
http://pantip.com/topic/30641285
http://pantip.com/topic/30665013
ปีนี้ฝนฟ้าดี ข้าวในนางอกงามเขียวชอุ่ม มองไกลออกไปเหมือนพรมสีเขียวผืนใหญ่คลุมไปทั่วท้องทุ่ง ดูสดชื่นสดใส เมื่อคืนนี้ฝนตกพรำๆ
ตลอดคืนเลยจนถึงย่ำรุ่ง น้ำในนาเต็มบิ้งล้นคันนาไหลปรี่ ตอนเช้าน้องชายออกไปเล่นน้ำที่ล้นคันนา เจอปลาช่อนตัวขนาดท่อนแขน
ผู้ใหญ่ กำลังตื่นน้ำ ว่ายกระสนทวนน้ำขึ้นมาติดกอหญ้าบนคันนา แต่น้องชายตัวเล็กผอม พอจะจับปลาไปอวดใครๆให้เป็นผลงาน
เสียหน่อย ปลาช่อนตัวใหญ่แรงดิ้นเยอะก็สะบัดตัวหลุดมือลงบิ้งนาไป ไอ้ปลาช่อนนี่ก็ช่างกระไร จะถูกจับให้เป็นผลงานชิ้นมาสเตอร์พีซ
ของน้องชายเสียหน่อยก็ไม่ได้
เย็นนี้สามเกลอ พี่เต่า พี่ชาย และ น้องชาย จึงนัดกันไปลงเบ็ดหลาว (เบ็ดหลังโก่งที่ใช้ปักบนคันนา) ถึงแม้พวกผู้ชายจะพยายามไม่ให้
ดิฉันรู้ แต่มีหรือที่จะรอดพ้นสายหูสายตาของดิฉันไปได้ พอบ่ายแก่ๆ ประมาณห้าโมงเย็น พวกเราก็ไปหาเหยื่อล่อปลา ตอนแรกคิดกันว่า
จะไปไล่จับตั๊กแตนหรือแมลงปอมาเป็นเหยื่อ แต่พี่เต่าบอกว่า มันเย็นมากแล้ว กว่าพวกเราจะไล่จับตั๊กแตนหรือแมลงปอได้สักตัวคงมืด
พอดี เพราะฉะนั้นไส้เดือนน่าจะเป็นเหยื่อที่ปลาช่อนชอบมากที่สุด
ไส้เดือน !! .... !!
ดิฉันหน้าม่อยลงทันที ... เกลียดกลัวขยะแขยงที่สุดก็คือไส้เดือนกับหนอนนี่แหละ น้องชายสังเกตเห็นดิฉันหน้าถอดสีก็กระหยิ่มยิ้มย่อง
“เอาเลยพี่เต่า ไส้เดือนนี่แหละเด็ดสุด พี่นางขี้กลัวไม่ต้องไปนะ” มันทับถมดิฉันเสร็จก็ทำเป็นแลบลิ้น ปลิ้นตา ทำหน้าแสนทุเรศล้อเลียน
ดิฉันสุดจะทนกับความหมั่นไส้ได้ ดิฉันก็กระโดดถีบเข้าให้
“พลั่ก” น้องชายเซถลาๆล้มลงจุกแอ๊ก ... ทำหน้าเหยเกแต่ฟอร์มจัดไม่ยอมร้องซักแอะ ลุกขึ้นได้ก็วิ่งไล่จะเตะดิฉันมั่ง ดิฉันวิ่งหนี
น้องชายวิ่งไล่ ... พอรู้ตัวอีกทีก็เห็นพี่ชายกับพี่เต่าแบกเสียมเข้าชายป่าไปแล้ว
พวกผู้ชายสามารถใช้มือจับไส้เดือนได้อย่างสบายๆ แถมชอบที่มันดิ้นตัวงอไปมา งานนี้ดิฉันได้แต่ยืนดูอยู่ห่างๆด้วยความขยะแขยง
