิฉันจำเหตุการณ์ไม่ได้ แต่เจ้าหน้าที่ธนาคารดังกล่าว ไม่สามารถให้รายละเอียดเพิ่มเติมแก่ดิฉันได้เลยว่า ดิฉันถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มใด และเมื่อใด ซึ่งเจ้าหน้าที่แจ้งว่าจะติดต่อกลับมาอีกครั้งในภายหลัง
หลังจากนั้น ประมาณวันที่ 21 มิถุนายน 2556 เจ้าหน้าที่ธนาคาร คุณบุปผา ได้โทรศัพท์กลับมาหาดิฉันอีกครั้ง และแจ้งดิฉันว่า ดิฉันมีการเบิกเงินไปเมื่อเดือน มี.ค. (โทรศัพท์ครั้งแรกแจ้งเดือนมิถุนายน แต่มาครั้งนี้แจ้งเดือนมีนาคม) ดิฉันจึงแจ้งกลับไปว่า เมื่อครั้งที่แล้วแจ้งว่าเบิกไปเมื่อเดือนมิถุนายน ดิฉันยังจำไม่ได้เลย และคราวนี้มาแจ้งว่าเหตุการณ์เกิดตั้งแต่เดือนมีนาคม ดิฉันจะจำเหตุการณ์ได้อย่างไร และอย่างนี้ดิฉันจะมั่นใจในระบบธนาคารได้อย่างไร ทำไมให้ข้อมูลแก่ลูกค้ายังให้ไม่ถูกต้องแน่นอน ดังนั้น ดิฉันจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ธนาคารคนดังกล่าวกลับไปว่า ดิฉันจะยังไม่ยอมจ่ายเงินจนกว่าทางธนาคารจะหาหลักฐานที่แน่ชัดให้กับดิฉันได้ว่า ดิฉันมีการเบิกเงินดังกล่าวไปจริง เจ้าหน้าที่ธนาคาร คุณบุษผา จึงได้ส่ง Statement ธนาคารมาให้ดิฉัน พร้อมกับ ATM TRANSACTION REPORT มาให้ดิฉัน
ใน ATM TRANSACTION REPORT ดังกล่าว มีรายการที่ดิฉันเห็นว่า ณ 15/03/2013 เวลา 07.20.00 ดิฉันมีการเบิกเงินสดจากตู้เอทีเอ็ม เป็นจำนวน 2 ครั้ง คือ 25,000 บาท และ 5,000 บาท ซึ่งทั้ง 2 รายการดังกล่าว ดิฉันไม่ได้มีการติดใจใด ๆ เนื่องจาก เป็นการเบิกที่ตู้เอทีเอ็ม หน้าบริษัท และดิฉันเบิกเงินด้วยจำนวนสูงสุดก่อน คือ 25,000 บาท และดิฉันอาจกดเพิ่มอีก 5,000 บาท เนื่องจากเบิกสูงสุดครั้งแรกได้เพียง 25,000 บาท แต่มีอีก 1 รายการคือ ณ 15/03/2013 เวลา 18.09.51 ดิฉันมีการเบิกเงินอีกครั้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ธนาคารแจ้งว่า เป็นตู้เอทีเอ็มที่ 7-11 แถวพระประแดง ซึ่งอันนี้เองเป็นสิ่งที่ดิฉันไม่แน่ใจเนื่องจาก
1. ดิฉันเลิกงานเวลา 17.45 น. ทำงานอยู่แถวพระราม 3 และดิฉันจะไปถึงแถวพระประแดง ได้ภายใน 24 นาที หรือไม่ (ซึ่งดิฉันได้เช็คระบบลงเวลาการทำงานของบริษัทดิฉัน แล้วว่า ณ 15/03/2013 ดิฉันได้มาทำงานเป็นปกติ ไม่ได้มีการลาหรือออกก่อนเวลาแต่ประการใด)
2. ดิฉันมีการเบิกเงินในตอนเช้าแล้ว 30,000 บาท ดิฉันต้องแวะกดตอนเย็นอีก 5,000 บาท (ซึ่งดิฉันก็ไม่แน่ใจ เพราะปกติจะเป็นคนที่กดเงินให้ครบตั้งแต่แรก)
3. ในปัจจุบันดิฉันไม่ได้กลับบ้านโดยผ่านทางนั้น ซึ่ง ณ วันที่ 15/03/2013 ดิฉันก็ไม่แน่ใจว่า ดิฉันจะไปทางนั้นหรือไม่
