สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 38
อาจจะไม่เกี่ยวกับเรื่องที่คุณอยากรู้ แต่อ่านคุณเขียนแล้ว อดไม่ไหวครับ ขอเขียนตอบสักหน่อย
1. ผมว่าคุณมีวินัยการเงิน และนิสัยในการใช้จ่าย และบริหารการเงินที่แย่เอามากๆครับ ถ้าไม่ปรับเปลี่ยน มีแนวโน้มที่คุณจะประสบปัญหาทางการเงินอีกในอนาคต (จริงๆคุณประสบปัญหาทางการเงินมาแล้วในอดีต ก็เป็นผลจากนิสัยในการใช้จ่ายและบริหารการเงินเนี่ยแหละครับ)
2. รายได้ตามที่คุณบอก ผมคิดว่า จริงๆ ควรมีเงินเก็บไม่น้อยกว่า 5 ล้านบาทครับ ต่ำกว่านี้ ถือว่าบริหารการเงินได้แย่มากๆ
3. คุณต้องปรับปรุงนิสัยการบริโภค มาเป็นการเก็บออมก่อน พอตั้งหลักได้ ก็เริ่มลงทุน แต่ของคุณ กลับมีเงินในกองทุน แต่ไปติดหนี้บัตรเครดิตซะงั้น
4. บัตรเครดิต ถ้ามีเงิน ควรจ่ายให้หมดครับ เพราะดอกเบี้ยแพงมาก ไม่จำเป็น ควรจ่ายให้เป๊ะ ไม่ใช่จ่ายขั้นต่ำ จะเสียดอกเบี้ยโดยใช่เหตุ
5. ครอบครัวคุณหาเงินคนเดียว รายได้ทางเดียว แต่กลับซื้อนาฬิกาเรือนละล้านบาทใส่ นาฬิกาเรือนแสน ก็แพงเกินไปแล้วครับสำหรับคนที่ยังไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง คนรวยๆที่ผมเจอ เขาใส่นาฬิการาคาปานกลาง พวกใส่นาฬิกาแพงๆที่ผมเจอ เอาไว้อวดเขา แต่ในบัญชีไม่มีเงินเก็บครับ
6. บ้านน่ะ คุณไม่ต้องกู้หรอกครับ ลดค่าใ้ช้จ่ายลง แล้วเช่าบ้านราคาไม่แพงอยู่ไปก่อน พอเก็บเงินเพิ่มได้อีก 2.5 ล้าน ซึ่งน่าจะใช้เวลาปีกว่า ก็ขายกองทุน และบวกเงินสด ซื้อเงินสดไปได้เลยครับ
7. การหารายได้คนเดียว แล้วรายได้ดี คุณอย่าหลงเหลิงว่าจะเป็นอย่างนั้นตลอดไปครับ วัฏจักรเศรษฐกิจจะขึ้นและลงเป็นรอบๆ และสถานการณ์รอบๆเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เมื่อใดก็ตามที่คุณรายได้ดีมาก อาจจะแปลว่า ตอนนี้ คุณกำลังอยู่ตรงยอดของวัฎจักร ซึ่งอาจจะตีกลับลงไปอีกในอนาคต ดังนั้น ต้องเอารายได้ตอนนี้ ไปเผื่อไว้เกลี่ยเพื่อให้พอมีใช้ในตอนที่มันเป็นขาลงด้วยครับ
ถ้าคุณคิดเผื่อไว้แบบผมบอก มีเงินเก็บ พอมันเป็นขาลง คุณก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้ามันไม่ลง มันยังขึ้นต่อ คุณก็ยิ่งรวย และมีเงินไปสร้างสินทรัพย์เพื่อสร้างรายได้ให้โดยคุณไม่ต้องทำงานต่อไป (อ่านด้านล่าง)
