ตอนที่ 16 ความรักคือ....การครอบครองแต่เพียงผู้เดียว
ธนูเชิญทั้งคู่ไปนั่งร่วมโต๊ะ เพื่อสนทนา เดวิดหยางเป็นฝ่ายเริ่มกล่าวขึ้นก่อน
"ไม่นึกเลยว่า วันนี้ผมจะได้พบคุณที่นี่... ถ้าผมรู้ว่า คุณวิลเลี่ยมชอบ...ผมคงจะชวนมาตั้งแต่แรก..."
ธนูแย้มยิ้ม ก่อนกล่าวด้วยน้ำเสียงเป็นปกติ
"ความจริงผมก็ไม่ค่อยออกมา พักผ่อนในลักษณะแบบนี้หรอก แต่เป็นโอกาสพิเศษที่ผมอยากจะ
ขอบคุณ คุณเยาวเรศที่ช่วยงานด้านการจัดการของ เพาเวอร์อินฟินิตี้ได้เป็นอย่างดี... ผมต่างหาก
ที่ไม่คิดว่า โลกจะกลมขนาดนี้..."
เดวิดหยาง หัวเราะออกมา ก่อนจะเอ่ยกลับไป
"ความจริงผมว่า คุณวิลเลี่ยมน่าจะคิดได้ ตั้งแต่เจอผมที่ โกลไลอ้อนส์ รวมทั้งคุณอติตาด้วย ผมว่า
มันน่าจะกลมจนผมเอง....ก็คิดไม่ถึง....หึ...ๆ..."
ธนูเหลือบสายตาไปยัง อติตาที่นั่งข้างเดวิดหยาง ซึ่งมีรอยยิ้มบางๆ ก่อนจะยิ้มกว้างกล่าวออกมาอย่าง
อารมณ์ดี แต่ความรู้สึกกลับแตกต่าง...ตอนนี้เขาเข้าใจตัวเองแล้วว่าเขาเองก็รู้สึกกับอติตามากกว่าที่
คิดไว้แต่แรก โดยเฉพาะความเป็นห่วงที่เกรงว่า...เธอจะถูกใช้เป็นเครื่องมือ ของเดวิดหยาง....
"ใช่...ๆ...ความจริงผมน่าจะคิดได้ตั้งแต่แรก... ในเมื่อมันกลมขนาดนี้ เรามาดื่มเพื่อโลก ที่สดใส ในวัน
ข้างหน้า...เชิญดื่ม..."
ทั้งสี่ยกแก้วดื่มพร้อมกัน แต่ภายในใจของแต่ละคนแตกต่างกัน ธนูนั้นเศร้าใจที่คิดว่า อติตาถูกใช้เป็น
เครื่องมือของเดวิดหยาง เดวิดหยางคิดว่า ธนูจะตลบหลังด้วยอติตา อติตาคิดว่าธนูกำลังมีรักครั้งใหม่
กับเยาวเรศ ส่วนเยาวเรศอ่านออกเช่นกันว่า ธนูคิดกับอติตามากกว่าคนรู้จัก มันเป็นประสาทสัมผัสที่
ผู้หญิงมีความรัก สร้างเพื่อปกป้องของรักของหวงของเธอ...หรือให้รู้ว่า...ศัตรูของเธอ...คือใคร....
...............................................
หิรัญเดินทางมาหา ศิริศรที่ สำนักพิมพ์ ตอนนี้เธอเรียนรู้จนทราบระบบงานทั้งหมด ตั้งแต่งานหาข่าว
จนถึงงานการตลาด ตอนนี้เธอขึ้นมาเป็นฝ่ายบริหารเต็มตัว ชื่อเสียงในวงสังคมของศิริศรนั้นก็โด่งดัง
ไม่แพ้บิดาเธอ...ในฐานะผู้บริหารรุ่นใหม่ไฟแรง แล้วโดยปกติหิรัญมิได้ เปิดเผยในเรื่องการที่จะ ทำ
ความรู้จักกับหญิงใดแบบจริงๆ จัง แต่การเข้าหาศิริศร เป็นการลงมือด้วยตนเอง อย่างเปิดเผยเป็น
ครั้งแรก ในมือของเขา จึงมีดอกไม้ช่อใหญ่
"คุณหิรัญมาพบดิฉัน...ไม่ทราบว่ามีธุระอะไรเร่งด่วนหรือเปล่าคะ..."
