ผมได้มีโอกาสบินเข้า-ออกเพื่อเปลี่ยนเครื่องที่ฟิลิปปินส์ (มะนิลา) อยู่บ่อยครั้ง จึงอยากแชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับกฎและวิธีการเกี่ยวกับการ waive ค่าภาษีสนามบินในฟิลิปปินส์ครับ ถ้าใครมีอะไรอยากจะแชร์เพิ่มเติม หรือว่าข้อมูลไม่ถูกต้องยังไง รบกวนแจ้งด้วยนะครับ เพราะสิ่งที่จะแชร์ต่อไปนี้เป็นประสบการณ์ตรงล้วน ๆ เลยครับ
สนามบิน Manila-T3 (สำหรับสายการบิน Cebu Pacific, Airphil Express และ ZestAir)
**ประสบการณ์การต่อเครื่องออกนอกประเทศฟิลิปปินส์ทั้งหมดที่ terminal นี้เกิดขึ้นกับสายการบิน Cebu Pacific**
- จะต้องให้เจ้าหน้าที่สายการบินตอนที่ check in ประทับตราที่ boarding pass ว่า waive ค่าภาษีนะครับ ซึ่งตามประสบการณ์แล้ว เราต้องเป็นฝ่ายแจ้งเจ้าหน้าที่ check in เอง ขนาดยื่น boarding pass อันเก่าไปพร้อมกับใบตั๋วเครื่องบินใหม่ พี่ท่านก็ยังเฉย ๆ ไม่ได้เฉลียวใจเลยสักนิดว่า เค้ายื่นมาทำไม
- เจ้าหน้าที่ที่ check in มักจะแจ้งว่า ให้เรายื่น boarding pass แล้วแจ้งว่ามีสิทธิ์ waive ค่าภาษีกับเจ้าหน้าที่ที่เก็บค่าภาษีเอง ซึ่งถ้าทำอย่างนั้นจริง พอไปถึงเจ้าหน้าที่ที่เก็บภาษี เค้าก็จะแจ้งว่า ต้องให้สายการบินเป็นคนประทับตรา เค้าทำอะไรไม่ได้ แล้วเราก็จะต้องมายืนยัน นอนยัน นั่งยันกับเจ้าหน้าที่ check in ใหม่ ว่า เจ้าหน้าที่ที่เก็บภาษียืนยันมาว่า คุณต้องเป็นฝ่ายเช็คสิทธิ์และประทับตรา (ไม่ใช่เจ้าหน้าที่เก็บภาษี) เจ้าหน้าที่ check in ก็จะทำหน้างง ๆ แล้วก็ประทับตราให้ ดังนั้น ตอน check in ให้ยืนยัน นั่งยัน นอนยันไปเลยว่า คุณ (เจ้าหน้าที่ check in) ต้องเช็คและประทับตรา! (ที่เจอครั้งแรก ผมก็คิดว่า อาจเป็นเพราะเจ้าหน้าที่ check in ไม่ทราบกฏข้อนี้ จึงเลี่ยงให้เป็นภาระของเจ้าหน้าที่เก็บภาษีรึเปล่า แต่ผมเจอเคสอย่างงี้บ่อยครั้งครับ)
สนามบิน Manila-T1
**ประสบการณ์การต่อเครื่องออกนอกประเทศฟิลิปปินส์ทั้งหมดที่ terminal นี้เกิดขึ้นกับสายการบิน Jetstar Asia**
- ตอน check in เจ้าหน้าที่จะไม่ประทับตราหรือตรวจเช็คสิทธิ์ใด ๆ ให้ และเราไม่ต้องไปต่อแถวเพื่อจ่ายภาษีสนามบิน แต่ให้เดินผ่านไปแล้วเลี้ยวซ้าย จะมีห้องอยู่ห้องหนึ่งซี่งไม่มีป้ายหรือสัญลักษณ์ใด ๆ พิเศษเลย (เป็น office เจ้าหน้าที่ราชการซักฝ่าย ประมาณอารมณ์ ตม. หรือเจ้าหน้าที่การท่าอากาศยาน แต่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่สายการบินแน่นอนครับ) เข้าไปแล้วจึงแสดงความจำนงว่าต้องการ waive ค่าสนามบินพร้อมแสดง boarding pass เก่า เจ้าหน้าที่จะเช็ค ประทับตรา และ "เซ็น" กำกับใน boarding pass ให้