ยิ่งคุณอยู่ในธุรกิจไอที มันมีการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี่อย่างรุนแรง และรวดเร็ว รายได้มากในวันนี้ ในอนาคตอาจจะลดแบบฮวบเลย ก็เป็นได้ ลองนึกภาพบริษัท Kodak สิครับ หลายปีก่อนใครจะนึกว่าจะมีวันล้มละลาย, บริษัทผลิต Blackberry รุ่งโรจน์ได้ไม่กี่ปี ตอนนี้ก็ลำบากแล้ว, Nokia ก็อีกราย
คนเราไม่แน่ไม่นอน คนเราพอเจ็บไข้ได้ป่วย ทำงานไม่ได้ และต้องเสียเงินค่ารักษาพยาบาลอีก รายได้ไม่มี รายจ่ายเพิ่ม คราวนี้ จะสาหัสสองเด้งครับ แต่คุณสามารถลดความเสี่ยงตรงนี้ได้ ด้วยการทำประกันสุขภาพซะ ทั้งสองคนเลยครับ ลดความเสี่ยงไป
8. เริ่มเก็บเงินได้แล้วครับ ให้ออมตั้งแต่ได้เงินมาเลย ไม่ใช่ใช้อย่างสนุก แล้วเหลือเท่าไหร่เอาไปออม
9. รายได้ขนาดนี้ คุณกู้เงินเอามาซื้อรถทำไมเหรอครับ ? ทำไมไม่ซื้อเงินสด ดอกเบี้ยซื้อรถยนต์น่ะ สองเท่าของที่เขาบอกคุณนะ เพราะเวลาผ่อน ไม่ได้ลดต้นเหมือนผ่อนบ้าน รถยนต์ 5 แสน ผมว่า รวมดอกเบี้ยแล้ว น่าจะ 7 แสนแล้วมั้งครับ (อันนี้ผมไม่ทราบเหมือนกัน ผมไม่เคยผ่อนกับเขา)
10. ผมดูรายได้ และสถานะของคุณแล้ว ยังอยู่ในเกณฑ์การบริหารจัดการให้มั่นคงได้ครับ แต่ดูวิธีคิด และนิสัยการบริหารเงินแล้ว ถ้าไม่เปลี่ยนแปลง ปรับปรุง เสี่ยงมากๆเลยในอนาคตครับ
11. คุณหาเงินคนเดียว เมื่อคุณทำตามผมบอกด้านบน เคลียร์หนี้บัตรก่อน, เคลียร์หนี้รถ, ทำประกันสุขภาพ เพื่อลดความเสี่ยงกรณีเจ็บป่วย, เก็บเงิน พอซื้อบ้านเงินสดได้ก็ซื้อเงินสดเลยอย่าไปกู้, ต่อจากนั้น เริ่มสะสมเงินออม เพื่อซื้อสินทรัพย์ที่สร้างรายได้ให้โดยคุณไม่ต้องทำงาน เช่น มีบ้านให้เขาเช่า มีหุ้นที่มีเงินปันผลให้สม่ำเสมอ เมื่อนั้น ถึงคุณทำงานไม่ได้ ก็ยังมีรายได้เข้ามาครับ แนวทางอย่างนี้ จะทำใ้ห้ชีวิตทางการเงินมั่นคงได้มาก
12. ให้ศึกษาและปฏิบัติธรรมครับ เมื่อคุณเข้าใจธรรมมะ จิตใจจะอบอุ่นและมีความสุข โดยไม่ต้องใช้ของแพง ก็มีความสุขครับ เงินเก็บคุณจะเพิ่มขึ้นโดยอัตโนมัติ
แด่เธอผู้มาใหม่
http://01.learndhamma.com/pramote/books/newcomer_thai.pdf
http://03.wimutti.net/pramote/books/newcomer_thai.pdf
ธรรมมะสำหรับผู้มาใหม่
http://www.dhammada.net/newcomer/
http://www.wimutti.net/pramote/BeginToEnlightenment.php