หลังจากศิริศรทำการทักทายตามมารยาทเสร็จสิ้น เธอจึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย หิรัญยิ้มกว้าง
ก่อนเอ่ยออกมา
"ไม่มีธุระอะไรสำคัญหรอกครับ....เพียงแต่วันนี้ ผมเกิดคิดถึงคุณลูกศรขึ้นมา จึงมาขอพบ เพื่อเห็นหน้า
แล้วผมก็จะกลับไป...เพื่อไม่รบกวนเวลาทำงานคุณ..."
สายตาของหิรัญ ที่จับจ้องนั้น เป็นประกายวาว เขาใช้คำพูดที่ไม่อ้อมค้อม กับหญิงสาวทุกคนที่เขาหวัง
แน่นอนมันไม่เคย...ไม่สำเร็จ...ครั้งนี้ก็เช่นกัน...ถึงหิรัญรู้ตัวว่า ใบหน้าไม่หล่อเหลาเหมือน สิทธิชัย แต่
บุคลิกของเขา ไม่เป็นรองผู้ใด ความร่ำรวยนั้นไม่ต้องพูดถึง เขาจึงคิดว่า การใช้คารมกับหญิงสาว
ที่เขาต้องการนั้น ไม่จำเป็นเลยสักนิด ถึงจะเป็นหญิงสาวที่เฉลียวฉลาดแค่ไหน หิรัญก็คิดว่า มันเป็น
เรื่องง่ายๆ...ไม่จำเป็นต้องซับซ้อน....ศิริศรนั้นจากการพบปะผู้คนหลายประเภท ไม่ว่าจะจากการ
สัมภาษณ์ หรือการหาข่าว ขอการสนับสนุน จากนักธุรกิจ หรือนายทหาร ตำรวจ หรือข้าราชการ
ระดับสูง หรือระดับผู้น้อย เธออ่านคนออก....นายหิรัญคนนี้ก็เช่นกัน เธอสามารถเข้าใจลักษณะนิสัย
ของเขาได้พอสังเขป ศิริศรจึงใช้คำที่เป็นเชิงแบ่งรับ แบ่งสู้
"ดอกไม้ช่อนี้...เหมาะกับผู้หญิงที่อ่อนช้อยสวยงามเท่านั้น...สำหรับดิฉันคงต้องเป็นดอกไม้ประเภทอื่น
แต่ในเมื่อคุณหิรัญมีน้ำใจ ดิฉันก็คงมิอาจปฏิเสธความปรารถนาดีของคุณได้...ขอบคุณมากนะคะ..."
ศิริศรใช้คำกล่าว ที่มิได้ทำร้ายจิตใจคนมอบให้ แต่ก็ไม่รับด้วยความยินดี ตอนนี้หิรัญนึกชอบใจ
ในคำตอบลักษณะแบบนี้ เพราะมันทำให้เขารู้ว่า เรื่องนี้ไม่ง่ายอย่างที่เขาคิด เพราะศิริศร แสดงความ
ฉลาดในการตอบกับคู่สนทนา มันเป็นการสื่อออกมาแบบมีชั้นเชิง นั่นก็แสดงว่าเธอมิได้รังเกียจอะไร
แต่เขาต้องแสดงความใส่ใจมากกว่านี้ ถ้าต้องการให้ศิริศรรู้สึกประทับใจ ในตัวเขา หิรัญหัวเราะออกมา
อย่างอารมณ์ดี
"แล้วผมจะ...หาดอกไม้ที่คิดว่าเหมาะกับคุณลูกศร ถึงมันจะเป็นเรื่องยาก ผมก็จะนำมาให้คุณให้ได้..."
ศิริศร ยิ้มอย่างอ่อนหวาน ก่อนจะเอ่ยขึ้น
"ความจริงมันไม่ยากสำหรับคุณหิรัญเลยสักนิด....ดิฉันมิได้เป็นผู้หญิงเรื่องมาก แต่ประการใด ถ้าคุณ
สังเกต ก็จะเห็น...."
