แม่หายไปไหน?

แม่เราเป็นคนดุมาก อารมณ์ร้ายที่สุดเวลาที่โกรธแล้วน่ากลัวมากๆและแม่ชอบทั้งโกรธชอบทั้งโมโหอยู่ตลอดเวลา

เราก็ทั้งกลุ้มใจ เบื่อ ปวดหัว และท้อใจมากทำอะไรไม่เคยดีในสายตาแม่สักครั้งนึง ทั้งที่คนอื่นบอกว่าเราเป็นคนนิสัยดี

ไม่ขี้เหนียว ไม่เคยเถียงแม่ ทำตัวดีทุกอย่าง ไม่มีขาดตกบกพร่อง งานการก็ช่วยเหลือนะ

หน้าตาก็ดีมากจะหาลูกแบบนี้ไม่มีอีก แม่ชอบมายุ่งวุ่นวาย จู้จี้จุกจิกเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ ทุกๆเรื่องกับเรา ทำให้เรารู้สึกรำคาญมากๆ ทุกวัน

เราก็เหนื่อยไหนจะงานบ้านอีก เราต้องมานั่งทำคนเดียว เราจะจ้างแม่บ้านมาทำก็ด่าว่าเราทำไมถึงทำงานบ้านเองไม่ได้ บ้านของเราแท้ๆ

อยู่บ้านเดียวกับแม่เพราะเป็นลูกคนเดียว แต่พอไม่มีแม่บ้านมาช่วยทำงานก็กลับไม่ช่วยงานบ้านอะไรเราเลย

เก่งแต่พูดประชดประชันและทั้งสั่งและชอบติเตียนมาก ชอบเปรียบเทียบตัวเองกับเรากับคนอื่นว่าได้ดีกว่า เป็นคนกระแหนะกระแหนงเก่ง

ชอบประชดประชันเรามาก เราเคยไปขอย้ายออกอยู่บ้านอีกหลังไม่ไกลกันมากเดินประมาณ 15 นาที ก็ถึงบ้านแล้ว

ให้เราเลือกเอาระหว่างบ้านใหม่กับแม่ หาว่าเราจะทิ้งแม่ให้อยู่คนเดียว เราโดนประชด-ดัน ตลอดๆ นั่น นี่ ไม่เว้นแต่ละวัน

ทุกๆวัน จนเราจะทนไม่ไหวเราอยากกลับไปอยู่บ้านนั้นมาก แต่คิดถึงและสงสารและรักแม่มากเหมือนกัน บางครั้งเค้าก็เป็นคนดีมาก

เค้าเลี้ยงเรามาเองตลอด 8 ปี ที่หย่ากับพ่อเรา รบกวนขอคำปรึกษาและกำลังใจด้วยค่ะ

ถึงมันจะไม่มีเรื่องอะไรมาเลยก็ตาม เรื่องเล็กๆ เท่าปลายเข็มก็เคยอาละวาดลงใส่กับเราตลอด

อารมณ์บูดอย่างกับเรื่องใหญ่ๆโตๆ

ที่จริงคือแม่เราชอบด่าเราเสียๆหายๆตั้งแต่เด็กไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตามแต่ แม่เราจะใส่อารมณ์รุนแรงเกินจริงมาก

แล้วเราก็เก็บกดมากสุดๆ ถึงขั้นต้องไปปรึกษาหมอ แบบก็ไม่รู้จะระบายให้ใครฟังดี มันอัดอั้นมากๆ คือแบบเพื่อนสนิทก็ไม่เข้าใจเราอะ

เพราะไม่มีใครรู้จักนิสัยจริงๆของแม่เราว่าที่จริงคือแม่เราขี้บ่น ขี้เอะอะ ขี้ด่า ขี้ประชด

แล้วเราก็ไม่เคยมีความสุขจริงๆเวลาอยู่บ้านกับแม่เราสักครั้งนึงเพราะว่าแม่จะด่าตลอด