เนื่องจากความไม่แน่ใจของดิฉันตามที่กล่าวข้างต้น ดิฉันจึงได้ขอข้อมูลเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่ธนาคาร คุณบุปผา ว่า ดิฉันไม่ได้มีเจตนาที่จะไม่จ่ายเงิน แต่ดิฉันไม่แน่ใจจริง ๆ ว่า ดิฉันมีการเบิกเงินดังกล่าว จริงหรือไม่ ดิฉันอยากจะขอหลักฐานจากธนาคารให้มีความชัดเจน
หลังจากนั้น ประมาณสิ้นเดือน ดิฉันได้ทราบว่า ธนาคารได้มีการหักเงินดิฉันไป จำนวน 5,000.00 บาท (ทราบจากเงินหายไปจากบัญชีเท่านั้น) ดิฉันจึงได้โทรศัพท์ไปสอบถามคุณบุปผา เจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงเทพ สาขาท่าน้ำสาธุประดิษฐ์คนเดิม เจ้าหน้าที่ดังกล่าว บอกปัดความรับผิดชอบ และแจ้งให้ดิฉันไปคุยกับเจ้าหน้าที่ธนาคาร ในส่วนที่เป็นของศูนย์เอทีเอ็มเอง
ดิฉันจึงได้โทรศัพท์ไปหาเจ้าหน้าที่ธนาคารศูนย์เอทีเอ็ม เจ้าหน้าที่ธนาคารรับเรื่องไว้ และแจ้งว่า จะติดต่อกลับมา แต่ ณ ปัจจุบันดิฉันก็ยังไม่ได้รับการติดต่อกลับมาใด ๆ
ต่อมาดิฉันจึงได้โทรศัพท์ไปแจ้งเรื่องไว้ ที่ Call Center ธนาคารกรุงเทพ เจ้าหน้าที่ Call Center ก็รับเรื่องไว้ และบอกจะติดต่อกลับมา แต่ ณ ปัจจุบันดิฉันก็ยังไม่ได้รับการติดต่อกลับมาใด ๆ
ดิฉันจึงมีประเด็นสงสัยที่จะสอบถามทางธนาคาร ดังนี้
1. ถ้าดิฉันได้มีการเบิกเงินไปจากธนาคารจริง ดังที่เจ้าหน้าที่ธนาคารอ้างถึง ระบบการปฏิบัติงานของธนาคารใช้ระยะเวลานานถึง 3 เดือน เลย จึงจะทราบหรือค่ะว่า ยอดเงินในตู้เอทีเอ็มกับเงินสดที่มีอยู่จริงไม่ตรงกัน และถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ลูกค้าทุกคนไม่ใช่แค่ดิฉันจะมั่นใจในระบบของธนาคารได้อย่างไร
2. ธนาคารสามารถตัดเงินจากบัญชีของลูกค้า ได้โดยที่ลูกค้าไม่ได้อนุมัติได้หรือค่ะ ทั้ง ๆ ที่ดิฉันได้คุยกับเจ้าหน้าที่ธนาคาร คุณบุปผา ว่าจะไม่จ่ายเงินจนกว่าจะได้ข้อมูลเพิ่มเติม แต่คุณบุปผาก็ไม่ได้แจ้งว่าธนาคารจะทำการหักบัญชีเลย พอสอบถามคุณบุปผาก็แจ้งว่า ทางธนาคารจะส่งจดหมายแจ้งมาให้ แต่ ณ ปัจจุบัน ดิฉันก็ยังไม่ได้รับจดหมายใด ๆ แจ้งจากธนาคารเลย
3. ลูกค้าแจ้งเรื่องร้องเรียนไปทั้งทาง Call Center และเจ้าหน้าที่ธนาคาร แต่ธนาคารเพิกเฉย ไม่หาหลักฐาน หรือติดต่อลูกค้ากับมาเลย เป็นแนวทางที่ถูกต้องแล้วใช่ไหมค่ะ
ใครเคยเจอแบบนี้บ้างค่ะ กับธนาคารกรุงเทพ
