กำลังนั่งว่างอยู่ที่ทำงานพอดี โทรศัพท์เจ้ากรรมต้นเหตุของเรื่องนี้ก็ดังขึ้น
"เฮ้ยแก! พรุ่งนี้แกไปสัญจรที่ไหนหรือเปล่าวะ" เสียงเพื่อนสาวสมัยเรียนที่คุ้นหูลั่นถาม
"กำลังคิดอยู่ว่ะ ว่าจะไปหรือไม่ไปดี เพราะตอนนี้ข้าอยู่ที่ทำงาน"
"อ้าว… แกอยู่กลางคืนหรือนี่" "แล้วจะไปไหนอ่ะ" ไม่แปลกที่เพื่อน ๆ จะไม่รู้หรอกว่า ณ ขณะนี้ ผมอยู่ในสถานะกลางวันหรือกลางคืน
"เห็นน้อง ๆ เค้าไปเขื่อนขุนด่านฯ กัน อยากไปเหมือนกัน แต่กลัวขี่ไม่ไหว"
"ไกลตาย.่า แกจะขี่ไหวเรอะ" ถามเหมือนจะเป็นห่วงแต่น้ำเสียงเหมือนดูถูกมากกว่า
"มันใกล้กว่าบ้านแม่ข้าที่ปราจีนฯ อีก ข้าเคยขี่ไป-กลับมาแล้วนะโว้ยยย"
"แล้วแกจะไปกี่โมง?"
"ก็เลิกงานตีสี่แล้วไปเตรียมตัวแป๊บนึงก็ต้องออกเลย" "นัดกันที่ มศว องครักษ์อะไรเนี่ยแหละ"
"อย่าไปเลยแก แกอย่าลืมนะว่าแกไม่ได้นอนเลย เดี๋ยวก็เหมือนคุณชายชั้นหรอก..."
"หนอยยย ให้เราไปรับถึงพุทธมณฑล บอกว่าขี่กลับไม่ไหว มันวูบ แม่มจะไม่วูบได้ไง พ่อเล่นเมากลับมาเกือบเช้า"
"ก็คิดอยู่ว่าเที่ยวนี้ไม่ไปดีกว่า เอาไว้เข้ากลางวันนอนเต็ม ๆ แล้วค่อยหาทริปอื่นไปอีกก็ได้ เค้ามีจัดกันไม่ค่อยขาดอยู่แล้ว"
"ดีแล้วละแก เอาไว้พักผ่อนให้พอแล้วค่อยไป แต่ชั้นว่านะ.. พรุ่งนี้มีสิทธิโดนฝนสูง ไม่น่าไปอยู่แล้ว"
"ว่าจะไปลองยางใหม่ซะหน่อย เพิ่งเปลี่ยนมาเมื่อวันก่อน"
"เห็นแกบอกจะเปลี่ยน ๆ ตั้งแต่โดนกรีดยางคราวนั้นแล้วไม่ใช่เหรอ"
"ก็ไปทีนึงแล้วทางร้านไม่มีไซส์นี้ เค้าจะสั่งให้ เราก็มารอจะเป็นเดือนแล้วเนี่ย พอดีอาทิตย์นี้ยางแตกไป 2 ครั้งแล้ว ก็เลยไม่ไหว ต้องเปลี่ยนละ" "ไซส์ไม่มีก็ชั่งมันละ เล่นแม่มหน้า 28 เลย เกือบเท่าล้อคุณชายหล่อนเลยละ"
"โดนมาเท่าไหร่ละเที่ยวนี้?" คำถามเชิงราคาแบบนี้น่ากลัวมากสำหรับคนที่ตกอยู่ในฐานะคนกลางแบบผม
"สองพันมีทอนอะ สองเส้นหน้าหลัง"
"แกลองแจงมาให้ละเอียดซิว่ามีอะไรบ้าง แล้วอย่างละเท่าไหร่" เอาละสิ! แม่เพื่อนตัวดีของผมเริ่มลงลึกแล้ว แสดงว่ามันต้องมีอะไรแอบแฝงแน่ ๆ
"แกจะรู้ไปทำไมละเอียด ๆ วะ ยางมันก็มีแค่ยางนอกกะยางในแค่นี้เอง"
"ก็อยากรู้ว่าเมียแกไม่ว่าอะไรบ้างเหรอ? ของแกเส้นละพัน แต่ของชั้นทำไมเส้นละตั้งสองพันกว่าวะ" เธอคงหมายถึงยางรถของพ่อเจ้าประคุณสามี
