วิกฤตปี40 อีกมุมมองหนึ่งครับ

ผมเอามาจากhttps://www.facebook.com/banyong.pongpanich?hc_location=stream ครับ หวังว่าเพื่อนๆคงได้มุมมองใหม่ๆที่เกี่ยวกับวิกฤตปี40 ในอีกมุมหนึ่งนะครับ ^ ^ ถกเถียงกันได้ครับ
อีกแง่มุมหนึ่ง เกี่ยวกับ IMF ว่าเป็นผู้ร้ายหรือพระเอก  ส่วนใครอยากอ่านเพิ่มเติมเข้าไปอ่านใน facebook ได้นะครับ



  ตอนที่แล้วเล่าถึงสาเหตุ ความผิดพลาดที่คนครึ่งโลก รวมทั้งคนไทยครึ่งประเทศมีส่วนร่วม ทำให้เกิดวิกฤต จนถึง
2 กค.40 และผมยกให้ Exchange Rate Policy เป็นสาเหตุสำคัญที่สุด ทั้งๆที่เป็นนโยบายที่มีจุดประสงค์ที่ดี ทำให้เกิดผลดีในระยะหนึ่ง แต่นานไปก็ก่อให้เกิดการบิดเบือนในภาคส่วนต่างๆ

มีหลายท่านพยายามอธิบายว่า เป็นแผนการล่าอาณานิคมทางเศรษฐกิจ ที่ไอ้พวกต่างชาติทั้งโลกมันร่วมกันวางแผน เอาเงินมาหลอกให้เรากู้ เอาเข้ามาแกล้งซื้อหุ้น แล้วขยิบตาพร้อมกันกระชากออก เสร็จแล้วก็ส่ง IMF เข้ามาทำทีเป็นช่วย แต่กลับบังคับให้เลวลงอีก ออกกฎหมายขายชาติ แล้วพวกมันก็เข้ามากวาดซื้อของดีๆ ในราคาถูกๆ

โอ้โห....ฟังดูเสมือนหนึ่งไอ้พวกต่างชาติมันมีคนเดียว แก๊งเดียว Godfather คนเดียวสั่งได้หมด ทั้ง Bank ไอ้กัน ยุโรป ญี่ปุ่น ออสซี่ กว่าร้อยแห่ง ประชุมร่วมวางแผนอย่างพร้อมเพรียง ร่วมกับกองทุนหุ้นอีกหลายร้อย แถมปฏิบัติการกว้างขวาง ในไทย เกาหลี มาเลย์ อินโด ฟิลิปปินส์ ฯลฯ ผมขอบอกว่าทฤษฎีสมคบคิด(conspiracy theory)อย่างนี้ ไม่มีทางเป็นจริงได้เลยแม้แต่นิดเดียว เป็นได้แค่เพียงพล็อตหนัง ที่ถ้าเป็นจริง เอาพ่อของเจมส์ บอนด์ 007 มาก็คงปราบไม่ได้ ในความเป็นจริงพวกแบงค์ นักลงทุน ทั่วโลกเสียหายรวมกันกว่าล้านล้านเหรียญ ไอ้พวกแร้งลง เช่น hedgefund, distressed fund (ซึ่งเป็นคนละพวก) ที่ตามมาถ้าได้กำไร ก็เป็นแค่หลักพัน หลักหมื่น นายแบงค์ fund manager เพื่อนเก่าผม ถูกไล่ออก ตกงานกันเป็นแถว อ่านถึงตอนนี้ ใครที่ยังปักใจเชื่อทฤษฎีที่ว่า น่าจะเลิกอ่านต่อได้นะครับ เดี๋ยวจะหงุดหงิดเสียเปล่าๆ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่