1. ผมว่าคุณมีวินัยการเงิน และนิสัยในการใช้จ่าย และบริหารการเงินที่แย่เอามากๆครับ ถ้าไม่ปรับเปลี่ยน มีแนวโน้มที่คุณจะประสบปัญหาทางการเงินอีกในอนาคต (จริงๆคุณประสบปัญหาทางการเงินมาแล้วในอดีต ก็เป็นผลจากนิสัยในการใช้จ่ายและบริหารการเงินเนี่ยแหละครับ)
2. รายได้ตามที่คุณบอก ผมคิดว่า จริงๆ ควรมีเงินเก็บไม่น้อยกว่า 5 ล้านบาทครับ ต่ำกว่านี้ ถือว่าบริหารการเงินได้แย่มากๆ
3. คุณต้องปรับปรุงนิสัยการบริโภค มาเป็นการเก็บออมก่อน พอตั้งหลักได้ ก็เริ่มลงทุน แต่ของคุณ กลับมีเงินในกองทุน แต่ไปติดหนี้บัตรเครดิตซะงั้น
4. บัตรเครดิต ถ้ามีเงิน ควรจ่ายให้หมดครับ เพราะดอกเบี้ยแพงมาก ไม่จำเป็น ควรจ่ายให้เป๊ะ ไม่ใช่จ่ายขั้นต่ำ จะเสียดอกเบี้ยโดยใช่เหตุ
5. ครอบครัวคุณหาเงินคนเดียว รายได้ทางเดียว แต่กลับซื้อนาฬิกาเรือนละล้านบาทใส่ นาฬิกาเรือนแสน ก็แพงเกินไปแล้วครับสำหรับคนที่ยังไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง คนรวยๆที่ผมเจอ เขาใส่นาฬิการาคาปานกลาง พวกใส่นาฬิกาแพงๆที่ผมเจอ เอาไว้อวดเขา แต่ในบัญชีไม่มีเงินเก็บครับ
6. บ้านน่ะ คุณไม่ต้องกู้หรอกครับ ลดค่าใ้ช้จ่ายลง แล้วเช่าบ้านราคาไม่แพงอยู่ไปก่อน พอเก็บเงินเพิ่มได้อีก 2.5 ล้าน ซึ่งน่าจะใช้เวลาปีกว่า ก็ขายกองทุน และบวกเงินสด ซื้อเงินสดไปได้เลยครับ
7. การหารายได้คนเดียว แล้วรายได้ดี คุณอย่าหลงเหลิงว่าจะเป็นอย่างนั้นตลอดไปครับ วัฏจักรเศรษฐกิจจะขึ้นและลงเป็นรอบๆ และสถานการณ์รอบๆเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เมื่อใดก็ตามที่คุณรายได้ดีมาก อาจจะแปลว่า ตอนนี้ คุณกำลังอยู่ตรงยอดของวัฎจักร ซึ่งอาจจะตีกลับลงไปอีกในอนาคต ดังนั้น ต้องเอารายได้ตอนนี้ ไปเผื่อไว้เกลี่ยเพื่อให้พอมีใช้ในตอนที่มันเป็นขาลงด้วยครับ
ถ้าคุณคิดเผื่อไว้แบบผมบอก มีเงินเก็บ พอมันเป็นขาลง คุณก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้ามันไม่ลง มันยังขึ้นต่อ คุณก็ยิ่งรวย และมีเงินไปสร้างสินทรัพย์เพื่อสร้างรายได้ให้โดยคุณไม่ต้องทำงานต่อไป (อ่านด้านล่าง)
ยิ่งคุณอยู่ในธุรกิจไอที มันมีการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี่อย่างรุนแรง และรวดเร็ว รายได้มากในวันนี้ ในอนาคตอาจจะลดแบบฮวบเลย ก็เป็นได้ ลองนึกภาพบริษัท Kodak สิครับ หลายปีก่อนใครจะนึกว่าจะมีวันล้มละลาย, บริษัทผลิต Blackberry รุ่งโรจน์ได้ไม่กี่ปี ตอนนี้ก็ลำบากแล้ว, Nokia ก็อีกราย