"แหม… ก็ของข้ามันรถกะเทยหมื่นหก ของแกมันหมอบคันละหกหมื่น อะไหล่มันก็ต้องต่างกันอยู่แล้ว" ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันไปใส่ยางอะไรมาเส้นละสองพัน ของผม RIBMO เส้นละ 820 ผมก็ว่าราคาสูงแล้วนะ
"แกว่าอะไรหกหมื่น?" ตายละวา.. เผลอหลุดปากไปจนได้ ก็คันนี้เองที่ผมเอาเงินไปให้ที่ร้านก่อนครึ่งนึง แล้วเพื่อนผมก็ไปจ่ายอีกครึ่งนึงในวันที่รับรถ ฮ่า ๆๆ รถคาร์บอนคันละสามหมื่น แถมการ์มิน 500 อีกตะหาก
"ป่าว ๆๆ ก็แค่เอาให้คล้องจองเฉย ๆ ไง หกหมื่นกะหมื่นหกเนี่ย" ฐานะของพวกเราต่างกันครับ ผมแบบธรรมดา ๆ วงเงินใช้จ่ายเดือนนึงไม่เกิน 3 หมื่น แต่ทางบ้านเธอค่อนข้างไฮโซฯ นิดนึง
"ถามจริง ๆ แกเปลี่ยนอะไรไปบ้างแล้วมั่ง ตั้งแต่ซื้อรถมาเนี่ย"
"ที่เปลี่ยนก็มีแค่บันไดกะยางที่เพิ่งเปลี่ยนนี่แหละ"
"ไอ้เปลี่ยนยางอะพอเข้าใจว่ามันสึกหรือมันแตกถึงต้องเปลี่ยน แต่ไอ้บันไดเนี่ยแกเปลี่ยนทำไม?" ถามยิ่งกว่าเมียผมซะอีก
"มันเป็นบันไดคลีทโว้ย พูดไปแกก็ไม่เข้าใจหรอก"
"แกพูดเหมือนคุณชายชั้นเลย ฮะ ๆ แต่เสียใจด้วยว้อยที่ชั้นรู้จักคลีทขี่จักรยาน" ผมลืมไปว่าเดี๋ยวนี้หาข้อมูลในเนทง่ายมาก
"คราวก่อนมันก็พูดอย่างนี้แหละ" "ต้องติดคลีท ต้องติดคลีท ๆ" "โดนไปหมื่นกว่าทั้งรองเท้าทั้งบันได"
"แล้วมันใช้เงินแกซื้อเรอะ?" ผมถามอย่างนี้ได้เพราะผมกับเธอสนิทกันมากตั้งแต่ตอนเรียนแล้ว ต่างจากเจ้าสามีที่ผมเพิ่งมารู้จักเอาตอนทำงาน
"ก็นั่นแหละ มันเป็นเงินของครอบครัวโว้ย ต้องเก็บไว้เป็นทุนการศึกษาให้ลูก"
"แล้วแกไม่คิดจะเปลี่ยนล้อบ้างเหรอ?" "เบาะอีก แฮนด์เอย คุณชายเค้าเปลี่ยนมาหมดแล้วนะ"
"ไม่เข้าใจจริง ๆ เลยว่าเปลี่ยนเพราะของเก่ามันไม่ดี แล้วถ้ามันไม่ดีแล้วซื้อมาทำไมตั้งแต่แรก"
"เกลียดที่สุดเลยไอ้พวกของไม่เสียแล้วไปเปลี่ยนเนี่ย"
"มันก็คงเหมือนแกเปลี่ยนกระเป๋า เปลี่ยนรองเท้าล่ะมั้ง ของเก่าก็ยังใช้ได้อยู่ แล้วแกซื้อใหม่ทำไม"
"ไม่เหมือนกันว้อยยย ของชั้นก็ยังเก็บเอาไว้ใช้ได้ แต่ของพ่อคุณกองไว้เป็นหย่อม ๆ สุดท้ายก็ใช้ไม่ได้ วันไหนเห็นขลุกอยู่กับรถละก็ รู้ได้ทันทีเลยว่าวันนี้ต้องมีอะไรใหม่ ๆ มาแน่ ๆ"
