รีวิว Serbis (2008)/// Brillante Mendoza /// ฟิลิปปินส์
1. นี่คือหนังชิงปาล์มทองคำ 2008
2. หนังเล่าเรื่องราวจากเช้าจรดเย็นภายใน 1 วัน ของครอบครัวหนึ่งที่เป็นเจ้าของโรงหนังโป๊เสื่อมโทรม ที่มีชาวเกย์มาขายตัวกันในโรงหนังอย่างโจ๋งครึ้ม
3. โรงหนังชื่อว่า Family ซึ่งก็เหมือนการสะท้อนถึงปัญหาครอบครัวที่ เนเนย์ หญิงชรา เป็นเจ้าของ เพราะวงวงศาคณาญาติ ของ เนเนย์ ทั้งการถูกสามีทิ้ง ลูกสาวก็เลิกกับผัว ลูกเลี้ยงก็ทำผู้หญิงท้อง หรืออะไรต่อมิอะไรที่แสดงถึงความเน่าเฟะต่ำตรมถึงขั้นโสมม คล้ายกับที่โรงหนังเผชิญ
4. สไตล์กล้องก็ไม่ใช่เล่นเพราะก็ตอบโจทย์สิ่งที่บอกให้เข้มแข็งขึ้นด้วยใช้วิธีการแบบ Realist ใช้กล้องแฮนด์เฮลด์ สั่นไหว ไม่ปราณีตในงานภาพ ไม่ตัดต่อพร่ำเพรื่อทำให้เกิดการเบื่อได้ เสียงประกอบก็ถ่ายแบบเสียงรอบข้างดังรำคาญ
5. เป็นหนังที่ผู้กำกับต้องการแสดงความเสื่อมของโรงหนัง ขนาบข้างกับครอบครัว ซึ่งผู้กำกับก็จัดเต็มในการปรนเปรอความต่ำตรมให้คนดูอย่างไม่ประนีประนอม
6. แต่นั่นแหละทุกสิ่งทุกอย่างที่แม้จะพูดในมุมเล็ก แต่เราก็รู้ว่ามันเป็นการสะท้อนหรือวิพากษ์ภาพใหญ่ในระดับสังคมคนชั้นล่างซึ่งนี่เป็นจุดขายของหนังประเทศฟิลิปปินส์ที่ออกไปสู่สายตาชาวโลก
7. แม้หนังเหมือนกับจะไม่มีอะไร แต่ในความไม่มีอะไรได้แฝงอะไรหลายอย่างเข้ามาอย่างน่าสนใจ บางอย่างก็ดูเหมือนสัญญลักษณ์ให้เกิดการตีความที่ไปไกลกว่าการสะท้อนที่เราเห็นอย่างมากโข
8. สรุปมันเป็นหนังที่แสน Exotic ในความต่ำตรมที่ผู้กำกับต้องการสะท้อนผ่านออกมา ด้วยภาพของโรงหนังโป๊แห่งนี้ ด้วยวิธีการเหมือนจริง จนอาจคิดไปว่านี่คือความจริง ซึ่งทำให้ออกมาได้อย่างน่าคิด ด้วยวิธีการไร้ความปราณีตซึ่งเป็นสไตล์แต่ไม่ไร้สติปัญญาเพราะมีการสอดแทรกเท่าที่หนังจะทำได้มากที่สุดในขอบเขตจำกัดที่รูปแบบจะเอื้ออำนวย
9. ผมชักหลงรักของการทำหนังด้วยวิธีการที่ทำน้อยแต่คิดมากแบบนี้แล้วสิ แล้วยิ่งดูหนังฟิลิปปินส์ก็ยิ่งเห็นว่ามันสมองทางสติปัญญาในหนังที่สะท้อนออกมามันไปไกลอยู่เหมือนกัน
10. หนังฟิลิปส์น่าสนใจมาก มากกว่าหนังไทยแน่นอนในสายตาของผมในเวลานี้
คะแนน 8 /10
ฝาก Page เฟสบุค:
http://www.facebook.com/A.Surrealism

