เพื่อนๆ ที่มีหนี้บัตรเครดิตและบัตรกดเงินสด... เคยได้ยินคำแนะนำแบบนี้ไหม?
🚨 "จงปลดหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงที่สุดก่อน!"
🚨 "จงโฟกัสที่หนี้ยอดน้อยๆ ให้หมดไปก่อน!"
แต่ในชีวิตจริง... มันใช้ได้ผลกับทุกคนจริงๆ หรือ?
❌ บัตรกดเงินสด ดอกเบี้ยอาจสูงถึง 25% แต่มียอดชำระขั้นต่ำแค่ 2-3% ต่อเดือน ทำให้เดือนๆ หนึ่งเราจ่ายค่อนข้างน้อย
❌ บัตรเครดิต ดอกเบี้ยประมาณ 16-18% แต่ยอดชำระขั้นต่ำอยู่ที่ 8-10% ต่อเดือน ซึ่งทำให้เราต้องจ่ายขั้นต่ำในแต่ละเดือนสูงกว่า!
แล้วจะทำยังไงดีล่ะ?
วันนี้ผมมีอีกหนึ่ง "ดัชนีชี้วัด" ง่ายๆ มาช่วยตัดสินใจ เรียกว่า "ดัชนีสัดส่วนหนี้" ครับ วิธีคิดไม่ยากเลย
👉 ให้นำ "ยอดหนี้คงค้าง" หารด้วย "จำนวนเงินที่เราวางแผนจะผ่อนต่อเดือน"
ก้อนไหนได้ "ตัวเลข" น้อยกว่า... ให้ปลดก้อนนั้นก่อน!
ทำไมถึงเป็นแบบนั้น? เพราะมันคือการวัดว่า "เราจะใช้เวลากี่เดือนกว่าจะปลดหนี้ก้อนนี้ได้หมด" การโฟกัสที่ก้อนที่หมดเร็ว จะช่วยลดภาระจิตใจและเพิ่มแรงบัลดาลใจให้เราต่อสู้กับหนี้ก้อนต่อไปได้!
ลองดูตัวอย่างจริงกันครับ
บัตรกดเงินสด KTC: ยอดหนี้ 75,000 บาท, ดอกเบี้ย 25% เรา วางแผนผ่อนเดือนละ 3,000 บาท
สัดส่วนหนี้ = 75,000 / 3,000 = 25 (หมายความว่าต้องใช้เวลาประมาณ 25 เดือน)
บัตรเครดิต TTB: ยอดหนี้ 63,000 บาท, ดอกเบี้ย 16% เรา วางแผนผ่อนเดือนละ 5,040 บาท
สัดส่วนหนี้ = 63,000 / 5,040 = 12.5 (หมายความว่าปลดหมดในแค่ 12-13 เดือน!)
จากตัวอย่าง: แม้บัตร KTC จะมีดอกเบี้ยสูงกว่า แต่เราควรโฟกัสปลดบัตร TTB ก่อน เพราะใช้เวลาน้อยกว่า ปลดหมดเร็วว่า เกือบตั้งครึ่ง!
สรุปง่ายๆ
คำนวณสัดส่วนหนี้ (ยอดหนี้ ÷ จำนวนเงินที่ผ่อนต่อเดือน) ของหนี้ทุกก้อน
เรียงลำดับจากสัดส่วนน้อยไปหามาก
ทุ่มเงินทั้งหมดไปที่หนี้ก้อนแรก ในขณะที่ก้อนอื่นๆ จ่ายแค่ขั้นต่ำ
พอปลดก้อนแรกหมดแล้ว นำเงินทั้งหมดไปทุ่ม หนี้ก้อนที่สอง ต่อไปแบบ Snowball เลย!
หวังว่าวิธีนี้จะเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือชั้นดีที่ช่วยให้เพื่อนๆ "ปลดหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีกำลังใจ" มากขึ้นนะครับ
#ให้ความรู้เป็นทาน #ลุงเล็กรู้ปลดหนี้ #จัดการหนี้ #ปลดหนี้บัตรเครดิต #วางแผนการเงิน
ปลดหนี้ผิดวิธี ยิ่งจ่ายยิ่งจน! ลุงเล็กแนะสูตร "สัดส่วนหนี้" ปลดเร็ว เงินเหลือใช้
🚨 "จงปลดหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงที่สุดก่อน!"