"ขี้เกียจเถียงกะแกเรื่องแบบนี้หว่ะ ถามจริง ๆ ที่แกโทรมาเนี่ยคงจะไม่ได้โทรมาเถียงกันเรื่องจักรยานหรอกนะ"
"แกอยากจะถามอะไรถามมาตรง ๆ เลยดีกว่า"
"เอาจริง ๆ นะ เวลาที่แกไปออกทริปเนี่ย เมียแกรู้หรือเปล่าว่าแกไปไหน" ผมกับสามีเธอเป็นเพื่อนกันก็จริง แต่อยู่กันคนละมุมเมือง สังคมการงานก็ต่างกันมาก ดังนั้นตั้งแต่เริ่มขี่จักรยานกันมาเคยร่วมทริปกันแค่หนเดียว
"ฮ่า ๆๆๆๆ จะถามเรื่องจับผิดผัวสินะ ฮ่า ๆๆๆๆ อ้อมค้อมมาตั้งนาน"
"รู้สิวะ มันยังคอยบอกให้ถ่ายรูปมาทุกครั้งเลย สงสัยว่าจะเอาไว้เป็นหลักฐานแน่ ๆ แต่ส่วนใหญ่ข้าไม่ค่อยได้ถ่ายมาหรอก อาศัยกล้องคนอื่นเอา เวลาปั่นเพลิน ๆ แล้วลืมทุกทีเลย" "ของข้าให้เมียใช้แอ๊ป Endomondo โว้ย ตามติดทุกสถานการณ์เพื่อความสบายใจ"
"มันเป็นยังไงวะไอ้เอ็นโด่มองโดอะไรเนี่ย"
"แกไปดูในเฟศบุคข้านะ มันจะมีบางโพสที่ขึ้นบอกว่าขี่จักรยานได้กี่กิโลฯ"
"เออ ๆ เคยเห็นอยู่ มันต้องทำไงวะ"
"แกไปหาเอาในกูเกิ้ลได้ คลีทยังรู้จักเลยแค่นี้คงไม่ยาก" "แต่มันต้องเปิดตลอดการขี่นะ แล้วแกก็จะตามผัวได้ว่าไปไหนมามั่ง"
"มันไม่มีแบบแอบ ๆ ดูเหรอ อย่างนี้มันก็รู้ตัวอะดิ่"
"มันต้องเปิดที่เครื่องด้วยถึงจะรู้ พกมือถือไปแต่ไม่เปิด GPS มันก็ไม่รู้อยู่ดีว่าอยู่ไหน"
"นึกว่าจะมีแบบที่ตามมือถือเวลาหายอะ มันหาเครื่องได้ตลอดเวลาถึงจะปิดเครื่องไว้"
"ถ้าอย่างนั้นข้าไม่รู้จักว่ะ มีด้วยเหรอปิดเครื่องก็ตามเจอ ไม่เคยได้ยิน"
"ว่าเคยอ่านเจอนะ พวกไอโฟนมั้ง แต่ไม่เป็นไรหรอก เอาแบบแกก็ได้ ชั้นจะได้ไม่ต้องกังวล หลัง ๆ นี่ชักบ่อยละ ออกไปหัวค่ำ กลับมาตีหนึ่งตีสองประจำ"
"เออ ๆ ลองไปหามาลงดูก่อน ไว้ไม่เข้าใจตรงไหนค่อยโทรมาถามอีกทีละกัน"
"งานเข้าละ... ไว้แค่นี้ก่อนนะ" พอดีมีงานเข้ามา ผมจึงต้องรีบวางหูตัดการสนทนาแต่เพียงเท่านี้ก่อน
งานต่อไปของผมคือต้องโทรไปคุยกะเจ้าเพื่อนตัวดีเรื่อง Endomondo ก่อน เพราะผมไม่รู้ว่ามันจะมีลูกเล่นอะไรแฝงอยู่ในการปั่นบ้างหรือเปล่า
ไหน ๆ ก็เคยช่วยมาแล้วก็ต้องช่วยกันให้ตลอดรอดฝั่งละครับ ผมเป็นห่วงเรื่องสัมพันธภาพของคนในครอบครัวมากที่สุดครับ