- ผมได้มีโอกาสสอบถามกับเจ้าหน้าที่ในห้องนี้เกี่ยวกับวิธีการปฏิบัติเพื่อการ waive ค่าภาษีดังกล่าว ได้รับคำตอบว่า แต่ละ terminal มีวิธีไม่เหมือนกัน อย่างที่ T1 มีเจ้าหน้าที่โดยตรง ดังนั้น สายการบินจึงไม่ต้องตรวจเช็ค แต่ในกรณีของ T3 เนื่องจากไม่มีเจ้าหน้าที่ดังกล่าว ดังนั้น เจ้าหน้าที่สายการบินจึงต้องเป็นผู้ตรวจเช็ค (ซึ่งผมคิดว่า เจ้าหน้าที่เองก็จะต้องแบกรับความเสี่ยงหากตรวจสอบผิดพลาด เช่น waive ค่าภาษีให้สำหรับคนที่ต้องจ่าย ซึ่งสุดท้ายสนามบินก็จะเรียกเก็บมายังสายการบินอยู่ดี ดังนั้น เจ้าหน้าที่ที่ check in ที่ T3 จึงไม่ค่อยอยากจะรับผิดชอบในส่วนนี้สักเท่าไร)
- นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ในห้องดังกล่าวยังบอกว่า จริง ๆ ควรเป็นหน้าที่ของสายการบิน นั่นหมายถึงว่า พอเราเช็คอินแล้ว เจ้าหน้าที่สายการบินน่าจะเป็นคนดำเนินการเรื่องนี้ให้เราทั้งหมด ไม่ใช่ให้เราต้องบุกเข้ามาใน office เพื่อจัดการเอง ตรงนี้ผมเข้าใจว่า น่าจะเป็นเพราะ Jetstar เป็น low-cost airline ดังนั้น ผู้โดยสารจึงต้องจัดการเอง (มั้ง?)
เงื่อนไขการขอ waive ค่าภาษีสนามบิน
- ผู้โดยสารจะมีสิทธิ์ waive ค่าภาษีในกรณีที่อยู่ในฟิลิปปินส์เพื่อรอต่อเครื่องไปยังประเทศที่ 3 ไม่เกิน 24 ชั่วโมง ซึ่งเคสตัวอย่างต่อไปนี้ เป็นเคสที่สามารถ waive ภาษีสนามบินได้ทั้งสิ้น (ประสบการณ์ตรงล้วน ๆ ครับ)
- เข้าฟิลิปปินส์ด้วยสายการบิน A ถึงสนามบิน ก. เวลา 14.00 น. วันที่ X แล้วบินออกจากฟิลิปปินส์ด้วยสายการบินและสนามบินเดิมเวลา 19.00 น. วันที่ X (อันนี้มันแน่นอนอยู่แล้ว ตรงไปตรงมาที่สุดครับ)
- เข้าฟิลิปปินส์ด้วยสายการบิน A ถึงสนามบิน ก. เวลา 13.00 น. วันที่ X แล้วบินออกจากฟิลิปปินส์ด้วยสายการบิน B จากสนามบิน ข. เวลา 19.00 น. วันที่ X ==> วันเดียวกัน ต่างสนามบิน ต่างสายการบิน
- เข้าฟิลิปปินส์ด้วยสายการบิน A ถึงสนามบิน ก. (T3) เวลา 14.00 น. วันที่ X แล้วบินออกที่สนามบินเดิมแต่เป็น T1 ด้วยสายการบิน B เวลา 06.00 น. วันที่ X+1 ==> ต่างวันกัน (ภายใน 24 ชม.) สนามบินเดียวกัน (ต่าง terminal) ต่างสายการบิน
แต่เคสต่อไปนี้จะ "ไม่" สามารถ waive ค่าภาษีได้นะครับ
- บินเส้นทาง XXX-MNL-XXX ไป-กลับ ภายในวันเดียวกัน ซึ่งขากลับ (MNL-XXX) จะไม่สามารภ waive ค่าภาษีได้ (ถึงแม้จะมีเวลาอยู่ในฟิลิปปินส์ไม่ถึง 24 ชม. ก็ตาม) เพราะการเดินทางดังกล่าวมีปลายทางเป็นที่เดียวกับต้นทางของ flight ขาเข้าฟิลิปปินส์ ดังนั้น ผู้โดยสารจึงไม่ได้ใช้สนามบินในฟิลิปปินส์เพื่อการต่อเครื่องไปยังประเทศที่ 3 ซึ่งไม่เข้าข่ายการ waive ค่าภาษีสนามบินนั่นเอง