[CR] รีวิว Serbis(2008)
รีวิว Serbis (2008)/// Brillante Mendoza /// ฟิลิปปินส์
1. นี่คือหนังชิงปาล์มทองคำ 2008
2. หนังเล่าเรื่องราวจากเช้าจรดเย็นภายใน 1 วัน ของครอบครัวหนึ่งที่เป็นเจ้าของโรงหนังโป๊เสื่อมโทรม ที่มีชาวเกย์มาขายตัวกันในโรงหนังอย่างโจ๋งครึ้ม
3. โรงหนังชื่อว่า Family ซึ่งก็เหมือนการสะท้อนถึงปัญหาครอบครัวที่ เนเนย์ หญิงชรา เป็นเจ้าของ เพราะวงวงศาคณาญาติ ของ เนเนย์ ทั้งการถูกสามีทิ้ง ลูกสาวก็เลิกกับผัว ลูกเลี้ยงก็ทำผู้หญิงท้อง หรืออะไรต่อมิอะไรที่แสดงถึงความเน่าเฟะต่ำตรมถึงขั้นโสมม คล้ายกับที่โรงหนังเผชิญ
4. สไตล์กล้องก็ไม่ใช่เล่นเพราะก็ตอบโจทย์สิ่งที่บอกให้เข้มแข็งขึ้นด้วยใช้วิธีการแบบ Realist ใช้กล้องแฮนด์เฮลด์ สั่นไหว ไม่ปราณีตในงานภาพ ไม่ตัดต่อพร่ำเพรื่อทำให้เกิดการเบื่อได้ เสียงประกอบก็ถ่ายแบบเสียงรอบข้างดังรำคาญ
5. เป็นหนังที่ผู้กำกับต้องการแสดงความเสื่อมของโรงหนัง ขนาบข้างกับครอบครัว ซึ่งผู้กำกับก็จัดเต็มในการปรนเปรอความต่ำตรมให้คนดูอย่างไม่ประนีประนอม
6. แต่นั่นแหละทุกสิ่งทุกอย่างที่แม้จะพูดในมุมเล็ก แต่เราก็รู้ว่ามันเป็นการสะท้อนหรือวิพากษ์ภาพใหญ่ในระดับสังคมคนชั้นล่างซึ่งนี่เป็นจุดขายของหนังประเทศฟิลิปปินส์ที่ออกไปสู่สายตาชาวโลก
7. แม้หนังเหมือนกับจะไม่มีอะไร แต่ในความไม่มีอะไรได้แฝงอะไรหลายอย่างเข้ามาอย่างน่าสนใจ บางอย่างก็ดูเหมือนสัญญลักษณ์ให้เกิดการตีความที่ไปไกลกว่าการสะท้อนที่เราเห็นอย่างมากโข
8. สรุปมันเป็นหนังที่แสน Exotic ในความต่ำตรมที่ผู้กำกับต้องการสะท้อนผ่านออกมา ด้วยภาพของโรงหนังโป๊แห่งนี้ ด้วยวิธีการเหมือนจริง จนอาจคิดไปว่านี่คือความจริง ซึ่งทำให้ออกมาได้อย่างน่าคิด ด้วยวิธีการไร้ความปราณีตซึ่งเป็นสไตล์แต่ไม่ไร้สติปัญญาเพราะมีการสอดแทรกเท่าที่หนังจะทำได้มากที่สุดในขอบเขตจำกัดที่รูปแบบจะเอื้ออำนวย
9. ผมชักหลงรักของการทำหนังด้วยวิธีการที่ทำน้อยแต่คิดมากแบบนี้แล้วสิ แล้วยิ่งดูหนังฟิลิปปินส์ก็ยิ่งเห็นว่ามันสมองทางสติปัญญาในหนังที่สะท้อนออกมามันไปไกลอยู่เหมือนกัน
10. หนังฟิลิปส์น่าสนใจมาก มากกว่าหนังไทยแน่นอนในสายตาของผมในเวลานี้
คะแนน 8 /10
ฝาก Page เฟสบุค: http://www.facebook.com/A.Surrealism