ถึงที "เรื่องของเพื่อนของสามีของเพื่อนของคนขี่จักรยาน" บ้าง
"เฮ้ยแก! พรุ่งนี้แกไปสัญจรที่ไหนหรือเปล่าวะ" เสียงเพื่อนสาวสมัยเรียนที่คุ้นหูลั่นถาม
"กำลังคิดอยู่ว่ะ ว่าจะไปหรือไม่ไปดี เพราะตอนนี้ข้าอยู่ที่ทำงาน"
"อ้าว… แกอยู่กลางคืนหรือนี่" "แล้วจะไปไหนอ่ะ" ไม่แปลกที่เพื่อน ๆ จะไม่รู้หรอกว่า ณ ขณะนี้ ผมอยู่ในสถานะกลางวันหรือกลางคืน
"เห็นน้อง ๆ เค้าไปเขื่อนขุนด่านฯ กัน อยากไปเหมือนกัน แต่กลัวขี่ไม่ไหว"
"ไกลตาย.่า แกจะขี่ไหวเรอะ" ถามเหมือนจะเป็นห่วงแต่น้ำเสียงเหมือนดูถูกมากกว่า
"มันใกล้กว่าบ้านแม่ข้าที่ปราจีนฯ อีก ข้าเคยขี่ไป-กลับมาแล้วนะโว้ยยย"
"แล้วแกจะไปกี่โมง?"
"ก็เลิกงานตีสี่แล้วไปเตรียมตัวแป๊บนึงก็ต้องออกเลย" "นัดกันที่ มศว องครักษ์อะไรเนี่ยแหละ"
"อย่าไปเลยแก แกอย่าลืมนะว่าแกไม่ได้นอนเลย เดี๋ยวก็เหมือนคุณชายชั้นหรอก..."
"หนอยยย ให้เราไปรับถึงพุทธมณฑล บอกว่าขี่กลับไม่ไหว มันวูบ แม่มจะไม่วูบได้ไง พ่อเล่นเมากลับมาเกือบเช้า"
"ก็คิดอยู่ว่าเที่ยวนี้ไม่ไปดีกว่า เอาไว้เข้ากลางวันนอนเต็ม ๆ แล้วค่อยหาทริปอื่นไปอีกก็ได้ เค้ามีจัดกันไม่ค่อยขาดอยู่แล้ว"
"ดีแล้วละแก เอาไว้พักผ่อนให้พอแล้วค่อยไป แต่ชั้นว่านะ.. พรุ่งนี้มีสิทธิโดนฝนสูง ไม่น่าไปอยู่แล้ว"
"ว่าจะไปลองยางใหม่ซะหน่อย เพิ่งเปลี่ยนมาเมื่อวันก่อน"
"เห็นแกบอกจะเปลี่ยน ๆ ตั้งแต่โดนกรีดยางคราวนั้นแล้วไม่ใช่เหรอ"
"ก็ไปทีนึงแล้วทางร้านไม่มีไซส์นี้ เค้าจะสั่งให้ เราก็มารอจะเป็นเดือนแล้วเนี่ย พอดีอาทิตย์นี้ยางแตกไป 2 ครั้งแล้ว ก็เลยไม่ไหว ต้องเปลี่ยนละ" "ไซส์ไม่มีก็ชั่งมันละ เล่นแม่มหน้า 28 เลย เกือบเท่าล้อคุณชายหล่อนเลยละ"
"โดนมาเท่าไหร่ละเที่ยวนี้?" คำถามเชิงราคาแบบนี้น่ากลัวมากสำหรับคนที่ตกอยู่ในฐานะคนกลางแบบผม
"สองพันมีทอนอะ สองเส้นหน้าหลัง"
"แกลองแจงมาให้ละเอียดซิว่ามีอะไรบ้าง แล้วอย่างละเท่าไหร่" เอาละสิ! แม่เพื่อนตัวดีของผมเริ่มลงลึกแล้ว แสดงว่ามันต้องมีอะไรแอบแฝงแน่ ๆ
"แกจะรู้ไปทำไมละเอียด ๆ วะ ยางมันก็มีแค่ยางนอกกะยางในแค่นี้เอง"
"ก็อยากรู้ว่าเมียแกไม่ว่าอะไรบ้างเหรอ? ของแกเส้นละพัน แต่ของชั้นทำไมเส้นละตั้งสองพันกว่าวะ" เธอคงหมายถึงยางรถของพ่อเจ้าประคุณสามี