เมื่อประมาณกลางเดือนมิถุนายน 2556 คุณบุปผา เจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงเทพ สาขาท่าน้ำสาธุประดิษฐ์ ได้โทรศัพท์มาแจ้งดิฉันว่า ยอดเงินคงเหลือในบัญชีของดิฉันมียอดติดลบ และธนาคารไม่สามารถตัดเงินในบัญชีได้ โดยเจ้าหน้าที่ชี้แจ้งว่า เกิดจากดิฉันมีการถอนเงินผ่านเอทีเอ็มธนาคาร เมื่อต้นเดือนมิถุนายน และ ณ ตอนนั้นธนาคารไม่ได้ตัดบัญชี ดิฉันจึงสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่ธนาคารดังกล่าว เนื่องจากดิฉันจำเหตุการณ์ไม่ได้ แต่เจ้าหน้าที่ธนาคารดังกล่าว ไม่สามารถให้รายละเอียดเพิ่มเติมแก่ดิฉันได้เลยว่า ดิฉันถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มใด และเมื่อใด ซึ่งเจ้าหน้าที่แจ้งว่าจะติดต่อกลับมาอีกครั้งในภายหลัง
หลังจากนั้น ประมาณวันที่ 21 มิถุนายน 2556 เจ้าหน้าที่ธนาคาร คุณบุปผา ได้โทรศัพท์กลับมาหาดิฉันอีกครั้ง และแจ้งดิฉันว่า ดิฉันมีการเบิกเงินไปเมื่อเดือน มี.ค. (โทรศัพท์ครั้งแรกแจ้งเดือนมิถุนายน แต่มาครั้งนี้แจ้งเดือนมีนาคม) ดิฉันจึงแจ้งกลับไปว่า เมื่อครั้งที่แล้วแจ้งว่าเบิกไปเมื่อเดือนมิถุนายน ดิฉันยังจำไม่ได้เลย และคราวนี้มาแจ้งว่าเหตุการณ์เกิดตั้งแต่เดือนมีนาคม ดิฉันจะจำเหตุการณ์ได้อย่างไร และอย่างนี้ดิฉันจะมั่นใจในระบบธนาคารได้อย่างไร ทำไมให้ข้อมูลแก่ลูกค้ายังให้ไม่ถูกต้องแน่นอน ดังนั้น ดิฉันจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ธนาคารคนดังกล่าวกลับไปว่า ดิฉันจะยังไม่ยอมจ่ายเงินจนกว่าทางธนาคารจะหาหลักฐานที่แน่ชัดให้กับดิฉันได้ว่า ดิฉันมีการเบิกเงินดังกล่าวไปจริง เจ้าหน้าที่ธนาคาร คุณบุษผา จึงได้ส่ง Statement ธนาคารมาให้ดิฉัน พร้อมกับ ATM TRANSACTION REPORT มาให้ดิฉัน
ใน ATM TRANSACTION REPORT ดังกล่าว มีรายการที่ดิฉันเห็นว่า ณ 15/03/2013 เวลา 07.20.00 ดิฉันมีการเบิกเงินสดจากตู้เอทีเอ็ม เป็นจำนวน 2 ครั้ง คือ 25,000 บาท และ 5,000 บาท ซึ่งทั้ง 2 รายการดังกล่าว ดิฉันไม่ได้มีการติดใจใด ๆ เนื่องจาก เป็นการเบิกที่ตู้เอทีเอ็ม หน้าบริษัท และดิฉันเบิกเงินด้วยจำนวนสูงสุดก่อน คือ 25,000 บาท และดิฉันอาจกดเพิ่มอีก 5,000 บาท เนื่องจากเบิกสูงสุดครั้งแรกได้เพียง 25,000 บาท แต่มีอีก 1 รายการคือ ณ 15/03/2013 เวลา 18.09.51 ดิฉันมีการเบิกเงินอีกครั้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ธนาคารแจ้งว่า เป็นตู้เอทีเอ็มที่ 7-11 แถวพระประแดง ซึ่งอันนี้เองเป็นสิ่งที่ดิฉันไม่แน่ใจเนื่องจาก
1. ดิฉันเลิกงานเวลา 17.45 น. ทำงานอยู่แถวพระราม 3 และดิฉันจะไปถึงแถวพระประแดง ได้ภายใน 24 นาที หรือไม่ (ซึ่งดิฉันได้เช็คระบบลงเวลาการทำงานของบริษัทดิฉัน แล้วว่า ณ 15/03/2013 ดิฉันได้มาทำงานเป็นปกติ ไม่ได้มีการลาหรือออกก่อนเวลาแต่ประการใด)