เราก็ได้แต่อดทน อดกลั้น สงบปากสงบคำตลอด ไม่เถียงสู้

แล้วคิดว่ามันคงจะเป็นวิบากกรรมติดตัวเรามาจากชาติที่แล้ว

แม่เรามีนิสัยชอบใจร้อน เอาแต่ใจตน ใช้อารมณ์แรงๆในบ้าน บ้าอำนาจ ชอบสั่ง ชอบตัดสิน ขี้บังคับ

เราก็พยายามข่มอารมณ์ตัวเองแบบที่ว่า ไม่อยากเกิดมามีแม่เป็นคนแบบนี้เลย เพราะเราไม่อยากให้แม่เรารู้แล้วมานั่งเสียใจภายหลัง

แต่เวลาแม่เราโมโหขึ้นมา แต่ละคำพูดที่ออกจากปากของแม่เรามันทำให้เราเจ็บใจ น้อยใจ และอับอายเพื่อนเรามากเลย

เมื่อก่อนตอนเราเด็กๆเราเคยเกลียดแม่เราจนถึงขั้นคิดที่จะเชือดคอแม่เราทิ้ง

พอโตขึ้นมาเราก็ถึงรู้สึกผิดที่คิดกับแม่แบบนั้น และแย่กับความรู้สึกไม่ดีต่อแม่แบบนี้มากๆ

เพราะยังไงแม่ก็คือผู้มีบุญคุณและเป็นผู้ให้กำเนิดเรามา เค้าเป็นคนให้ชีวิตเราถึงเขาจะเลวร้ายจนเราแทบไม่อยากจะคุยด้วย

ยังไงเขาก็คือแม่ของเรา แต่ว่าเราก็ทนแบบนี้ต่อไปไม่ไหวแล้ว คือเวลาเจอหน้ากันทีนึงแม่ก็จะชอบบ่นเรา ชอบด่าเรา ตลอดไง

ชอบวางอำนาจข่มเหงรังแกเรา ชอบเอาชนะเรา จนเราเซงมาก ไม่ได้กลัวแม่จะอะไรนะแค่รำคาญนิสัยแม่เอามากๆเลย

แต่แล้วความรู้สึกนี้มันก็เพิ่มขึ้นมาเรื่อย จนวันนึงถึงจุดอิ่มตัวมันทำให้เราแทบไม่อยากเจอหรือพูดคุยแม่เลย

แต่แม่เราชอบด่าเราว่า ไสหัวไปเลย อีโง หรือ เก็บของออกจากบ้านนี้ไป อีลูกเห้ย แบบนี้ เวลาที่แม่โมโหเดือดจัดๆ

คำพูดแม่มันทำให้เราสงสัยมากว่า เราเป็น "ลูกที่แท้จริงของแม่" หรือเปล่า?

ถึงได้ใช้คำพูดอะไรรุนแรงกับเราได้ขนาดนี้

เรารู้ว่าเขาก็เห็นแก่ตัวมากจนกระทั่งเห็นอกเห็นใจคนอื่นเช่นลูก ไม่เป็น

แต่อย่างน้อยเขาน่าจะมองว่าเราเป็นลูกเขาบ้างก็ยังดี

แต่ตอนนี้เราแทบไม่อยากมองเขาเป็นแม่ที่สมควรต้องกตัญญูอีกแล้ว

เวลาที่เราเจอหน้าเเม่มันทำให้เรารู้สึกหงุดหงิดและรำคาญหูรำคาญตามากเลย อยากไปให้ไกลๆพ้นๆ

ความรู้สึกทิ่มหูทิ่มตาเราแบบสุดๆ จนเราแทบไม่อยากมองหน้าแม่อีกเลย

ก็เพราะไม่ชอบแม่นั้นเอง เพื่อนเราก็เคยบอกว่าแม่แกทำไมเป็นแบบนี้วะ

เวลาเจอแม่เราแทบจะไม่คุยเลยนะไม่สนใจกันไม่ถามไม่ยุ่งเกี่ยวกันทุกเรื่อง

เวลามีอะไรเราก็จะไม่มาเล่าให้เเม่ฟังหรอก เพราะเขามีอะไรก็ไม่มาเล่าให้เราฟังเหมือนกัน