"แหม… ก็ของข้ามันรถกะเทยหมื่นหก ของแกมันหมอบคันละหกหมื่น อะไหล่มันก็ต้องต่างกันอยู่แล้ว" ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันไปใส่ยางอะไรมาเส้นละสองพัน ของผม RIBMO เส้นละ 820 ผมก็ว่าราคาสูงแล้วนะ
"แกว่าอะไรหกหมื่น?" ตายละวา.. เผลอหลุดปากไปจนได้ ก็คันนี้เองที่ผมเอาเงินไปให้ที่ร้านก่อนครึ่งนึง แล้วเพื่อนผมก็ไปจ่ายอีกครึ่งนึงในวันที่รับรถ ฮ่า ๆๆ รถคาร์บอนคันละสามหมื่น แถมการ์มิน 500 อีกตะหาก
"ป่าว ๆๆ ก็แค่เอาให้คล้องจองเฉย ๆ ไง หกหมื่นกะหมื่นหกเนี่ย" ฐานะของพวกเราต่างกันครับ ผมแบบธรรมดา ๆ วงเงินใช้จ่ายเดือนนึงไม่เกิน 3 หมื่น แต่ทางบ้านเธอค่อนข้างไฮโซฯ นิดนึง
"ถามจริง ๆ แกเปลี่ยนอะไรไปบ้างแล้วมั่ง ตั้งแต่ซื้อรถมาเนี่ย"
"ที่เปลี่ยนก็มีแค่บันไดกะยางที่เพิ่งเปลี่ยนนี่แหละ"
"ไอ้เปลี่ยนยางอะพอเข้าใจว่ามันสึกหรือมันแตกถึงต้องเปลี่ยน แต่ไอ้บันไดเนี่ยแกเปลี่ยนทำไม?" ถามยิ่งกว่าเมียผมซะอีก
"มันเป็นบันไดคลีทโว้ย พูดไปแกก็ไม่เข้าใจหรอก"
"แกพูดเหมือนคุณชายชั้นเลย ฮะ ๆ แต่เสียใจด้วยว้อยที่ชั้นรู้จักคลีทขี่จักรยาน" ผมลืมไปว่าเดี๋ยวนี้หาข้อมูลในเนทง่ายมาก
"คราวก่อนมันก็พูดอย่างนี้แหละ" "ต้องติดคลีท ต้องติดคลีท ๆ" "โดนไปหมื่นกว่าทั้งรองเท้าทั้งบันได"
"แล้วมันใช้เงินแกซื้อเรอะ?" ผมถามอย่างนี้ได้เพราะผมกับเธอสนิทกันมากตั้งแต่ตอนเรียนแล้ว ต่างจากเจ้าสามีที่ผมเพิ่งมารู้จักเอาตอนทำงาน
"ก็นั่นแหละ มันเป็นเงินของครอบครัวโว้ย ต้องเก็บไว้เป็นทุนการศึกษาให้ลูก"
"แล้วแกไม่คิดจะเปลี่ยนล้อบ้างเหรอ?" "เบาะอีก แฮนด์เอย คุณชายเค้าเปลี่ยนมาหมดแล้วนะ"
"ไม่เข้าใจจริง ๆ เลยว่าเปลี่ยนเพราะของเก่ามันไม่ดี แล้วถ้ามันไม่ดีแล้วซื้อมาทำไมตั้งแต่แรก"
"เกลียดที่สุดเลยไอ้พวกของไม่เสียแล้วไปเปลี่ยนเนี่ย"
"มันก็คงเหมือนแกเปลี่ยนกระเป๋า เปลี่ยนรองเท้าล่ะมั้ง ของเก่าก็ยังใช้ได้อยู่ แล้วแกซื้อใหม่ทำไม"
"ไม่เหมือนกันว้อยยย ของชั้นก็ยังเก็บเอาไว้ใช้ได้ แต่ของพ่อคุณกองไว้เป็นหย่อม ๆ สุดท้ายก็ใช้ไม่ได้ วันไหนเห็นขลุกอยู่กับรถละก็ รู้ได้ทันทีเลยว่าวันนี้ต้องมีอะไรใหม่ ๆ มาแน่ ๆ"
