"ฉัน..หม่อมหลวงวิไลรัมภา เทวพรหม สายเลือดสีน้ำเงินบริสุทธิ์ ทายาทแห่งวังเทวพรหมผู้สูงศักดิ์ สวย สดใส สง่า มีคุณค่ายิ่งกว่าผู้หญิงทั้งพระนคร."
คำพูดข้างต้น เป็นของนางอิจฉาจากละครเรื่องหนึ่ง ที่หยิ่งในศักดิ์ศรีของความเป็นเชื้อสายราชวงศ์ของตนเอง จนใช้คำว่า "สายเลือดสีน้ำเงิน" เพื่อบ่งบอกถึงฐานะของตน
ประเด็นของวันนี้คือ เหตุใดเราจึงเรียกผู้ที่เป็นเชื้อพระวงศ์หรือเชื้อสายกษัตริย์ ว่าเป็น "เลือดสีน้ำเงิน"
คำตอบคือ คำนี้มีที่มาจากยุโรป ซึ่งในยุโรปนั้น "Blue blood" เป็นคำที่แปลมาจากภาษาสเปน จากคำว่า "Sangre Azul" ซึ่งมีที่มาจาก สงครามระหว่างคริสเตียนกับพวกมัวร์(Moors) ชาวมุสลิมที่ขยายดินแดนมาในแถบคาบสมุทรไอบีเรีย
พวกมัวร์ได้เข้ามาในคาบสมุทรไอบีเรีย ตั้งแต่ศตวรรษที่ 8 และครอบครองดินแดนไปทั่วทั้งคาบสมุทรไอบีเรีย เหลือก็แต่เพียงคาสตีล อัสตูเรียส นาวาร์ และอารากอนเท่านั้นที่ยังเป็นอาณาจักรคริสเตียน และได้ร่วมมือกันขับไล่พวกมัวร์ออกไปได้สำเร็จในศตวรรษที่ 15
หลายคนอาจจะสงสัยแล้วว่า เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับประเด็นนี้
คำตอบคือ "เลือดสีน้ำเงิน" (sangre azul) เป็นคำที่แคว้น Castile ใช้เพื่อแบ่งแยกพวกตนออกจากชาวมัวร์ เพราะมัวร์เป็นพวกผิวคล้ำ ส่วนชาวคาสตีลเป็นพวกผิวขาว จนกระทั่งมองเห็นเส้นเลือดเป็นสีน้ำเงินออกเขียว จึงเป็นที่มาของคำนี้
ต่อมา คำว่าเลือดสีน้ำเงินก็ถูกนำมาเพื่อเปรียบเทียบความต่างไม่ใช่เพียงพวกมัวร์อย่างเดียว แต่ยังนำมาใช้เรียก ชาวยิว และตลอดจนคนชั้นล่างเช่นผู้ใช้แรงงานเป็นต้น เพราะว่าคนเหล่านี้มักทำงานหนักจนผิวคล้ำและมองไม่เห็นรอยเส้นเลือด
คำว่า เลือดสีน้ำเงิน จึงกลายเป็นคำเรียกชนชั้นสูงหรือเชื้อพระวงศ์ไปโดยปริยา่ย
สำหรับประเทศไทย การใช้สีน้ำเงิน บนผืนธงชาติ มีที่มาจากการที่ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระราชสมภพในวันเสาร์ จึงใช้สีขาบ(น้ำเงินเข้มเจือม่วง) อันเป็นสีประจำวันพระราชสมภพ และเป็นสีประจำพระองค์ที่โปรดมาก และนอกจากนี้เหตุที่ใช้สีแดง(หมายถึงชาติ) สีขาว(หมายถึงศาสนา) สีน้ำเงิน ก็เพื่อให้สอดคล้องกับธงชาติของชาติฝ่ายสัมพันธมิตร เพื่อเข้าร่วมในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
แต่การใช้สีน้ำเงินบนธงชาติของไทย(สยาม)ก็เป็นการพ้องกับคติเลือดสีน้ำเงินของยุโรปไป
(จขกท.ได้มาประมาณนี้ ใครมีความรู้ใหม่มาก็ลองมาโพสต์กันดูนะครับ ขออภัยหากใช้ศัพท์ หรือข้อมูลที่ผิดไปบ้างครับ ใครทราบแล้ว หรือตั้งไว้แล้วก็ขออภัยด้วยนะครับ)