ไม่อยากฟังแต่ละเรื่องเป็นเรื่องนินทาชาวบ้าน ใส่ความ ดุด่าว่าร้าย ด่าจิกคนอื่นทั้งนั้น น่าหงุดหงิดที่สุด

มีแต่เรื่องที่ฟังแล้วจิตใจสลดหดหู่มืดหม่นสกปรกไม่ผ่องใสเหมือนทำบาปมากกว่า

คือว่าเราขอบอกไว้ก่อนนะว่าเราไม่ได้เกลียดแม่ออกนอกหน้ามากๆขนาดทุ่มเถียงแรงๆ

เพราะว่าอย่างที่บอกแม่เป็นคนให้ชีวิตเรามา

การที่ให้ร่างกายเรามานั้นคือการให้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแล้ว

สำหรับเราต่อให้เเม่เลวหรือว่าจะทำตัวไม่ดียังไงก็ยังได้ชื่อว่าผู้มีพระคุณกับเรา

และเราคิดเอาไว้แล้วว่าต่อให้เเม่จะเอามีดมาทิ่มแทงเราหรือเอาไฟมาเผาคลอกตัวเราให้หมกไหม้ตายทั้งเป็นอย่างทรมานทรกรรม

เราก็ยังจะอภัยให้เเม่ได้ทุกอย่าง จะไม่คิดจองเวรจองกรรมกันอีกต่อไปไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็แล้วแต่ในอนาคต

และขอให้เขามีความสุขในชีวิตตัวเองด้วยด้วย

แต่ว่าที่เราคิดปลงได้แบบนี้เราก็ไม่ได้เกิดจากรักแม่

เพราะเวลาอยู่กับเเม่เราจะโดนข้อหาโดนด่าทอขับไสไร้สาระตลอดเวลา

เราก็รู้ว่ามันเกิดจากอารมณ์ที่ผิดปรกติแปรปรวนสักอย่างนึงและบวกกับนิสัยส่วนตัวของเขา

แต่อยากให้แม่นึกถึงใจเขาใจเราบ้างว่าเราคิดยังไงพฤติกรรมของแม่

ตอนแรกนะ เราตั้งใจว่าจะพูดจาดีๆกับแม่ คุยดีๆ ไม่พูดจาขัดหูสักแอะ แบบที่แม่ลูกดีๆเขาทำกัน