สายตาที่จับจ้องนั้นมิได้มีแววตื่นกลัวหิรัญแม้แต่น้อย
เหนือตะวัน ตอนที่ 16
ธนูเชิญทั้งคู่ไปนั่งร่วมโต๊ะ เพื่อสนทนา เดวิดหยางเป็นฝ่ายเริ่มกล่าวขึ้นก่อน
"ไม่นึกเลยว่า วันนี้ผมจะได้พบคุณที่นี่... ถ้าผมรู้ว่า คุณวิลเลี่ยมชอบ...ผมคงจะชวนมาตั้งแต่แรก..."
ธนูแย้มยิ้ม ก่อนกล่าวด้วยน้ำเสียงเป็นปกติ
"ความจริงผมก็ไม่ค่อยออกมา พักผ่อนในลักษณะแบบนี้หรอก แต่เป็นโอกาสพิเศษที่ผมอยากจะ
ขอบคุณ คุณเยาวเรศที่ช่วยงานด้านการจัดการของ เพาเวอร์อินฟินิตี้ได้เป็นอย่างดี... ผมต่างหาก
ที่ไม่คิดว่า โลกจะกลมขนาดนี้..."
เดวิดหยาง หัวเราะออกมา ก่อนจะเอ่ยกลับไป
"ความจริงผมว่า คุณวิลเลี่ยมน่าจะคิดได้ ตั้งแต่เจอผมที่ โกลไลอ้อนส์ รวมทั้งคุณอติตาด้วย ผมว่า
มันน่าจะกลมจนผมเอง....ก็คิดไม่ถึง....หึ...ๆ..."
ธนูเหลือบสายตาไปยัง อติตาที่นั่งข้างเดวิดหยาง ซึ่งมีรอยยิ้มบางๆ ก่อนจะยิ้มกว้างกล่าวออกมาอย่าง
อารมณ์ดี แต่ความรู้สึกกลับแตกต่าง...ตอนนี้เขาเข้าใจตัวเองแล้วว่าเขาเองก็รู้สึกกับอติตามากกว่าที่
คิดไว้แต่แรก โดยเฉพาะความเป็นห่วงที่เกรงว่า...เธอจะถูกใช้เป็นเครื่องมือ ของเดวิดหยาง....
"ใช่...ๆ...ความจริงผมน่าจะคิดได้ตั้งแต่แรก... ในเมื่อมันกลมขนาดนี้ เรามาดื่มเพื่อโลก ที่สดใส ในวัน
ข้างหน้า...เชิญดื่ม..."
ทั้งสี่ยกแก้วดื่มพร้อมกัน แต่ภายในใจของแต่ละคนแตกต่างกัน ธนูนั้นเศร้าใจที่คิดว่า อติตาถูกใช้เป็น
เครื่องมือของเดวิดหยาง เดวิดหยางคิดว่า ธนูจะตลบหลังด้วยอติตา อติตาคิดว่าธนูกำลังมีรักครั้งใหม่
กับเยาวเรศ ส่วนเยาวเรศอ่านออกเช่นกันว่า ธนูคิดกับอติตามากกว่าคนรู้จัก มันเป็นประสาทสัมผัสที่
ผู้หญิงมีความรัก สร้างเพื่อปกป้องของรักของหวงของเธอ...หรือให้รู้ว่า...ศัตรูของเธอ...คือใคร....
...............................................
หิรัญเดินทางมาหา ศิริศรที่ สำนักพิมพ์ ตอนนี้เธอเรียนรู้จนทราบระบบงานทั้งหมด ตั้งแต่งานหาข่าว
จนถึงงานการตลาด ตอนนี้เธอขึ้นมาเป็นฝ่ายบริหารเต็มตัว ชื่อเสียงในวงสังคมของศิริศรนั้นก็โด่งดัง
ไม่แพ้บิดาเธอ...ในฐานะผู้บริหารรุ่นใหม่ไฟแรง แล้วโดยปกติหิรัญมิได้ เปิดเผยในเรื่องการที่จะ ทำ
ความรู้จักกับหญิงใดแบบจริงๆ จัง แต่การเข้าหาศิริศร เป็นการลงมือด้วยตนเอง อย่างเปิดเผยเป็น
ครั้งแรก ในมือของเขา จึงมีดอกไม้ช่อใหญ่
"คุณหิรัญมาพบดิฉัน...ไม่ทราบว่ามีธุระอะไรเร่งด่วนหรือเปล่าคะ..."