"ฉัน..หม่อมหลวงวิไลรัมภา เทวพรหม สายเลือดสีน้ำเงินบริสุทธิ์ ทายาทแห่งวังเทวพรหมผู้สูงศักดิ์"
คำพูดข้างต้น เป็นของนางอิจฉาจากละครเรื่องหนึ่ง ที่หยิ่งในศักดิ์ศรีของความเป็นเชื้อสายราชวงศ์ของตนเอง จนใช้คำว่า "สายเลือดสีน้ำเงิน" เพื่อบ่งบอกถึงฐานะของตน
ประเด็นของวันนี้คือ เหตุใดเราจึงเรียกผู้ที่เป็นเชื้อพระวงศ์หรือเชื้อสายกษัตริย์ ว่าเป็น "เลือดสีน้ำเงิน"
คำตอบคือ คำนี้มีที่มาจากยุโรป ซึ่งในยุโรปนั้น "Blue blood" เป็นคำที่แปลมาจากภาษาสเปน จากคำว่า "Sangre Azul" ซึ่งมีที่มาจาก สงครามระหว่างคริสเตียนกับพวกมัวร์(Moors) ชาวมุสลิมที่ขยายดินแดนมาในแถบคาบสมุทรไอบีเรีย
พวกมัวร์ได้เข้ามาในคาบสมุทรไอบีเรีย ตั้งแต่ศตวรรษที่ 8 และครอบครองดินแดนไปทั่วทั้งคาบสมุทรไอบีเรีย เหลือก็แต่เพียงคาสตีล อัสตูเรียส นาวาร์ และอารากอนเท่านั้นที่ยังเป็นอาณาจักรคริสเตียน และได้ร่วมมือกันขับไล่พวกมัวร์ออกไปได้สำเร็จในศตวรรษที่ 15
หลายคนอาจจะสงสัยแล้วว่า เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับประเด็นนี้
คำตอบคือ "เลือดสีน้ำเงิน" (sangre azul) เป็นคำที่แคว้น Castile ใช้เพื่อแบ่งแยกพวกตนออกจากชาวมัวร์ เพราะมัวร์เป็นพวกผิวคล้ำ ส่วนชาวคาสตีลเป็นพวกผิวขาว จนกระทั่งมองเห็นเส้นเลือดเป็นสีน้ำเงินออกเขียว จึงเป็นที่มาของคำนี้
ต่อมา คำว่าเลือดสีน้ำเงินก็ถูกนำมาเพื่อเปรียบเทียบความต่างไม่ใช่เพียงพวกมัวร์อย่างเดียว แต่ยังนำมาใช้เรียก ชาวยิว และตลอดจนคนชั้นล่างเช่นผู้ใช้แรงงานเป็นต้น เพราะว่าคนเหล่านี้มักทำงานหนักจนผิวคล้ำและมองไม่เห็นรอยเส้นเลือด
คำว่า เลือดสีน้ำเงิน จึงกลายเป็นคำเรียกชนชั้นสูงหรือเชื้อพระวงศ์ไปโดยปริยา่ย
สำหรับประเทศไทย การใช้สีน้ำเงิน บนผืนธงชาติ มีที่มาจากการที่ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระราชสมภพในวันเสาร์ จึงใช้สีขาบ(น้ำเงินเข้มเจือม่วง) อันเป็นสีประจำวันพระราชสมภพ และเป็นสีประจำพระองค์ที่โปรดมาก และนอกจากนี้เหตุที่ใช้สีแดง(หมายถึงชาติ) สีขาว(หมายถึงศาสนา) สีน้ำเงิน ก็เพื่อให้สอดคล้องกับธงชาติของชาติฝ่ายสัมพันธมิตร เพื่อเข้าร่วมในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
แต่การใช้สีน้ำเงินบนธงชาติของไทย(สยาม)ก็เป็นการพ้องกับคติเลือดสีน้ำเงินของยุโรปไป
(จขกท.ได้มาประมาณนี้ ใครมีความรู้ใหม่มาก็ลองมาโพสต์กันดูนะครับ ขออภัยหากใช้ศัพท์ หรือข้อมูลที่ผิดไปบ้างครับ ใครทราบแล้ว หรือตั้งไว้แล้วก็ขออภัยด้วยนะครับ)