อย่างบทบาทของ น.ส.สุภาช่วงที่ผ่านมา ไม่ว่าจะพูดกี่ครั้ง หรือชี้แจงกับองค์กรไหนก็ตาม ก็มีความมั่นคงตรงไปตรงมากับตัวเลขการขาดทุน และปัญหาที่เกิดขึ้นกับโครงการ โดยไม่สนใจและหวั่นไหวต่ออำนาจรัฐ เหมือนกับคนบางกลุ่ม ที่ปรับตัวเปลี่ยนสีไปตามอำนาจการเมืองที่เปลี่ยนไป
“การรับจำนำข้าวทุกเมล็ดเกิดการทุจริตทุกขั้นตอน ตั้งแต่จดทะเบียนเกษตรกรที่แจ้งตัวเลขเกินความจริง โดยการสุ่มตรวจได้เพียง 10% เนื่องจากขาดกำลังคน รวมทั้งมีการนำข้าวเปลือกมาเวียนเทียนในโครงการ เพราะขั้นตอนการสีแปรข้าวต้องเก็บที่โรงสีประมาณ 50 วัน เพราะข้าวมีจำนวนมากเกินความสามารถในการสีแปรของโรงสี จึงมีมติให้รับข้าวได้ 50 เท่าของความสามารถของโรงสี
ส่วนตัวเลขขาดทุนของโครงการรับจำนำข้าวใน 3 ฤดูกาลผลิต คือ ฤดูกาลผลิต 2554/55, ฤดูกาลผลิต 2555 และฤดูกาลผลิต 55/56 เบื้องต้นตัวเลขขาดทุน 220,968 ล้านบาท หากรวมการดำเนินการถึงเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ตัวเลขการขาดทุนอาจมากกว่าที่ประมาณการจากฝ่ายต่าง ๆ ที่มีการปิดตัวเลขวันที่ 31 ม.ค.2556 โดยใช้วงเงินกว่า 4.96 แสนล้านบาท ซึ่งรัฐบาลต้องจ่ายคืนให้ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)” ข้อมูลที่น.ส.สุภาให้ความเห็นกับ คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจ การพาณิชย์และอุตสาหกรรม วุฒิสภา
วันถัดมานายกฯ ยิ่งลักษณ์ ออกมาตอบโต้ว่า “ให้คุณสุภาพิสูจน์ออกมาเป็นรายละเอียดเลยดีกว่าไหม” และยังพูดต่ออีกว่า ต้องเรียนว่าสื่อมวลชนก็เห็นการตรวจสต๊อก เราตรวจพร้อมกันทั่วประเทศกว่า 2,000 โรงสี ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับเราบ้าง ซึ่งจากการตรวจทั้งหมด จุดที่เจอประมาณ 26 จุด เราก็รอขั้นตอนของตำรวจในการสืบค้น ถ้ามีหลักฐานการทุจริตทุกจุดก็เอาหลักฐานมา
ตัดตอนจากเดลินิวส์ว
คำให้การบางตอนของสุภาต่อ กรรมาธิกาเรื่องจำนำข้าว
“การรับจำนำข้าวทุกเมล็ดเกิดการทุจริตทุกขั้นตอน ตั้งแต่จดทะเบียนเกษตรกรที่แจ้งตัวเลขเกินความจริง โดยการสุ่มตรวจได้เพียง 10% เนื่องจากขาดกำลังคน รวมทั้งมีการนำข้าวเปลือกมาเวียนเทียนในโครงการ เพราะขั้นตอนการสีแปรข้าวต้องเก็บที่โรงสีประมาณ 50 วัน เพราะข้าวมีจำนวนมากเกินความสามารถในการสีแปรของโรงสี จึงมีมติให้รับข้าวได้ 50 เท่าของความสามารถของโรงสี
ส่วนตัวเลขขาดทุนของโครงการรับจำนำข้าวใน 3 ฤดูกาลผลิต คือ ฤดูกาลผลิต 2554/55, ฤดูกาลผลิต 2555 และฤดูกาลผลิต 55/56 เบื้องต้นตัวเลขขาดทุน 220,968 ล้านบาท หากรวมการดำเนินการถึงเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ตัวเลขการขาดทุนอาจมากกว่าที่ประมาณการจากฝ่ายต่าง ๆ ที่มีการปิดตัวเลขวันที่ 31 ม.ค.2556 โดยใช้วงเงินกว่า 4.96 แสนล้านบาท ซึ่งรัฐบาลต้องจ่ายคืนให้ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)” ข้อมูลที่น.ส.สุภาให้ความเห็นกับ คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจ การพาณิชย์และอุตสาหกรรม วุฒิสภา
วันถัดมานายกฯ ยิ่งลักษณ์ ออกมาตอบโต้ว่า “ให้คุณสุภาพิสูจน์ออกมาเป็นรายละเอียดเลยดีกว่าไหม” และยังพูดต่ออีกว่า ต้องเรียนว่าสื่อมวลชนก็เห็นการตรวจสต๊อก เราตรวจพร้อมกันทั่วประเทศกว่า 2,000 โรงสี ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับเราบ้าง ซึ่งจากการตรวจทั้งหมด จุดที่เจอประมาณ 26 จุด เราก็รอขั้นตอนของตำรวจในการสืบค้น ถ้ามีหลักฐานการทุจริตทุกจุดก็เอาหลักฐานมา
ตัดตอนจากเดลินิวส์ว