คนเราไม่แน่ไม่นอน คนเราพอเจ็บไข้ได้ป่วย ทำงานไม่ได้ และต้องเสียเงินค่ารักษาพยาบาลอีก รายได้ไม่มี รายจ่ายเพิ่ม คราวนี้ จะสาหัสสองเด้งครับ แต่คุณสามารถลดความเสี่ยงตรงนี้ได้ ด้วยการทำประกันสุขภาพซะ ทั้งสองคนเลยครับ ลดความเสี่ยงไป
8. เริ่มเก็บเงินได้แล้วครับ ให้ออมตั้งแต่ได้เงินมาเลย ไม่ใช่ใช้อย่างสนุก แล้วเหลือเท่าไหร่เอาไปออม
9. รายได้ขนาดนี้ คุณกู้เงินเอามาซื้อรถทำไมเหรอครับ ? ทำไมไม่ซื้อเงินสด ดอกเบี้ยซื้อรถยนต์น่ะ สองเท่าของที่เขาบอกคุณนะ เพราะเวลาผ่อน ไม่ได้ลดต้นเหมือนผ่อนบ้าน รถยนต์ 5 แสน ผมว่า รวมดอกเบี้ยแล้ว น่าจะ 7 แสนแล้วมั้งครับ (อันนี้ผมไม่ทราบเหมือนกัน ผมไม่เคยผ่อนกับเขา)
10. ผมดูรายได้ และสถานะของคุณแล้ว ยังอยู่ในเกณฑ์การบริหารจัดการให้มั่นคงได้ครับ แต่ดูวิธีคิด และนิสัยการบริหารเงินแล้ว ถ้าไม่เปลี่ยนแปลง ปรับปรุง เสี่ยงมากๆเลยในอนาคตครับ
11. คุณหาเงินคนเดียว เมื่อคุณทำตามผมบอกด้านบน เคลียร์หนี้บัตรก่อน, เคลียร์หนี้รถ, ทำประกันสุขภาพ เพื่อลดความเสี่ยงกรณีเจ็บป่วย, เก็บเงิน พอซื้อบ้านเงินสดได้ก็ซื้อเงินสดเลยอย่าไปกู้, ต่อจากนั้น เริ่มสะสมเงินออม เพื่อซื้อสินทรัพย์ที่สร้างรายได้ให้โดยคุณไม่ต้องทำงาน เช่น มีบ้านให้เขาเช่า มีหุ้นที่มีเงินปันผลให้สม่ำเสมอ เมื่อนั้น ถึงคุณทำงานไม่ได้ ก็ยังมีรายได้เข้ามาครับ แนวทางอย่างนี้ จะทำใ้ห้ชีวิตทางการเงินมั่นคงได้มาก
12. ให้ศึกษาและปฏิบัติธรรมครับ เมื่อคุณเข้าใจธรรมมะ จิตใจจะอบอุ่นและมีความสุข โดยไม่ต้องใช้ของแพง ก็มีความสุขครับ เงินเก็บคุณจะเพิ่มขึ้นโดยอัตโนมัติ
แด่เธอผู้มาใหม่
http://01.learndhamma.com/pramote/books/newcomer_thai.pdf
http://03.wimutti.net/pramote/books/newcomer_thai.pdf
ธรรมมะสำหรับผู้มาใหม่
http://www.dhammada.net/newcomer/
http://www.wimutti.net/pramote/BeginToEnlightenment.php
แสดงความคิดเห็น
ทำงานอิสระ รายได้ปีละเกือบ 2 ล้าน กู้ซื้อบ้านไม่ผ่าน ทำไงดี?
ขอปรึกษาเรื่องกู้ซื้อบ้านทีครับ 2-3 วันมานี้มึนมากๆ ไม่เคยทำเรื่องกู้ซื้ออะไรมาก่อน ยกเว้นซื้อรถ (แต่ซื้อรถมันไม่ยุ่งอะ)
ขอเกริ่นก่อนนะครับ ยาวหน่อยนะ ขออภัยล่วงหน้า...