ขอย้ำอีกครั้งว่า ทั้งหมดที่กล่าวมา "เป็นประสบการณ์ส่วนตัว" ทั้งสิ้น หากมีผิดถูกประการใด รบกวนแจ้งด้วยครับ จะได้เข้าใจถูกต้องตรงกันครับ
** แก้ไขคำผิดครับ**
แชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับกฎและวิธีการเกี่ยวกับการ waive ค่าภาษีสนามบินในฟิลิปปินส์
สนามบิน Manila-T3 (สำหรับสายการบิน Cebu Pacific, Airphil Express และ ZestAir)
**ประสบการณ์การต่อเครื่องออกนอกประเทศฟิลิปปินส์ทั้งหมดที่ terminal นี้เกิดขึ้นกับสายการบิน Cebu Pacific**
- จะต้องให้เจ้าหน้าที่สายการบินตอนที่ check in ประทับตราที่ boarding pass ว่า waive ค่าภาษีนะครับ ซึ่งตามประสบการณ์แล้ว เราต้องเป็นฝ่ายแจ้งเจ้าหน้าที่ check in เอง ขนาดยื่น boarding pass อันเก่าไปพร้อมกับใบตั๋วเครื่องบินใหม่ พี่ท่านก็ยังเฉย ๆ ไม่ได้เฉลียวใจเลยสักนิดว่า เค้ายื่นมาทำไม
- เจ้าหน้าที่ที่ check in มักจะแจ้งว่า ให้เรายื่น boarding pass แล้วแจ้งว่ามีสิทธิ์ waive ค่าภาษีกับเจ้าหน้าที่ที่เก็บค่าภาษีเอง ซึ่งถ้าทำอย่างนั้นจริง พอไปถึงเจ้าหน้าที่ที่เก็บภาษี เค้าก็จะแจ้งว่า ต้องให้สายการบินเป็นคนประทับตรา เค้าทำอะไรไม่ได้ แล้วเราก็จะต้องมายืนยัน นอนยัน นั่งยันกับเจ้าหน้าที่ check in ใหม่ ว่า เจ้าหน้าที่ที่เก็บภาษียืนยันมาว่า คุณต้องเป็นฝ่ายเช็คสิทธิ์และประทับตรา (ไม่ใช่เจ้าหน้าที่เก็บภาษี) เจ้าหน้าที่ check in ก็จะทำหน้างง ๆ แล้วก็ประทับตราให้ ดังนั้น ตอน check in ให้ยืนยัน นั่งยัน นอนยันไปเลยว่า คุณ (เจ้าหน้าที่ check in) ต้องเช็คและประทับตรา! (ที่เจอครั้งแรก ผมก็คิดว่า อาจเป็นเพราะเจ้าหน้าที่ check in ไม่ทราบกฏข้อนี้ จึงเลี่ยงให้เป็นภาระของเจ้าหน้าที่เก็บภาษีรึเปล่า แต่ผมเจอเคสอย่างงี้บ่อยครั้งครับ)
สนามบิน Manila-T1
**ประสบการณ์การต่อเครื่องออกนอกประเทศฟิลิปปินส์ทั้งหมดที่ terminal นี้เกิดขึ้นกับสายการบิน Jetstar Asia**
- ตอน check in เจ้าหน้าที่จะไม่ประทับตราหรือตรวจเช็คสิทธิ์ใด ๆ ให้ และเราไม่ต้องไปต่อแถวเพื่อจ่ายภาษีสนามบิน แต่ให้เดินผ่านไปแล้วเลี้ยวซ้าย จะมีห้องอยู่ห้องหนึ่งซี่งไม่มีป้ายหรือสัญลักษณ์ใด ๆ พิเศษเลย (เป็น office เจ้าหน้าที่ราชการซักฝ่าย ประมาณอารมณ์ ตม. หรือเจ้าหน้าที่การท่าอากาศยาน แต่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่สายการบินแน่นอนครับ) เข้าไปแล้วจึงแสดงความจำนงว่าต้องการ waive ค่าสนามบินพร้อมแสดง boarding pass เก่า เจ้าหน้าที่จะเช็ค ประทับตรา และ "เซ็น" กำกับใน boarding pass ให้