คือมีความรักใคร่กัน คุยกันถูกคอจะได้เข้าใจกันมากขึ้น รู้สึกผูกพันกันไปตลอด

แต่พอเราจะชวนแม่คุยดีๆเราก็โดนด่า โดนแช่ง โดนตวาด โดนตะคอก

โดนโกรธเฉยเลย บางทีโดนกระชากด้วย ทั้งที่เรายังไม่ได้ทำความผิดอะไรเลยสักนิด

แต่เพียงแค่สิ่งที่เล็กน้อยสำหรับเรา มันไปขัดใจเเม่เท่านั้น

เราก็เลยไม่อยากคุยไม่อยากสนใจ และไม่อยากจะใส่ใจแม่

ไม่อยากยุ่งด้วยแล้วแค่ให้แต่เจอหน้ายังหงุดหงิดตัวเองสุดๆเลย

จากนั้นแม่กับเราก็แยกบ้านกันอยู่เลย แม่ไม่ยอมมาอยู่หรือมาหาเราอีก

เพราะเราอยู่คนละบ้านกัน เหงาแต่ต้องทำใจ ให้มาเป็นเหมือนเดิมคงจะยากแล้ว

แต่พอมาคิดว่าเมื่อเราคุยกันน้อยลงปัญหามันก็น้อยลงนะ

ข้อดี คือเราก็สบายใจ ไม่มีเสียงก่นด่าน่ารำคาญ ไม่ได้เจอหน้าให้อารมณ์ขุ่นมัวอีก
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 45
แบบนี้ไม่เข้ามาอีกแล้วดีกว่า เรื่องที่เล่ามาทั้งหมด ก็นึกว่าเป็นละครไปซะแล้วกัน พอกันที อยากพิมพ์อะไรเชิญเลย ไม่มาอ่านอีกแล้ว
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 22
อยากรู้คำตอบจริง ๆ เหรอคะว่าแม่ออกไปไหน ไปทำอะไร ทางที่ดีคุณควรจะทำหน้าที่ในส่วนของตัวเองให้ดีที่สุดมากกว่านะคะ
ตั้งใจเรียนไปอย่างที่แม่คุณบอก เลิกอยากได้อยากมีอะไรที่ยังไม่จำเป็นและคุณไม่สามารถหาได้ด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง
จะได้ไม่ต้องเป็นภาระให้แม่คุณมากกว่าเดิม บางทีแม่คุณอาจจะไม่ต้องไปหาอะไรทำเพิ่มจากเดิมเพื่อเอามาสนองความต้องการของคุณ
แม่คุณก็คงจะกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิมเองแหละค่ะ
ความคิดเห็นที่ 1
ตาลายมาก แต่อยากอ่าน ขอเว้นวรรคเว้นบรรทัดให้ใหม่นะครับ

*************************************************

เราอยากจัดฟันมาก แม่สัญญาตั้งแต่ต้นปีแล้วว่าถ้าเงินแชร์มา40,000เดือนพฤษภาคมแม่จะจัดฟันให้ (ในเงิน 40,000 นั้นแม่ต้องคืนเรา20,000 ที่แม่เคยยืมเงินเก็บเราไปเป็นเงินที่ไว้จ่ายค่าเทอมกลางเดือนนี้) พอถึงเดือนพฤษภาคม ยายที่เป็นเถ้าแชร์กลับบอกว่าเงินมาเดือนกรกฎาคม

เราก็ผิดหวังนิดหน่อย เพราะรอมานาน พอถึงเดือนกรกฎาคมวันที่หนึ่ง ตอนนั้นเงินยังไม่มาหรอก แม่บอกว่า ไม่จัดฟันให้แล้วนะ จะเก็บเงินไว้ส่งคืนเค้า เผื่อวันที่ไม่ได้ขายของจะได้ไม่ต้องฝักเนื้อมาจ่ายเถ้าแชร์วันละสองร้อย ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า เราผิดหวังสุดๆ ไม่กินข้าว ไม่คุยกับแม่ (พ่อกับแม่หย่ากันพ่อไปอยู่ที่ไหนเราไม่รู้) กินแต่น้ำเปล่าอย่างเดียว นอนซม (ตอนนี้ปิดเทอมอยู่) พอล่วงเข้าวันที่สาม เรานั่งอยู่ดีๆ แม่บอกว่าให้จัดฟันแล้วนะ แต่คืนนั้นเรารู้สึกว่าแม่ไม่ได้นอนบ้าน เพราะตื่นมาไม่เจอเลย ซึ่งแปลกมาก ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน

บ้านเราไม่เคยไปค้างที่ไหนได้ บ้านญาติก็ไม่มีที่ให้ไปค้างแน่ๆ เรามั่นใจ สายๆ แม่กลับมา เราก็กลับไปนอนที่เตียงตั้งแต่ออกมาเดินหาแม่และไปเข้าห้องน้ำแปบนึงแล้ว ได้ยินเสียงเหมือนแม่เดินวนไปเดินวนมาหน้าห้องนอนเราหลายครั้ง และแม่ก็เข้ามาในห้องนอนเรา (ไม่เคยล็อคเพราะเรากับแม่จะนอนเตียงเดียวกัน )