พวกเขาจะเลือกเอาไส้เดือนตัวขนาดไม่ใหญ่มากประมาณเท่ากิ่งไม้เล็กๆ จับใส่ถุงพลาสติกที่เตรียมไป ไส้เดือนหลายๆตัวดิ้นขดตัวไปมา
ในถุงพลาสติก ถ้าใช้เลนส์มาโครส่องดู คงจะเหมือนปลาไหลตัวใหญ่ในถุงที่แม่ค้าพ่อค้านำไปขายในวัดสำหรับให้คนซื้อไปปล่อยนั่นแหละ
สงสัยพี่เต่าจะอยากแกล้งดิฉันคืนบ้าง ก็เลยถามดิฉันด้วยเสียงเยาะๆ ว่า
“ทำไมนางไปยืนเสียห่าง ไม่มาขุดไส้เดือนด้วยกัน ถ้ากลัวคืนนี้ก็คงไม่ได้ไปปักเบ็ดปลาช่อน เพราะใส่เหยื่อที่เบ็ดไม่ได้ก็ไม่มีความหมาย
เกะกะเปล่าๆ”
ดิฉันกำมือแน่น แค้นจุกอกที่โดนพี่เต่าเยาะเย้ย ทำใจอยู่พักหนึ่งแล้วก็เดินเข้าไปหากลุ่มที่กำลังขุดไส้เดือนกันอยู่ ไส้เดือนตัวที่กำลังขุด
กันอยู่นั้นตัวใหญ่เท่านิ้วอวบๆ พี่เต่าก็ท้าให้ดิฉันลองจับดู “แต่ถ้าไม่กล้า ก็ไม่เป็นไร” พี่เต่าทิ้งท้ายเสียงเยาะหยัน ...
ด้วยความที่อยากเอาชนะ ดิฉันก็สวมหัวใจสิงห์ หยิบเอาไส้เดือนตัวอวบขึ้นมาจากรูทันที
ไส้เดือนตัวใหญ่ ลื่นๆ เย็นๆ แฉะๆ พอถูกจับให้พ้นจากปากรูก็ดิ้นขดตัวไปมา ตัวมันยาวๆ ก็มาพันเอาข้อมือเล็กๆของดิฉัน
(ตอนเด็กๆดิฉันตัวผอม) ยิ่งสะบัดยิ่งพันแน่นเข้า เหวี่ยงทิ้งแค่ไหนก็ไม่หลุดจากมือเสียที...สุดท้าย พอดิฉันเหวี่ยงมันหลุดออกจากมือได้
ก็กรี๊ดสุดเสียง เข่าอ่อนเป็นลมล้มพับอยู่ตรงนั้นเอง พี่ชายรีบไปเด็ดเอาใบสาปเสือ (หญ้าดอกขาว) มาขยี้ให้ดิฉันดมแทนยาหม่อง
.... พี่ชายต้องให้ดิฉันขี่หลังแทนการเดินตอนขากลับ เพราะแม่สิงห์สาวเข่าอ่อนเดินไม่ไหวซะแล้ว ...
พอมาถึงเถียงนา ตรงลานกิจกรรมใต้ต้นกระบกของพวกเรา พี่เต่าเอาถุงไส้เดือนออกมาเท ดิฉันไม่ยอมลงจากหลังพี่ชาย เพราะกลัว
ไส้เดือนมันจะดิ้นแถแถดมาโดนขา สบายไปเลย... อิอิ
พี่เต่าจับไส้เดือนมาสับเป็นท่อนสั้นๆ ไส้เดือนมันยังไม่ตาย ถึงสับออกเป็นท่อนๆก็ยังดิ้นกระแด่วๆ ซึ่งตรงนี้เมื่อเสียบเข้ากับเบ็ดแล้วเอาไป
ปักไว้ตามคันนาที่มีน้ำไหลปรี่ๆ จะทำให้ปลามองเห็นเป็นสิ่งเคลื่อนไหว มันจะกระโดดฮุบทันที
เย็นนั้น พวกสามเกลอก็ยกทีมกันไปปักเบ็ดกัน ปล่อยให้นางสิงห์ข้าวนาง นอนซมเพราะเป็นไข้ตัวร้อนอยู่กับพ่อและแม่ที่เถียงนา .......