- ผมได้มีโอกาสสอบถามกับเจ้าหน้าที่ในห้องนี้เกี่ยวกับวิธีการปฏิบัติเพื่อการ waive ค่าภาษีดังกล่าว ได้รับคำตอบว่า แต่ละ terminal มีวิธีไม่เหมือนกัน อย่างที่ T1 มีเจ้าหน้าที่โดยตรง ดังนั้น สายการบินจึงไม่ต้องตรวจเช็ค แต่ในกรณีของ T3 เนื่องจากไม่มีเจ้าหน้าที่ดังกล่าว ดังนั้น เจ้าหน้าที่สายการบินจึงต้องเป็นผู้ตรวจเช็ค (ซึ่งผมคิดว่า เจ้าหน้าที่เองก็จะต้องแบกรับความเสี่ยงหากตรวจสอบผิดพลาด เช่น waive ค่าภาษีให้สำหรับคนที่ต้องจ่าย ซึ่งสุดท้ายสนามบินก็จะเรียกเก็บมายังสายการบินอยู่ดี ดังนั้น เจ้าหน้าที่ที่ check in ที่ T3 จึงไม่ค่อยอยากจะรับผิดชอบในส่วนนี้สักเท่าไร)
- นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ในห้องดังกล่าวยังบอกว่า จริง ๆ ควรเป็นหน้าที่ของสายการบิน นั่นหมายถึงว่า พอเราเช็คอินแล้ว เจ้าหน้าที่สายการบินน่าจะเป็นคนดำเนินการเรื่องนี้ให้เราทั้งหมด ไม่ใช่ให้เราต้องบุกเข้ามาใน office เพื่อจัดการเอง ตรงนี้ผมเข้าใจว่า น่าจะเป็นเพราะ Jetstar เป็น low-cost airline ดังนั้น ผู้โดยสารจึงต้องจัดการเอง (มั้ง?)
เงื่อนไขการขอ waive ค่าภาษีสนามบิน
- ผู้โดยสารจะมีสิทธิ์ waive ค่าภาษีในกรณีที่อยู่ในฟิลิปปินส์เพื่อรอต่อเครื่องไปยังประเทศที่ 3 ไม่เกิน 24 ชั่วโมง ซึ่งเคสตัวอย่างต่อไปนี้ เป็นเคสที่สามารถ waive ภาษีสนามบินได้ทั้งสิ้น (ประสบการณ์ตรงล้วน ๆ ครับ)
- เข้าฟิลิปปินส์ด้วยสายการบิน A ถึงสนามบิน ก. เวลา 14.00 น. วันที่ X แล้วบินออกจากฟิลิปปินส์ด้วยสายการบินและสนามบินเดิมเวลา 19.00 น. วันที่ X (อันนี้มันแน่นอนอยู่แล้ว ตรงไปตรงมาที่สุดครับ)
- เข้าฟิลิปปินส์ด้วยสายการบิน A ถึงสนามบิน ก. เวลา 13.00 น. วันที่ X แล้วบินออกจากฟิลิปปินส์ด้วยสายการบิน B จากสนามบิน ข. เวลา 19.00 น. วันที่ X ==> วันเดียวกัน ต่างสนามบิน ต่างสายการบิน
- เข้าฟิลิปปินส์ด้วยสายการบิน A ถึงสนามบิน ก. (T3) เวลา 14.00 น. วันที่ X แล้วบินออกที่สนามบินเดิมแต่เป็น T1 ด้วยสายการบิน B เวลา 06.00 น. วันที่ X+1 ==> ต่างวันกัน (ภายใน 24 ชม.) สนามบินเดียวกัน (ต่าง terminal) ต่างสายการบิน
แต่เคสต่อไปนี้จะ "ไม่" สามารถ waive ค่าภาษีได้นะครับ
- บินเส้นทาง XXX-MNL-XXX ไป-กลับ ภายในวันเดียวกัน ซึ่งขากลับ (MNL-XXX) จะไม่สามารภ waive ค่าภาษีได้ (ถึงแม้จะมีเวลาอยู่ในฟิลิปปินส์ไม่ถึง 24 ชม. ก็ตาม) เพราะการเดินทางดังกล่าวมีปลายทางเป็นที่เดียวกับต้นทางของ flight ขาเข้าฟิลิปปินส์ ดังนั้น ผู้โดยสารจึงไม่ได้ใช้สนามบินในฟิลิปปินส์เพื่อการต่อเครื่องไปยังประเทศที่ 3 ซึ่งไม่เข้าข่ายการ waive ค่าภาษีสนามบินนั่นเอง
ขอย้ำอีกครั้งว่า ทั้งหมดที่กล่าวมา "เป็นประสบการณ์ส่วนตัว" ทั้งสิ้น หากมีผิดถูกประการใด รบกวนแจ้งด้วยครับ จะได้เข้าใจถูกต้องตรงกันครับ
** แก้ไขคำผิดครับ**