2. ดิฉันมีการเบิกเงินในตอนเช้าแล้ว 30,000 บาท ดิฉันต้องแวะกดตอนเย็นอีก 5,000 บาท (ซึ่งดิฉันก็ไม่แน่ใจ เพราะปกติจะเป็นคนที่กดเงินให้ครบตั้งแต่แรก)
3. ในปัจจุบันดิฉันไม่ได้กลับบ้านโดยผ่านทางนั้น ซึ่ง ณ วันที่ 15/03/2013 ดิฉันก็ไม่แน่ใจว่า ดิฉันจะไปทางนั้นหรือไม่
เนื่องจากความไม่แน่ใจของดิฉันตามที่กล่าวข้างต้น ดิฉันจึงได้ขอข้อมูลเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่ธนาคาร คุณบุปผา ว่า ดิฉันไม่ได้มีเจตนาที่จะไม่จ่ายเงิน แต่ดิฉันไม่แน่ใจจริง ๆ ว่า ดิฉันมีการเบิกเงินดังกล่าว จริงหรือไม่ ดิฉันอยากจะขอหลักฐานจากธนาคารให้มีความชัดเจน
หลังจากนั้น ประมาณสิ้นเดือน ดิฉันได้ทราบว่า ธนาคารได้มีการหักเงินดิฉันไป จำนวน 5,000.00 บาท (ทราบจากเงินหายไปจากบัญชีเท่านั้น) ดิฉันจึงได้โทรศัพท์ไปสอบถามคุณบุปผา เจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงเทพ สาขาท่าน้ำสาธุประดิษฐ์คนเดิม เจ้าหน้าที่ดังกล่าว บอกปัดความรับผิดชอบ และแจ้งให้ดิฉันไปคุยกับเจ้าหน้าที่ธนาคาร ในส่วนที่เป็นของศูนย์เอทีเอ็มเอง
ดิฉันจึงได้โทรศัพท์ไปหาเจ้าหน้าที่ธนาคารศูนย์เอทีเอ็ม เจ้าหน้าที่ธนาคารรับเรื่องไว้ และแจ้งว่า จะติดต่อกลับมา แต่ ณ ปัจจุบันดิฉันก็ยังไม่ได้รับการติดต่อกลับมาใด ๆ
ต่อมาดิฉันจึงได้โทรศัพท์ไปแจ้งเรื่องไว้ ที่ Call Center ธนาคารกรุงเทพ เจ้าหน้าที่ Call Center ก็รับเรื่องไว้ และบอกจะติดต่อกลับมา แต่ ณ ปัจจุบันดิฉันก็ยังไม่ได้รับการติดต่อกลับมาใด ๆ
ดิฉันจึงมีประเด็นสงสัยที่จะสอบถามทางธนาคาร ดังนี้
1. ถ้าดิฉันได้มีการเบิกเงินไปจากธนาคารจริง ดังที่เจ้าหน้าที่ธนาคารอ้างถึง ระบบการปฏิบัติงานของธนาคารใช้ระยะเวลานานถึง 3 เดือน เลย จึงจะทราบหรือค่ะว่า ยอดเงินในตู้เอทีเอ็มกับเงินสดที่มีอยู่จริงไม่ตรงกัน และถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ลูกค้าทุกคนไม่ใช่แค่ดิฉันจะมั่นใจในระบบของธนาคารได้อย่างไร
2. ธนาคารสามารถตัดเงินจากบัญชีของลูกค้า ได้โดยที่ลูกค้าไม่ได้อนุมัติได้หรือค่ะ ทั้ง ๆ ที่ดิฉันได้คุยกับเจ้าหน้าที่ธนาคาร คุณบุปผา ว่าจะไม่จ่ายเงินจนกว่าจะได้ข้อมูลเพิ่มเติม แต่คุณบุปผาก็ไม่ได้แจ้งว่าธนาคารจะทำการหักบัญชีเลย พอสอบถามคุณบุปผาก็แจ้งว่า ทางธนาคารจะส่งจดหมายแจ้งมาให้ แต่ ณ ปัจจุบัน ดิฉันก็ยังไม่ได้รับจดหมายใด ๆ แจ้งจากธนาคารเลย
3. ลูกค้าแจ้งเรื่องร้องเรียนไปทั้งทาง Call Center และเจ้าหน้าที่ธนาคาร แต่ธนาคารเพิกเฉย ไม่หาหลักฐาน หรือติดต่อลูกค้ากับมาเลย เป็นแนวทางที่ถูกต้องแล้วใช่ไหมค่ะ