ผมทำงานอิสระครับ ทำคนเดียว ไม่ได้ทำงานประจำ ไม่มีเงินเดือน ไม่มีสลิปเงินเดือน
งานที่ทำเป็น ที่ปรึกษาและอาจารย์อิสระทางด้านซอฟต์แวร์และไอที แต่โง่มากๆ เรื่องเงิน เพิ่งหันมาใส่ใจและศึกษาจริงจังไม่นานมานี้เอง
มีรายได้ประมาณปีละเฉียดๆ 2 ล้านบาทต่อปี ทุกครั้งลูกค้าจ่ายด้วยเช็ค หรือไม่ก็โอนเงินเข้าบัญชี โดยทุกครั้งได้รับเอกสารหักภาษี ณ ที่จ่าย
ปีล่าสุดยอดเสียภาษีก่อนหักลดหย่อนคือ 3 แสนกว่าบาท หักลดหย่อนแล้วเหลือ 2 แสนต้นๆ
ผมมีรายได้แบบนี้ประมาณมา 5 ปีแล้ว จริงๆ ก่อนหน้านี้สัก 3 ปีย้อนหลัง ผมมีรายได้ประมาณ 3-4 ล้านบาทต่อปี โดยรายได้ส่วนหนึ่งรับเป็นเงินสด จึงไม่มีหลักฐานการจ่ายและรับ รวมถึงหลักฐานภาษี ยอดที่มีหลักฐานจริงๆ จึงประมาณ 2 ล้านต่อปี
จริงๆ ทำงานมาประมาณ 15 ปีแล้ว แต่สมัยก่อนเป็นคนชอบงานท้าทาย ชอบทำงานที่สนุก ไม่เน้นรายได้ ศิลปินมาก พอมาถึงจุดหนึ่งโดนเบี้ยว โดนลูกค้าจ่ายเงินช้าติดๆ กันทำให้ประสบปัญหาทางการเงินและครอบครัวหนัก กอปรกับเพิ่งมีลูกเลยเลิกบ้า หันมาทำงานที่เน้นรายได้
ผมกับแฟนมีลูก 1 คน มีเงินเก็บในบัญชีรวมกันประมาณ 6 แสนบาท มีกองทุนมูลค่ารวมกันประมาณ 4 แสนกว่าบาท มีรถเก๋งที่ผ่อนหมดแล้ว 1 คัน มูลค่าปัจจุบันน่าจะประมาณ 6 แสนบาท มีนาฬิกาที่มีมูลค่าปัจจุบันประมาณ 3 แสนบาท มีอะไรอีกนิดหน่อยแต่บอกไม่ได้
มีรถที่กำลังผ่อน 1 คัน ผ่อนตรงตลอด บัตรเครดิตมี 2 ใบ มีหนี้ทั้งคู่ แต่ไม่กี่หมื่น นิยมจ่ายแบบเกินขั้นต่ำประมาณ 1-2 เท่าของขั้นต่ำ และทะยอยจ่าย เพราะไม่ค่อยได้ใช้บัตรเครดิตเท่าไร-ใช้ไม่บ่อย (จ่ายแบบนี้มีผลต่อเครดิตบูโรมั้ยครับ ไม่เคยเช็กเลย ถ้ามีผลอีกหน่อยจะได้จ่ายทีเดียวหมด)
ทรัพย์สินมีน้อย เพราะแต่ก่อนใช้เงินเก่ง เพิ่งกลับตัวกลับใจมาเก็บเมื่อไม่นานมานี้เอง
ช่วง 6-7 ปีก่อนที่โดนเบี้ยว โดนลูกค้าจ่ายเงินช้า ทำให้ผมเป็นหนี้สินเยอะมาก ทั้งหนี้บัตรเครดิต และผ่อนรถ โดนตาม โดนทวง ตอนหลังเข้าหาธรรมะและเซน ตั้งสติได้ก็ทะยอยจ่ายหนี้เกือบ 2 ล้านหมดในปีเดียว