แม่เปิดไฟและนั่งข้างเตียง เรียกให้เราขึ้นมากินกาแฟ เราก็ยอมออกมากินเพราะเหมือนเริ่มปวดท้อง ไม่ได้กินอะไรที่แม่ยกมาให้กินสองวันกว่าๆแล้ว แต่ตอนนั้นยังไม่ได้คุยกับแม่ดีนัก ยืนกินกาแฟอยู่ในห้องนอน

สักพักแม่ก็เดินมาตามอีกบอกว่าอุ่นข้าวมะระ ที่ทิ้งไว้ให้เรากินเมื่อคืนเสร็จแล้ว เรียกให้มากินด้วยกัน เราก็บิดไปบิดมานานกว่าจะออกมาจากห้องนอน พอก่อนนั่งกินเราก็ถามแม่ว่า สรุปจะจัดฟันให้มั้ย แม่บอกว่า จะไปยากอะไร กินข้าวๆ

เราก็นั่งกินๆไป พอกินเสร็จแม่ก็พาไปดูหนังโรง เราก็ดูๆ กินข้าวและกลับมาบ้านเราก็ถามแม่ว่าเมื่อคืนไปไหนมา เเม่บอกเครียดเลยไปวัด เราก็ไม่ได้ติดใจอะไรวันนั้นก็ประมาณหนึ่งสัปดาห์ได้แล้ว คืนที่สอง สาม สี่ ห้าหลังจากวันนั้น แม่ชอบไปตอนประมาณสามทุ่ม

เราสังเกตุว่าแม่แอบออกจากบ้านตอนเราเผลอๆ เช่นนั่งอ่านนิตยสาร นั่งเป่าผม อาบน้ำ มีอยู่คืนนึงเราเพิ่งกลับจากเรียนพิเศษประมาณสามทุ่มตอนนั้น แม่ก็บอกว่าไหนเล่าเรียนเรียนพิเศษให้ฟังซิ เราก็เล่าๆไป

พอไปอาบน้ำจะออกมากินข้าว อ้าว แม่หายไปอีกละ วันที่สองตอนกลางวันที่แม่กลับมาเราถามอยู่ครั้งนึงว่าไปไหนมา แม่บอกว่า พ่อโทรมา(แม่ไม่เคยเปลี่ยนเบอร์มือถือ) แม่ก็บอกพ่อไปว่าเราอยากจัดฟัน พ่อบอกจะช่วย ไปนั่งรอเงิน อย่าไปบอกยายนะ คือยายเคยสั่งไม่ให้แม่ติดต่อกับพ่อเพราะพ่อเป็นคนนิสัยไม่ค่อยดี

พออีกหลายๆคืนถัดมาแม่หายตัวไปทุกคืน เราก็สงสัยว่าไปหาพ่อจริงหรือ พ่อที่เคยผิดสัญญาเรื่องทำเลสิคตา ซื้อบีบีเนี่ยนะ แต่เราได้ยินที่แม่คุยกับคนๆนั้นทางมือถือบ้าง(คนๆนั้นเราไม่แน่ใจว่าพ่อป่าวชอบโทรมาตอนค่ำๆไม่ก็เช้าตรู่เลย)ว่า ค่ำคืนหนึ่งได้ยินแม่พูดว่า เสร็จแล้วเหรอค่ะ, อยู่บ้าน, อืมๆ ประมาณนี้ (เรารู้ว่าแม่แกล้งพูดมีหางเสียงกับคนๆนั้นในวันนั้นเราว่าเพราะเรานั่งอยู่กลางบ้านตอนที่มือถือเรียกเข้าปรกติแม่พูจามีหางเสียงเฉพาะกับลูกค้าร้านข้าวแม่ แต่ลูกค้าคงไม่โทรมาตอนสามทุ่มหรอก)