"ขี้เกียจเถียงกะแกเรื่องแบบนี้หว่ะ ถามจริง ๆ ที่แกโทรมาเนี่ยคงจะไม่ได้โทรมาเถียงกันเรื่องจักรยานหรอกนะ"
"แกอยากจะถามอะไรถามมาตรง ๆ เลยดีกว่า"
"เอาจริง ๆ นะ เวลาที่แกไปออกทริปเนี่ย เมียแกรู้หรือเปล่าว่าแกไปไหน" ผมกับสามีเธอเป็นเพื่อนกันก็จริง แต่อยู่กันคนละมุมเมือง สังคมการงานก็ต่างกันมาก ดังนั้นตั้งแต่เริ่มขี่จักรยานกันมาเคยร่วมทริปกันแค่หนเดียว
"ฮ่า ๆๆๆๆ จะถามเรื่องจับผิดผัวสินะ ฮ่า ๆๆๆๆ อ้อมค้อมมาตั้งนาน"
"รู้สิวะ มันยังคอยบอกให้ถ่ายรูปมาทุกครั้งเลย สงสัยว่าจะเอาไว้เป็นหลักฐานแน่ ๆ แต่ส่วนใหญ่ข้าไม่ค่อยได้ถ่ายมาหรอก อาศัยกล้องคนอื่นเอา เวลาปั่นเพลิน ๆ แล้วลืมทุกทีเลย" "ของข้าให้เมียใช้แอ๊ป Endomondo โว้ย ตามติดทุกสถานการณ์เพื่อความสบายใจ"
"มันเป็นยังไงวะไอ้เอ็นโด่มองโดอะไรเนี่ย"
"แกไปดูในเฟศบุคข้านะ มันจะมีบางโพสที่ขึ้นบอกว่าขี่จักรยานได้กี่กิโลฯ"
"เออ ๆ เคยเห็นอยู่ มันต้องทำไงวะ"
"แกไปหาเอาในกูเกิ้ลได้ คลีทยังรู้จักเลยแค่นี้คงไม่ยาก" "แต่มันต้องเปิดตลอดการขี่นะ แล้วแกก็จะตามผัวได้ว่าไปไหนมามั่ง"
"มันไม่มีแบบแอบ ๆ ดูเหรอ อย่างนี้มันก็รู้ตัวอะดิ่"
"มันต้องเปิดที่เครื่องด้วยถึงจะรู้ พกมือถือไปแต่ไม่เปิด GPS มันก็ไม่รู้อยู่ดีว่าอยู่ไหน"
"นึกว่าจะมีแบบที่ตามมือถือเวลาหายอะ มันหาเครื่องได้ตลอดเวลาถึงจะปิดเครื่องไว้"
"ถ้าอย่างนั้นข้าไม่รู้จักว่ะ มีด้วยเหรอปิดเครื่องก็ตามเจอ ไม่เคยได้ยิน"
"ว่าเคยอ่านเจอนะ พวกไอโฟนมั้ง แต่ไม่เป็นไรหรอก เอาแบบแกก็ได้ ชั้นจะได้ไม่ต้องกังวล หลัง ๆ นี่ชักบ่อยละ ออกไปหัวค่ำ กลับมาตีหนึ่งตีสองประจำ"
"เออ ๆ ลองไปหามาลงดูก่อน ไว้ไม่เข้าใจตรงไหนค่อยโทรมาถามอีกทีละกัน"
"งานเข้าละ... ไว้แค่นี้ก่อนนะ" พอดีมีงานเข้ามา ผมจึงต้องรีบวางหูตัดการสนทนาแต่เพียงเท่านี้ก่อน
งานต่อไปของผมคือต้องโทรไปคุยกะเจ้าเพื่อนตัวดีเรื่อง Endomondo ก่อน เพราะผมไม่รู้ว่ามันจะมีลูกเล่นอะไรแฝงอยู่ในการปั่นบ้างหรือเปล่า
ไหน ๆ ก็เคยช่วยมาแล้วก็ต้องช่วยกันให้ตลอดรอดฝั่งละครับ ผมเป็นห่วงเรื่องสัมพันธภาพของคนในครอบครัวมากที่สุดครับ