คราวนี้มาเข้าเรื่อง ขออภัยที่เกริ่นยาว เพราะจะได้ช่วยผมวิเคราะห์หน่อยครับ
ผมยื่นกู้บ้านราคาประมาณ 3.5 ล้านบาท เอกสารประกอบที่ยื่น ได้แก่ สำเนาบัตรประชาชน, ทะเบียนบ้าน, ทะเบียนสมรส, statement, book bank ของบัญชีออมทรัพย์และกองทุนทั้งหมด, สำเนาเอกสารยื่นเสียภาษีตั้งแต่ปี 2552-2556 (กลัวจัด
คราวนี้งานผมปกติมันไม่มีสัญญา เป็นงานสั้นๆ 3 วันบ้าง 10 วันบ้าง 4 เดือนบ้าง ลูกค้าส่วนมากจ้างผมเป็นวิทยากร (เวลาเขาลงในรายการของเขา) เพราะระเบียบการจ้างวิทยากรง่ายและมีขั้นตอนน้อยกว่าการจ้างที่ปรึกษา และมีผลต่อการบริหารจัดการและทางภาษีสำหรับลูกค้า แต่จริงๆ พอเริ่มทำงานก็ทำทั้งบรรยายและให้คำปรึกษานั่นล่ะ (เรียกว่าแอบให้คำปรึกษา จัดคอร์สอบรมบังหน้า
ผมยื่นไป 5 ธนาคาร ทาง ธอส. ตีกลับมาภายในไม่กี่วัน คล้ายกับ ออมสิน ด้วยเหตุผล...ผมไม่ได้ทำงานประจำ แม้รายได้เยอะ statement สวย ทางออมสินขอให้หาผู้กู้ร่วมที่ทำงานประจำ ผมคงไม่เอา ไม่อยากรบกวนพี่ๆ เกรงใจ ส่วนทางกรุงไทยก็คล้ายกันบอกว่า profile ดีมาก แต่ผมไม่ได้ทำงานประจำ และไม่ค่อยเข้าใจลักษณะรูปแบบงานของผม
ธนาคารทั้ง 3 ข้างต้นไม่คุ้นกับลักษณะอาชีพที่ผมทำอยู่ เขาคิดว่างานแบบนี้น่าจะมีสัญญา (เคยมีงานที่มีสัญญาแต่มันนานหลายปีแล้ว) และผมไม่มีสำนักงาน (ในเอกสารลงเป็นที่บ้าน) เพราะเวลาทำงานก็ไปทำที่องค์กรลูกค้า
คราวนี้ อีก 2 ธนาคาร(ไทยพาณิชย์และกสิกรฯ)เข้าใจอาชีพแบบผม บอกเหมือนกันว่าข้อมูลดูดี แต่ๆๆๆๆ... มาติดตรงเครดิตบูโร ซึ่งเป็นสถานะที่ติดตอนเมื่อ 5-6 ปีนู่น เจ้าหนี้บางรายไม่เคลียร์ข้อมูลให้ ช่วงที่ผมมีหนี้เยอะๆ แต่ตอนนั้นจริงๆ ผมเคลียร์หมดตั้งแต่ 6 ปีก่อนโน่นแล้ว ผมก็งง เจ้าหน้าที่ก็งง เพราะกสิกรฯ ให้ไม่ผ่าน
ธนาคาร 4 แห่งให้ไม่ผ่าน ตอนนี้ลุ้นแค่ไทยพาณิชย์ ส่วนกสิกรฯ บอกว่าเดี๋ยวไปประสานให้ใหม่ ซึ่งความหวังผมเลือนรางมาก เพราะก่อนหน้านี้เจ้านหน้าที่ธนาคารต่างๆ บอกว่าอย่างผมน่าจะผ่านแน่ๆ ผมก็อุตส่าห์ไปดูเฟอร์นิเจอร์ ต้นไม้ แนวทางแต่งบ้านไว้ละ เข้ามาตั้งกระทู้ถามในนี้ก็หลายกระทู้ ผลเป็นงี้เล่นเอาเซ็ง