เสียงที่เราได้ยินเช้าตรู่วันต่อมาคือ ไปซิ, นอนหลับอยู่ (คนปลายสายคงถามถึงเรา) ตอนนั้นแม่คิดว่าเราหลับแต่เราไม่ได้หลับนอนเฉยๆอยู่ อีกวันได้ยินตอนเช้าตรู่เหมือนกันแม่พูดมือถือว่า ยังไม่ได้บอก ซึ่งคงหมายถึงว่าบอกเรารึยังว่าไปกับใครกลางคืนแม่ไม่ได้พูดจามีหางเสียงกับเขาเวลาเราไม่ได้เผอิญอยู่ด้วย

อีกเรื่องที่อยากบอกคือ นอกจากพ่อแล้วคนที่เราสงสัยคือนายพลเกษียณอายุคนนึงที่แม่เจอตอนไปรอเราเรียนพิเศษวันแรก คนนี้แม่พูดถึงเขาตอนหลังว่า ดีแล้ว คุยกับเขา เผื่อจะฝากฝังน้องชายเราเข้าทหารได้ ในบ้านมีน้องอีกคนห่างกันสามปีอยู่แต่ไม่เกี่ยวจึงขอไม่เอ่ยถึง

แม่ก็ไปรอเราและเจอลุงคนนั้นอีกประมาณสองสามครั้ง แม่อยู่คุยหลังที่เราเลิกเรียนนานเป็นชั่วโมงทั้งที่เพิ่งรู้จักกันครั้งแรกแต่แม่คงเห็นว่ามียศเลยถามเกี่ยวกับเรื่อง รด เยอะแยะ จนเราเซงมาก

เคยบ่นตอนหลังว่าอะไรกันนักกันหนา แต่ลุงคนนั้นก็พูดจาเป็นผู้ใหญ่ ไม่ได้ลามปามเท่าที่เรานั่งอยู่ด้วย แต่แม่เป็นคนชอบคุยถามๆคนที่มียศตำรวจทหารอยู่แล้ว เราเลยสงสัยว่าไปกับคนนี้ป่าว

ลุงคนนั้นมาเรียนภาษาจีน เค้าเคยให้นามบัตรแม่และน้องเราเผื่อติดต่อ และเคยมากินข้าวร้านแม่สองสามครั้งด้วย  หลักๆคือ คนที่แม่ไปหานี้ต้องรู้จักและเคยเห็นเราเพราะฟังจากที่แม่ตอบไปเขาถามเกี่ยวกับเรา และเราอยากรู้มากว่าแม่ไปไหน กับใคร ทำอะไร ไปกลางคืนและถามเท่าไหร่ก็ไม่ยอมบอกสั่งให้เราหยุดถาม อย่าพูดถึงอยู่นั่น

เราว่าไม่ใช่เรื่องดีซะแล้ว เราถามแม่หลายต่อหลายครั้ง แม่ก็บอกอย่าไปพูดถึงเลย ทำตัวแกให้ดีแล้วชีวิตแกจะดีมาก ก่อนออกจากบ้านวันนึงบอกว่าเข้ามาว่า หนังสือเรียนบ้างนะ แล้วก็ออกไป หรือว่าแม่ไปทำเรื่องอย่างว่าเพื่อหาเงินให้เราจัดฟัน แต่แม่เคยแอนตี้เรื่องแบบนี้มากๆสุดๆ เราเคยเปิดใจไปครั้งนึงแล้วว่า ตั้งแต่มีเรื่องอยากจัดฟันเนี่ย แม่เปลี่ยนไป