หลังจากศิริศรทำการทักทายตามมารยาทเสร็จสิ้น เธอจึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย หิรัญยิ้มกว้าง
ก่อนเอ่ยออกมา
"ไม่มีธุระอะไรสำคัญหรอกครับ....เพียงแต่วันนี้ ผมเกิดคิดถึงคุณลูกศรขึ้นมา จึงมาขอพบ เพื่อเห็นหน้า
แล้วผมก็จะกลับไป...เพื่อไม่รบกวนเวลาทำงานคุณ..."
สายตาของหิรัญ ที่จับจ้องนั้น เป็นประกายวาว เขาใช้คำพูดที่ไม่อ้อมค้อม กับหญิงสาวทุกคนที่เขาหวัง
แน่นอนมันไม่เคย...ไม่สำเร็จ...ครั้งนี้ก็เช่นกัน...ถึงหิรัญรู้ตัวว่า ใบหน้าไม่หล่อเหลาเหมือน สิทธิชัย แต่
บุคลิกของเขา ไม่เป็นรองผู้ใด ความร่ำรวยนั้นไม่ต้องพูดถึง เขาจึงคิดว่า การใช้คารมกับหญิงสาว
ที่เขาต้องการนั้น ไม่จำเป็นเลยสักนิด ถึงจะเป็นหญิงสาวที่เฉลียวฉลาดแค่ไหน หิรัญก็คิดว่า มันเป็น
เรื่องง่ายๆ...ไม่จำเป็นต้องซับซ้อน....ศิริศรนั้นจากการพบปะผู้คนหลายประเภท ไม่ว่าจะจากการ
สัมภาษณ์ หรือการหาข่าว ขอการสนับสนุน จากนักธุรกิจ หรือนายทหาร ตำรวจ หรือข้าราชการ
ระดับสูง หรือระดับผู้น้อย เธออ่านคนออก....นายหิรัญคนนี้ก็เช่นกัน เธอสามารถเข้าใจลักษณะนิสัย
ของเขาได้พอสังเขป ศิริศรจึงใช้คำที่เป็นเชิงแบ่งรับ แบ่งสู้
"ดอกไม้ช่อนี้...เหมาะกับผู้หญิงที่อ่อนช้อยสวยงามเท่านั้น...สำหรับดิฉันคงต้องเป็นดอกไม้ประเภทอื่น
แต่ในเมื่อคุณหิรัญมีน้ำใจ ดิฉันก็คงมิอาจปฏิเสธความปรารถนาดีของคุณได้...ขอบคุณมากนะคะ..."
ศิริศรใช้คำกล่าว ที่มิได้ทำร้ายจิตใจคนมอบให้ แต่ก็ไม่รับด้วยความยินดี ตอนนี้หิรัญนึกชอบใจ
ในคำตอบลักษณะแบบนี้ เพราะมันทำให้เขารู้ว่า เรื่องนี้ไม่ง่ายอย่างที่เขาคิด เพราะศิริศร แสดงความ
ฉลาดในการตอบกับคู่สนทนา มันเป็นการสื่อออกมาแบบมีชั้นเชิง นั่นก็แสดงว่าเธอมิได้รังเกียจอะไร
แต่เขาต้องแสดงความใส่ใจมากกว่านี้ ถ้าต้องการให้ศิริศรรู้สึกประทับใจ ในตัวเขา หิรัญหัวเราะออกมา
อย่างอารมณ์ดี
"แล้วผมจะ...หาดอกไม้ที่คิดว่าเหมาะกับคุณลูกศร ถึงมันจะเป็นเรื่องยาก ผมก็จะนำมาให้คุณให้ได้..."
ศิริศร ยิ้มอย่างอ่อนหวาน ก่อนจะเอ่ยขึ้น
"ความจริงมันไม่ยากสำหรับคุณหิรัญเลยสักนิด....ดิฉันมิได้เป็นผู้หญิงเรื่องมาก แต่ประการใด ถ้าคุณ
สังเกต ก็จะเห็น...."
สายตาที่จับจ้องนั้นมิได้มีแววตื่นกลัวหิรัญแม้แต่น้อย