🚨 "จงโฟกัสที่หนี้ยอดน้อยๆ ให้หมดไปก่อน!"
แต่ในชีวิตจริง... มันใช้ได้ผลกับทุกคนจริงๆ หรือ?
❌ บัตรกดเงินสด ดอกเบี้ยอาจสูงถึง 25% แต่มียอดชำระขั้นต่ำแค่ 2-3% ต่อเดือน ทำให้เดือนๆ หนึ่งเราจ่ายค่อนข้างน้อย
❌ บัตรเครดิต ดอกเบี้ยประมาณ 16-18% แต่ยอดชำระขั้นต่ำอยู่ที่ 8-10% ต่อเดือน ซึ่งทำให้เราต้องจ่ายขั้นต่ำในแต่ละเดือนสูงกว่า!
แล้วจะทำยังไงดีล่ะ?
วันนี้ผมมีอีกหนึ่ง "ดัชนีชี้วัด" ง่ายๆ มาช่วยตัดสินใจ เรียกว่า "ดัชนีสัดส่วนหนี้" ครับ วิธีคิดไม่ยากเลย
👉 ให้นำ "ยอดหนี้คงค้าง" หารด้วย "จำนวนเงินที่เราวางแผนจะผ่อนต่อเดือน"
ก้อนไหนได้ "ตัวเลข" น้อยกว่า... ให้ปลดก้อนนั้นก่อน!
ทำไมถึงเป็นแบบนั้น? เพราะมันคือการวัดว่า "เราจะใช้เวลากี่เดือนกว่าจะปลดหนี้ก้อนนี้ได้หมด" การโฟกัสที่ก้อนที่หมดเร็ว จะช่วยลดภาระจิตใจและเพิ่มแรงบัลดาลใจให้เราต่อสู้กับหนี้ก้อนต่อไปได้!
ลองดูตัวอย่างจริงกันครับ
บัตรกดเงินสด KTC: ยอดหนี้ 75,000 บาท, ดอกเบี้ย 25% เรา วางแผนผ่อนเดือนละ 3,000 บาท
สัดส่วนหนี้ = 75,000 / 3,000 = 25 (หมายความว่าต้องใช้เวลาประมาณ 25 เดือน)
บัตรเครดิต TTB: ยอดหนี้ 63,000 บาท, ดอกเบี้ย 16% เรา วางแผนผ่อนเดือนละ 5,040 บาท
สัดส่วนหนี้ = 63,000 / 5,040 = 12.5 (หมายความว่าปลดหมดในแค่ 12-13 เดือน!)
จากตัวอย่าง: แม้บัตร KTC จะมีดอกเบี้ยสูงกว่า แต่เราควรโฟกัสปลดบัตร TTB ก่อน เพราะใช้เวลาน้อยกว่า ปลดหมดเร็วว่า เกือบตั้งครึ่ง!
สรุปง่ายๆ
คำนวณสัดส่วนหนี้ (ยอดหนี้ ÷ จำนวนเงินที่ผ่อนต่อเดือน) ของหนี้ทุกก้อน
เรียงลำดับจากสัดส่วนน้อยไปหามาก
ทุ่มเงินทั้งหมดไปที่หนี้ก้อนแรก ในขณะที่ก้อนอื่นๆ จ่ายแค่ขั้นต่ำ
พอปลดก้อนแรกหมดแล้ว นำเงินทั้งหมดไปทุ่ม หนี้ก้อนที่สอง ต่อไปแบบ Snowball เลย!
หวังว่าวิธีนี้จะเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือชั้นดีที่ช่วยให้เพื่อนๆ "ปลดหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีกำลังใจ" มากขึ้นนะครับ
#ให้ความรู้เป็นทาน #ลุงเล็กรู้ปลดหนี้ #จัดการหนี้ #ปลดหนี้บัตรเครดิต #วางแผนการเงิน