+ + + +[ กระทู้วันหยุด ] ...... ลูกชาวนา ตอนที่ 3 + + + +
http://pantip.com/topic/30641285
http://pantip.com/topic/30665013
ปีนี้ฝนฟ้าดี ข้าวในนางอกงามเขียวชอุ่ม มองไกลออกไปเหมือนพรมสีเขียวผืนใหญ่คลุมไปทั่วท้องทุ่ง ดูสดชื่นสดใส เมื่อคืนนี้ฝนตกพรำๆ
ตลอดคืนเลยจนถึงย่ำรุ่ง น้ำในนาเต็มบิ้งล้นคันนาไหลปรี่ ตอนเช้าน้องชายออกไปเล่นน้ำที่ล้นคันนา เจอปลาช่อนตัวขนาดท่อนแขน
ผู้ใหญ่ กำลังตื่นน้ำ ว่ายกระสนทวนน้ำขึ้นมาติดกอหญ้าบนคันนา แต่น้องชายตัวเล็กผอม พอจะจับปลาไปอวดใครๆให้เป็นผลงาน
เสียหน่อย ปลาช่อนตัวใหญ่แรงดิ้นเยอะก็สะบัดตัวหลุดมือลงบิ้งนาไป ไอ้ปลาช่อนนี่ก็ช่างกระไร จะถูกจับให้เป็นผลงานชิ้นมาสเตอร์พีซ
ของน้องชายเสียหน่อยก็ไม่ได้
เย็นนี้สามเกลอ พี่เต่า พี่ชาย และ น้องชาย จึงนัดกันไปลงเบ็ดหลาว (เบ็ดหลังโก่งที่ใช้ปักบนคันนา) ถึงแม้พวกผู้ชายจะพยายามไม่ให้
ดิฉันรู้ แต่มีหรือที่จะรอดพ้นสายหูสายตาของดิฉันไปได้ พอบ่ายแก่ๆ ประมาณห้าโมงเย็น พวกเราก็ไปหาเหยื่อล่อปลา ตอนแรกคิดกันว่า
จะไปไล่จับตั๊กแตนหรือแมลงปอมาเป็นเหยื่อ แต่พี่เต่าบอกว่า มันเย็นมากแล้ว กว่าพวกเราจะไล่จับตั๊กแตนหรือแมลงปอได้สักตัวคงมืด
พอดี เพราะฉะนั้นไส้เดือนน่าจะเป็นเหยื่อที่ปลาช่อนชอบมากที่สุด
ไส้เดือน !! .... !!
ดิฉันหน้าม่อยลงทันที ... เกลียดกลัวขยะแขยงที่สุดก็คือไส้เดือนกับหนอนนี่แหละ น้องชายสังเกตเห็นดิฉันหน้าถอดสีก็กระหยิ่มยิ้มย่อง
“เอาเลยพี่เต่า ไส้เดือนนี่แหละเด็ดสุด พี่นางขี้กลัวไม่ต้องไปนะ” มันทับถมดิฉันเสร็จก็ทำเป็นแลบลิ้น ปลิ้นตา ทำหน้าแสนทุเรศล้อเลียน
ดิฉันสุดจะทนกับความหมั่นไส้ได้ ดิฉันก็กระโดดถีบเข้าให้
“พลั่ก” น้องชายเซถลาๆล้มลงจุกแอ๊ก ... ทำหน้าเหยเกแต่ฟอร์มจัดไม่ยอมร้องซักแอะ ลุกขึ้นได้ก็วิ่งไล่จะเตะดิฉันมั่ง ดิฉันวิ่งหนี
น้องชายวิ่งไล่ ... พอรู้ตัวอีกทีก็เห็นพี่ชายกับพี่เต่าแบกเสียมเข้าชายป่าไปแล้ว
พวกผู้ชายสามารถใช้มือจับไส้เดือนได้อย่างสบายๆ แถมชอบที่มันดิ้นตัวงอไปมา งานนี้ดิฉันได้แต่ยืนดูอยู่ห่างๆด้วยความขยะแขยง