แปลกที่สุดเท่าที่เราเคยเจอแล้วคือไม่นอนบ้านเลย ติดต่อกันหลายวันประมาณสัปดาห์กว่าแล้ว และไม่ได้ไปนอนบ้านญาติแน่ เพราะว่า บ้านญาติอยู่แค่ในซอยถ้าไปเราก็ต้องรู้แล้ว เรานอนกับแม่ทุกวัน แม่ชอบมีเรื่องตลกดีๆ ไม่ก็ข่าวที่ฟังจากวิทยุมาเล่าให้ฟังทุกวัน มาเจอแบบนี้บอกตามตรงว่าเราร้องเกือบทุกคืนเลย ตื่นมาตาก็บวม อยากรู้ว่าแม่ไปไหน แต่บอกใครไม่ได้เลย

ยายไม่เคยมีความลับชอบพูดเสียงดังและแม่ก็บอกว่าห้ามบอก เพื่อนแถวบ้านอะไรก็ไว้ใจไม่ได้ เพราะมันเหมือนเรื่องเสียหาย ไม่อยากให้ใครรู้ เราอยากรู้เหลือเกินว่าปลายสายเป็นใคร และแม่ไปเจอใครทุกคืน แม่เปลี่ยนไปจนเราเกือบรับไม่ได้ เงินแชร์มาแล้ววันก่อน 15000 บาท ที่เหลือยังไม่มา

เราก็บอกแม่ไปตั้งหลายครั้งแล้วว่าถ้าต้องไปแบบนี้ไม่จัดฟันแล้วก็ได้ แม่บอกว่า อยากจัดมากก็จัดไปเหอะ และแม่พาไปถามหมอมาสี่ห้าที่แล้ว สรุปได้ทำวันพุธหน้า แม่คุยกับเราเหมือนเดิมทุกอย่างแต่เราอยากรู้ว่า แม่หายไปไหนทุกคืนเท่านั้น กรุณาช่วยเราคิดด้วย  เรากลัวว่าแม่ทำอย่าว่าเพื่อหาเงินให้เรา แต่ก่อนแม่เคยต่อต้านมากๆ แต่มาวันนี้เราดูท่าทางว่าเเม่จะเป็นแบบนั้น แม่ออกไปทุกคืนเลย ตอนไปก็อาบน้ำแต่งตัวไปปรกติ สีหน้าปรกติ ช่วยด้วยเถอะ นึกว่าเอาบุญ

******************************************************

คงช่วยอะไรไม่ได้ครับ เพราะต้นเหตุก็มาจากเจ้าของกระทู้เอง มีเหตุย่อมมีผลตามมาเสมอ ลองใช้สติพิจารณาเหตุดูเถอะครับ
ความคิดเห็นที่ 9
คือแบบนี้ครับน้อง ไอ้เงิน 20,000 ที่แม่ต้องคืนน้อง นั่นก็เงินที่แม่หามา ไม่ใช่เงินของน้องแต่แรกแล้ว

แล้วที่แม่เค้าเลี้ยงน้องจนโตมาเนี่ย มันมีค่ามากกว่าเงินนั่นอีก มีค่ามากกว่าไอ้การจัดฟันนั่นด้วย

พี่มาอ่านและตอบกระทู้เป็นครั้งที่สองครับ

ปกติพี่ไม่อยากพิมพ์อะไรลงไปด้วยความรู้สึกหงุดหงิด แต่ตอนนี้พี่ยอมรับตรง ๆ ว่าหงุดหงิดกับความคิดของน้องมาก

ถ้าให้พี่แนะนำให้เอาบุญ ซึ่งพี่ไม่ต้องการบุญ แต่อยากให้น้องกราบเท้าแม่สักครั้ง แล้วขอโทษท่าน บอกกับท่านตรง ๆ ว่าไม่ต้องการจัดฟันแล้ว

การขอโทษแม่ การกราบแม่ ไม่ใช่เรื่องน่าอาย แต่การถือทิฐิแล้วมาอ้างนู้นนี่นั่นแบบนี้ มันไม่ได้ทำให้เรารู้สึกดีขึ้นได้เลย

ส่วนจะให้วิเคราะห์ จากข้อมูลที่ให้มาไม่สามารถวิเคราะห์ได้ถูกต้องหรอกครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่