ผมกู้ซื้อรถ Mazda 3 เมื่อ 2 ปีที่แล้วยังผ่านเลย แต่ดาวน์ไป 30% ไม่เห็นติดเรื่องเครดิตบูโรฯ และเรื่องลักษณะงานเลย สงสัยพราะบ้านมันต้องผ่อนยาวกว่าเยอะมั้ง
ที่บ่นๆ เล่าๆ มาคือ น้อยใจและแปลกใจ เป็นหนี้เมื่อหลายปีก่อนมากแล้ว และเคลียร์หมดไปเป็นชาติ และเพราะผมไม่มีงานประจำทำ ไม่มีรายได้ประจำ ไม่มีสลิปเงินเดือน ไม่มีสำนักงาน... แต่ผมก็มีรายได้เฉลี่ยเดือนละแสนกว่าบาทนะ เงินหมุนเวียนก็โอเค ไมเป็นงี้เนาะ
ลูกค้ากลุ่มใหญ่และลูกศิษย์ผมจำนวนมากอยู่ในธนาคารเหล่านี้ทั้งนั้น แต่ละรายเป็นหน่วยงานภาครัฐและเอกชนระดับยักษ์ๆ ทั้งนั้น เฮ้อ...
ผมไม่ห่วงเรื่องผ่อนเลย เพราะคำนวณดูแล้วตกเดือนประมาณ 2 หมื่นปลายๆ เท่านั้น แต่กังวลเรื่องกู้บ้านที่สุด เพราะที่ผ่านๆ มา เคยลองทดสอบเครดิตตัวเองว่าดีขึ้นหรือยัง ด้วยการลองสมัครบัตรเครดิตไป 2-3 แห่งดูพบว่า ไม่ผ่าน!!! ผ่านที่กสิกรฯ ที่เดียว แต่ก็ได้วงเงินต่ำแสนต่ำ
ทุกวันนี้ผมมีนาฬิกาเรือนละหลายแสนบาทใส่ เมื่อ 2 ปีก่อนเคยซื้อเรือนละล้านกว่าบาทใส่ด้วยซ้ำ (ขายกินไปแล้วตอนช่วงน้ำท่วมปี '54) ผมและครอบครัวอยู่แบบไม่มีหนี้สินต้องโดนตามทวงมา 5 ปีกว่า หนี้ที่มีก็แค่บัตรเครดิตนิดหน่อยและผ่อนรถเดือนละหมื่นต้นๆ แล้วงานผมก็เข้าข่าย blue ocean มากๆ เพราะงานเพียบ ช่องทาง diversify ก็เพียบ คนทำงานในด้านที่ผมทำอยู่นี้มีนับหัวได้ในประเทศไทย.... แบบนี้ไม่เรียกว่ามั่นคงหรือ? แบบนี้ไว้ใจไม่ได้หรือ?
เลยคุยกับแฟนว่าถ้าไม่ผ่านสักที่ ไว้เรามาเก็บเงินสดไปซื้อบ้านกัน เหมือนที่ผมเคยกำเงินสดๆ ใส่ถุงล้านกว่าบาทเดินเข้าร้านนาฬิกาที่พารากอน สะใจ… พูดกับตัวเองในใจ 'นี่คือวิธีจ่ายเงินแบบกรู-ประชาชนชั้นสอง'
ขออภัยอย่างสูงที่ยาวมากครับ ขอบ่นและขอคำแนะนำหน่อยครับ เครียดแบบมึนๆ
ป.ล. สาเหตุที่ต้องกู้ซื้อบ้าน เพราะต้องหาบ้านอีกหลังกระทันหันด้วยเหตุผลจำเป็นเร่งด่วน เลยไม่ได้วางแผนใดๆ ล่วงหน้า