พวกเขาจะเลือกเอาไส้เดือนตัวขนาดไม่ใหญ่มากประมาณเท่ากิ่งไม้เล็กๆ จับใส่ถุงพลาสติกที่เตรียมไป ไส้เดือนหลายๆตัวดิ้นขดตัวไปมา
ในถุงพลาสติก ถ้าใช้เลนส์มาโครส่องดู คงจะเหมือนปลาไหลตัวใหญ่ในถุงที่แม่ค้าพ่อค้านำไปขายในวัดสำหรับให้คนซื้อไปปล่อยนั่นแหละ
สงสัยพี่เต่าจะอยากแกล้งดิฉันคืนบ้าง ก็เลยถามดิฉันด้วยเสียงเยาะๆ ว่า
“ทำไมนางไปยืนเสียห่าง ไม่มาขุดไส้เดือนด้วยกัน ถ้ากลัวคืนนี้ก็คงไม่ได้ไปปักเบ็ดปลาช่อน เพราะใส่เหยื่อที่เบ็ดไม่ได้ก็ไม่มีความหมาย
เกะกะเปล่าๆ”
ดิฉันกำมือแน่น แค้นจุกอกที่โดนพี่เต่าเยาะเย้ย ทำใจอยู่พักหนึ่งแล้วก็เดินเข้าไปหากลุ่มที่กำลังขุดไส้เดือนกันอยู่ ไส้เดือนตัวที่กำลังขุด
กันอยู่นั้นตัวใหญ่เท่านิ้วอวบๆ พี่เต่าก็ท้าให้ดิฉันลองจับดู “แต่ถ้าไม่กล้า ก็ไม่เป็นไร” พี่เต่าทิ้งท้ายเสียงเยาะหยัน ...
ด้วยความที่อยากเอาชนะ ดิฉันก็สวมหัวใจสิงห์ หยิบเอาไส้เดือนตัวอวบขึ้นมาจากรูทันที
ไส้เดือนตัวใหญ่ ลื่นๆ เย็นๆ แฉะๆ พอถูกจับให้พ้นจากปากรูก็ดิ้นขดตัวไปมา ตัวมันยาวๆ ก็มาพันเอาข้อมือเล็กๆของดิฉัน
(ตอนเด็กๆดิฉันตัวผอม) ยิ่งสะบัดยิ่งพันแน่นเข้า เหวี่ยงทิ้งแค่ไหนก็ไม่หลุดจากมือเสียที...สุดท้าย พอดิฉันเหวี่ยงมันหลุดออกจากมือได้
ก็กรี๊ดสุดเสียง เข่าอ่อนเป็นลมล้มพับอยู่ตรงนั้นเอง พี่ชายรีบไปเด็ดเอาใบสาปเสือ (หญ้าดอกขาว) มาขยี้ให้ดิฉันดมแทนยาหม่อง
.... พี่ชายต้องให้ดิฉันขี่หลังแทนการเดินตอนขากลับ เพราะแม่สิงห์สาวเข่าอ่อนเดินไม่ไหวซะแล้ว ...
พอมาถึงเถียงนา ตรงลานกิจกรรมใต้ต้นกระบกของพวกเรา พี่เต่าเอาถุงไส้เดือนออกมาเท ดิฉันไม่ยอมลงจากหลังพี่ชาย เพราะกลัว
ไส้เดือนมันจะดิ้นแถแถดมาโดนขา สบายไปเลย... อิอิ
พี่เต่าจับไส้เดือนมาสับเป็นท่อนสั้นๆ ไส้เดือนมันยังไม่ตาย ถึงสับออกเป็นท่อนๆก็ยังดิ้นกระแด่วๆ ซึ่งตรงนี้เมื่อเสียบเข้ากับเบ็ดแล้วเอาไป
ปักไว้ตามคันนาที่มีน้ำไหลปรี่ๆ จะทำให้ปลามองเห็นเป็นสิ่งเคลื่อนไหว มันจะกระโดดฮุบทันที
เย็นนั้น พวกสามเกลอก็ยกทีมกันไปปักเบ็ดกัน ปล่อยให้นางสิงห์ข้าวนาง นอนซมเพราะเป็นไข้ตัวร้อนอยู่กับพ่อและแม่ที่เถียงนา .......